ทุกการเปลี่ยนแปลงมักนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ จากนักเรียนเป็นนักศึกษา จากนักศึกษาเป็นคนทำงาน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หลายคนก็ทนได้ แต่อีกหลายคนก็รับไม่ไหว โดยเฉพาะเมื่อก้าวเท้าออกจากห้องเรียนกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนหน้าใหม่มีเสียงโอดโอยว่า ทำไมโลกของการทำงานมันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน บางคนช็อคน้ำ บางคนปรับตัวไม่ได้ทำให้ต้องย้ายงานบ่อย ๆ ทำงานที่ไหนก็ไม่ทน นั่นก็เพราะคุณยังไม่เข้าใจความจริงเหล่านี้

1. ลืมสิ่งที่เรียนไปได้เลย
ไม่ว่าคุณจะจบอะไรมา ทำงานตรงสายที่เรียนมากแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่เรียนมากับโลกของการทำงานนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเรียนเป็นจุดเริ่มต้นของงานทั้งหมดที่ต้องทำเมื่อเข้ามาทำงานจริง บางอย่างที่เรียนมาก็ใช้ได้ บางอย่างก็เก็บเข้ากรุไปได้เลย เพราะฉะนั้นต้องรู้จักประยุกต์ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้สอดคล้องกับการทำงานให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องไม่พลาดที่จะหาความรู้ใหม่ ๆ ในการทำงานด้วย ตรงนี้แหละที่สำคัญที่สุด 

2. อย่าเพิ่งคิดว่าต้องทำงานที่รักเท่านั้น
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ทำงานที่คุณรัก แล้วคุณจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต” ซึ่งการได้ทำงานที่รักถือเป็นแต้มต่อที่ดี แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ บางคนงานที่ทำอยู่ก็ห่างไกลจากความชอบ-ความรักอยู่มากโข แต่ก็ทำมาตั้งหลายสิบปีโดยไม่ได้รู้สึกอะไร บางคนก็ทำไปบ่นไปก็ยังไม่เห็นจะเปลี่ยนงาน คนเหล่านี้เป็นคำตอบที่ดีว่าเราไม่จำเป็นต้องทำงานที่รักเท่านั้น ฉะนั้นค่อย ๆ ค้นหาว่าอะไรคือคำตอบในชีวิตของคุณ หรือเปลี่ยนมารักในสิ่งที่ทำ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดี

3. บางครั้งเราก็ควบคุมอะไรไม่ได้เลย
ถ้าเป็นตอนเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ ยังไง ๆ ผลสอบก็ต้องออกมาดี ไม่เกรด 3 ก็ต้อง 4 แน่นอน แต่ในโลกของการทำงาน ถึงคุณจะตั้งใจแค่ไหน พยายามแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะผิดไปจากสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็ได้ เช่น ขายงานโฆษณาซักงาน ตั้งใจทำ ตั้งใจพรีเซนต์แทบตาย สุดท้ายลูกค้าไม่ซื้อก็คือจบ เราไม่สามารถควบคุมอะไรแบบนี้ได้ สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือทำใจและทำให้ดีที่สุด

4. เงินเดือนสูง ๆ งานน้อย ๆ มีแต่ในหนังเท่านั้น
เด็กจบใหม่บางคนคิดว่าตัวเองต้องได้เงินเดือนสูง ได้ทำงานท้าทาย เฉิดฉายอยู่ในองค์กรใหญ่ ๆ แต่ความฝันกับความจริงมันเป็นคนละเรื่องกันเสมอ คนที่จะเลือกงานได้คือคนที่เจ๋งที่สุดเท่านั้น ถ้าคุณไม่ได้เจ๋งขนาดนั้น ก็ลืมภาพในหนังที่มีตัวละครเงินเดือนสูง ๆ ทำงานนิด ๆ หน่อยไปได้เลย 

5. “คน” มีปัญหามากกว่า “งาน”
รู้หรือไม่..ร้อยละ 90 ของการเปลี่ยนงานใหม่เกิดจากปัญหาเรื่องคน และบางครั้งเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าก็สร้างปัญหาให้เรามากยิ่งกว่างานเสียอีก บางคนคิดว่าจะทนงานหนักไม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริง มาตกม้าตายเรื่องหัวหน้าแทน ลาออกไปแบบไม่เผาผีกันเลยทีเดียว ซึ่งปัญหาแบบนี้มีให้เห็นแทบทุกองค์กร เพราะฉะนั้นเตรียมใจไว้เลย ถ้าคุณได้เจอคนดี ๆ ก็ดีไป แต่ถ้าเมื่อไหร่เจอพวกเหลือทนก็จะได้หาทางรับมือได้ถูก

6. เพื่อนร่วมงานก็คือเพื่อนร่วมงาน
อย่างที่บอกว่าปัญหาในที่ทำงานส่วนใหญ่มักเกิดจาก “คน” ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมงานใกล้ตัวเรานี่เอง ในโลกการทำงานจริงมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เพื่อนร่วมงานจะกลายเป็นเพื่อนที่คุยกันทุกเรื่องได้ เพราะนี่คือที่ทำงานเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว คุณอาจจะโดนต่อต้านในใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาทำงานวันแรกแล้วก็ได้ ถ้าใส่ใจเพื่อนร่วมงานทุกอย่าง ชีวิตการทำงานของคุณคงรอดยากน่าดู ทางที่ดีค่อย ๆ สร้างสัมพันธ์ ถ้าโชคดีเพื่อนร่วมงานอาจกลายเป็นเพื่อนสนิทก็ได้

7. สนใจคนอื่นให้น้อย เน้นงานให้มาก
การทำงานเดี๋ยวนี้ อาจทำให้เรามีแนวโน้มที่จะเป็นคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากขึ้น เพราะต้องพูดคุยผูกมิตร ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ฯลฯ ซึ่งก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้เราให้ความสนใจกับคนมากเกินไปโดยปริยาย จนลืมไปว่านี่คือโลกของการทำงาน สิ่งที่เราจะต้องโฟกัสมากที่สุดคือ “งาน” ไม่ใช่ “คน” อย่าลืมว่าคนอาจเป็นปัญหาของหลาย ๆ อย่างในที่ทำงานได้ ถ้าเรายิ่งสนใจคนอื่นมากเท่าไหร่ ความสนใจในงานก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

8. ต้องทำงานหนักจึงจะสำเร็จ
ในโลกของการทำงาน คำว่า “โชค” แทบไม่มีผลอะไรเลย ตอนเรียนคุณอาจเคยโชคดีมั่วข้อสอบปรนัยถูกมาบ้าง แต่โลกแห่งการทำงานแทบไม่ต้องหวังเลยว่าจะมั่วถูก เพราะทุกอย่างเป็นอัตนัยล้วน ๆ แต่ละคนต้องทำเอง ต่างคนต่างมีหน้าที่ มีความรับผิดชอบที่ต่างกัน ถ้าคุณไม่เจ๋งจริงก็ไม่มีวันรอดไปได้ แล้วก็อย่าหวังว่าเพื่อนจะช่วย ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนจะคอยช่วยคุณได้ ฉะนั้นคนที่ทำงานหนัก ขยัน ตั้งใจเท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น

9. ขอโทษ-ขอบคุณ ต้องพูดให้คล่อง
คำว่า “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ” ไม่ว่าอยู่ในสถานะไหนก็ต้องพูดให้เป็น อย่าปากหนักกับเรื่องแบบนี้เด็ดขาด เพราะคุณจะกลายเป็นคนน่าคบหาขึ้นอีกเป็นกอง ยิ่งในโลกของการทำงาน ยิ่งต้องใช้ให้คล่อง อย่าลืมว่าแค่งานก็วุ่นวายพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ซับซ้อน ด้วยการทำผิดพลาดแล้วไม่ขอโทษ หรือมีใครเข้ามาช่วยเหลือแล้วไม่ขอบคุณอีกเลย ทำตัวเองให้ปกติสุขที่สุด แล้วรับมือกับงานอย่างเดียวก็เหนื่อยพอแล้ว

10. เมื่อถึงจุดหนึ่งจะรู้เองว่าใครคือเพื่อนแท้
สังคมในวัยทำงานกับวัยเรียนนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณอาจหาเพื่อนแท้ได้ไม่ยากในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย แต่เพื่อนแท้ในที่ทำงานนั้น หายากยิ่งนัก อาจเพราะในโรงเรียนใคร ๆ ก็เกรด 4 ได้ ถ้าคะแนนเกิน 80 แต่โลกของการทำงาน คนที่เก่งที่สุดเพียงคนเดียวเท่านั้นถึงจะได้เลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับโอกาสที่ดีมากกว่า ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าเพื่อนในที่ทำงานจะคบกันแบบผิวเผิน คุยกันเฉพาะเรื่องงาน เพราะเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะรู้เองว่าคนไหนคือเพื่อนแท้

---• ชิดชัย กำเนิดดี •---