คุยกันเล่น #37 - โอลิมปัส แอ่วเหนือเจ้า [28 มีนาคม 2558]

30 มีนาคม 2558 : คุยกันเล่น #37 - โอลิมปัส แอ่วเหนือเจ้า [28 มีนาคม 2558]


ทราบข่าวการจัดงาน Road Show ของค่ายกล้อง Olympus ที่จะมาแอ่วเมืองเหนือ (เชียงใหม่) พอทราบข่าวงานดีๆ ฟรีๆ แบบนี้ รีบจับจองที่นั่งไปทันที

วันที่ 29 มีนาคม 2558 ตามกำหนดเวลา 10.00 น. ลงทะเบียนกันตอนเช้าของวันอาทิตย์วันหยุดพักผ่อน รีบๆ ไปลงทะเบียนกับเค้าด้วย

งานนี้โอลิมปัสขนกล้องเลนส์ มาให้ลองเล่นกันแบบจัดเต็มจริงๆ ครับ

ส่วนตัวแล้วก็แค่สนใจกล้องตัวใหม่ของ Olympus OM-D E-M5 Mark II

- ตัว Body ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์
- ตัว Body Weather Seal ป้องกันละอองน้ำ, ฝุ่น, ทนอุณหภูมิได้ -10 องศาเซลเซียส
- Sensor แบบ Live MOS : Four Third ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- มีระบบกันสั่น 5 แกน 5-Axis VCM ลดการสั่นไหวได้ถึง 5 Stop
- มีระบบ Autofocus แบบ Contrast Detect 81 จุด
- มี Focus Peaking(เลือกได้ 4 สี ดำ, ขาว, แดง, เหลือง)
- ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 วินาที
- ความเร็วชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ 1/16000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที AF-S และ 5 ภาพต่อวินาที AF-C


- มีจอแสดงผล Touchscreen แบบ Vari-angle ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล กางออก หมุนได้รอบตัว 360 องศา
- มีช่องมองภาพความละเอียด 2,360,000 พิกเซล อัตราขยาย 1.48x
- สามารถถ่ายวิดีโอ Full HD 1080/60p บิตเรตสูง 52Mbps(IPB) และ 77Mbps(ALL-I)
- มี Wi-Fi ในตัว Load App Olympus Image Share สามารถโอนภาพถ่ายจากล้องไปยังมือถือ และสามารถใช้มือถือ Control กล้องถ่ายภาพ Olympus ได้ด้วย
- มาพร้อมแฟลช FL-LM3(GN 9) หัวแฟลชหมุนและก้มเงยได้



Features อื่นๆ ที่น่าสนใจ
- ฟีเจอร์ถ่ายภาพความละเอียด 40 ล้านพิกเซลจากการรวมภาพ 8 ภาพเข้าด้วยกัน(JPEG)
- ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลสำหรับไฟล์ RAW
- ฟีเจอร์ใหม่ Live View Boost II สว่างกว่าของเดิมใน E-M5 ถึง 5EV
- มีฟีเจอร์ Keystone, Live Composite และ Olympus Capture แบบเดียวกับ E-M1
- ฟังก์ชั่น Clip ให้ผู้ใช้อัดคลิปสั้นๆหลายๆคลิปได้(1, 2, 4, 8 วินาที)
- Photo Story
- Art Filter
- Live Bulb, Live Composite

Spec ที่ให้มาแบบจัดเต็ม และพอลองฟังบรรยายแบบเรียนรู้กันครบในบาง Features ที่ได้แนะนำและทดลองหัดเล่นกันด้วย เป็นที่สนุกสนานและตื่นเต้นไปด้วยเลย
ผู้บรรยายยังได้บอกอีกด้วยว่าต้องใช้เวลากันถึง 2 วันเต็มๆ สำหรับการเรียนรู้ทุกๆ Features ที่อัดแน่นกันอยู่ในกล้องรุ่นนี้ เรียกว่ากล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II อัดแน่นมาแบบจัดเต็มจริงๆ
ถึงตรงนี้ ชวนให้หลายคนที่ตั้งใจจะได้จับกล้องหรือหัดถ่ายภาพกันเลยเหมือนคอร์สอื่นๆ ที่เคยไปมา ถึงกับถอดใจแอบหนีกลับไปบ้างก็มี
แต่กับตัวเองแล้วต้องบอกว่าการจัดงานแบบนี้ กับกล้องยี่ห้อใหม่ หรือ ยี่ห้อเดิมแต่รุ่นใหม่ๆ มีกล้องให้ลองจับ ได้ลองเล่นหัดปรับตั้งไปด้วย ถึงแม้บางเรื่องดูจะเป็นพื้นฐานกันเกินไป แต่ก็ได้รู้ลึก เล่นกล้องได้สนุกๆ กว่าทุกๆ คอร์สที่เคยสัมผัสมา

.........แต่ก็ด้วยที่ไม่รู้อะไรมาก่อนเลยสำหรับ Olympus จะบอกว่าอะไรดี อะไรใหม่ๆ กว่า คงอาจจะไม่ได้ลงลึกไปถึงตรงนั้น ยังไงหากใครมาที่ blog นี้อยู่บ้าง เคยอ่านรีวิวกล้องแบบบ้านๆ สไตล์ของตัวเอง ก็คงจะได้รับรู้เรื่องราวบอกเล่ากันนิดหน่อย อะไรๆ ที่ลงไปถึงด้าน Technical แล้วก็คงไม่คิดจะเขียนเล่าสู่กันฟังใน blog นี้ล่ะครับ


โอลิมปัสแอ่วเหนือ จัดงานโดยบริษัทโอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ ชิชาง พรอมเมนาดา
คุณสุมาลี ลู่ควร กล่าวต้อนรับผู้เข้าอบรมและเปิดงาน


หนึ่งในฟีเจอร์เด็ดตัวหนึ่งของโอลิมปัสที่ใส่มากับกล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II คือการถ่ายภาพที่ใช้วิธีการ Shift Cmos ตัวรับภาพให้ขยับเคลื่อนที่ไป 8 ตำแหน่ง แล้วมารวมภาพขึ้นมาใหม่ จากความละเอียดของภาพเดิมๆ ที่ทำได้ 16 ล้านพิกเซล กลายเป็นไฟล์ภาพขนาดใหญ่ 40 ล้านพิกเซล ที่สามารถนำไปพิมพ์ภาพใหญ่ๆ ได้เลย
แต่ก็มีข้อแม้อยู่นิดหน่อย ที่พอจำได้หลักๆ มาก็คือต้องถ่ายภาพด้วยขาตั้งกล้องเท่านั้น
และก็ต้องถ่ายภาพที่ค่ามากกว่า F8, Speed 8 sec, ISO 1600


ภาพนี้ถ่ายภาพเล่นๆ แบบลุ้นๆ กันกับเพื่อนว่า จะได้ถ่ายภาพนางแบบคนนี้ไหม ที่จะมาให้ลองถ่ายภาพกันในช่วงบ่าย


ช่วงพักทานข้าวมื้อเที่ยง ทางชิชางฯ ก็จัดเต็มจัดให้ทานอาหารกันแบบอิ่มหมีพีมันไปด้วยเลย




ภาพถ่ายในช่วงนี้ยังเป็นภาพถ่ายจากกล้องมือถืออยู่



ได้กล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II มาครอบครองแล้ว
แต่ได้เลนส์ Fix 12 mm. มาใส่ในตอนแรก
ถ่ายภาพไปสักพักเลยขอไปลองเปลี่ยนเป็น Fix 45 mm. มาใช้แทน


น้องนางแบบก็มาแล้ว - น้องกิ๊ก นางแบบสาวสวย หน้าตา น่ารักๆ สดใส




ในห้องบรรยายไม่มีการจัดแสงอะไรเพิ่มเติม ภายในห้องแสงไฟที่เปิดเต็มทุกๆ ดวง ดูว่าพอใช้ได้แล้ว

ภาพถ่ายส่วนของนางแบบน้องกิ๊ก จะมีทั้งที่เป็นภาพเดิมๆ ภาพดิบๆ จากกล้องมาเลย มา crop แล้วใส่ลายน้ำเพิ่มเข้าไป
มีบางภาพที่ใช้เทคนิคแต่งภาพจากกล้องไว้ก่อน แล้วถ่ายภาพ
มีบางภาพที่ใช้ฟีเจอร์หน้าเนียนจากในกล้อง
และก็มีบางภาพที่มาทำหน้าเนียนเพิ่มเติม เพิ่มแสง ปรับ Shadows กันไปบ้างนิดหน่อย ....โดยประมาณว่า คงจะเท่าๆ กันกับทั้ง 4 แบบนี่ล่ะครับ แต่ก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าภาพไหนเป็นภาพไหน ชมกันเพลินๆ สนุกๆ ครับ









สิ่งหนึ่งเลยที่คาดหวัง และตั้งใจมาจากบ้านเลยก็คือเรื่องของช่องมองภาพ
หลังจากที่เคยลองกล้อง Fuji XT-1 และ Sony a7II มาก่อนหน้านี้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่เคยเห็นจาก Fuji XT-1 แล้วรู้สึกประทับใจ คือการที่ได้เห็นสีจริง แสงจริงจากในช่องมองภาพ จนชวนให้คิดว่ามีช่องมองภาพดีๆ แบบนี้ น่าจะตอบโจทย์กับตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลากลับไปคอยดูภาพจากจอ LCD หลังกล้องกันอีกแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เคยเห็นจาก Sony a7II พอจะบอกว่าช่องมองภาพยังอาจจะด้อยไปกว่า Fuji XT-1 อยู่บ้าง แต่ที่ทำให้ประหลาดใจ เหมือนจะเห็นการ playback ช่วงที่กล้องกำลัง Save ภาพที่ถ่ายภาพมาได้แบบแว๊บๆ ด้วย ชวนให้เห็นภาพว่าภาพนั้นดีหรือภาพนั้นเสีย

สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นจากกล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II ดูว่าช่องมองภาพไม่เหมือนที่เคยประทับใจจาก Fuji XT-1
สิ่งที่เห็นคือ ในช่องมองภาพยังจะเห็นภาพในช่องมองด้วยภาพแสงที่สดใส สว่างตา ดีอยู่ ไม่ได้ drop ลง หรือ over ตามค่าการปรับตั้งของกล้อง
ที่ได้ลองๆ มา เป็นแบบนี้ ดูว่าจะด้อยกว่าทั้งของ Fuji XT-1 และ Sony a7II

ตรงนี้ต้องขอติดค้างกันไว้ก่อน หากมีโอกาสได้ลอง Fuji XT-1 อีกครั้ง น่าจะบอกได้ว่าอะไรที่มันดูผิดแผกแตกต่างไปอยู่ เพราะจำได้ว่าในช่องมองภาพของ Fuji XT-1 เราจะเห็นภาพว่า under อยู่ หรือ Over อยู่ ในขณะที่ Olympus OM-D E-M5 Mark II ยังคงเห็นภาพในช่องมองภาพสดใส ชัดเจน แต่พอถ่ายภาพมาแล้วถึงรู้ว่าภาพ under อยู่
(หากเป็นไปได้ ก็อยากมีทั้ง 3 ตัวมาลองพร้อมๆ กัน เพื่อตอบโจทย์สำหรับตัวเองในเรื่องนี้ อีกสักครั้ง)






สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกับกล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II ที่มีฟีเจอร์อื่นๆ ซ่อนไว้อยู่ในตัวกล้องของรุ่นนี้ และรุ่นอื่นๆ ก็ดูเหมือนว่าจะมีมาให้อยู่แล้วเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น มีฟีเจอร์ ชื่อ Art หรือ Art Filter หรือ Filter ในกล้องยี่ห้ออื่นๆ
ตรงนี้ดูเหมือนสามารถสร้างสรรค์ให้ภาพดูสวยแปลกตา หรือสร้างเอกลักษณ์การถ่ายภาพของแต่ละบุคคลได้เองเลย เช่นบางคนชื่นชอบแนวสีโทนภาพสไตล์เกาหลี แนววินเทจ ก็สามารถเลือก Filter รอไว้ล่วงหน้าได้เลย ถ่ายภาพมาแล้วก็ชวนให้ดูแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ และรวมกับที่กล้องมี Wifi อยู่ด้วยแล้ว ถ่ายภาพเสร็จ เลือกภาพที่ต้องการโอนเข้ามือถือ Smartphone ได้ทันที แถมยังมีให้เลือกขนาดไฟล์ที่จะโอนเข้าตัวมือถือ Smartphone ได้ด้วย ทำให้เลือกไฟล์ขนาดเล็กๆ ส่งภาพโอนภาพเข้ามือถือได้รวดเร็วทันใจ

ทำให้นึกถึงภาพของเพื่อนๆ บางคนที่ครอบครองกล้องโอลิมปัสอยู่แล้ว พอเห็นภาพที่เค้าโพสบ่อยๆ ดูแปลกตาทุกๆ ครั้ง ยังคิดว่ามีเวลาทำภาพแต่ละภาพกันอย่างสนุกสนานเลย แล้วภาพก็ดูแปลกตา จนต้องแอบคิดว่าใช้ App อะไรอยู่












(ภาพในส่วนนี้ไม่ได้ทำมาจากกล้อง Olympus นะครับ มาหยิบภาพทำเป็นตัวอย่างด้วย Photoscape อีกทีครับ)

ฟีเจอร์ Photo Story ก็มีการแนะนำให้ใช้งานกันด้วย
ตรงนี้หลายๆ คนคงนึกถึงโปรแกรม Photoscape ที่เป็นหนึ่งโปรแกรมสุดฮิตที่หลายๆ คนใช้รวมภาพหลายๆ ภาพ ไว้ในเฟรมเดียวกัน
โอลิมปัสก็มีอยู่ในตัวกล้อง มีลูกเล่นที่พอจดจำได้บ้างนิดหน่อย เช่น
สามารถออกแบบเลือกเฟรมไว้ได้ล่วงหน้า (ก่อนถ่ายภาพ) ทั้งขณะที่ถ่ายภาพอยู่ เราสามารถเลือกภาพที่กำลังถ่ายภาพมาใส่ในเฟรมภาพ ปรับย้ายไปมาได้ข้ามเฟรมไปมาได้ เผื่อว่าภาพที่กำลังถ่ายภาพอยู่ไม่เหมาะกับเฟรมภาพที่ทำไว้ หรือแม้แต่เว้นช่องไว้ รอจนเมื่อถึงช่วงการถ่ายภาพที่วางแผนไว้ พอได้ภาพนั้นๆ มาก็ค่อยนำภาพมาใส่ในเฟรมก็ได้

ตรงนี้คงต้องบอกว่าแล้วแต่คนชื่นชอบการใช้เฟรมภาพหลายๆ ภาพมาประกอบ มารวมภาพหลายๆ ภาพให้อยู่ในเฟรมภาพเดียวกัน ดูว่าโอลิมปัสเค้าคิดถึงเผื่อคนถ่ายภาพในสไตล์นี้แบบเจาะจงวิธีการทำภาพ การให้ได้ภาพสวยๆ กันเลยครับ









การถ่ายภาพบุคคล
ช่วงก่อนหน้านี้มาหลายคนอาจจะพอรู้จักว่ากล้องถ่ายภาพของแบรนด์หนึ่งที่อาจจะมีคนพูดกล่าวถึงว่าเป็นกล้องของไฮโซ กล้องของพริตตี้ ที่มี Mode ถ่ายภาพให้ออกมาดูฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ๊ง แล้วหลายๆ คนก็ไปซื้อกล้องแบรนด์นั้นมาใช้กันอย่างสนุกสนานกันไป
ถึงแม้ว่ากล้องตัวนั้นจะไม่เคยได้จับ ไม่เคยได้ลองใช้ แต่พอได้ฟังว่าโอลิมปัสก็มีฟีเจอร์ถ่ายภาพ Portrait ที่ทำให้ภาพออกมาสวยๆ ได้ดั่งใจ
การทำหน้าเนียนสามารถตั้งค่าไว้ล่วงหน้าก่อนการถ่ายภาพ
หากได้ถ่ายภาพออกมาแล้ว และยังต้องการทำให้หน้าเนียนเพิ่มขึ้นกันอีก ก็สามารถหยิบภาพที่ถ่ายภาพแล้ว มาเลือกทำภาพให้หน้าเนียนกันได้อีกและหลายๆ ครั้ง
คิดว่าภาพใน Set นี้จะได้เลือกภาพที่ Set ไว้เป็น ePotrait
เป็นการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า ถ่ายภาพแล้วภาพก็ถูก process มาให้เสร็จเลย

ยังมีการทำภาพแบบหน้าชัด หลังเบลอได้ไว้ล่วงหน้าก่อนการถ่ายภาพ
ใน mode iAuto ถึงแม้จะเป็นการถ่ายภาพในรูปแบบอัตโนมัติ
ตัวกล้องยังมีให้การเลือกปรับตั้งไว้ล่วงหน้า และยังสามารถเข้าไปปรับในรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีก เรียกว่า ออโต้ ก็๋ยังไปทำแบบแมนนวลกันได้อีก






ฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ที่ยังสามารถทำได้มากกว่านี้ เช่นการถ่ายภาพซ้อน การถ่ายภาพแบบวาดแสงด้วยภาพ การถ่ายภาพแสงกลางคืน Night City Scape
การถ่ายภาพแสงดวงดาวบนท้องฟ้า การถ่ายภาพท้างช้างเผือก การถ่ายภาพสถาปัตยกรรม อาคาร/ห้องพักโรแงแรมสวยๆ ที่ถ่ายภาพแล้วอาจจะมีอาการบิดของภาพ มีฟังก์ชั่น keystone สามารถปรับภาพที่เอียงๆ ให้กลับมาอยู่ในแนวตั้งตรงได้อย่างสวยงาม และฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ไว้นึกได้แล้วจะมาเขียนเล่าสู่กันฟังใหม่ครับ

เรื่องคุณภาพของไฟล์ที่บันทึกด้วยกล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II
พูดถึง RAW File ก่อนเลย พอดีมีภาพที่ตั้งใจบันทึกมาเป็น RAW File แล้วก็เหมือนมั่นใจว่ากลับมาเปิดดูไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เป็นปกติ
แต่เอาเข้าจริงๆ เปิดไฟล์ Raw ไม่ได้ ต้องรีบโทร.หาเพื่อนที่ใช้ Olympus อยู่ แล้วถึงได้ตามไป d/l ตัว convert ไฟล์กันกลับมาอีกที
คุณภาพของไฟล์ภาพ เช่นสีผิว ความคมชัด สำหรับตัวเองก็ยอมรับว่าได้ภาพที่ดีๆ ถูกใจ ส่วนใครที่ลงไปในรายละเอียดมากกว่านี้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมือโปรฯ กันต่อล่ะครับ

กับปัญหาหนึ่งที่เจอะเจอแล้วลองให้ทีมงาน Olympus ช่วยดู แล้วแก้ไขในเรื่องหนึ่ง คือการถ่ายภาพที่มองช่องมองภาพอย่างเดียวในสไตล์ที่ตัวเองอยากทดลองถ่ายภาพในครั้งนี้ พบว่าตอนที่เล็งในช่องมองภาพ ตัวแบบก็อยู่ในช่องมองภาพที่ตรงกลางภาพในแนวตั้ง แต่พอเห็นภาพที่ Save ออกมาแล้ว เหมือนมีการ Shift ภาพไปจากแนวกลางภาพในระยะที่เห็นแล้วว่ามีการ shift เยอะอยู่เหมือนกัน จะว่าตัวเองถ่ายภาพแล้ววางมุมถ่ายภาพไม่ดี ก็พยายามลองๆ ตั้งใจถ่ายภาพดูแล้ว ก็ยังพบปัญหานี้อยู่หลายๆ Shot
ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขแบบให้หายข้องใจ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกันในเรื่องนี้

มีเรื่องการถ่ายภาพวิดีโอ movie ที่หลายๆ คนที่มาลอง Test กล้องในงานครั้งนี้ ต่างตั้งใจมา test กัน ด้วยที่มีกันสั่นถึง 5 แกน น่าจะช่วยให้การถ่ายภาพวิดีโอได้สวยสมใจขึ้น และด้วยที่กล้องตัวนี้มีการใช้หน้าจอแบบ Touch screen ทำให้การคอนโทรลทั้งการ Focus จะดูนุ่มนวลกันมากๆ ขึ้นด้วยครับ

ถึงตอนท้าย blog นี้ ก็ขอออกตัวกันไว้ก่อนนะครับ กับการนำภาพของกล้องโอลิมปัสมาประชาสัมพันธ์กันใน Blog ในส่วนที่ตัวเองก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกัน เพียงแต่ด้วยที่ตัวเองกำลังมองๆ หากล้องที่มีช่องมองภาพ view finder ดีๆ ถูกใจกับตัวเอง พอมีโอกาสได้ไปลอง Test กล้องรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาในตอนนี้ เลยหาโอกาสไปลองๆ Test กล้องและมารีวิวกันแบบบ้านๆ ให้อ่านกันใน blog นี้ด้วยครับ

ปิดท้ายไว้กับภาพนี้ล่ะครับ
ขอบคุณบริษัทโอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด
ขอบคุณชิชาง พรอมเมนาดา
ขอบคุณเพื่อนๆ ร่วมทริป และขอบคุณน้องนางแบบสาวสวย น้องกิ๊กที่เป็นแบบถ่ายภาพสวยๆ ใน blog นี้ด้วยครับ

Create Date : 30 มีนาคม 2558		11 comments
Last Update : 1 เมษายน 2558 17:26:42 น.
Counter : 7498 Pageviews.
Share Tweet