|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
มือถือของหนูตกน้ำ-ทำไง
คงหลีกเลี่ยงกันไม่ได้นะครับเรื่องอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัยแบบนี้ แต่เมื่อถึงคราวที่จะเจอกับมันเราก็ควรที่จะรู้วิธีที่จะรับมือกับมันและจัดการแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดีเป็นอย่างดี
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
คำแนะนำ - ก่อนอื่นเลย หยิบมันขึ้นมาจากน้ำซิครับ - ถอดฝาหลังเครื่องออก ถอดแบตเตอร์รี่ ถอดซิมการ์ด ถอดเมมโมรี่การ์ดออก ถอดหน้ากาก ถอดส่วนประกอบออกเท่าที่ทำได้ด้วยมือเปล่า ย้ำ ด้วยมือเปล่า - ใช้ผ้าหรือทิชชู่ห่อ (ทิชชู่ดีกว่า) ห่อหุ้มมือถือของเราไว้ เป็นการซับน้ำออกให้ มากที่สุดเลยครับ ซับแล้วเปลี่ยนทิชชู่ไปเรื่อยๆ เช็ดน้ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ อุปกรณ์ที่ถอดออกแล้วก็เช่นกันครับ - ไปพบแพทย์ นำเครื่องและอุปกรณ์ของเราไปร้านซ่อมที่ใกล้และที่เราไว้วางใจ ถ้าไม่สะดวกที่จะไปในช่วงเวลานั้นเลย เช่น เป็นเวลากลางคืน ดูบอลอยู่ หรือติดเล่นเกมส์ ก็ให้นำชิ้นส่วนทั้งหมด ใส่ไว้ในถังข้าวสาร เพื่อให้ข้าวสารช่วยดูดความชื้นที่ยังคงสะสมอยู่ภายในมือถือของเรานั่นเอง
ข้อห้าม - ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผม เป่ามือถือของเรานะครับ เนื่องจากไม่สามารถทำให้น้ำแห้งได้แล้ว แรงลมจากการเป่าจะทำให้น้ำที่เปียกนั้นหนีเข้าไปในส่วนที่ลึกมากขึ้นนะครับ พิสูจน์ได้โดยการหยดน้ำลงบนโต๊ะ1หยดแล้วใช้ไดร์เป่าผมของเราป่าวดูครับ จะเห็นได้ว่าน้ำจะวิ่งไปตามแรงลมที่เราเป่า นันก็หมายความว่าเมื่อเรานำไปเป่ามือถือของเรา น้ำก็จะวิ่งหนีเราเข้าไปยังส่วนที่ลึกมากขึ้นนะครับ - ไม่ควรใส่แบตเตอร์รี่กลับเข้าไปนะครับ เนื่องจากเราทราบแล้วว่ายังมีน้ำตกค้างอยู่ภายใน และน้ำก็เป็นตัวนำไฟฟ้าได้อย่างดี ถ้าเราใส่แบตกลับเข้าไปก็หมายความว่า น้ำจะนำไฟไปในที่ที่มันไม่ควรไปคือทำให้ลัดวงจร (ช็อต) ก็อาจทำให้อุปการณ์ภายในเสียหายไปมากขึ้นนะครับ
+---------------------------------------+
+---------------------------------------+
+---------------------------------------+
+---------------------------------------+ นี่ก็ภาพบอร์ดตัวอย่างที่โดนน้ำมานานแล้ว จนมีอาการกดปุ่มไม่ได้ เสียงไม่ดัง เปิดติดยากมาก +---------------------------------------+ หลังจากทราบคำแนะนำและข้อห้ามกันแล้วมือถือของเราก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาใช้งานได้ดีอย่างเดิมครับ หลายท่านอาจจะบอกว่าไม่จริง ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลยใช้ไดร์เป่าๆให้แห้งก็ใช้ได้ นั่นถือเป็นความโชคดีของท่าน และถือว่าโทรศัพท์ของท่านมีความทนทานสูงมากครับ กรณีนี้ผมเชื่อว่าปัญหาต่างๆจะตามมาหาท่านอย่างแน่นอนครับ แต่จะเป็นในรูปแบบที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าน้ำได้เข้าไปพักอาศัยในส่วนไหนบ้าง ผมจะยกตัวอย่างอาการที่อาจจะตามมากลังจากโดนน้ำแล้วไม่ได้ทำตามข้อแนะนำและข้อห้ามของผมนะครับ เช่น ปุ่มกดยากหรือกดไม่ได้บางปุ่ม ไม่สั่น ไม่มีเสียงเรียกเข้า คุยกันแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ยินเรา ไฟไม่ติดอาจจะเป็นไฟจอหรือไฟที่ปุ่มหรือทั้งสองส่วน อาการเหล่านี้มักจะเกิดหลังจากเกิดเหตุได้ประมาณ 1 สัปดาห์ อาจจะไวหรือช้ากว่านี้ได้ครับขึ้นอยู่กับความชื้นที่ตกค้างในตัวเครื่องครับ เหตุผลก็คือ เมื่อน้ำเข้าไปแล้วมันก็จะอยู่กับมือถือของเรา มันรักมือถือของเราไม่แพ้เจ้าของเลยนะ จากนั้นความชื้นที่เกิดจากน้ำก็จะทำปฏิกิริยากับแผงวงจร ซึ่งประกอบไปด้วย ทองแดง ทอง ตะกั่ว ฯลฯ ซึ่งจะทำให้เกิดอ็อกไซด์ (ถ้าเกิดกับเหล็ก เรียกว่าสนิม) ส่วนนี้ก็จะทำการกันกร่อนลายวงจรขาด ช็อต ขาและตัวอุปกรณ์เสียหายได้มาก และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงควรทำตามคำแนะนำและข้อห้ามของผมนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีเมื่อเจอกับปัญหานี้นะครับ
Create Date : 23 กันยายน 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2550 17:27:37 น. |
Counter : 563 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|