ให้ความ สาระสำคัญ และเรื่องรอบตัวอีกหลากหลายที่เรายังไม่รู้จัก
|
|||
พื้นไม้เทียม: นวัตกรรมทางเลือกสำหรับงานตกแต่งอาคาร พื้นไม้เทียม: นวัตกรรมทางเลือกสำหรับงานตกแต่งอาคาร ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและตกแต่งอาคารสมัยใหม่นั้น ความต้องการวัสดุที่มีความคงทน ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นไม้เทียมกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สถาปนิก และผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นวัสดุที่สามารถจำลองลักษณะของไม้จริงได้อย่างสมจริง แต่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการตัดไม้ องค์ประกอบและกรรมวิธีการผลิต พื้นไม้เทียมนั้นผลิตขึ้นจากองค์ประกอบหลักที่เป็นพลาสติกรีไซเคิล เช่น พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) พอลิเอทิลีน (PE) และพอลิโพรพิลีน (PP) โดยจะนำมาผสมกับเศษไม้ ไฟเบอร์ และสารเคลือบผิวต่างๆ เพื่อสร้างลักษณะและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน กระบวนการผลิตพื้นไม้เทียมมีดังนี้: 1. การบดย่อยและผสมวัตถุดิบ โดยนำพลาสติกรีไซเคิล เศษไม้ สารเติมแต่ง และสารเคลือบผิวมาผสมกันตามสูตรส่วนผสมที่ออกแบบไว้ 2. การอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนและแรงดัน ซึ่งจะทำให้ส่วนผสมเข้ารูปเป็นแผ่นพื้นหรือท่อนตามต้องการ 3. การตกแต่งผิวหน้า โดยพิมพ์ลวดลายและสีสันลงบนพื้นผิวเพื่อให้เหมือนไม้จริง หรือเคลือบผิวด้วยสารเคลือบต่างๆ เช่น อคริลิก เมลามีน หรือยูรีเทนเพื่อเพิ่มความทนทาน 4. การตัดแต่งขนาดและรูปร่างตามที่ต้องการ เพื่อจำหน่ายตามแบบมาตรฐานหรือตามคำสั่งซื้อเฉพาะ ประเภทของพื้นไม้เทียม ในท้องตลาดมีพื้นไม้เทียมหลายประเภทแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบและคุณสมบัติ ได้แก่ 1. พื้นคอมโพสิตวูด (Wood-Plastic Composites) เป็นพื้นที่ทำจากส่วนผสมของพลาสติกและเศษไม้หรือแป้งไม้ โดยมีสัดส่วนของพลาสติก 50-60% และเศษไม้ 40-50% สำหรับใช้งานทั้งพื้นภายในและภายนอก มีความแข็งแรง ทนทานต่อรังสียูวี น้ำ และแมลงกัดกร่อน 2. พื้นวีนีลลามิเนต (Vinyl Laminate) เป็นพื้นที่ประกบด้วยฟิล์มวีนีล ซึ่งสามารถพิมพ์ลวดลายไม้ได้อย่างสวยงาม และมีแผ่นฐานรองรับทำจากไฟเบอร์อัดแน่น (HDF) เหมาะสมสำหรับติดตั้งภายในอาคาร ราคาไม่แพง น้ำหนักเบา แต่ค่อนข้างบางกว่าพื้นประเภทอื่น 3. พื้นไฟเบอร์ซีเมนต์ (Cement Fiber Board) เป็นพื้นที่ทำจากส่วนผสมของปูนซีเมนต์เสริมแรงด้วยเส้นใยแก้วหรือเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น ยูคาลิปตัส มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และทนไฟได้ดี จึงเหมาะสำหรับติดตั้งทั้งพื้นภายในและภายนอก 4. พื้นแลมิเนต (Laminate) เป็นพื้นที่มีแผ่นบาง เรียกว่า overlay ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หรือผิวสัมผัสลายไม้ ประกบผิวหน้า โดยมีแผ่นฐานรองรับทำจาก HDF หรือพาร์ติเกิ้ลบอร์ด ทำให้มีลักษณะใกล้เคียงไม้จริงมากที่สุด คุณสมบัติของพื้นไม้เทียม พื้นไม้เทียมมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาตกแต่งอาคาร ดังนี้ 1. ความคงทนและทนทาน - สามารถทนต่อปัจจัยทางสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด ความชื้น น้ำ ได้เป็นอย่างดี - มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนของแมลงและเชื้อรา - ทนต่อแรงกระแทกและการขีดข่วนได้สูง - อายุการใช้งานยาวนานกว่าพื้นไม้ธรรมชาติ 2. การบำรุงรักษาง่าย - ทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำและสบู่อย่างเดียว - ไม่ต้องขัดเงาหรือใช้สารเคลือบผิวเพิ่มเติม - สามารถซ่อมแซมได้ง่ายหากเกิดความเสียหาย 3. ราคาและต้นทุนที่ประหยัดกว่า - ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าพื้นไม้จากธรรมชาติ - ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบหลัก - การติดตั้งมีค่าใช้จ่ายไม่สูง 4. ความหลากหลายของสีและลวดลาย - สามารถจำลองลวดลายและสีได้หลากหลายเหมือนไม้ธรรมชาติ - เพิ่มความโดดเด่นและบรรยากาศให้กับพื้นที่ - มีทั้งผิวเรียบและผิวลวดลายไม้ให้เลือก 5. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยลดปริมาณขยะ - ไม่มีการตัดไม้หรือทำลายป่าไม้เพื่อผลิต - กระบวนการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้งาน เนื่องจากคุณสมบัติด้านความคงทน ต้นทุนการติดตั้งที่ต่ำ และการบำรุงรักษาง่าย ทำให้พื้นไม้เทียมเป็นที่นิยมนำมาใช้งานในหลากหลายประเภทอาคาร ได้แก่ - อาคารที่พักอาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และอพาร์ทเม้นท์ - อาคารสำนักงาน และพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ - อาคารสาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถาบันการศึกษา - บริเวณภายนอกอาคาร เช่น ระเบียง ดาดฟ้า และลานกิจกรรม - สถานบันเทิงและสวนสนุก เนื่องจากสามารถรองรับการใช้งานหนักได้เป็นอย่างดี - สนามกีฬาและศูนย์การค้า เพื่อความสวยงามและทนทาน ข้อดีและข้อจำกัด พื้นไม้เทียมมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนนำมาใช้งาน ข้อดี - คุณสมบัติทางกายภาพดีเยี่ยมในด้านความแข็งแรง ทนทาน และไม่เปราะบาง - ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบหลัก จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - การติดตั้งรวดเร็ว มีน้ำหนักเบากว่าพื้นไม้จริง ช่วยลดต้นทุนค่าแรงงาน - สามารถตกแต่งได้หลากหลายด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์และสีสัน - ราคาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำกว่าพื้นไม้ธรรมชาติ - มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ข้อจำกัด - อาจมีปัญหาการขยายหรือหดตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดการบวมและแตกร้าว - ผิวสัมผัสอาจไม่เหมือนไม้จริงทั้งในด้านลักษณะและความรู้สึก - การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนย่อยอาจทำได้ยาก ต้องเปลี่ยนเป็นแผ่นใหม่ทั้งหมด - ข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัยยังมีไม่มากนัก เนื่องเป็นวัสดุก่อสร้างประเภทใหม่ - หากผลิตหรือกำจัดทิ้งไม่ถูกวิธีอาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม พื้นไม้เทียมเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมก่อสร้างและตกแต่งอาคาร เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในด้านความคงทน การบำรุงรักษาง่าย ต้นทุนต่ำ ความหลากหลายของ |
คุณเก้าแสน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |