สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
9 สิงหาคม 2553

เรียนต่ิ้อเมืองนอก

ผมมีโอกาสได้อ่านกระทู้หนึ่งเกี่ยวกับ ผู้หญิงที่จบ MSc in management จาก imperial college มาขอคำแนะนำเรื่องการหางานในห้องสีลม ทำให้ผมนึกถึง กระแส การไปเรียนต่อเมืองนอกที่กำลังมาแรง เท่าที่ผมได้พบเห็นมา กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ จะมีทิศทางชีวิตคล้ายๆกัน ไม่กี่แบบคือ
1.จบตรี แล้วไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำงานอะไร หรือยังอยากเที่ยวเล่นอยู่เลยไปต่อโทที่อังกฤษ หรือ ออสเตรเลีย
2.จบตรี แล้วกะทำงานสัก 2-3 ปี ค่อยลาออก ไปเรียนต่อ MBA ที่อเมริกา หรือ ฝั่งยุโรป
3.จบตรี แล้ว รู้สึกอยากเก่งภาษา ก็ไปเรียนโรงเรียนสอนภาษา ตาม อังกฤษ หรือ แม้แต่ประเทศจีน

ผมว่า เกือบทั้งหมด ของคนส่วนใหญ่ที่วางแผนไปเรียนเมืองนอก มีความเชื่อที่ว่า การไปเป็นนักเรียนนอกในปัจจุบัน จะทำให้มีโอกาสได้ทำงานในตำแหน่งดีๆมีเงินเดือนสูงๆ ได้เห็นเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ

แต่จากกระทู้กล่าวถึงด้านบน รวมทั้งประสบการณ์โดยตรงที่ผมได้พบเห็นกับคนรู้จักหลายๆคน การกลับมาเป็นนักเรียนนอกในเมืองไทยมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คนส่วนใหญ่วาดฝันไว้ในตอนแรก

ถ้าจะดูว่า ไปเรียนเมืองนอกนั้นคุ้มแค่ไหน ผมจะจำลองโมเดลทางการเงินง่ายๆที่สะท้อนถึงต้นทุนในการไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นระยะเวลา 1 ปี ที่ อังกฤษนะครับ

ค่าใช้จ่ายในการไปเรียนต่อต่างประเทศมีหลักๆ สองส่วนคือ
1. ค่าเสียโอกาสในการทำงานที่เมืองไทย
2. ค่าเทอม + กินอยู่ในต่างประเทศ

1. Assumption ของผม คือ ค่ากินอยู่ในเมืองไทย เท่ากับ 50 % ของเงินเดือน เงินเดือนเริ่มต้นของเด็กจบใหม่ ผม ให้ ที่ 20,000 บาท เพราะฉะนั้น การไปเรียนต่อต่างประเทศ 1 ปี จะเสียโอกาสในการหารายได้(หักค่าใช้จ่ายไป) 120,000 บาท
2. ค่าเทอม ถ้าเป็นมหาลัยทั่วๆไป ไม่ใช่ LSE Imperial หรือ CASS ค่าเทอมจะอยู่ที่ประมาณ ปีละ 11,000 ปอนด์(ถ้าเป็น 3 มหาลัยด้านบน ค่าเทอมจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 ปอนด์)
ค่าหอพักอยู่ที่ประมาณ 4,000 ปอนด์ ในกรณีอยู่เมืองบ้านนอก อาจจะถึง 6,000 ปอนด์ถ้าอยู่ในลอนดอน
ค่ากิน+เที่ยว+หนังสือ+ปาร์ตี้ ประมาณ 4,000 ปอนด์
รวม ทั้งหมดประมาณ 19,000 ปอนด์ หรือประมาณ 974,700 บาท
3. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ+วีซ่า + ค่าสอบ Ielts + application fee ประมาณ 6 หมื่นบาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประมาณ 1,550,000 บาท

ต้นทุนทางการเงิน ผม ให้ อยู่ที่ ประมาณ 7% ต่อปี หรือ 0.58% ต่อเดือน (ประมาณดอกเบี้ย MRR ของ
ธนาคารพาณิชย์)

ระยะเวลาในการ amortized ผมให้เวลา 8 ปี(ระยะเวลาที่การศึกษาในอังกฤษมีความสำคัญ ใน resume มากกว่าประสบการณ์การทำงาน)

เอาข้อมูลดังกล่าวเข้า financial calculator จะได้ดังนี้ครับ
PV = -1,550,000 N= 96 I/Y = 0.58 FV= 0

จะได้ 21,101 บาท

สรุปก็คือ ถ้าจะให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเรียนเมืองนอกที่อังกฤษ กลับมาแล้ว ควรได้เงินเดือน เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 หมื่นบาท จากเงินเดือนเริ่มต้น 2 หมื่นบาท หรือได้ 4 หมื่นบาทต่อเดือน ครับ

Note: ข้อสรุปดังกล่าวมาจาก assumption ด้านบน โดยพิจารณาแค่จำนวนเงินเท่านั้นครับ




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 0:42:23 น.
Counter : 2108 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


badpidd
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add badpidd's blog to your web]