Bloggang.com : Turtle Came to See Me :

ทำไมสาวๆถึงต้องนุ่งห่มให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัด ?

ผมว่าสาวๆในยุคนี้หรือสตรีชาวพุทธหรือไม่ใช่ชาวพุทธหลายท่านก็คงสงสัยอยู่เหมือนกันว่า หลายวัดรณรงค์ให้มีการนุ่งห่มให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัด หลายครั้ง สาวๆหลายคนเคยมาพูดกับผมว่า ทำไมวัดนี้ถึงคับแคบนักก็ฉันอยากแต่งตัวตามสมัยนิยมทำไมถึงไม่อยากให้เข้าวัด วัดควรเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการแต่งตัวสิ

นี่ประเทศเสรีนะไม่ใช่คอมมิวนิสต์ ผู้หญิงผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกันทำไมต้องกีดกันในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย ผมก็เลยอธิบายว่า "มันไม่เหมาะสมครับเพราะเป็นศาสนสถาน หรือวัดการเข้าวัดต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย เมื่อเธอยืนยันผมเลยให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่วัดต้องคุมเข้มเรื่องการแต่งตัวก็เพราะ

(๑) ความไม่เหมาะสม

เหตุที่ว่าไม่เหมาะสมเพราะวัดเป็นศาสนสถานเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องให้ความเคารพ วัดไม่ใช่สถานเริ่งรมย์หรือที่สาธานชรณะที่ใครจะเข้ามาอย่างไร แต่งตัวอย่างไรก็ได้ เมื่อเข้ามาสู่พื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ก็จำเป็นที่จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย

เพราะถ้าหากแต่งตัวไม่เรียบร้อบเข้าไปในพระอุโบสถหรือโบสถ์แล้วย่อมเป็นการไม่เหมาะ เนื่องจากการนั่งหรือยืนในสถานที่ที่เป็นศาสนสถานนั้นจะต้องมีความสำรวมไม่ประเจิดประเจ้อหรือเป็นที่อุจจาดตาของคนทั่วไป

(๒) ในวัดมีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่

การที่มีพระเณรอาศัยอยู่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความระมัดระวัง เนื่องจากสาวๆนั้นเป็นอันตรายต่อการประพฤติพรหมจรรย์ของพระเณร การที่สตรีนุ่งสั้น เปิดเนินอก หรือหน้าท้องเข้าไปในวัดหรือบริเวณวัด เกรงว่าเมื่อพระสงฆ์สามเณรท่านเห็นแล้วย่อมก่อ

ให้เกิดความวุ่นวายใจเนื่องจากการเห็นการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมนั้นอาจจะ..ทำให้ท่านไม่อาจจะควบคุมจิตใจได้ อาจจะคิดและพาลไปถึงการลาสิกขาไปเป็นคฤหัสถ์ได้ ดังนั้น เราเป็นชาวบ้านจึงต้องเอื้ออนุเคราะห์ต่อการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ด้วยการแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนการเข้าวัด

(๓) การแต่งตัวไม่เรียบร้อย จัดว่าเป็น สุสุกาภัย สำหรับภิกษุ

คำว่า สุสุกาภัย หมายถึง ภัยจากปลาร้าย ซึ่งคำว่า ปลาร้ายในที่นี้ท่านหมายถึง สาวๆนั่นเอง ซึ่งในพระไตรปิฎกท่านอธิบายว่าพระภิกษาุบวขใหม่บวชเก่าก็ตามเวลาที่ไปบิณฑบาตตามหมู่บ้านหรือตำบล ไม่รักษากาย ไม่รักษาวาจา

มีสติไม่ตั้งมั่น ไม่สำรวมอินทรีย์ เธอเห็นมาตุคาม(สตรีสาวๆ)ในหมู่บ้านหรือนิคมนั้น นุ่งไม่เรียบร้อย หรือห่มไม่เรียบร้อย ทำให้ราคะเกิดขึ้นในจิตใจเพราะการที่ท่านเห็นสาวๆนุ่งห่มไม่เรียบร้อย นั้นมักจะเป็นอาการยั่วยวนให้เกิดกิเลสด้วยกิริยาอาการ ๔๐ อย่าง คือ

๑. บิดกาย ๒. ก้มลง

๓. เยื้องกราย ๔. ทำละอาย

๕. เอาเล็บถูกัน ๖. เอาเท้าเหยียบกัน

๗. เอาไม้ขีดแผ่นดิน ๘. ให้เด็กกระโดด

๙. เล่นเอง ให้เด็กเล่น ๑๐.จูบเด็ก ให้เด็กจูบ

๑๑. บริโภคเองให้เด็กบริโภค๑๒. ให้ของเด็ก

๑๓. ขอของเด็ก ๑๔.ทำตามที่เด็กกระทำ

๑๕. ทำเสียงสูง ๑๖.ทำเสียงต่ำ

๑๗. พูดเปิดเผย ๑๘.พูดปกปิด

๑๙. ทำซิกซี้ด้วยการฟ้อนรำ ๒๐.ด้วยการขับร้อง

๒๑. ด้วยการประโคมดนตรี ๒๒. ด้วยการร้องไห้

๒๓. ด้วยการกรีดกราย ๒๔.ด้วยการแต่งกาย

๒๕. จ้องมอง ๒๖.ส่ายสะเอว

๒๗. ส่ายของลับ ๒๘.เปิดขาอ่อน

๒๙. ปิดขาอ่อน ๓๐.เปิดถันให้ดู

๓๑. เปิดรักแร้ให้ดู ๓๒.เปิดสะดือให้ดู

๓๓. หลิ่วตา ๓๔.ยักคิ้ว

๓๕. เม้มปาก ๓๖.แลบลิ้น

๓๗. ทำผ้านุ่งหลุด ๓๘.กลับนุ่งผ้า

๓๙. สยายผม ๔๐.เกล้าผม (ขุ.ชา.(ไทย)๒๘/๓๐๐/...)

เมื่อท่านพระภิกษุสามเณรน้อยเห็นอาการกิริยาเช่นนั้นแล้วก็อาจจะเกิดราคะรบกวนจิตของท่านได้ เพราะการเห็นมาตุคาม(หญิงสาว)นุ่งไม่เรียบร้อย หรือห่มไม่เรียบร้อย ท่านอาจจะมีจิตฟุ้งซ่านเพราะราคะ เมื่อทนไม่ได้ก็อาจจะลาสิกขาไป หรือบอกคืนสิกขากลับมาเป็นคฤหัสถ์ได้ (ม.ม.๑๓(ไทย)๑๓/๑๖๑/๑๘๒.)

ด้วยเหตุที่ว่ามานี้สตรีหรือหญิงสาวทั้งหลายจึงควรที่จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยให้มิดชิดก่อนที่จะเข้าวัด แม้ว่าเราจะไม่ได้ไปเพื่อยั่วยวนพระแต่เมื่อพระท่านเห็นแล้วอาจจะเกิดปัญหาได้ ดังนั้น วัดจึงจำเป็นที่จะต้องห้ามหรือขอความอนุเคราะห์ให้ญาติโยมผู้หญิงแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัดเพื่อความสุขสงบของวัดและเป็นจรรโลงวัฒนรรมอันดีงามของชาวพุทธนะครับ

ขอบคุณครับ

Naga King