เพราะชีวิตคือการต่อสู้
มีคนพูดไว้ว่า ชีวิตคือการต่อสู้ ชีวิตคนกลางคืนอย่างผม สู้มันตั้งแต่ตื่นนอนกันเลยทีเดียว ก่อนอื่นต้องบอกว่า ร้านอาหารของที่ตึกที่ผมทำงาน จะปิดตอน 4 ทุ่ม เพราะทันทีที่ผมตื่น ซึ่งก็จะเกือบ 4 ทุ่มทุกที ผมก็ต้องรีบแจ้นไปสั่งอะไรเอาไว้กินก่อน ไม่งั้นล่ะอด เพราะในซอยนี้ไม่มีร้านไหนเปิดอีกแล้ว เซเว่นรึก็ไกลแสนไกล แถมเป็นร้านเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีอะไร อาหารกล่องจากเซเว่นรึจะสู้ของที่ทำออกจากครัว ชิมิส์ การต่อสู้แรกในชีวิตประจำวัน ก็คือการตื่นให้ทัน 4 ทุ่ม (สายบ่อยจนโดนหักเงินแทบจะไม่เหลือพอใช้ งั่มๆ) พอทัน ก็รีบวิ่งออกจากห้องรูหนูที่พัก เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าห้องน้ำ เลี้ยวซ้ายอีกทีมุ่งเข้าสู่ลานจอดรถ แล้วก็ขวา ไม่งั้นจะชนเสา หน้าประตูหลังของครัว ยืนกระมิดกระเมี้ยนออดอ้อนแม่ครัวว่าทำให้หนูทีเถอะนะป้า หนูตื่นสายอีกแล้ว มวะฮ่าฮ่าฮ่าส์ วันดีคืนดีป้าแก่รีบกลับ ก็อด (แง) การต่อสู้ที่สอง วิ่งมาตอกบัตร อันนี้หลายๆ คนคงจะเคยชิน บางบริษัทอาจจะมีหยวนๆ แต่กฏข้อหนึ่งของบริษัทนี้ สายได้ไม่เกิน 15 นาที เพราะฉะนั้น ตื่นปุ๊บ วิ่งผ่านน้ำ แล้วเร่งวิ่งทันที แล้วสภาพพุงพลุ้ยๆ กระเพื่อมๆ หอบแฮกๆ ก็เป็นที่ชินสายตาของลูกค้ามั่ง เจ้านายมั่ง เพื่อนร่วมงานมั่ง การต่อสู้ที่สาม ต่อสู้กับใจตัวเอง ด้วยความที่เป็นงานบริการ เพราะฉะนั้นจะเจอผู้คนมากหน้าหลายตา พวกดีๆ มีเยอะแยะ แต่ทำม๊ายยยย ทำไม ต้องเป็นผมทุกทีที่เจอพวกงี่เง่า (นินทาลูกค้าตรงนี้ คงไม่มีใครว่านะ แหะๆ) การต่อสู้ที่สี่ ต่อสู้กับความง่วง ไม่เข้าใจว่าทำไมนะ แต่ต่อให้นอนมาทั้งวัน แต่เวลาทำงาน พอดึกๆ ก็จะง่วงอยู่ดี เพื่อนที่ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นกาแฟ แต่ไม่ชอบกาแฟร้อนเอาเสียเลย เคยมีคนบอกว่ากาแฟเย็นสองแก้วไม่สู้กาแฟร้อนแก้วเดียว... คงใช่ละมั้งเพราะบางทีซัดกาแฟเย็นไปหมาดๆ สามสิบนาทีต่อมาก็สัปหงก เซเว่นหน้าปากซอยขายกาแฟได้คืนละหลายแก้วกันเลยทีเดียว... แถมแก้วนึงไม่ใช่ถูกๆ 20 กว่าบาทแน่ะ (แก้วใหญ่) การต่อสู้ที่ห้า ต่อสู้กับใจตัวเอง อีกครั้ง ไม่ให้วอกแวกวอแว แอบเข้าเน็ท เปิด pantip ออนเอ็ม และคอนสายโทร. คุยกับเพื่อน... ทั้งหมดไม่เคยชนะแม้แต่ครั้งเดียว มวะฮ่าฮ่าฮ่าส์ บรรดาน้องๆ ก็มีเรื่องมีราวให้มาเวิ่นเว้อกันได้ซะทุกคืน pantip ก็มีเรื่องมีราวให้อ่าน ให้แอร๊ยยยย ทุกคืน (บางคืนไม่มีก็ขวนขวายหามาแอร๊ยยยย เอง) การต่อสู้ที่หก ต่อสู้กับเวลา เพราะกว่าจะหมดแรง หมด 'รมณ์ ในการทำการต่อสู้ที่ห้า ก็ปาเข้าไปเกือบเช้า งานการไม่เสร็จ เอกสารกองเป็นตั้งไม่ได้เคลียร์ ทีนี้ล่ะ ไฟลนก้น ปั่นมันลูกเดียว มวะฮ่าฮ่าฮ่าส์ การต่อสู้สุดท้าย ต่อสู้กับใจตัวเอง อีกครั้ง อีกแล้ว ต้องคอยเตือนตัวเองว่า... ไปนอนได้แล้ว แต่เหมือนกาแฟเย็นตัวดีจะมาออกฤทธิ์เอาตอนเช้า ตาตั้ง ตาสว่างยันเที่ยงวัน... เจริญ... เป็นวัฏจักร (สะกดถูกมะเนี่ย) ของชีวิต ที่หมุนอยู่อย่างนี้มาหลายปี ชินเสียแล้ว... วันไหนตื่นเร็ว (ไม่รู้อะไรดลใจ) ก็สบายแฮ แต่ก็ยังต้องวิ่งกระหืดกระหอบเข้างานเหมือนเดิม เพราะมัวแต่เม้าท์มั่ง อ่านหนังสือ (นิยาย) มั่ง ทำโน่น ทำนี่ จนจะ 4 ทุ่มทุกที เฮ้อ... ไม่เคยเข็ด ปฏิวัติตัวเองก็ทำได้ไม่ถึงเดือน แล้วก็ลงอีหรอบเดิม... แก้ไม่หายแฮะ มียาไรกินมั้ยเนี่ย ภาษาพม่า วันละคำ สองคำ วันนี้เสนอคำว่า... ซา แปลว่า กิน หรือ เกลือ หรือ หายาก ตัว ซ. ในภาษา มีหลายตัวอักษร แต่ละตัวออกเสียงต่างๆ กันไป แต่บางทีก็แทบจะแยกไม่ออก แค่ ซา คำเดียว ถ้าไม่ได้ฟังรูปประโยค บางทีจะงงมากว่าคนพูดหมายถึงอะไร เต้าก์ แปลว่า ดื่ม (ใช้ในหลายกรณีมาก ดื่มน้ำ = เหย่เต้าก์, กินยา = เซเต้าก์, สูบบุหรี่ = เซเล็กเต้าก์) ต้องจำไว้ว่า ภาษาพม่า ไม่ค่อยออกเสียงตัวสะกด การเขียนตัว เต้าก์ นี่ จริงๆ มีตัวอักษรที่เป็นเหมือนตัว ก. ของไทยเราสะกดด้วยแต่เวลาอ่านก็ไม่ต้องออกเสียงเหมือนภาษาไทย จึงใส่การันต์ไว้ และด้วยเหตุผลที่ว่านี้ ทำให้เราสังเกตได้ง่ายๆ เวลาคนพม่าพูดภาษาไทย โดยเฉพาะคนที่มาเรียนภาษาไทยเอาตอนแก่... จริงๆ เด็กๆ บางคนก็เป็นนะ เวลาคนพวกนี้เค้าพูดภาษาไทย มักจะไม่ค่อยมีเสียงสะกด กิน เลยกลายเป็น กี แต่คนพยายามมากๆ ก็ยังจับผิดได้อยู่นะ อย่างคำว่า ทำงาน พวกเขามักจะออกเสียงว่า ทามะงัน (ออกเสียง มะ ควบไปกับ งัน) คำว่า แสดง ก็จะออกเสียงว่า สะแด, สะแดม หรือสะไดน์ ภาษาพม่า จะเรียงรูปประโยคไม่เหมือนภาษาไทย ไทยเราจะเรียง ประธาน กริยา ตามด้วยกรรม แต่พม่า จะเรียงประธานก่อน แล้วกรรม ตามมา ต่อด้วยกริยา สังเกตุได้จากคำตัวอย่างด้านบน วันนี้พิเศษหน่อย แถมอีก 3 คำ เหย่ แปลว่า น้ำ เซ แปลว่า ยา หรือ ล้าง เซเล็ก แปลว่า บุหรี่ หรือ มวนยาสูบ (คำว่า เล็ก ตรงนี้ เวลาออกเสียงให้ตวัดนิดหนึ่ง ให้ฟังเป็น ไล้ก์ อะไรประมาณนี้ ซึ่งแปลว่า มวน, ม้วน, พัน, กลิ้ง)
Free TextEditor
Create Date : 29 มกราคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2553 6:18:22 น. |
Counter : 2180 Pageviews. |
|
|
|