| |
3 คำถามกับวีซ่าอเมริกา ได้มาแล้ววีซ่า 10 ปีจ้า ได้มาแล้วจ้า วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 10ปี ทำเองทุกขั้นตอนแสนจะง่ายดาย ใครที่กำลังจะขอยื่น อย่าไปกลัวจ้ะ ตอนนี้เปลี่ยนกฎใหม่ ไม่ยากอย่างที่คิด เราขอพูดถึงขั้นตอนสมัครคร่าวๆ แล้วกันนะคะ เพราะตอนที่สมัครไม่ได้ Capture รูปเอาไว้ เลยไม่มีภาพประกอบอย่างละเอียดให้ค่ะ เริ่มจากเสิร์ชหา คำว่า สมัครวีซ่าอเมริกา 2014 แปล็บเดียวขึ้นมาเป็นพรึด เราเลือกลิ้งค์แรกเลย //www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-visaapply.asp อันนี้เป็นภาษาไทยค่ะ ใครเปิดมาเจอ eng ก็เปลี่ยนภาษาด้านมุมบนขวามือได้ค่ะ แล้วเข้าไปกรอกใบ DS-160 สามารถเลือกภาษาไทยได้ แค่เอาเม้าส์ไปวางที่ประโยคที่ต้องการแปล ก็จะมีภาษาไทยขึ้นไว้ทางด้านบนค่ะ ไม่ยากๆ จากนั้นทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ อ้อ ลืมบอกว่าให้ไปถ่ายรูปมาก่อนก็ดีค่ะ เพราะเวลากรอกรายละเอียดจะได้ลอง attachไฟล์รูปเข้าไปเลย โดยทางเว็ปจะประเมินให้ว่ารูปผ่านหรือไม่ค่ะ ถ้าผ่านก็ go โลด เราไปถ่ายรูปที่สยาม ร้านอยู่ตรง by pass ตรงข้ามกับศูนย์หนังสือจุฬา ร้านสีส้มๆ ราคา 250 บาท ค่าเซฟไฟล์รูปใส่ CD อีก 50 บาท(ไฟล์รูปสำคัญมากค่ะ รูปที่ทางร้านปริ้นท์มาให้เราไม่ได้ใช้เลย) บอกเค้าว่าถ่ายรูปขอวีซ่าอเมริกา เดี๋ยวเค้าจัดให้เองค่ะ พอรูปผ่านแล้วก็กรอกรายละเอียดไปเรื่อยๆ พยายามกรอกตามข้อมูลจริงเพราะตอนสัมภาษณ์เค้าจะเอาข้อมูลที่เรากรอกบางส่วนนี่แหละมาสัมภาษณ์ค่ะ โดยเฉพาะตำแหน่งหน้าที่การงาน พยายามใส่ให้ละเอียด และวันที่จะเดินทางต้องตรงกับใบรับรองการทำงานที่ทางออฟฟิศออกให้ จริงๆแล้วเรามีแพลนจะเดินทางช่วงเม.ย. เลยให้ออฟฟิศออกจดหมายรับรอง โดยลาตั้งแต่ 1-14 เม.ย. และจะกลับเข้าทำงานในวันที่ 15 เม.ย. (ไม่ต้องกลัวติดวันหยุด ทางอเมริกาไม่ได้สนใจว่าเราจะหยุดช่วงสงกรานต์หรืออะไรหรอกค่ะ แค่ระบุวันที่ลาและวันที่จะกลับมาทำงานให้ชัดเจนก็พอ) สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวตอนกรอกรายละเอียดจะมีถามว่าไปพักที่ไหน เราใส่ชื่อโรงแรมใน New York โดยหาชื่อที่อยู่จาก agoda เลือกหมวดโรงแรมยอดนิยม ราคาไม่แพงมากให้พอเหมาะกับ statement ที่เราขอไว้จากทางแบงค์ค่ะ (เรามีเงินในบัญชีอยู่ประมาณ 130,000 บาท แต่ตอนสัมภาษณ์กงสุลไม่ได้ขอดูเลยค่ะ) คำถามไปกับใคร เราเลือกใส่ชื่อน้องที่ทำงาน และจะมีข้อนึงที่ให้ใส่คนที่ติดต่อได้ในอเมริกา จากที่เรากรอกไว้ก่อนแล้วว่าไม่มีคนรู้จักที่นั่น (จริงๆมีเพียบเลย) เราเลยใส่เป็นที่อยู่และเบอร์โทรของสถานฑูตไทยใน New York แทน พอจบขั้นตอนทั้งหมด เราจะต้อง Print ใบยืนยัน DS-160 เก็บไว้เพื่อใช้ตอนสัมภาษณ์และเอารหัสไปกรอกแบบฟอร์มชำระเงินค่าวีซ่าต่อไปค่ะ สำหรับกฎใหม่ไม่ต้องซื้อ Pin ให้ยุ่งยากใช้แค่ใบแบบฟอร์มการชำระเงินแค่อย่างเดียว Print และกรอกรหัสตัวเลขที่อยู่ในใบ confirm Ds-160 กรอกชื่อเราเป็นภาษาอังกฤษ แล้วนำไปชำระเงินได้ที่แบงค์กรุงศรีฯ ทุกสาขา ราคา 5,280 บาท หลังจากชำระเงินแล้วก็เก็บสลิปไว้ด้วยค่ะ เสร็จแล้วก็กลับมา login สร้างบัญชีของเราเพื่อนัดวันสัมภาษณ์ จากนั้นก็เตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบ เราโทรคอนเฟิร์มรายละเอียดกับทางสถานฑูตอีกครั้ง จริงๆแล้วที่ตั้งใจโทรไปสอบถาม แต่เพราะตอนที่เราได้ใบคอนเฟิร์มวันนัดที่สถานฑูตส่งมาทาง email ชื่อของเราดันมีตัวอักษรภาษาไทยติดมาต้วยตัวนึง เลยต้องโทรไปแจ้งความผิดพลาด โดยทางสถานฑูตได้เช็คให้ตอนนั้นเลยพร้อมส่งอีเมล์คอนเฟิร์มใหม่มาให้ เราต้อง print แล้วเอาไปวันสัมภาษณ์ด้วย สรุปเอกสารที่ทาเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสำคัญให้เตรียมไปในวันสัมภาษณ์มีดังนี้ 1. ใบคอนเฟิร์ม DS-160 หน้าที่มีรูปถ่ายพร้อมบาร์โคด 2. ใบคอนเฟิร์มวันนัดสัมภาษณ์หน้าที่มีบาร์โคด 3. พาสสปอร์ต 4. ใบรับรองเงินเดือน 5. Statement จากแบงค์ 6. รูปถ่าย 7. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า *ข้อ 5-7 เราเตรียมไปแต่ไม่ได้ใช้ รอจนถึงวันสัมภาษณ์ ก่อนนอนซ้อมตอบคำถามซะดึกดื่น โถ่ถัง...วันจริงไม่ได้ใช้จ้า ถึงวันนัดเราเลือกรอบแรก 7.00 น. กลัวว่าเลือกสายเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะเหนื่อย หงุดหงิดพาลไม่ออกวีซ่าให้ 5555 คิดไปเองทั้งง๊าน นัด 7 โมงต้องไปถึงประมาณ 6โมงครึ่ง เราเอารถไปจอดที่สวนลุม เข้าประตูฝั่งโรงเรียนสวนลุม จอดฟรีโลด เดินออกมานั่งมอไซด์วิน 20 บาทลงหน้าสถานฑูตพอดี คนต่อแถวกันให้รึ่ม ไปถึง 6 โมงครึ่งเป๊ะ ยืนเข้าแถวรอ ระหว่างนี้ให้เตรียมบัตรประชาชนพร้อมใบนัดสัมภาษณ์ออกมา จะมีเจ้าหน้าที่ไปเช็คชื่อที่แถว จนถึงคิวเข้าไปด้านในทีละ 10 คน เราได้หมายเลย10 พอดี ผ่านประตูเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่รับฝากโทรศัพท์ และ flash drive พวกอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคห้ามเอาเข้า *ตรงนี้ให้อ่านในใบคอนเฟิร์มนัดด้านล่างจะมีเขียนว่า อุปกรณ์อะไรที่ห้ามนำเข้าสถานฑูตบ้าง จะได้ไม่ต้องพกไปเพราะบางอย่างสถานฑูตก็ไม่รับฝากต้องเอาไปฝากไว้กับร้านแถวเซเว่น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและเสียเวลามาก* พอเข้าไปตามทางจะมีเจ้าหน้าที่เช็คเอกสาร ตรงนี้ใช้แค่ใบ DS-160, พาสสปอร์ต และใบรับรองการทำงาน โดยเจ้าหน้าที่จะแยกใส่ซองพลาสติกใส แล้วให้เราจดรหัสบาร์โคดไว้เพื่อเช็คสถานะวีซ่าตอนผ่านแล้ว (จะมีป้ายตัวอย่างแนะนำว่ารหัสบาร์โคดที่ให้จดอยู่ตรงไหน หาเจอแน่ค่ะ) เสร็จแล้วก็เข้าประตูไปห้องสัมภาษณ์ ช่องที่ 14,15 โดยจะมีเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์เบื้องต้น ตรงนี้คือเจ้าหน้าที่จะถามรายละเอียดเบื้องต้น คำถามประมาณนี้ จนท : ไปเที่ยวหรอคะ เรา : (ยิ้มจริงใจมั่กมาก) ไปเที่ยวค่ะ จนท : แต่งงานรึยังคะ เรา : ยังค่ะ จนท : ทำงานอะไรคะ เรา : เป็น Sales Manager ที่บริษัทเกี่ยวกับ... ดูในส่วนดูแลลูกค้าค่ะ จนท : เดี่ยวนั่งรอเรียกนะคะ ขอบคุณค่ะ ของเราผ่านง่ายดายแต่มีแกงค์ครอบครัวก่อนหน้าเรา โดนถามเยอะมาก เพราะสมาชิกคนนึงดูออกแนวซื่อๆ โดนกักไว้คนเดียว เพราะตอบคำถามแบบอึกอัก แถมตอบเงินเดือนไม่ตรงกับที่กรอกใน DS-160 อีก (ตอนเค้าสัมภาษณ์เราหูใหญ่มาก เผือกตลอดๆ) แต่เจ้าหน้าที่ก็เรียกสมาชิกอีกคนนึงมาช่วยเคลียให้จนผ่าน เห็นมะที่บอกไว้ตอนต้นให้กรอกให้ละเอียดตามความจริง เพราะแบบนี้แหละ พยายามกรอกเองนะคะ จะได้ตอบได้ตรงทุกคำถามค่ะ นั่งรอซักแป็บนึงก็ถูกเรียกไปเข้าแถวเพื่อปั๊มลายนิ้วมือแล้วกลับไปนั่งรอต่อ และแล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง คิวที่ 1-10 ถูกเรียกไปเข้าแถวสัมภาษณ์ มี 3 ช่องสัมภาษณ์ เป็นฝรั่ง 2 ช่องและหนุ่มตี๋อีก 1 ช่อง คนแรกที่สัมภาษณ์กับหนุ่มตี๋ ไม่ผ่าน สัมภาษณ์กับฝรั่งอ้วน ไม่ผ่าน ส่วนช่อง 3 สัมภาษณ์ครอบครัวที่เล่าเมื่อกี้นานมาก จนถึงคนก่อนหน้าเราก็ไม่ผ่าน ตายละ 9 คนผ่านไปแค่ 5 คน ตาเราแล้วได้สัมภาษณ์กับพี่ฝรั่งอ้วนที่เพิ่งจะปฏิเสธคนก่อนหน้าเราไปหยกๆ เรา : สวัสดีค่ะ (พร้อมยื่นเอกสาร) จนท : สวัสดีครับ จะไปเที่ยวไหนครับ เรา : นิวยอร์คค่ะ จนท : ไปกับใครครับ เรา : ไปกับน้องค่ะ เป็นน้องที่ทำงานด้วยกันค่ะ จนท : เคยไปอยู่ต่างประเทศหรือเปล่าครับ (เราไม่ได้เอาพาสสปอร์ตเล่มเก่าไป) เรา : เคยอยู่อังกฤษ 2 ปีค่ะ ไปเรียนหนังสือค่ะ จนท : ยินดีด้วย วีซ่าคุณผ่านแล้วครับ ห๊ะ!! ไมมันง่ายงี้อ่า เตรียมตัวมาทั้งคืน ตอนนี้วีซ่ากฏใหม่สามารถกลับบ้านได้เลยไม่ต้องไปชำระเงินที่ไปรษณีย์อีก เดินออกมารับของที่ฝากไว้แล้วกลับบ้านโลดจ้า เราสัมภาษณ์วันศุกร์ พาสปอร์ตส่งถึงบ้านวันอังคารค่ะ นี่ขนาดจะเล่าคร่าวๆ เล่นซะยาวเบย ทริคนิดนึงคือพยายามตอบแบบมั่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่อึกอักนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวขอวีซ่าอเมริกาอยู่ตอนนี้บ้างนะคะ ขอบคุณที่ติดตามจ้ะ บายยะ
|
Sweet Queen
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เราเป็นสามัญชนที่อยากจะมีไดอารี่กับเขาบ้าง อยากบ่น อยากเขียนไรไปเรื่อยตามประสา ภาษาที่ใช้จึงอาจไม่ถูกต้องสละสลวย หรือมีอะไรกากๆ เกรียนๆ ไปบ้างต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยเด้อค่ะ Link |
||||||||||||
Sweet Queen
