มัวแต่ไปช้อปปิ้งเมียงดงให้ทันภายใน 1 ชม.
แต่ของมันหมดหลายอย่าง เลยต้องไปช้อปเมียงดงต่อ อิอิ ข้ออ้างสุดๆ)
มาดูเครื่องสำอางค์กันเลยดีกว่านะคะ
ว่าส้มไปถอยอะไรมาบ้าง
เซตนี้จะเป็นของ Missha (ที่บ้านเราเจ๊งไปเรียบร้อยแล้ว)
ใจจริงไม่ได้คิดว่าจะซื้อของยี่ห้อนี้
แต่เนื่องจากว่า ตอนไปเมียงดง
วิ่งหา It's Skin ไม่เจอ (อย่างที่บอกค่ะมีเวลาแค่หนึ่งชม.
อยู่ใน Etude, Skinfood, SPAO ก็หมดเวลาแระ)
เลยตัดสินใจซื้อครีมเมือกหอยทาก ของยี่ห้อ Missha
แต่อันนี้ไปซื้อที่สนามบินค่ะ
(คือพอซื้อขนมจากด้านบนเสร็จปั๊บ
เดินเข้าไปก่อนถึง Gate ก็แวะช้อปที่ duty free แป้บนึง
เจอยี่ห้อนี้ ก็เลยซื้อมาเลยละกัน)
ที่ได้มาก็จะเป็นครีมเมือกหอยทาก ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัส
ซึ่งข้างในจะมีแถม sleeping mask ให้ด้วย 1 หลอด
และก็ซื้อ Sleeping Mask อีก 1 หลอดแยกต่างหาก
เนื่องจากไม่รู้ว่ามันมีแถมมาด้วย
(เห็นมั้ยคะว่า รีบแค่ไหน รีบซื้อ รีบจ่าย รีบวิ่งไปที่ Gate
อารมณ์ประมาณว่า ชั้นอยากได้แล้ว ไม่ซื้อไม่ได้
ประมาณนั้น 555)
แล้ว BA ก็เลยแถม BB Cream ให้มาอีกหลอดนึง
ซึ่งใช้ค่อนข้างดีค่ะ แต่หน้าแอบมันระหว่างวันด้วยนะ
ที่สำคัญคือ ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่
แต่ก็เอานะ ของแถม ได้มาก็ดีแระ เนอะๆๆๆ
สำหรับตัวนี้ส้มเคยเขียนรีวิวเอาไว้แล้วในบล็อค
ลองไปอ่านดูได้ ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=beautybyorangina&group=3
------------------------------------------------------------
ต่อมาก็จะเป็น แบรนด์อันดับหนึ่งของเกาหลี
ที่หาซื้อที่บ้านเรายากมากค่ะ แถมคนที่หิ้วมาขาย ก็แพงเว่อร์มาก
เลยมีโอกาสได้ไปซื้อที่นู่น
เลยถอยมา 2 แบรนด์คือ Sulwhasoo และ Hera
Sulwhasoo - อันนี้ถอยแป้งผสมรองพื้นมาค่ะ ราคาประมาณพันกว่าบาท
อันนี้จะเป็นแป้งผสมโสมด้วย ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ของยี่ห้อนี้
จะผสมโสมค่ะ ราคาก็เลยจะแพงกว่าแบรนด์เกาหลีอื่นๆทั่วไป
ตอนไปที่ซื้อ มีแต่คนไทยมาซื้อเต็มไปหมดเลยค่ะ
ส้มเลยถอยแป้งมา เบอร์ 21
ชอบมากๆ เนื้อเนียนสุดๆ ที่สำคัญ ไม่ทำให้หน้ามันระหว่างวันด้วย
ต่อมาจะเป็นแบรนด์ HERA
นับว่าเป็นแบรนด์อันดับ 2 ของเกาหลี รองจาก Sulwhasoo เลยก็ว่าได้ค่ะ
อันนี้ได้มาเป็นเซตเลย
จะเป็นเซต Aquabolic
โดยเลือกมาเป็นชุดสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน
(จะมีเซตสำหรับคนผิวแห้งด้วยนะคะ)
เซตนี้จะเน้นการบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น
มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวอยู๋ตลอดเวลา
ในหนึ่งเซตมีอยู่ 8 อย่างค่ะ
BA ก็น่ารักมากๆ กลัวเราจะใช้ไม่ถูก
มีการแปะสติ๊กเกอร์ ตัวเลข ว่า ชิ้นไหนต้องใช้ก่อน
เรียงตาม 1 2 3 4 ตามรูปเลยค่ะ
ชิ้นนี้เอาไว้ จะมารีวิวอีกทีนะคะ
ยังไม่ได้แกะมาใช้เลยค่ะ
------------------------------------------------------------
ต่อมาก็เป็นแบรนด์ยอดฮิตของสาวไทย
นั่นก็คือ ETUDE HOUSE นั่นเอง
ร้านนี้ไม่เข้าไม่ได้ค่ะ
เพราะเพื่อนๆฝากซื้อของเพียบ
แต่เสียดายที่ซื้อกลับมาไม่ครบตามออเดอร์เพื่อนๆ
เพราะสินค้าหมดหลายช้อปเลย
เนื่องจาก คนไทยไปซื้อกันเนี่ยแหละค่ะ
ของหมดเกลี้ยง โดยเฉพาะ Nymph Collection ใหม่ล่าสุด
ได้มาไม่กี่ชิ้นเอง
จากรูปด้านล่าง คือทั้งหมดที่ซื้อมา และรวมของแถมเรียบร้อยแล้ว
ของแถมส่วนใหญ่จะเป็นพวกมาสก์ซองเล็กๆอ่ะค่ะ
ได้มาไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ สำหรับแบรนด์ ETUDE
แต่่ชิ้นใหญ่สุดที่ได้มาจาก เซต BB กล่องสีฟ้าอ่ะค่ะ
ก็ถือว่าคุ้มแล้วอ่ะค่ะ เพราะหลอดค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน
ได้มาแทบทุกรุ่นของ BB เค้าเลยก็ว่าได้
แต่เดี๋ยวยังไงจะค่อยๆทยอยรีวิวนะจ้ะ
------------------------------------------------------------
ถัดมากับอีกแบรนด์นึง ที่ไม่ควรพลาด
นั่นก็คือ Skinfood ที่ยอมรับว่าถูกกว่าบ้านเรามากๆๆๆๆ
ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะเป็นเซตของ Black Sugar มีทั้งตัว
Black Sugar Scrub Foam ,
Black Sugar Bubble Foam ,
Black Sugar Mask Wash Off
Black Sugar Cleansing Water
นอกจากนี้ยังถอย Platinum Grape Cell Day and Night Program
เป็นชุด 14 วัน ที่ BA บอกเป็นภาษาไทยเลยค่ะว่า
"ใช้แล้วหน้าเด้ง ใสสวยมากค่ะ"
อ้าว...ไหนๆก็ทุ่มเทพูดไทยซะขนาดนี้
ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว ก็เลยถอยมา
จำได้ว่าราคาที่บ้านเราประมาณ 2300 มั้งคะ
แต่ที่นู่น 1100 ก็เลยซื้อมา
แล้วก็จะมีของฝากแฟน หนึ่ง ชิ้น
(ปล.ตั้งหนึ่งชิ้น เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรให้จริงๆ)
คือ Brandy Milk Shaving Foam for men
.ให้แฟนใช้ครั้งแรก เค้าบอกว่าไม่ค่อยมีกลิ่นเหล้าเท่าไหร่
แต่หน้าก็นุ่มดี หลังโกนหนวดแล้ว
ที่เหลือก็จะเป็นพวกนี้ค่ะ
Omija Whitening Teabag toner
Tomato Whitening Spot Serum
Black Bean Nose Pack
และสินค้าที่เพื่อนๆฝากซื้ออื่นๆอีก
และที่เห็นจากภาพ พวกที่เป็นซองๆทั้งหลายแหล่นั้น
คือของแถมที่ได้มากค่ะ
ตลกมากเลย ช้อปทีทงแทมุน
ไกด์เค้ารู้จักกับพนักงานขายที่นั่น
เราก็ถือของจะไปจ่ายตัง พอพนักงานคนนี้เงยหน้าขึ้นมา
เค้าแบบมองตะลึง ยังกะ รักแรกพบอะไรประมาณนั้น
แล้วก็บอกว่า Nice To Meet You แถมยื่นมือมา shake hand อีก
เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ก็ shake hand ตามปกติ
แต่พี่แก ดันจับมือ แล้วดันไม่ยอมปล่อย จับนานมากแล้วก็ยิ้มหวานให้อีก
ทำตาเชื่อมมาเลยทีเดียว (ตาก็เล็กๆอ่ะนะ) 55
ก็ยืนจีบเราพักนึง แล้วเราก็เลยบอกว่า ขอของแถมเยอะๆนะ
พี่แกก็หยิบให้เป็นกำๆเลย ทั้ง tester ที่อยู่ข้างหลังเคาน์เตอร์เชคบิล
และใต้โต๊ะคิดเงิน ไม่รู้อะไรบ้าง ให้มาเยอะมากๆ
(นึกในใจ ก็โอเคนะ ให้จับมือ แล้วได้ของแถมมาฝากเพื่อนเยอะๆก็คุ้มแระ 55)
แต่สุดท้ายไกด์ ก็เลยบอกไปว่า ส้มแต่งงานแล้ว
เล่นเอาพี่แกหน้าเศร้าเลย แถมพูดไทยอีกนะว่า "อกหักเลย")
จากนั้นก็ say goodbye กันตามระเบียบ
ชั้นได้ของแถมละ ชั้นชิ่งก่อนละ หุหุ
ต่อมา แบรนด์ The Face Shop
ที่บ้านเราก็ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับ ETude, Skinfood
แต่ถือว่าเป็นแบรนด์ทีค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ
คราวนี้ไปก็ไปได้ Base สีเขียว ที่ฮิตกันเหลือเกิน
มาทดลองใช้ดู เห็นหลายๆคนรีวิวบอกว่าดีมาก
เลยขอซื้อมาลองซะหน่อย
ส่วนกล่อง 4 กล่องนั้นจะเป็นสำลีที่แถมมาค่ะ
เค้าวางกล่องเอาไว้หน้าร้าน ให้เราหยิบเอาเองได้เลยค่ะ
ก็เลยหยิบมาแบบเกรงใจ 4 กล่องเท่านั้น
เพราะเราซื้้อ ชิ้นเดียว เดี๋ยวเค้าจะว่าเรา 55
------------------------------------------------------------
ต่อมาเป็นแบรนด์น้องใหม่ล่าสุด ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้
นั่นคือ Nature Republic
อันนี้ได้มาอย่างเดียว เพราะไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร
และไม่รู้ว่าอะไรดี
แต่พอดีว่าตัวเช็ดเครื่องสำอางค์ใกล้หมดแล้ว
เลยลองซื้อ Eye and Lip Make Up Remover มาลองใช้ดู
ขวดกลมๆป้อมๆ สีชมพูอมแดง
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็น น้ำ และน้ำมันแยกกัน
วิธีใช้ก็เขย่า แล้วก็ชุบกับสำลี มาเช็ดเบาๆ ตรงบริเวณตาและริมฝีปาก
และยังสามารถเช็ดทั้งใบหน้าได้ด้วยค่ะ
อันนี้ดี ใช้ได้เลย ใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ
โอเค... ผ่าน
แต่ยี่ห้อนี้ ให้ของแถมน้อยมาก
จะเป็น Whitening essence, Whitening lotion
ได้มาแค่ 2 ชิ้นเองอ่า
------------------------------------------------------------
สุดท้าย ท้ายสุดที่ได้มา
อันนี้ซื้อตอนไปที่ร้าน ที่เค้าขายเครื่องสำอางค์ลดเพิ่มจากปกติอีก 3%
ไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไร แต่พอดีไปเห็น มาสก์ตัวนี้เข้า
เลยหยุดอ่านคร่าวๆ คิดว่าน่าสนใจ
ก็เลยซื้อมาค่ะ
จะเป็นของ Dr.Post ซึ่งจะเป็น patch ที่จะช่วยดึงกระชับใบหน้า
บริเวณแก้มและใต้คางที่หย่อนคล้อย
โดยเฉพาะคนที่คางสองชั้น หรือ แก้มเยอะๆ
จะทำให้หน้ากระชับและเรียวขึ้น
ส่วนตัวเป็นคนแก้มเยอะ เลยอยากลองซื้อมาใช้ดู
เท่าที่อ่านดูนะคะ
กล่องนึงจะมี 4 ชิ้น
โดยจะแยกเป็น เซรั่ม (ตามหมายเลข 1 ตามรูป)
จะเป็นเจลร้อนที่เอาไว้นวดบริเวณแก้มและคาง
จากนั้นทิ้งไว้ซักพัก แล้วค่อยเอาส่วนที่ 2 (ในรูปเขียนว่า Step 2)
นำมาคาด แล้วเกี่ยวไว้ที่หู
เพื่อดึงหน้าให้กระชับ และเรียวขึ้น
กล่องนึงใช้ได้ 4 ครั้ง
ว่าแล้วก็ยังไม่ได้ลองเลยค่ะ
เอาไว้เมื่อไหร่ลองแล้ว ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร
จะรีบมาอัพบล็อคให้ทุกคนได้อ่านกัน
เผื่อมีคนสนใจ
ราคากล่องนึงประมาณ 600 บาทค่ะ
(ถ้าจำไม่ผิดนะ)
เอาเป็นว่าทั้งหมดที่ช้อปมา ก็เล่นเอาเกือบหมดตัวเลยค่ะ 55
แต่ถือว่าเป็นการช้อปปิ้งครั้งแรก ที่ซื้อเยอะขนาดนี้
เพราะถ้าคุณไปเกาหลีนะ เห็นราคาถูกขนาดนี้
ไม่ซื้อ คงไม่ได้แล้วจริงๆ
แล้วก็คงขาดสติแบบส้มเนี่ยแหละค่ะ
ก็ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานะคะ
ส้มจะค่อยๆพยายาม ทยอยรีวิวแต่ละตัวให้ได้ดูกัน
และเดี๋ยวส้มจะมีกิจกรรมแจกของรางวัลในเพจเฟซบุ๊คด้วยค่ะ
www.facebook.com/BeautyByOrangina
ไว้ติดตามละกันค่ะ
วันนี้ขอตัวก่อนนะคะ
บายจ้าาาา