|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
PR NEWS : STOP VIRUS!!!!
STOP VIRUS!!! คุณเองก็มีส่วนในการร่วมกันสร้างศูนย์วิจัยไวรัสเพื่อคนไทยในวันนี้และในอนาคตข้างหน้าได้ ร่วมกับเราที่ //www.niveaforlife.in.th/stopvirus/ ช่วยกันแชร์และส่งต่อวิดีโอ เพื่อร่วมบริจาคสมทบกองทุนศูนย์วิจัยมหาจักรีสิรินธร มาช่วยกันหยุดยั้งภัยร้ายจากไวรัสให้คนไทยกันนะคะ
ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ
เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการป้องกัน รักษา ควบคุม และยับยั้งการเกิดโรค ที่มีสาเหตุจากไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพานวัตกรรมทางการแพทย์ จากต่างชาติ รวมถึงลดการเสียดุลย์ด้านบุคลากร หรือที่เรียกว่า สมองไหล ให้แก่ต่างชาติอีกด้วย
พันธกิจ 1. จัดให้เกิดกระบวนการพัฒนาโครงการวิจัยที่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ/นานาชาติอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง 2. คัดสรรและรักษาไว้ซึ่งบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถสูง เพื่อทุ่มเทให้กับสถาบันอย่างเต็มที่ 3. พัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยอย่างต่อเนื่อง 4. สนับสนุน ส่งเสริม และให้บริการงานวิจัยกับอาจารย์ในคณะฯ 5. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างทางกายภาพที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยนี้
กลยุทธ์ มีกองทุนศูนย์วิจัยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความคล่องตัว
ที่มาของกองทุน 1. เงินบริจาค 2. รายได้จากการให้บริการงานวิจัย 3. จากแหล่งทุนวิจัยทั้งไทยและต่างประเทศ
เกณฑ์ในการใช้เงิน(สามารถใช้ได้ทั้ง เงินต้น + ดอกเบี้ย) 1. ค่าจ้างบุคลากร ทั้งเต็มเวลาและ บางเวลา 2. นักวิจัย ทั้งนักวิจัยไทยและนักวิจัยต่างชาติ 3. ศาสตราจารย์ที่เกษียณอายุแล้ว 4. ผู้บริหารงานวิจัย 5. บุคลากรอื่นที่เกี่ยวข้อง 6. ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร 7. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างทางกายภาพ (ให้ใช้ได้ไม่เกิน 30% ของกองทุน ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น) 8. ทุนสำหรับทำวิจัยที่เร่งด่วน หรือมีลำดับความสำคัญสูงไม่สามารถรอทุนวิจัยจากแหล่งทุนอื่นได้
ตัวชี้วัด
1. จำนวนผลงานวิจัยต่อปีที่ตอบโจทย์ แก้ปัญหา และชี้นำการแพทย์ การดูแลรักษาและการป้องกัน ในการเผชิญกับโรคระบาด โรคเรื้อรังที่พบบ่อยของประเทศ หรือนานาชาติ ปีละอย่างน้อย 10 โครงการ 2. จำนวนผลงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับและตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ และทางวิทยาศาสตร์ที่มี impact factor อย่างน้อยปีละ 50 เรื่อง 3. จำนวนสิ่งคิดค้นต้นแบบด้าน ชุดตรวจโรคทางห้องปฏิบัติการ (diagnostic test)อุปกรณ์ทางการแพทย์ (medical device) วัคซีน (vaccine) เพื่อนำไปต่อยอดกับภาคเอกชนในอนาคต อย่างน้อย ปีละ 2 ชนิด
4. หาทุนวิจัยมาเพิ่มจากแหล่งทุนวิจัยต่างๆอย่างน้อย ปีละ 10 ทุน เป็นจำนวนเงินอย่างน้อยปีละ 20 ล้านบาท 5. ผลิตนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ อย่างน้อยปีละ 20 คน
เป้าหมายจำเพาะจากกองทุนที่เป็นรูปธรรมสสำหรับประชาชน
1. มีชุดตรวจวินิจฉัยใหม่ สำหรับโรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคไวรัสไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ชนิดต่างๆ โรคไวรัส HPV โรคเอดส์ โรคไข้สมองอักเสบ ปีละ 5 ชุด และมีการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์กับภาคเอกชน หรือให้บริการ 2. มีทีมวิจัยการเฝ้าระวังโรคระบาดร้ายแรง และสามารถเป็นแนวหน้าร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตร (กรมปศุสัตว์ และ กรมวนอุทยานสัตว์ป่า) เช่น ไข้หวัดนก SAR หรือ โรคอุบัติใหม่ร้ายแรง 3. พัฒนาการตรวจทางพันธุกรรมเพื่อเลือกยารักษาที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วย 4. พัฒนาการตรวจมะเร็งและไวรัสที่เป็นสาเหตุ ตลอดจนการตรวจเพื่อประเมินการตอบสนองต่อยาของชนิดมะเร็งนั้นๆ อย่างน้อย 10 tests ใน 5 ปี 5. การพัฒนาวัคซีนต้นแบบ 3 โรค สำหรับป้องกันโรคไข้โรคไวรัสไข้เลือดออก ไข้โรคฉี่หนูและเอดส์ สามารถผ่านการทดสอบในหนู และในลิงภายใน 5 ปี เพื่อนำไปสู่การทดสอบในอาสาสมัครต่อไป
เป็นโครงการที่ดีมากๆนะคะ อยากให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัส ร่วมด้วยช่วยกันต่อต้านเชื้อไวรัส สาเหตุของการคร่าชีวิตเพื่อนมนุษย์ให้ลดน้อย และหมดไปค่ะ
ขอมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์โครงการดีๆแบบนี้เพื่อเรา เพื่อสังคมไทย ปลอดภัยจากโรคร้าย และไวรัส
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาค่ะ ช่วยกัน click เข้าไปดูรายละเอียด และวิธีการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ที่ //www.niveaforlife.in.th/stopvirus/ และการรับมือกับเจ้าไวรัสกันเยอะๆนะคะ
Create Date : 29 กันยายน 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2554 13:15:59 น. |
Counter : 1543 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|