Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

Review : ผลการลดไขมันหน้าท้องด้วยวิธี Cool Sculpting ครบ 1 เดือน

เมื่อวันที่15ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาส้มได้รับเชิญให้ไปกำจัดไขมันหน้าท้องด้วยเครื่อง

CoolSculpting ค่ะหลายคนอาจจะบอกว่าดูหุ่นส้มก็ดีอยู่แล้ว มีหน้าท้องด้วยเหรอ

ถ้าดูจากรูปตอนก่อนที่จะไปทำการรักษาก็จะเห็นว่าไม่ค่อยมีเลยหน้าท้อง

แต่เนื่องจากเวลายืนจะไม่ค่อยเห็นว่าหน้าท้องไม่กระชับ


จริงๆมันก็มีแค่แต่ไม่ได้เยอะมาก แต่ปัญหาของส้มก็คือ ผิวหน้าท้องไม่กระชับ

เพราะส้มไม่ได้ออกกำลังกายเลย

ก็เลยอยากจะลองดูว่าเครื่องนี้จะทำให้ผิวหน้าท้องกระชับขึ้นได้หรือเปล่า


แล้วCoolSculpting คืออะไร?


เครื่องCoolSculpting™ ซึ่งคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท ZeltiqAesthetics Plesanton

ร่วมกับMassachusettsGeneral Hospital (Harvard) ประเทศสหรัฐอเมริกา

เป็นเครื่องมือแรกและเครื่องเดียวในขณะนี้ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น

non-invasiveprocedure ที่ใช้ในการลดจำนวนไขมันในร่างกายได้อย่างมี

ประสิทธิภาพซึ่งเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน

ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้โดยการควบคุมอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย


CoolSculpting™ ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Cryolipolysis™

คือการใช้ความเย็นที่เหมาะสมในการทำให้ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง

(subcutaneous fat) เกิด apoptosis โดยกระบวนการดังกล่าวนั้นเป็นแบบ

non-invasiveจึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บ


ในการรักษาแต่ละครั้งสามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษา

ได้ประมาณ20% โดยเซลล์ไขมันดังกล่าวจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย

ทางระบบน้ำเหลืองทำให้ไม่สามารถกลับมาเพิ่มจำนวนได้อีก

ผลการรักษาดังล่าวจะเริ่มชัดเจนในสัปดาห์ที่6

และดีขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องจนถึง2 ถึง 4 เดือนหลังการรักษา


ขั้นตอนการรักษาด้วย Cool Sculpting™

1. ผู้เชี่ยวชาญจะทำการ ประเมินบริเวณที่ต้องการจะลดไขมัน

โดยจะทำการเอาปากกามาขีดเอาไว้ เพื่อมาร์คจุดที่จะต้องลดไขมัน

ซึ่งเครื่องนี้จะเหมาะกับการลดไขมันหน้าท้องค่ะ


2. หลังจากที่ประเมินบริเวณที่จะทำการกำจัดไขมันหน้าท้องแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญจะนำแผ่นเจลเย็นอย่างที่เห็นในรูปด้านล่างนี้มาแปะเอาไว้ตรงหน้าท้อง

เพื่อป้องกันผิวจากความเย็นจากตัวเครื่องค่ะ


3. นำหัวเครื่องมาแปะลงบนแผ่นเจล และเปิดเครื่อง

ตรงบริเวณหัวนี้จะดูดเอาเนื้อตรงหน้าท้องเข้าไปในกล่องค่ะ


เนื่องจากส้มเป็นคนที่หน้าท้องไม่ค่อยกระชับเนื้อเหลว

เลยต้องก้มตัวลงมาเพื่อให้เนื้อลงมากองเพื่อทำให้เครื่องทำการดูดเข้าไปได้ง่ายขึ้นค่ะ

(ตอนแรกเกือบไม่ได้ทำแล้วเพราะเค้าดูแล้วไม่ค่อยมีหน้าท้องมากนัก

แต่ก็อยากลองดูอ่ะนะยอมเมื่อย นั่งตัวโค้งโก่งอยู่หนึ่งชม.เต็มๆ ฮ่าๆๆ)

สังเกตจากรูปด้านล่างนะคะเนื้อถูกดูดเข้าไปเต็มเลย

ถามว่าเจ็บมั้ยตอนที่เครื่องดูดเนื้อหน้าท้องเข้าไป เจ็บมากค่ะ ทนไม่ไหว

เพราะตอนแรกเค้าเปิดระดับค่อนข้างแรงส้มเลยขอเอาเป็นเบาสุด

ความรู้สึกเหมือนมีคนเอามือมาบิดหน้าท้องเรานึกง่ายๆ เหมือนเราบิดผ้าน่ะค่ะ


มันเจ็บจริงๆแต่พอผ่านไป 5 นาที ความเย็นจะทำให้ผิวหนังเราชา

จนเริ่มไม่รู้สึกอะไรเลยก็เลยนั่งอยู่ได้ประมาณ 1ชม.ก็ครบเวลาตามที่กำหนดของเครื่องค่ะ


4. พอครบ 1 ชม. ก็จะเอาเครื่องออกมาค่ะถือว่าเป็นอันเสร็จกระบวนการขั้นตอน

พอถอดเครื่องออกมาตกใจมาก หน้าท้องแดงเลย และหน้าท้องย้อยกว่าเดิม

ไม่แปลกหรอกค่ะถูกเครื่องดูดเข้าไปซะขนาดนี้ ถ้าไม่ย้อยนี่ก็ถือว่าแปลกมาก

ดูรูปนี้แล้วเหมือนตัวเองอ้วนมากๆเลยค่ะรับไม่ได้ 555


ความรู้สึกหลังหลังรักษา

ด้วยความที่อุณหภูมิของเครื่องที่ปล่อยความเย็นออกมาถึง -5องศาเซลเซียส

มันเลยทำให้ชามากๆทำเสร็จใหม่ๆ จับหน้าท้องไม่รู้สึกเลยค่ะ

ผิวจะแดงอยู่ประมาณ5ชม.หลังทำค่ะ แล้วก็จะเริ่มดีขึ้น

ในช่วง2สัปดาห์แรก หลังจากการรักษา

รู้สึกชาอย่างต่อเนื่องแต่ความรู้สึกชาจะน้อยลงในช่วงวันที่ 13-15 หลังจากรักษา

แล้วก็จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆบริเวณที่รักษาค่ะ เวลาก้ม จะรู้สึกจี๊ดขึ้นมาทันที

แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากค่ะและเนื่องจากช่วงที่ทำเป็นช่วงอากาศเริ่มเย็น

มันทำให้ผิวบริเวณหน้าท้องของส้มที่รักษาแห้งเป็นขุยค่ะ

ก็ต้องใช้ครีมทาบริเวณที่รักษาอยู่ตลอด


ผลหลังการรักษา

ส้มทำการรักษาในวันที่15ธันวาคม 2555 ได้ถ่ายรูปหลังทำทันที

และได้ถ่ายรูปหลังจากครบ1 เดือนพอดีเอาไว้เพื่อเปรียบเทียบ

ผิวหน้าท้องส้มกระชับขึ้นค่ะไม่หย่อนคล้อยเหมือนแต่ก่อน

เพราะรูปตอนที่ส้มถ่ายเอาไว้ที่ใส่เสื้อสีส้มด้านล่างนี้คือ ภาพที่ถ่ายหลังทำเสร็จ

และได้กินข้าวเรียบร้อยสังเกตว่าผิวจะไม่กระชับเลย

ซึ่งส้มจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วค่ะเวลากินข้าวเข้าไปหน้าท้องจะหย่อนแบบในรูปเลย


แต่พอผ่านไปได้ 1เดือน ผิวหน้าท้องกระชับขึ้นกว่าเดิม

แต่ก็อาจจะมีหย่อนบ้างเล็กน้อยหลังกินข้าวเสร็จ แต่ไม่เยอะเท่าแต่ก่อนค่ะ

ถือว่าการรักษาด้วย Cool Sculpting ได้ผลค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ


ข้อดีและข้อเสียของการรักษา

ข้อดี


1. ไม่ต้องพักฟื้นหลังจากการรักษา สามารถทำกิจวัตรได้ตามปกติ

2.  ไม่มีบาดแผลหลังจากการรักษา เพราะเครื่อง Coolsculpting เป็นการรักษาแบบไม่ลุกลานผิว(non-invasive)

3.  สามารถทำการรักษาไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ยากต่อการลดขนาด เช่น ไขมันบริเวณหน้าท้อง  ไขมันข้างลำตัว  ไขมันใต้เสื้อชั้นใน 

4.  เครื่อง Coolsculpting เป็นการรักษาแบบ  Single Treatment คือรักษาเพียงครั้งเดียวเห็นผลยาวนาน

ข้อเสีย

1. ราคาในการรักษาค่อนข้างสูง หากเทียบด้วยการรักษาวิธีอื่น

2. ผิวบริเวณที่ได้รับการรักษาจะรู้สึกชา และ เจ็บจี๊ดๆ

ตลอด 2 สัปดาห์หลังการรักษา 


ราคาและสถานที่ในการรักษา

ราคาในการรักษาต่อ 1 จุด อยู่ที่ 20,000 - 35,000 บาท

        (แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษานะคะ)


ปัจจุบันมีคลีนิคและสถานเสริมความงามในเมืองไทยได้นำเครื่องนี้เข้าไปบริการให้ลูกค้าดังนี้ค่ะ

1. Apex profound beauty มีทั้งหมด เครื่อง

                -  สาขา พารากอน

                -  สาขา จังซีลอน

                -  สาขา ทองหล่อ

                -  สาขา พัทยา

2.Clinic Neo

3. iSky Center สาขาหนองแขม

4. Nakronton  Hospital

5. True 'est

6. Bangkok Laser Surgery

7. Vitallife บำรุงราษฎร์

8. Siriraj Hospital

9. Demabella



วันนี้ส้มก็ต้องขอขอบคุณทางบริษัท Filtech Enterprise (1994)

ที่เชิญให้ส้มได้เข้ารับการบริการครั้งนี้ด้วยนะคะ

สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับCoolSculpting

อาจจะเข้าไปสอบถามได้ที่ Facebook คลิกที่รูปโลโก้ด้านล่างได้เลยค่ะ


แล้วพบกันใหม่รีวิวครั้งหน้านะคะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวส้มนะคะ




Sponsored By 





 

Create Date : 25 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 25 มกราคม 2556 10:07:29 น.
Counter : 28004 Pageviews.


beautybyorangina
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 132 คน [?]




Friends' blogs
[Add beautybyorangina's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.