เป็นอีกครั้งหนึ่งในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ ที่ซื้อกระเป๋าสีดำ

 เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบสีดำ โดยเฉพาะกระเป๋า ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

แต่คราวนี้ รู้สึกว่า ต้องมีกระเป๋าสีดำไว้ซักใบแล้ว (ปกติมีแต่สีครีม ขาว ทอง)

เวลาทำงานไปหาลูกค้าหรืออะไร มันก็ดูเรียบดี ไม่เยอะจนเกินไป

พอดีไปเดินดูที่ Charles and Keith (แบรนด์รองเท้าสุดโปรดเลยก็ว่าได้)

ก็ตัดสินใจอยู่ซักพักนึง.. เลยถอยใบนี้มาค่ะ

(ปล. เป็นใบแรกเลยที่ซื้อกระเป๋าจากยี่ห้อนี้  ปกติซื้อแต่รองเท้า โดยเฉพาะตอน sales อิอิ )

เค้าก็แพกใส่ถุงผ้าและถุงกระดาษอย่างใหญ่เว่อร์  ไม่รู้จะใหญ่ไปไหน 

และนี่ก็คือกระเป๋าที่ว่าค่ะ..พอดีกำลังอยากได้กระเป๋าที่สะพายไหล่ได้ และมีสายสะพายข้างได้ด้วย

ก็เลยตัดสินใจเป็นใบนี้  ใจจริงก็อยากได้อีกใบนึง แต่พนักงานขาย เชียร์รุ่นนี้

บอกว่าเข้ากับเราดี ก็เลยนะ... รูดการ์ดอย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว 55

มาดูใกล้ๆกันดีกว่าค่ะ

ก็จะเป็นกระเป๋าหนัง ที่เปิดปิดโดยการบิดตรงที่ล๊อคกระเป๋า อยู่ตรงกลางใบ และพอเปิดออกมา ข้างในก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ

ด้านในจะบุด้วยผ้าสีม่วงสกรีนลายโลโก้ Charles and Keith แต่อาจจะมองไม่ค่อยเห็นสีเท่าไหร่

ก็จะมีช่องใส่มือถือ 2 ช่อง และช่องใส่ของที่มีซิปรูดปิด  ด้านในถือว่า ใส่ของได้เยอะเลยล่ะค่ะ

(ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญมากๆ เพราะส้มเป็นคนของเยอะมากๆ เยอะตามขนาดกระเป๋าเลยก็ว่าได้ อิอิ

รู้นะ ว่าหลายๆคนที่กำลังอ่านอยู่ ก็เป็นเหมือนกัน 55 จริงมั้ยคะ  )

 และรูปด้านล่างนี้ก็จะเป็นด้านหลังกระเป๋าค่ะ ก็จะเรียบๆ ไม่ค่อยมีอะไร 

ตรงหูจับก็จะเป็นหูค่อนข้างแข็งค่ะ ชอบตรงที่มันอยู่ทรงดี เกี่ยวกับตัวกระเป๋าด้วยห่วงสีทองเงาๆ สวยค่ะ

และถ้าไม่อยากถือแบบสายสั้น ในกระเป๋านี้ก็จะมีสายยาวสำหรับสะพายข้างแถมมาให้ด้วย

ซึ่งเป็นข้อดีที่ชอบกระเป๋าใบนี้  

ตอนที่ซื้อมาก็ลืมให้เค้าเจาะรูให้เพิ่ม เพราะว่าเวลาสะพายจริงๆแล้ว สายค่อนข้างยาวค่ะ

ไว้ว่างๆค่อยเอาไปให้เค้าเจาะให้อีกที 

ถ้าถามว่า ใบนี้ราคาเท่าไหร่  ที่ซื้อมา ใบนี้อยู่ที่ 2,390 บาทค่ะ

รู้สึกว่ารุ่นหลังๆมานี้ Charles and Keith ทำกระเป๋าออกมาดูสวยขึ้น

ทันสมัย และดูอินเทรนด์มากกว่าเมื่อก่อน

สำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าสะพายข้างซักใบ อาจจะไปลองดูยี่ห้อนี้ดูนะคะ

มีอีกหลากหลายแบบที่เป็นทั้งหูสั้นและสายยาวได้ด้วย  แถมแบบก็ดีไซน์ออกมาเก๋ๆ เรียบแต่ดูมี detail น่าสนใจ

วันนี้ก็มาเห่อเล็กๆน้อยๆนะคะ ไม่ค่อยมีอะไรมาก ไว้ครั้งหน้าจะมีอะไรมารีวิวเพิ่มเติม

ต้องติดตามนะคะ  หรืออาจจะไปทักทายกันได้นะคะ ที่ www.facebook.com/BeautyByOrangina 

แล้วพบกันค่ะ บ๊ายบาย

Create Date : 03 ตุลาคม 2554
Last Update : 3 ตุลาคม 2554 20:18:14 น.		0 comments
Counter : 4823 Pageviews.
Share Tweet