|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
"รักสามเส้า" ของ "เราสามคน" ใน "สามหนุ่มเนื้อทอง"
สามหนุ่มเนื้อทอง คือละครบอกเล่าเรื่องราวความรักของคนวัยหนุ่มสาว ที่เลือกสะท้อนภาพในอีกมุมหนึ่งที่ห่างไกลกับความรักชวนฝัน จนทำให้หลายๆคนมองว่าการกระทำของตัวละครนั้นช่างไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง “พระเอก-นางเอก” ของเรื่องเอาเสียเลย
ดังนั้น คงไม่ผิดนักที่จะบอกว่าจริงๆแล้วละครเรื่องนี้ไม่มี “พระเอก-นางเอก” เพราะทุกตัวละครล้วนแต่เป็นตัวดำเนินเรื่องราว พวกเขาเหมือนแบบจำลองของคนที่มีชีวิต มีจิตใจ และเต็มไปด้วยความรัก ความโลภ ความโกรธ และความหลง
ในฐานะคนดูเล็กๆคนหนึ่งจึงขอหยิบยกประเด็นปัญหาความรักวุ่นๆ แบบที่เรียกว่า “รักสามเส้า” ของ “เราสามคน” มานำเสนอ เพื่อเป็นกระจกสะท้อนภาพให้เห็นว่า เมื่อคนหนึ่งคนต้องไปพัวพันกับความรักสามเส้าเข้าแล้วนั้น เขาหรือเธอจะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร และทางที่พวกเขาเลือกให้กับความรักพวกเขาลงเอยอย่างไร...
“แหนม วัชระ ฝ้าย : ความรักที่ต้องการเอาชนะ กลับกลายเป็นไฟกลับมาเผาใจตัวเอง"
แหนม : “ผู้หญิงที่ต้องการชนะในเกมของความรัก”
ในมุมมองของผู้หญิงที่มาก่อน แหนมคือผู้หญิงที่ถูกทำร้าย ที่มีวัชระเป็นผู้ชายทรยศ และฝ้ายเป็นมือที่สามทำลายความรักของเธอ แหนมเชื่อว่าตัวเองได้เสียสละและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรัก เธอคิดว่าการได้ครอบครองคนที่รักด้วยการแต่งงานคือความสุขที่เธอปรารถนา แหนม มองทุกอย่างในมุมของเธอเพียงคนเดียวและลืมคิดว่าสิ่งที่เธอทำ มันไม่ใช่ความรัก แต่มันเป็นแค่การฉุดรั้งให้คนที่เรียกว่าคนรักไว้ เพื่อให้ตัวเธอเองมีความสุขและไม่ต้องกลายเป็น “คนแพ้” เพียงเท่านั้น เมื่อ ความรักที่เธอเคยวาดฝันไว้เดินมาถึงทางตัน แหนมไม่อาจทำให้วัชระรักเธอได้อีกแล้ว เธอกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของทุกคน และไม่ยอมทิ้งความโกรธเกลียดออกไปจากจิตใจ สุดท้ายทางออกเดียวที่เหลือสำหรับเธอคือต้องจมอยู่กับความทุกข์ ที่ทำให้เธอเสียทั้งน้ำตาและเสียสติในเวลาเดียวกัน
วัชระ : “ผู้ชายที่กำลังจะตายเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง”
วัชระเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ เพราะถูกคำว่า “ความรับผิดชอบ” ผูกไว้ จากผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยมองว่าน่ารัก เมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับกลายเป็นผู้หญิงอารมณ์ร้ายที่ไม่เหลือแม้แต่รอยยิ้ม ความรักที่ร้อนรุ่มของแหนมเป็นเหมือนห่วงผูกคอที่ทำให้เขาขาดอิสระ ยิ่งเธอเรียกร้องต้องการความรักจากเขามากเท่าไหร่ ห่วงนั้นก็ยิ่งรัดยิ่งแน่นจนเกือบหายใจไม่ออก วัชระเลือกทางออกให้ตัวเองด้วยการหนีปัญหาไปเรื่อยๆ และหวังว่าสักวันปัญหาเหล่านั้นคงจะมลายหายไปได้เองกับสายลม แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาได้ค้นพบว่ายังมีผู้หญิงอีกคนที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ จนเผลอใจไปกับเธอ วัชระที่เหมือนคนกำลังจะตายจึงเลือกที่จะดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย เขาแก้ห่วงผูกคอตัวเองออกแล้วโยนมันทิ้ง เพื่อไปหาคนใหม่ที่ทำให้เขาความสุขได้มากกว่า ถึงจะต้องถูกใครต่อใครตราหน้าว่าเป็น “ผู้ชายไม่เอาไหน” แต่ถ้าหากนั่นทำให้เขารอดตายจากพันธนาการความรักครั้งนี้ได้แล้ว เขาก็ยอม
ฝ้าย :”ผู้หญิงอ่อนไหว แพ้ภัยความใกล้ชิด”
แม้ภายนอกฝ้ายจะดูเหมือนคนเข้มแข็ง แต่จริงๆเธอก็ยังเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่อ่อนไหวง่ายๆไปกับความใกล้ชิดสนิท สนม แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอกำลังจะเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างความรักของคนสองคน แต่ฝ้ายก็ยังยอมให้ความรักก่อตัวขึ้นโดยไม่ยับยั้งและฟังคำทัดทานจากใคร ภายใต้คำยืนยันว่าไม่คิดอะไรและบริสุทธิ์ใจจะคบกันแบบเพื่อน แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าทุกครั้งที่เธอบอกว่าไม่คิดน่ะ ใจเธอเตลิดไปไกลแล้ว ทั้งๆที่มีเสียงเตือนจากแอ๊วมาเรียกสติ แต่เธอกลับปฏิเสธที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ฝ้ายเรียกวัชระว่า “เพื่อน” เพื่อเป็นเกราะป้องกันที่ช่วยยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขา แต่สุดท้ายเมื่อฤทธิ์น้ำเมาเข้าไปทำลายเกราะป้องกันนั้นเสียแล้ว ไม่ว่าฝ้ายจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ตำแหน่ง “มือที่สาม” ก็ตกเป็นของเธออยู่ดี
"ธีธัช กรกนก ลำเภา : ความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น"
ธีธัช : “ผู้ชายเจ้าชู้ที่มองการจีบผู้หญิงเป็นแค่เรื่องสนุก”
หนุ่มเจ้าชู้ที่หลงใหลไปกับความฉาบฉวยของอารมณ์ ธีธัชไม่เคยมีความรักและไม่คิดจะมีความรัก แม้เขาจะมีผู้หญิงอย่างกรกนกอยู่ข้างกายก็ตาม แต่เขาก็มองเห็นเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่นิ่งเหมือนน้ำที่คอยทำให้เขาเย็นใจ กรกนกอยู่กับเขาโดยไม่มีเงื่อนไข เขารู้ว่าเธอเป็นคนดี แต่เธอยังไม่ใช่คนที่เขารัก จนวันหนึ่งเขาได้เจอกับหนูตะเภาน้อยจอมแก่น ที่มากระตุกหนวดเสือ(ผู้หญิง) เมื่อถูกหนูน้อยน่ารักมาเย้าแหย่มีหรือเสือหนุ่มจะไม่สนใจ แม้จะออกปากโวยวายไปบ้าง แต่ความน่ารักร่าเริงของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้กลับทำเขามีความสุข ธีธัชเชื่อว่าสาวน้อยลำเภาคือผู้หญิงที่เขาอยากจะหยุดอยู่ที่เธอ เขาจึงยอมถอดเขี้ยวเล็บและกลายมาเป็นพ่อหมาใหญ่ของหนูตะเภาน้อยแต่โดยดี แต่ละครก็คือละครที่มีฉากจบอยู่ที่การแต่งงาน ส่วนเรื่องราวหลังจากนี้ก็สุดแล้วแต่จินตนาการแต่ละคน ที่จะเชื่อสักแค่ไหนว่าคนอย่างนายธีธัช จะลบคำว่า “เสือผู้หญิง” ออกไปได้จริงๆ
ลำเภา : “ผู้หญิงหัวดื้อที่เห็นความรักเป็นเรื่องตลก”
ลำเภาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยอมกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่ายอมรับว่าตัวเองผิด เพราะในพจนานุกรมของเธอ ถือว่าความคิดของตัวเองนั้นถูกต้องที่สุดเสมอ ด้วยความอ่อนวัยและไร้ประสบการณ์ด้านความรัก ลำเภายอมเสี่ยงเอาตัวเองไปพัวพันกับคนเจ้าชู้อย่างธีธัช แค่เพราะว่าเธออยากเอาชนะ แม้ตอนแรกเธออาจจะเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่ความสนุกเกินขอบเขตนั้นก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อผู้ชายคนนั้นเลือกเธอเข้าจริงๆและผู้หญิงอีกคนยอมหลีกทางให้โดยไม่มี ข้อแม้ เรื่องเล่นๆของผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างลำเภาจึงกลายเป็นต้นตอให้ความรักของคน คู่หนึ่งจบลง และแม้เธอจะไม่ได้ตั้งใจให้ความรักของธีธัชและกรกนกลงเอยอย่างนี้ แต่อย่างไรลำเภาก็หนีไม่พ้นตำแหน่ง “มือที่สาม” ไปได้อยู่ดี และเมื่อเรื่องนี้เป็นแค่ละครที่มีฉากจบแค่การแต่งงาน เราก็คงเชื่อได้ว่าลำเภาคงเป็นผู้หญิงที่มีความสุขกับความรัก แต่ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทื่ความรักไม่ได้จบแค่การแต่งงานล่ะ ลำเภาจะมั่นใจได้แค่ไหนกันว่าหลังแต่งงาน นายธีธัชจะไม่ “ออกลาย” ถ้ามีหนูตะเภาตัวใหม่มาหยอกเย้านายหมาใหญ่อย่างที่เธอเคยทำ
กรกนก : “ผู้หญิงที่ยอมเดินตามเกมแม้จะต้องเสียใจก็ตาม”
กรกนกเป็นผู้หญิงที่อดทนกับความเจ็บปวดได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับการอยู่กับคน ที่เธอรัก หลายต่อหลายครั้งที่เธอต้องเสียใจกับความเจ้าชู้หลายใจของธีธัช แต่เธอก็เลือกที่จะอยู่อย่างสงบนิ่ง และหวังในใจลึกๆว่าความรักที่เธอมีให้เขานั้น อาจทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะมีความรักยอมหยุดอยู่ที่เธอสักวัน กรกนกรู้ตัวดีว่าเธอกำลังหลอกตัวเอง เพราะทุกครั้งที่ธีธัชกลับมาหาเธอ เขาไม่ได้กลับมาเพราะความรัก แต่เขากลับมาเพราะเธอคือคนเดียวที่ทำให้เขาสบายใจ และเมื่อเกมแห่งความรักระหว่างธีธัชและลำเภาเริ่มต้นขึ้น กรกนกก็รู้ในทันทีว่าความรักของเธอใกล้จะมาถึงปลายทางแล้ว กรกนกเลือกที่จะเดินตามเกมแห่งความเจ็บปวดอย่างเงียบๆ มากกว่าจะฟูมฟายพร่ำรำพันว่าเธอถูกคนที่เธอรักทำร้ายจิตใจ สุดท้ายเมื่อเกมจบ กรกนกกลายเป็นผู้แพ้ที่ไม่อาจเอาชนะใจคนที่เธอรักได้ แต่ในความจริงแล้ว กรกนกนี่แหล่ะคือผู้ชนะอย่างแท้จริง เพราะเธอสามารถทำลายความลุ่มหลงในความรักที่มีต่อผู้ชายคนหนึ่งลงได้ และเข้มแข็งพอที่ทิ้งอดีตเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าพร้อมกับคนที่รักเธอจากใจ จริง โดยไม่จำเป็นต้องผูกใจเจ็บกับใครแม้แต่คนเดียว
"กริชชัย อรุณศรี ปราณต์ : ความรักจะสวยงามถ้ามาพร้อมกับสติและความเข้าใจ"
กริชชัย : "ผู้ชายที่ยอมรักหมดใจแม้ไม่อาจได้คนที่รักมาครอบครอง "
กริชชัยผู้ชายที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ เป็นผู้ชายเกรดเอบวกบวกที่เป็นเหมือนชายในฝันของผู้หญิงแทบทุกคน แม้เขาจะคลุกคลีอยู่กับหนุ่มเจ้าสำราญอย่างธีธัชและผู้ชายหัวใจไม่แข็ง แรงอย่างวัชระ แต่กริชชัยก็ยังคงเชื่อมั่นใน "รักแท้" โดยไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามคำยั่วยุของใคร เขาเก็บรักษาความรักของตัวเองไว้เพื่อมอบให้กับผู้หญิงคนพิเศษที่เขารัก จริงๆเท่านั้น และเมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เขาเจอกับนางในฝันในวันที่เธอมีเจ้าของแล้ว กริชชัยก็ยังสามารถหักห้ามใจตัวเองได้ เขาไม่ยอมเข้าไปแทรกกลางระหว่างความรักของใคร แต่เลือกจะเฝ้ามองคนที่เขารักอยู่ในมุมๆหนึ่ง มุมที่อยู่เพื่อคอยให้กำลังใจในวันที่เธอเหนื่อยล้า คอยปลอบโยนในวันที่เธอมีน้ำตา แม้ว่ากริชชัยจะได้ชื่อว่าผู้ชายสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับไม่เคยใช้ความสมบูรณ์แบบนั้นฉวยโอกาสแย่งคนรักของคนอื่นมาครอบ ครอง ความรักของกริชชัยจึงเป็นความรักที่สวยงาม เพราะเขาเลือกที่จะรักด้วยความเข้าใจและไม่ยอมอ่อนแอให้กับอารมณ์
อรุณศรี : "ผู้หญิงที่ใช้สติควบคุมการทำงานหัวใจ"
อรุณศรีหญิงสาวผู้โชคดีที่ได้ชื่อว่าเป็นนางในฝันของผู้ชายไร้มลทิน อย่างกริชชัย ผู้ชายที่สักร้อยปีแสงจะหาคนที่ดีพร้อมครบถ้วนบริบูรณ์ขนาดนี้ได้สักคนหนึ่ง (เวอร์ได้อีก ) แต่เธอกลับได้พบผู้ชายคนนั้นในวันที่เธอมีคนรักอยู่แล้ว อรุณศรีมีทางให้เลือกสองทางระหว่างการทนอยู่กับ”คนรัก”ที่ไม่ดี หรือ เลือกทิ้งคนไม่ดีเพื่อไปอยู่กับ “คนดี” ที่เธอยังไม่ได้รัก ในขณะที่ทุกคนรอบกายหว่านล้อมให้อรุณศรีเลือกคนดีที่เหมือนฟ้าประทาน อรุณศรีกลับเลือกจะซื่อสัตย์ต่อความรัก เธอเลือกที่จะให้โอกาสกับคนที่เธอรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอยอมเสียน้ำตาแต่กลับไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นคนหลายใจ และแม้สุดท้ายเธอจะต้องเสียใจที่ถูกผู้ชายที่เธอรักหักหลังก็ตาม แต่การที่อรุณศรีเลือกรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้นั้น กลับยิ่งทำให้คุณค่าในตัวของเธอเพิ่มทวีคูณมากขึ้นกว่าเดิม
ปราณต์ : "ผู้ชายที่รักใครไม่เป็นนอกจากตัวเขาเอง" ปราณต์เป็นเหมือนหมากสีดำสนิทเพียงตัวเดียวในกระดานความรักครั้งนี้ เขาเป็นผู้ชายปากหวานที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเขาเองมีความสุข แม้การกระทำนั้นจะต้องแลกมาด้วยการโกหก หรือการยอมทรยศต่อคนที่ตัวเองรัก เพราะปราณต์ไม่เคยมีความรัก เขาคือผู้ชายที่สามารถแสดงความเสน่หาต่อผู้หญิงได้โดยไม่ต้องกลั่นความ รู้สึกนั้นออกมาจากใจแม้แต่น้อย ปราณต์เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลสผู้ไม่เคยรู้จักคำว่ายับยั้งชั่งใจ และกิเลสความอยากได้อยากมีในใจของเขานี่เองที่ทำให้เขาต้องพบจุดจบของชีวิต โดยที่ทั้งชีวิตของเขายังไม่เคยได้เรียนรู้ที่จะรักใครเลยแม้สักครั้งเดียว
ความรักของคนเก้าคน ในสถานการณ์ที่ต่างกัน แต่ละคนเลือกก็เส้นทางเดินให้กับความรักของตัวเอง บางคนได้พบกับความสุข แต่บางคนกลับยังคงต้องวนเวียนอยู่ในทุกข์ ละครเรื่องนี้อาจจะไม่ได้สมบูรณ์พร้อม แต่ยังขัดกับความรู้สึกของใครหลายๆคนอยู่มาก แต่หากเราใช้วิจารณญาณพิจารณาถึงสิ่งที่ละครถ่ายทอดให้เราได้ดูแล้ว ก็คงจะได้แง่คิดเกี่ยวกับความรักไปปรับใช้ในชีวิตจริงกันได้บ้าง เพราะหากมีสักวันที่เราต้องเปลี่ยนฐานะจากคนดู กลายไปเป็นตัวละครของเรื่องราวความรักสามเส้าสักเรื่องแล้ว จะได้มีสติเพียงพอในการเลือกทางเดินของความรักให้กับตัวเองนะคะ
Create Date : 10 มกราคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2555 22:22:23 น. |
Counter : 693 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|