|
อาราธนาพระที่ห้อยคอ ตายแล้วไปสวรรค์ชั้นยามา
"..เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้มีท่านผู้หนึ่งไปหาอาตมาที่วัดท่าซุง ไปถามว่า "คุณพ่อตายแล้วไปอยู่ที่ไหน" อาตมาไม่ได้บอกท่านผู้นั้น แต่ให้ไปฝึกพระกรรมฐานกับเขาในมหาวิหาร ๑๐๐ เมตร ไม่เกิน ๓ วันคุณก็พบกับคุณพ่อคุณได้ บอกคุณก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะคุณก็ไม่หายสงสัย คุณก็จะถามเรื่อยไปและก็ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ ในที่สุดท่านผู้นั้นก็ตัดสินใจ วันรุ่งขึ้นก็ไปฝึกพระกรรมฐาน เพียงแค่วันแรกก็สามารถคุยกับคุณพ่อได้
แต่ในขณะที่ท่านผู้นี้ถามอาตมา ได้บอกชื่อผู้ตาย อาตมาก็นึกถึง เมื่อนึกถึงผู้ตายก็มายืนข้างหน้า จึงถามว่า "เวลานี้คุณไปอยู่ที่ไหน" เขาตอบว่า "เวลานี้ผมไปอยู่บนสวรรค์ชั้นยามาครับ" ถามว่า "ไปอยู่ชั้นยามาได้ ปกติคุณทำอะไรสมัยยังมีชีวิตอยู่" ตอบว่า "ปกติผมทำสมาธิ" ถามว่า "คุณทำสมาธิเวลาไหน" ตอบว่า "เวลาตอนเช้ากับตอนคํ่าครับ ตอนเช้าผมตื่นนอนขึ้นมา ก็จับพระที่สร้อยห้อยคออยู่มาพนมมือ อาราธนาบารมีพระ หรือที่เรียกกันว่าปลุกพระก็ได้ ตอนคํ่าก็เกรงอันตรายจึงทำแบบนั้นอีกเหมือนกัน"
การทำอย่างนี้ชื่อว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ทั้งตอนเช้าและ ตอนคํ่าก็เป็นสมาธิ สมาธิไม่จำเป็นต้องไปนั่งขัดสมาธิเฉยๆ จะทำแบบไหนก็ได้ นั่งแบบไหนก็ได้ ถ้าอยู่ที่บ้านของเรา จิตนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ถือว่าเป็นพุทธานุสติ จิตนึกถึงพระธรรมเป็นธัมมานุสติ จิตนึกถึงพระสงฆ์เป็นสังฆานุสติ เขาจึงไปอยู่ชั้นยามาได้.."
จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน
Create Date : 01 มีนาคม 2557 |
Last Update : 13 มีนาคม 2557 11:33:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 481 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|