เราเกิดมาเพี่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี เป้าหมายชีวิตคือที่สุดแห่งธรรม
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
มหัศจรรย์เจดีย์แห่งพระรัตนตรัย



พระุพุทธศาสนา เป็นศาสนาเพื่อสันติภาพโลก


ชาวไทยเป็นชาติที่มีพื้นฐานของสันติภาพอยู่ภายในใจตลอดเวลา ชาวไทยรู้จักสันติภาพตั้งแต่เช้าของวันรุ่งขึ้น เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเรื่องบุญกิริยาวัตถุ 3 ประการมาโดยตลอด ซึ่งนั่นก็คือ การทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ซึ่งพุทธปฏิบัติเหลานี้ ได้อยู่ในใจของคนไทยมาตลอดเวลา เพราะชาวไทยเชื่อว่า การให้ทานแก่พระภิกษุสงฆ์คือการให้อายุพระศาสนาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป และตราบใดที่พระพุทธศาสนาเจริญยั่งยืนอยู่นั่นหมายถึง สันติสุขของโลกใบนี้ก็ยังยืนยาวอยู่ตราบเท่านั้นทีเดียว และนี่คือสิ่งที่คนไทยเรียนรู้เรื่องการสร้างสันติภาพโลกมานานแสนนานนับพันปี


ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงเป็นอัญมณีชิ้นเอกชิ้นสำคัญที่จะยังคงอยู่คู่คนไทยมานานแสนนาน คำสอนของพระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่คำสอนให้คนมีความสุขแต่เพียงปัจจุบันเพียงอย่างเดียว แต่ยังสอนให้คนที่แสวงหาความสุขภายในหรือสันติภาพมาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย พระพุทธศาสนา จึงเปรียบเสมือนแม่น้ำที่ไหลไปทุกทิศโดยไำม่เลือกชนชั้นวรรณะที่จะแผ่ความสุขสบายไปถึง เป็นดังนี้แล้ว พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่ไม่ว่าใครมาศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจะได้รับความสุขใจ และสันติภาพของใจเกิดขึ้นตามไปด้วย และเมื่อเกิดสันติสุขภายในใจ ความสุขนี้ก็พร้อมที่จะถูกแบ่งปันออกไปหาเพื่อนร่วมโลกอีกด้วย



สัมมาสัมพุทธเจดีย์




พระเจดีย์ ที่สร้างไว้เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ ๔ ประเภทคือ
๑. ธาตุเจดีย์ ได้แก่เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
๒. บริโภคเจดีย์ ได้แก่ เจดีย์ที่บรรจุบริขารของพระพุทธองค์
๓. ธรรมเจดีย์ ได้แก่ เจดีย์ที่บรรจุพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในรูปแบบต่าง ๆ
๔. อุทเทสิกเจดีย์ ได้แก่ เจดีย์ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอันเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธองค์


มหาธรรมกายเจดีย์ พุทธสถานรวมพุทธบุตรทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวขอพุทธบุตร จะทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงยั่งยืน จัดเป็น ๓ ใน ๔ ประเภทของสัมมาสัมพุทธเจดีย์ คือเป็นทั้งธาตุเจดีย์ ธรรมเจดีย์ และอุทเทสิกเจดีย์

มหาธรรมกายเจดีย์ มีเนื้อที่ ๑ ตารางกิโลเมตร มีความกว้าง ๑,๐๐๐ เมตร และความยาว ๑,๐๐๐ เมตร รูปทรงของธรรมกายเจดีย์ คล้ายคลึงกับสาญจิเจดีย์ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โครงสร้างหลักของมหาธรรมกายเจดีย์ประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ
๑. พุทธรัตนะ คือส่วนยอดโดมและส่วนเชิงลาด ภายนอกประดิษฐานพระธรรมกายประจำตัว
สีทองเหลืองอร่าม ๓๐๐,๐๐๐ องค์ ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
และพระธรรมกายประจำตัวอีก ๗๐๐,๐๐๐ องค์
๒. ธรรมรัตนะ เป็นพื้นที่วงแหวนทำด้วยหินแกรนิตอย่างดี แทนพระธรรมคำสอนที่แผ่ขยายสู่มวลมนุษยชาติ
๓. สังฆรัตนะ เป็นพื้นที่ส่วนฐาน ที่ก่อสร้างเป็นขั้นบันไดต่อจากธรรมรัตนะ ใช้เป็นที่นั่งเจริญภาวนา
และประกอบพิธีกรรมของพระภิกษุสามเณรได้ถึงกว่า ๑๐,๐๐๐ รูป


ดังนั้น มหาธรรมกายเจดีย์ จึงเป็นมหาวิทยาลัยสอนศีลธรรมชั้นเลิศของโลก เป็นพุทธสถานฝึกฝนตน สร้างคนดี โลกจะวิวัฒนาการไปเพียงไร หากจิตใจมนุษย์ไม่พัฒนาตาม โลกก็ยังอยู่ในห้วงแห่งความวิบัติอยู่ดี

การอบรมศีลธรรม เป็นมรรคาวิเศษสุดที่จะทำให้โลกมนุษย์ร่วมเย็น ด้วยความฉ่ำเย็นในจิตใจมวลมนุษย์ แล้วแผ่ขยาย กระแสธรรมอันบริสุทธิ์ ให้ขจรขจายไปอย่างไม่มีที่สื้นสุด ทุก ๆ กิจกรรม ทุก ๆ วินาที ณ มหาธรรมกายเจดีย์ คือการอบรมศีลธรรมแก่ชาวโลกทั้งมวล เป็นการสั่งสมความบริสุทธิ์ตามพุทธวิธี อันจะยังสันติสุขภายในสู่สันติภาพโลกในไม่ช้า

คำตอบเพิ่มเติมศึกษาได้ที่ : มหัศจรรย์...เจดีย์แห่งพระรัตนตรัย และ ธรรมกายเจดีย์จำลองที่อินเดีย


พุทธปฏิมากร




คือสัญลักษณ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงบริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ พระพุทธองค์ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ทรงแสดงธรรมแครื่องพ้นทุกข์ โปรดเวไนยสัตว์ให้มุ่งไปสู่หนทางสว่าง คือ สวรรค์ และพระนิพพาน

ดังนั้น ชาวพุทธจึงเชื่อว่าการสร้างพระพุทธรูปถือเป็นบุญใหญ่ ที่มีอานิสงส์อันนับจะประมาณมิได้ เพราะเป็นการจำลองลักษณะกายมหาบุรุษของพระพุทธองค์ให้มนุษย์และเทวาได้กราบไหว้ และตรึกระลึกถึงคำสอนที่ชาวพุทธทุกคนพึงปฏิบัติ คือละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส ด้วยเหตุนี้เอง ชาวพุทธต่างล้วนปรารถนาที่จะสร้างพุทธปฏิมากรถวายเป็นพุทธบูชา ให้ได้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต



ประเพณีการสร้างพระของชาวพุทธ




นานนับศตวรรษที่ชาวพุทธไม่ว่าจะอยู่ที่ใดนิยมสร้างพระเพื่อไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจและแสดงความเคารพต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะการแสดงความเคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นมาจากก้นบึ้งแห่งสันติภาพภายในใจของชาวพุทธนั่นเอง

ชาวไทยนิยมสร้างพระพุทธรูปมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี ประมาณ พ.ศ. 1300-1400 จนถึงสมัยรัตนโกสินในปัจจุบัน แต่พุทธลักษณะในการสร้างจะแตกต่างกันไปตามศิลปินผู้จัดสร้าง แต่ไม่ว่าพุทธลักษณะจะแตกต่างกันอย่างไร แต่จุดประสงค์ของการจัดสร้างเพื่อแสดงความเคารพนบนอบต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นก็คือการบูชาพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ ก็ยังมีอยู่ดุจเดิมในทุกยุคทุกสมัยไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งการแสดงความเคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นก็จะนำมาซึ่ง ความสุขใจและการปลูกฝังสันติภาพลงในใจก็เริ่มต้นจาการบูชาบุคลที่ควรบูชานั่นเอง



การสร้างพระธรรมกายประจำตัวเพื่อประดิษฐานในมหาธรรมกายเจดีย์





มหาธรรมเจดีย์จะเป็นเจดีย์เพื่อสันติภาพโลก และเพื่อเป็นสถานที่แห่งการปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัททั้ง 4 ทั่วโลกเป็นจำนวนล้านคน และจะมีอายุยืนยาวถึง 1,000 ปี มหาธรรมกายเจดีย์จะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระธรรมกายประจำตัวของผู้มีบุญถึง 1,000,000 องค์ ซึ่งพระธรรมกายประจำตัวของผู้มีบุญแต่ละองค์จะจารึกชื่อของผู้มีบุญที่ได้สละทรัพย์มาสร้างพระ ไว้เป็นสถานที่รองรับพุทธบริษัททั้ง 4 ซึ่งองค์พระธรรมกายประจำตัวนี้จะมีขนาดหน้าตักประมาณ 1 คืบ และผลิตด้วยวัสดุที่มีความคงทนที่จะอยู่ไปยาวนานถึง 1,000 ปี

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การสร้างพระนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสันติภาพภายในใจ การเป็นเจ้าขององค์พระธรรมกายประจำตัวจึงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสันติภาพบนโลกใบนี้ เพราะการรวมตัวกันของพุทธบริษัททั้ง 4 จำนวนล้านไม่ใช่จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดายนัก และเมื่อสาธุชนจำนวนล้านมาปฏิบัติธรรมแล้ว กระแสของความดีและกระแสของสันติภาพก็จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน

มหาธรรมกายเจดีย์จะประกอบด้วยองค์พระภายนอกและภายในจำนวน 300,000 และ 700,000 ตามลำดับ ซึ่งองค์พระภายนอกนั้นมีเจ้าของหมดแล้ว และองค์พระภายในก็มีเจ้าของไปแล้วถึง 500,000 องค์ เหลือเพียงแค่ 300,000 องค์เท่านั้นที่ยังไม่มีเจ้าภาพผู้มีบุญเป็นเจ้าของ ซึ่งในปี 2552 นี้ก็จะมีพิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัว ๓๐๐,๐๐๐ องค์ในวันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน ๒๕๕๒ นี้



Smiley Smiley วันนี้คุณเป็นหนึ่งในล้านคนแล้วหรือยังคะ ??? Smiley Smiley





Create Date : 10 มีนาคม 2552
Last Update : 21 มีนาคม 2552 22:42:08 น. 2 comments
Counter : 1046 Pageviews.

 




โดย: กล้าตะวัน วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:8:00:11 น.  

 
บุญเป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภทหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มีฤทธิ์ ทำให้ใจทั้งผ่องด้วย ทั้งใสด้วย แถมชุ่มชื่นเบิกบานอิ่มเอิบอีกต่างหาก ที่อยากได้บุญกันนั้น เพราะว่าจะเอามาทำให้ใจผ่อง ใจใส ใจอิ่มเอิบ เบิกบาน นี้เป็นหลักทีเดียว นอกนั้นเป็นของแถม เช่น มีบุญมากๆ ก็จะทำให้ทำมาค้าขึ้น มีบุญมากๆ จะทำให้ยศถาบรรดาศักดิ์ บังเกิดง่ายขึ้น ตรงนี้ขอยกไว้ก่อน บุญที่จะเอามาให้ทำใจผ่องใส คือบุญจากอะไรบ้าง
บุญจากการทำทาน ตักบาตรกันตอนเช้า ได้บุญแน่ ที่รู้มา เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ รักษาศีล ท่านก็บอกว่าได้บุญ หลวงพ่อก็เคยตั้งปัญหาถามครูบาอาจารย์ตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ชั้นมัธยมแล้วว่า รักษาศีลนี่มันได้บุญอย่างไร ก็ไม่เห็นได้ทำอะไร อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าได้บุญ
ที่เขาไม่ฆ่าสัตว์ คือรักษาศีลข้อที่ ๑ ได้บุญตรงไหน ได้บุญตรงที่ให้ความปลอดภัยกับชีวิตผู้อื่น เพราะฉะนั้นเข้าใกล้ใคร คนๆ นั้นเขาก็ผ่องใสขึ้นมาว่า ชีวิตเขาปลอดภัยแน่ ตัวเราเองก็ใจใสทีเดียวว่า ไม่มีเวรไม่มีภัยกับใครแน่ ตรงนี้บุญเกิด
ไม่ลักทรัพย์ ไม่คดไม่โกงใคร ศีลข้อที่ ๒ ได้บุญตรงไหน ได้บุญเพราะให้ความปลอดภัยอีกเหมือนกัน ให้ความปลอดภัยในทรัพย์สิน ใครมีทรัพย์มีสินเขาก็ห่วง กลัว มันจะหมดไป หายไป พอมั่นใจว่าเราไม่โกง ไม่ขโมยเท่านั้นแหละ ใจเขาใสขึ้นมา หมดกังวล เราเองผู้ให้ความปลอดภัยกับเขา คือตั้งใจไว้แล้วว่า ทรัพย์สมบัติของใครไม่อยากได้ ถึงจะมีคุณค่าวิเศษอย่างไร ไม่สน อย่างนี้เราก็ใจใส ใจผ่อง บุญเกิดตรงนี้เอง เพราะว่าความโลภมันไม่มาบดบังใจ ความโกรธมันไม่มาบดบังใจ ความหลงมันไม่มาบดบังใจ ใจมันใส ใจมันผ่อง
รักษาศีลข้อที่ ๓ ดีๆ คือให้ความปลอดภัยต่อคู่ครองของเขา ลูกเขาเมียใครไม่ไปยุ่งด้วย สามีเขาก็หน้าบาน ใจมันใส เราเองก็ใจใส เพราะไม่ได้ข้องแวะกับใคร
รักษาศีลข้อที่ ๔ เราก็ให้ความจริงใจกับทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย มนุษย์กังวลเรื่องอะไร ก็กังวลเรื่องความไม่จริงใจกัน แม้สามีภรรยาพอระแวงว่าไม่จริงใจกันเท่านั้นแหละ บ้านก็จะระเบิดออกมาแล้ว ถ้าเราให้ความจริงใจ ไม่โกหกใครเลย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรา ก็จะใจใสขึ้นมา เราก็ยิ่งใจใสหนักเข้าไป เพราะเราเป็นผู้ให้ ยิ่งเราไม่กินเหล้าเมายา ไม่เผลอสติซึ่งเป็นต้นทางแห่งความดี เมื่อเราไม่ไปแตะต้องสิ่งเหล่านี้ ความไม่มีเวรมีภัยทุก รูปแบบก็เกิดขึ้นกับเรา และพร้อมจะแจกความไม่มีเวรไม่มีภัยนี้กับทุกคนที่เข้าใกล้เรา เพราะฉะนั้นพอเรารักษาศีล ๕ ได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นร่างกายแห่งบุญ เป็นโรงผลิตบุญเคลื่อนที่ ใครเข้าใกล้เราก็ใจใส ตัวเราเองก็ผลิตบุญเรื่อยไป ใจก็ใส เพราะฉะนั้น ให้ทานด้วยทรัพย์สินสิ่งของ นั่นก็ทำให้ใจใส ก็ได้บุญ รักษาศีล ให้ความปลอดภัยสารพัดรูปแบบ ก็ได้บุญ นอกจากนี้ เรายังมีสมบัติขุมอื่นๆ อีกเยอะ ที่จะเปลี่ยนเป็นบุญได้ เช่น อะไรบ้าง ความรู้ ถ้าให้ถูกที่ก็เปลี่ยนเป็นบุญได้ เรี่ยวแรงของเรา ก็สามารถเปลี่ยนเป็นบุญได้ ใครจะทำบุญทำทานที่ไหน เราไม่มีเงินไปทำ กระโดดเข้าไปช่วยเขาประกอบการบุญการกุศลนั้นๆ เอาแรงไปเป็นทาน ช่วยให้งานบุญเขา สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราก็ได้บุญ อย่าว่าแต่เอาเรี่ยวแรงไปทำ แม้เอาเสียงของเราไปทำทาน เช่น ใครเขาจะทำความดีอะไร เราก็เชียร์ ไปเลยว่าดี พอเชียร์เข้าไป มันเป็นการให้กำลังใจเขา ใจเราก็ใสขึ้น คนได้ยินเสียงเชียร์ เขากำลังจะทำดีอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงเชียร์เข้า ก็คึกคักขึ้น เขาก็เลยทำบุญได้เต็มที่ขึ้น
หรือมีคนมาสนับสนุนให้ทำบุญยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เราก็เลยพลอยได้บุญไปด้วย เพราะฉะนั้นแค่เสียงเชียร์ยังได้บุญ ถ้าในเสียงเชียร์นั้นแถมเอาความรู้ที่เรามีอยู่ไปให้อีกด้วย มันเลยไม่แค่เสียงเชียร์ มันกลายเป็นว่าเราให้ธรรมทานไปด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง คือได้บุญเยอะกว่าทานประเภทอื่นเสียอีก มองภาพนี้ชัดๆ แล้วเราจะเห็นว่า ถ้าอย่างนั้นเรามีช่องทางที่จะทำบุญอีกเยอะเลย เห็นใครทำบุญ ทำทาน เราไม่มีเวลาเข้าไปช่วย ยกมือสาธุ ขออนุโมทนาในจิตกุศลของท่านที่ทำบุญ ทำทานหรือทำความดี ยกมือเปล่งวาจาแค่สาธุเท่านั้น บุญก็เกิด ยังไม่พอ วันนี้อยู่คนเดียว เหลียวซ้ายแลขวาไม่รู้จะไปทำทานให้กับใคร ถามตัวเองวันนี้ยังคับแค้นใจเมื่อนึกถึงหน้าใครคนใดคนหนึ่งไหม พอนึกได้ อ้อ! นาย ก นาย ข นึกถึงทีไรทำให้ขุ่นใจ เรื่องในอดีตอย่างนั้นๆ โผล่ขึ้นมาเป็นฉาก ก็ให้อภัยทานทั้งๆ ที่นอนอยู่ในบ้านนั่นแหละ นั่นก็ยังได้บุญ
คนมีปัญญาช่องทางที่จะหาบุญมาใส่ตัวมีมากมายมหาศาลนัก ไม่รู้จะทำอะไร วัดพระธรรมกายก็ได้ วัดต่างๆ ก็ได้ เขาต้องการผู้มาช่วยงานเยอะแยะ อย่างวัดพระธรรมกาย ต้องการใคร ต้องการผู้นำบุญ คือนำข่าววัดว่าทำบุญทำทานอย่างนั้นอย่างนี้ ทำความดีงาม อย่างนั้นอย่างนี้ ช่วยเอาไปประกาศให้ชาวโลกเขารู้ อย่างนี้ก็ได้บุญ ไม่รู้จะทำอะไร หลับตาภาวนาทำสมาธิของเราไปก็ได้บุญ หาบุญได้ทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าก็นึกถึงความตายบ้าง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความขุ่นมัวในใจมันหมดไป หายใจออกนึกถึงความตายบ้าง จะได้เลิกโลภ เลิกโกรธ เลิกหลง ท่านบอกว่าหายใจเข้าออก อย่างนี้ ไม่ใช่หายใจทิ้งเปล่า หายใจแล้วได้บุญด้วย พระที่ห้อยอยู่บนคอก็เหมือนกัน อย่าห้อยเปล่า ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยกขึ้นมาพิจารณา จำลักษณะมหาบุรุษของท่านให้ดี แล้วก็อาราธนา ให้ท่านไปนั่งอยู่กลางท้องที่ศูนย์กลางกายของเรา จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะทำงานการ อะไรนึกถึงองค์พระ ถ้าอย่างนั้นไม่ว่าทำงานอะไรไป นอกจากได้งาน ได้เงินแล้ว ก็ยังได้บุญต่อไปอีก
ก่อนจะนอนสำรวจตรวจสอบว่าวันนี้ทำความดีอะไรไว้บ้าง ทำความไม่ดีอะไรไว้บ้าง เป็นการตรวจสอบบัญชีบุญ บัญชีบาป ประจำวันของเรา ไปพบบัญชีบาปเข้า ก็สัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะไม่ทำอีก อย่างนี้มันบาป ส่วนว่าอะไรที่เป็นบุญ สำรวจตรวจสอบแล้ว ชัดเจนขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ก็จะทำต่อ แล้วก็ล้มตัวลงนอน ก่อนจะนอน อาราธนาองค์พระในตัวที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่เช้ามาว่าหลวงพ่อช่วยขยายองค์โตๆ หน่อย ลูกขออนุญาต ไปนอนอยู่กลางท้องหลวงพ่อ หรือยังนึกขยายองค์พระไม่ออกไม่เป็นไร นอนคืนนี้นึกถึงองค์พระใสๆ เกิดขึ้นที่กลางกาย นึกจนกระทั่งหลับไป หลับอย่างนี้ หลับพร้อมกับองค์พระ ถ้าฝันก็ไม่ฝันเรื่องอื่นหรอก ฝันว่าไปเจอพระพุทธเจ้า ฝันว่าไปเจอพระอรหันต์ แม้ในความฝันยังได้บุญเลย ทำอย่างนี้ไปทุกวัน ทุกคืน ทำตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งวันตาย บุญมีให้เรา เกิดขึ้นกับเรา ทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน นี่แหละคนมีบุญเขาทำกันอย่างนี้




..บุญเป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภทหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มีฤทธิ์ทำให้ใจผ่องด้วย ทั้งใสด้วย แถมชุ่มชื่อเบิกบานอิ่มเอิบอีกต่างหาก ที่อยากได้บุญกันนั้น เพราะว่าจะเอามาทำให้ใจผ่อง ใจใส ใจเอิบอิ่ม เบิกบาน นี้เป็นหลักทีเดียว นอกนั้นเป็นของแถม



โดย: ทวนทอง IP: 119.31.37.97 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:17:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รัตนมาลี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add รัตนมาลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.