aLwaYs moodY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




.
.
.
.
The best things in life are often unseen
that's why we always close our eyes when
we kiss, pray and dream.
.
.
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add aLwaYs moodY's blog to your web]
Links
 

 
อยู่ไหนนะ...



เริ่มต้นปีใหม่แล้ว ชีวิตประจำวันของเราก้อยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม ใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการงานที่ดูจะวุ่นวายขึ้นทุกวันๆ หรือว่าความอดทนของเราค่อยๆลดลงในอัตราเพิ่มขึ้นๆทุกวันก้อไม่รู้..

ก่อนจะขึ้นปีใหม่ไม่กี่วัน รุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งดูจะสนิทกับเรามากกว่าน้องรหัสของเราเองซะอีก โทรมาหาและบอกว่าจะแต่งงาน ตลอดเวลาหลายปีที่เรียนจบมาถึงแม้เคยกลับไปเจอกันแค่ครั้งเดียวเองตอนมีงานที่ภาคฯ แต่เราก้อยังคงติดต่อกันถึงแม้จะนานครั้งก้อเถอะ จำได้ว่าตอนอกหักครั้งสุดท้ายก้อโทรไป โดนต่อว่าซะหูชา แป๊บๆจะแต่งงานซะละ


ดีใจด้วยจ๊ะ

- จากพี่สาว -


จริงๆอายุของพวกเรานี่ก้อสมควรแก่การแต่งงาน(นาน)แล้วนะ แต่ทำไมไม่รู้ก้อยังรู้สึกว่าน้องคนนี้ยังเด็กและอดเป็นห่วงไม่ได้ อาจเป็นเพราะรู้จักกันมานาน รับรู้เรื่องความรักของน้องคนนี้มาเป็นระยะๆ จะขาดหายไปก้อช่วงสามสี่ปีหลังนี่เอง ..

วันนี้ไปรษณีย์เอาซองจดหมายใบโตมาส่ง เดาได้เลยว่าข้างในเป็นการ์ดของเจ้าตัวแสบแน่ๆ ยังไม่ทันเปิดอ่านเจ้าของก้อโทร. เข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รับการ์ดเชิญ แถมถามเราว่าจะให้ยกน้ำชาให้ด้วยรึป่าว.. กวนจริงๆเลย ไอ้เด็กคนนี้..

เพื่อนๆและคนใกล้ตัวทยอยกันแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากันแล้ว แต่เราสิยังไม่มีวี่แววเอาซะเลย ถามหาความรักของเราตอนนี้เรอ ..ตอบไม่ถูกจริงๆ มันนานนน นานจนจำไม่ได้แล้ว สองปี สามปี หรือสี่ปีแล้วนะ เริ่มจะนับไม่ถูก... ไม่ถูกจริงๆนะ มันเริ่มจากไม่อยากจะนับ จนมันไม่อยากจะจำและไม่จำไปแล้วสิ

ความรักที่ไม่เคยจบแบบสวยงามทำให้เราเริ่มจะไม่ไขว้คว้าหาความรักไปแล้ว บางครั้งแอบรู้สึกว่าอยู่คนเดียวอย่างนี้ไม่ต้องคอยห่วงใคร กังวลกับใคร มันก้อความสุขดี มันเริ่มจะชินแล้วกับการไปไหนมาไหนคนเดียว คิดคนเดียว เดินคนเดียว บลา บลา ๆๆ

การที่คนสองคนจะตัดสินใจแต่งงานกันได้ เค้าต้องรู้สึกอย่างไรต่อกันนะ แค่ความรักมันเพียงพอจริงๆเรอ เป็นคำตอบที่เรายังไม่อาจเข้าถึงได้สักครั้ง ความรักแต่ละครั้งที่จบลงไปนั้นก้อไม่เคยราบรื่นและไม่มีวี่แววจนถึงขั้นลงเอยซะที

และความรักก้อไม่เคยจะย้อนกลับมา ...








สองปีก่อน เรากลับไปเจอกับแฟนเก่าผ่านทาง MSN เค้าเป็นแฟนคนแรกซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยเรียน หลังจากไม่ได้ยินข่าวคราวกันเลยตั้งแต่ที่เค้าไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก ห่างหายกันไป..เราเองก้อวุ่นวายกับชีวิตการทำงาน ความรัก คนรัก จนกลับมาเจอกันอีกในวันที่ความรักของเรามันหลุดหายไป..


เราคบกันตอนปีหนึ่งและเลิกกันในเวลาอันสั้น คงเป็นเพราะป๊อปปี้เลิฟละมั้ง รักครั้งนั้นมันเลยไม่ได้ทำลายมิตรภาพของเรา เราต่างคนต่างมีคนรักใหม่แต่ก้อยังคบหาพูดคุยกันเป็นเพื่อนได้ถึงแม้จะไม่สนิทกันเหมือนเดิม..

.. เวลาผ่านไป เราก้อต่างหมุนห่างจากกันไป ..

กลับมาเจอกันคราวนั้น แปลกดี .. เรากลับมาเป็นที่ปรึกษาซึ่งกันในเรื่องความรัก เราคุยกันเกือบทุกวันและวันละหลายๆชั่วโมงติดต่อกันเป็นปีๆ จนใจบางๆของเราเริ่มอ่อนแอ

เคยฟังเพลงนี้ของ แคลลอรี่ บลา บลา มั้ยค่ะ

" อย่าไปไหนอีกนะเธอ ถ้ายังรักฉันก็อภัย
อย่าไปไหนอีกเหมือนเคย ถ้าเธอรู้ว่าเธอรักใคร
อยู่ด้วยกันตรงนี้ ทุกวินาทีเรื่อยไป
อย่าหายไปอีก หายไปจากฉันอีกนะได้ไหมถ้าเธอรักกัน "

เค้าเคยถามว่าเคยฟังเพลงนี้มั้ย โธ่ๆๆๆพ่อคุณ ไม่รู้ซะเลยว่าเพื่อนคนนี้มันหวั่นไหว แต่แล้วไม่นานหลังจากนั้นเค้าก้อมาเฉลย ว่าเค้ากลับไปคบกับแฟนเก่าของเค้าที่เลิกลากันไปด้วยความไม่เข้าใจ

โชคดีที่หัวใจตอนนั้นมันติดเบรคทัน หรือ จะเป็นโชคดีที่เค้ามาเฉลยคำตอบได้ทันเวลาไม่รู้ เราเลยประคองตัวเองที่เซและเกือบไถลตกรันเวย์ให้มาเดินตรงได้อีกครั้ง


แต่ก้อเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆแค่นั้นเอง..

เราเหมือนวนกลับมาที่เดิมกันอีกครั้ง ความหวังเล็กๆในใจเราก้อก่อขึ้นอีกอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรู้ว่าเค้าเริ่มมีปัญหากับความรักรีเทริ์น ... เราเริ่มคุยกันมากขึ้น จนบ้างครั้งที่เค้าหายไปเหมือนเราขาดอะไรในชีวิตไป

วันเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือนและผ่านไปอีกปีอย่างไม่รู้ตัว..

เราวางแผนใช้วันลาพักร้อนที่เหลือของเราตอนนั้นเพื่อไปพิสูจน์อะไรบ้างอย่างที่คาใจเราอยู่ วันเดินทางใกล้เข้ามาทุกทีใจเราก้อเริ่มเต้นแรงและไม่อยู่กะเนื้อกะตัวมากขึ้น


แต่คงเพราะสายลมไม่เคยหวนคืน.. หลังทริปสั้นๆของเค้าในตรุกี เค้าก้อตัดสินใจจะกลับเมืองไทยถาวร เค้าโทรทางไกลมาบอกเราจากเยอรมันเพื่ออธิบายและอวยพรให้เราเดินทางปลอดภัย แล้วเราก้อยกเลิกการเดินทางครั้งนั้นเพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรให้เราไปอีกแล้ว

และนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกัน ..

จากครั้งนั้นก้อนานแล้วนะ รู้ว่าเค้ากลับมาเมืองไทยปลอดภัยแล้ว แต่ก้อไม่เคยติดต่อกันอีกเลย แปลกดี... ระยะที่ห่างไกลกันกือบครึ่งโลกและเวลาต่างกันยังรู้สึกได้ว่าใกล้กว่าวันที่เค้าและเรากลับมาอยู่ที่เส้นรุ้งและเส้นแวงองศาเดียวกันซะอีก ..

เราเคยออนไลน์รอเผื่อวันนึงเค้าจะเข้ามา แต่เวลาก้อผ่านไปนานแล้วจนเลิกรอแล้วหล่ะ



อยู่ที่ไหนนะ ... ความรัก ...


Create Date : 20 มกราคม 2554
Last Update : 22 มีนาคม 2554 16:08:24 น. 6 comments
Counter : 815 Pageviews.

 
หากรํสีก ว่ารัก หรือรู้สึกดีดี พยายามสื่อให้เขารู้ บอกเขา บางอย่าง บางความรู้สึก อย่างที่เรียกว่าความรัก หากไม่แสดงออกมา อีกฝ่ายอาจไม่รุ้ก็ได้ค่ะ
ก้าวใหม่นะคะ เปิดใจรับกับ ความรักครั้งหม่ ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่รู้วา มันอยู่ที่ใหน มันอาจจะมาช้ากว่าคนอื่น แต่ถ้ามาเร็วแล้วไปเร็ว แถมยังทิ้งรอยแผลเป็นลึกๆไว้อีก สู้รอให้มันค่อยๆเข้ามาอย่างช้าๆ ดีกว่า ค่ะ ก้าวช้าๆ แต่มั่นคง ความรัก หากเจอรักไม่ดี พี่ว่าอย่าเจอเสียดีกว่า จริงใหมคะ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ้า เราอยู่เมืองนี้ หิมะสวย มากก แต่หนาวสุดๆๆๆ


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:9:54:24 น.  

 
มาอ่านเรื่องความรักด้วยคนค่ะ
จะเจอคนที่ใช่ต้องใช้เวลาจริงๆ
แต่อาจมีสักวันที่เราได้สมหวังนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: diamondsky วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:21:21:10 น.  

 
"การที่คนสองคนจะตัดสินใจแต่งงานกันได้ เค้าต้องรู้สึกอย่างไรต่อกันนะ..."
เราเอาคำถามนี้มาคิดเล่นๆ แล้วเอาไปถามคนข้างๆด้วย เค้าตอบว่ามันรู้อยู่ในใจเอง หลังจากคบกันไประยะหนึ่ง

เราก็คิดเหมือนกันนะคะ เราเชื่อเรื่องของการใช้เวลานะคะ เราคบกันนานสี่ปีถึงตกลงแต่ง ตอนนี้ก็แต่งมาเกือบจะเจ็ดปีแล้วน่ะค่ะ ไม่เร่งรีบ ไม่เร่งรัด ปล่อยมันเป็นไปตามธรรมชาติ พอถึงจุดนึงเหมือนมันรู้เอง อีกอย่างช่วงที่ดูใจกัน คุณภาพของการใช้เวลาก็สำคัญ ไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวทะเลาะ เดี๋ยวเลิก อะไรแบบนี้ คนรักกันก็ต้องเติบโต(ทางความคิด)ไปด้วยกันใช่มั้ยคะ ความเสมอต้นเสมอปลายก็สำคัญมากๆด้วย

แต่เราเชื่อด้วยนะคะว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดหมายปลายทางของความรัก เราเห็นหลายคนหลังแต่งไปก็มีปัญหา ทั้งๆที่ก่อนแต่งก็ดูรักกันดี

จะว่าไปความรักนี่เข้าใจยากจริงๆเนอะ แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล. ผ้าคลุมโซฟาตัวใหญ่คงรอซักพักค่ะ กำลังดูๆผ้าที่ถูกใจอยู่ อิอิ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:22:20:53 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาเดินเที่ยวด้วยกันนะคะ
คุยกันมาหลายที จขบ. มีชื่อเล่นรึป่าวเอ่ย
เข้ามาวันหลังจะได้เรียกชื่อถูกต้องน่ะค่ะ
(หนุ่มอิตาลี หล่อเข้ม ต้องระวังหัวนิดนึง อิอิอิ)


โดย: diamondsky วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:22:17:58 น.  

 
พิมพ์ตก ขอโทษที ระวังหัว "ระวังหัวใจ" นิดนึงค่ะ


โดย: diamondsky วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:22:19:02 น.  

 
ความรักยากนักจะเข้าใจ


โดย: I'm ThoaLeks วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:22:25:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.