Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
6 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
อยากซื้อปืน

ก่อนที่จะรู้ขั้นตอนการขอ มารู้กันก่อนดีกว่าว่า อาวุธปืนคืออะไร ในความหมายของกฎหมาย คำจำกัดความของอาวุธปืนตามมาตรา 4 (1) มีดังต่อไปนี้

1.อาวุธที่ประกอบด้วยลำกล้องที่ทำด้วยโลหะที่ทนทานต่อความร้อน
และแรงระเบิดของดินปืนที่อัดยัดเข้าไปในกระบอกปืนหรือแม็กนั่มหรือลูกซองที่เข้าไปซุกตัวในรังเพลิงมีเครื่องจุดชนวนดินระเบิดหรือเครื่องลั่นไก สำหรับให้ดินปืนในลำกล้องระเบิดขึ้น และสุดท้ายมีกระสุน เหล็กหรือตะกั่วสำหรับถูกขับออกจากลำกล้องด้วยแรงระเบิดนั้น

2. ปืนที่ยิงด้วยการอาศัยพลังงานอย่างอื่นนอกจากดินดำ เช่น ปืนอัดลม อัดแก๊ส ก็จัดเป็นอาวุธปืน

3. ส่วนประกอบหลักของอาวุธปืน ก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนเช่นกัน ตามที่รัฐมนตรีมหาดไทยกำหนดไว้ในกฎกระทรวง ดังนี้

- ลำกล้อง

- ลูกเลื่อน หรือ ส่วนประกอบสำคัญในเครื่องลูกเลื่อน

- เครื่องลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน นกสับ ไกปืน

- ซองกระสุน อันได้แก่ แม็กกาซีน สำหรับปืนออโตเมติก และ ลูกโม่ สำหรับปืนรีวอลเวอร์

จาก 3 ข้อที่กล่าวมา หากผู้ใดมีครอบครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นความผิด แม้แต่ปลอกกระสุน ลูกกระสุน ดินปืน แก็ปจุดระเบิดของดินปืน หากผู้ใดมีไว้ครอบครองก็มีความผิดเช่นกัน









ตามกฎหมายไทย ยังแบ่งอาวุธปืนออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ

1. อาวุธปืนสำหรับเอกชนใช้ โดยอาวุธปืนประเภทนี้ก็คือปืนพกและปืนยาวบางประเภท ที่ทางราชการอนุญาตให้ ประชาชนทั่วๆไปอย่างพวกเราๆท่านๆมีไว้ใช้กันได้ จะไว้ป้องกันตัวและทรัพย์สินหรือเพื่อการกีฬาหรือ เพื่อเก็บ ก็ได้ทั้งสิ้น

2. อาวุธปืนสงคราม เป็นปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ ต้องไม่เป็น ปืนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องเกิน 11.44 มม. ไม่สามารถบรรจุกระสุนเองให้ยิงซ้ำได้ ( ปืนกล ) อาวุธปืนที่กระสุนบรรจุสารเคมี เชื้อโรค เชื้อเพลิง หรือกัมมันตภาพรังสี และ ที่เก็บเสียง ถือว่าเป็นอาวุธสงครามนะครับ

คุณสมบัติที่สามารถมีปืนเป็นของตัวเองได้

1.ไม่เคยต้องโทษจำคุก หรือมีคดีความติดตัว

2. ต้องบรรลุนิติภาวะ

3. ไม่มีร่างกายพิการจนไม่สามารถใช้อาวุธปืนได้ ( ขอได้กรณีขอไปเพื่อเก็บ )

4. ไม่มีสติฟั่นเฟือน หรือเป็นบุคคลที่ไร้ความสามารถ ทั้งที่ ศาลสั่งและเป็นเอง

5. มีงานมีการทำเป็นหลักแหล่ง

6. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านท้องที่ที่จะไปขออย่างน้อย 6 เดือน

7. มีเงิน อันนี้สำคัญมากนะครับ สำคัญอย่างไรจะกล่าวต่อไปในภายหลัง

8. มีเส้น อันนี้ก็สำคัญ แต่น้อยกว่าเงิน













การเลือกซื้อปืนกระบอกแรก

การซื้อปืนมาใช้สักกระบอกผมขอแนะนำให้เพื่อนๆได้ศึกษาอย่างละเอียดก่อน โดยพิจารณาดังนี้

1. ดูคุณสมบัติของตัวเองครับว่ามีสิทธิมีปืนในครอบครองไหม

2. ดูเงินครับ ว่ามีอยู่เท่าไหร่ พอจะซื้อปืนอะไรได้บ้าง อยากให้เพื่อนๆเตรียมไว้อย่างต่ำคือ 5 หมื่นครับ กรณีปืนใหม่ สำหรับราคาของปืนที่พอใช้ได้ และถูกที่สุด ก็ประมาณ 4 หมื่นต้นๆ ครับ บวกค่านู่นค่านี่ ก็ 5 หมื่นกว่าๆแหละครับ ส่วนพวกปืนแต่งนี่ ไว้ให้เป็นก่อนครับค่อยซื้อ ส่วนปืนมือสองนี่ผมว่าดีนะครับ ราคาถูก แต่ต้องเลือกดีๆหน่อย เอาที่เจ้าของเค้าซื้อไปเก็บ ไม่เอาแบบซื้อไปยิงคนหรือยิงเป้าซ้อมก็ไม่เอาครับ พวกนี้ปืนลำกล้องสึก ไม่ก็มีคดีติด

3. ดูมือตัวเองครับ ว่า มือตัวเองใหญ่ไหม จับปืนได้ขนาดไหน ไม่ใช่ว่ามือเล็กแถมยังบอบบางแบบคุณชาย ที่ไม่เคยผ่าน งานหนัก แต่ดันไปอยากได้ .45 หรือ .357 อันนี้ซื้อมาได้ครับ พอจะสู้กันใช้เขวี้ยงหัวได้ผลกว่ายิง เพราะยิงไปจะโดน น้อยกว่าเขวี้ยงเอาเสียอีก

4. เมื่อได้ปืนที่ถนัดมือแล้ว มาดูเรื่องกระสุนครับ ไอ้กระสุนแปลกๆอย่าซื้อมาครับ พวก .357 ซิก อะไรพวกนี้ วันนึงไม่มีกระสุนแล้วจะเสียใจ แต่ได้ข่าวแว่วๆมาว่ากระสุน .40 s&w มม. ประเทศไทยผลิตเองแล้ว คงพอหาง่ายขึ้น แต่ที่แนะนำจริงๆคือ .38 สเปเชี่ยล , 9 มม.พาราเบลรั่ม , .357 , 11 มม. , .22 ( ลูกกรด ) แล้วถ้าเป็นลูกซอง ก็ 12 นะครับ นอกจากนี้หากระสุนยาก

5. ถึงตอนนี้เพื่อนคงมีปืนในใจสัก 2-3 กระบอกแล้ว ข้อนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพื่อนลองยิงครับ อาจไปยืมคนรู้จักที่มี อยู่มาลองยิงก่อน หรือถ้าซื้อปืนมือสองก็ลองขอเจ้าของเค้ายิงก่อนนะครับ ว่ายิงดีไหม สะบัดมากไหม อะไรประมาณนี้ จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นถ้าลองไม่ได้หรือเค้าไม่ให้ลอง ถามเอาก็ยังดีนะครับ

6. เมื่อได้ปืนที่ถูกใจแล้วก็ไปดำเนินการขออนุญาต ตามขั้นตอนที่แนะนำไปนั่นแหละครับ เมื่อได้เรียบร้อยก็เป็น อันจบพิธีการ




ขั้นตอนการขอซื้ออาวุธปืน

1. เลือกปืนที่ถูกใจก่อนครับ จะโดยการสอบถาม หรือดูจากหนังสือ ก็ได้ แต่แนะนำว่าเมื่อได้รุ่น ชนิดที่ถูกใจแล้วจะให้ดีควรหาที่ลองยิงดูด้วยนะครับ ว่าถนัดมือหรือเปล่า ขั้นตอนนี้ไม่ควรใจร้อนนะครับ เพราะปืนไม่ใช่ขนมที่จะซื้อกันบ่อยๆแล้วจะให้ดีอย่าดูปืนที่ขนาดกระสุนมันแปลกๆหรือใหญ่นักนะครับ จะขอยาก เอาเป็น .38 หรือ 9 มม. นี่แหละครับขนาด กลางๆ ของ่ายหน่อย แต่จะง่ายสุดก็พวก .22 กับ ลูกซองล่ะครับ ง่ายสุด

2. หลังจากได้ปืนรุ่นที่ถูกใจแล้ว ก็ไปอำเภอท้องที่ที่ท่านอยู่ หรือหาก อยู่ในกรุงเทพ ก็ไปกองทะเบียนกรมตำรวจเลย ครับ อยู่ข้างแดนเนรมิต เยื้องๆเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปถึงก็กรอกแบบฟอร์มที่เขามีไว้ให้นั่นแหละครับ มีตัวอย่างการ กรอกให้เสร็จ พอกรอกเสร็จ เค้าก็จะขอดูหลักฐานเราว่าครบหรือเปล่า

หลักฐานที่ท่านต้องเตรียมไป คือ

1. บัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. หนังสือรับรองการทำงาน
4. หนังสือรับรองเงินเดือน
5. สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร
6. เอกสารที่แสดงว่าท่านเป็นคนมีเงิน
ข้อ5 กับข้อ 6 นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ สำคัญมากทีเดียว เอกสารที่แสดงว่าท่านมีเงินนี่ มีมากๆยิ่งดีนะครับอะไรขาดตกบกพร่องเค้าก็พอจะช่วยเหลือท่านได้ อย่างพี่ชายผมไปขอ เอกสารรับรองการ
ทำงานของเค้า ไม่ใช่กรรมการบริษัทเซ็นให้ เค้าก็ไม่ให้นะครับ แต่อาศัยว่า ขนเอกสารแสดงทรัพย์สินไปเยอะ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร อันนี้อยากฝากไปถึงผู้รับผิดชอบหน่อยนะครับ ทำไมครับคนไม่มีเงิน หรือมีน้อย มันไม่มีสิทธิหวงชีวิตหรือปกป้องชีวิตตัวเองและลูกเมียได้เหรอครับ อ้อลืมบอกไป เอกสารที่เตรียมไปต้องเอา ตัวจริงไปด้วยนะครับ ที่สำคัญเอกสารต่างๆต้องยังไม่หมดอายุนะครับจะได้ไม่เสียเวลา กลับไปเอามาใหม่ แล้วก็ทำตามวิธีขอของเค้าแหละครับ ยื่นเรื่องแล้วรอ 1 เดือน ( กรุงเทพ ) ซึ่งจริงๆเค้าเขียนไว้ว่าไม่เกิน 15 วันนะครับ แต่ เอาเถอะ 1 เดือนก็ 1 เดือน อย่าไปเถียงท่านนะครับ เดี๋ยวท่านไม่ออกใบ ป.3 ให้ จะซวยปล่าวๆ และอีกอย่างที่ สำคัญครับ ถ้าจะให้เร็วๆ ท่านต้องคอยโทรไปเช็คที่สถานีตำรวจท้องที่ของท่าน ครับว่าเรื่องของท่านไปถึงหรือยัง ถ้าถึงแล้วท่านไปติดต่อสอบปากคำเลยครับแล้วขอเรื่องเค้าไปส่งที่กองทะเบียนได้เลย ไม่งั้นจะเหมือนผมครับ
พอถึงวันนัดไปรับ ป3 ผมก็ไป ปรากฏว่าเรื่องของผมยังอยู่ที่สถานีตำรวจอยู่เลย พอไปตามเรื่องมาส่ง กองทะเบียน ที่รักของผม ก็นัดใหม่อีกครึ่งเดือนให้มารับ นี่แหละครับประเทศไทย

3. หลังจากผ่านขั้นตอนนี้มาได้ ท่านก็จะได้รับใบ ป.3 มา เพื่อให้ท่านไปซื้อปืน กรณีท่านไปซื้อกับร้านขายปืนก็เอา ป.3 ให้เค้าไป แล้วจ่ายเงินเค้าค่าปืน ที่เหลือเค้าไปจัดการให้เสร็จครับ กระดิกนิ้วรอใบ ป.4 ( ใบอนุญาตมีและใช้ ) อยู่ที่บ้านได้เลย ส่วนผู้ที่ซื้อโอน ก็ต้องเอาใบป.3 ไปตัดยอดออกจากท้องที่ที่เจ้าของปืนเดิมอยู่นะครับ พอเสร็จเรื่อง แล้วก็เอาปืนไปให้ท้องที่ที่เราขอ ป.3 ตรวจ แล้วเค้าก็จะออกป.4 มาให้ ระยะเวลาตรงนี้ก็ไม่แน่นอนครับ

เป็นไงบ้างครับไม่ยากเลยใช่ไหม กับการที่ท่านจะซื้อปืนสักกระบอก สำหรับท่านที่เห็นว่าเรื่องมันช้า ก็หยอดน้ำมัน ได้ครับ ข้าราชการประเทศนี้สนิมขึ้นครับหยอดน้ำมันหน่อยจะทำงานได้เร็วมาก ส่วนจะหยอดน้ำมันสีแดง สีม่วง หรือ สีเทา อันนี้ก็แล้วแต่กำลังและข้อตกลงครับถ้ายิ่งสีเทาแล้วหยอดเยอะๆนี่เร็วแน่ๆครับ แต่อย่าไปหยอดให้มันโจ่งแจ้ง นะครับเดี๋ยวท่านอาย พาลไม่รับ แล้วไม่ออกใบให้อีกจะซวยไป สำหรับท่านที่นายทะเบียนไม่ออกใบอนุญาต ให้ทั้งที่ท่านมีคุณสมบัติครบถ้วนและหลักฐานชัดเจน ท่านไม่ต้องตกใจครับ กฏหมายมีทางออกให้ท่าน ( ไม่ต้องตกใจจริงๆนะครับ ย้ำไว้เลย แต่ทำใจไว้เยอะๆ ) ดังนี้ ท่านมีสิทธิที่จะยื่นคำอุธรณ์ต่อ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยได้ครับ ภายใน 30 วัน หลังจากถูกปฏิเสธ ครับกฏหมายมีช่องว่างไว้ให้ แต่ใครจะอุธรณ ์ได้หรือไม่ ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ

การแนะนำวิธีใต้ดินให้ดีกว่า ถ้าไม่ได้ทำอย่างไร

1. ท่านต้องใช้เงินให้เป็นครับ

2. เส้นครับ ยิ่งใหญ่ยิ่งดี

ท่านใช้ 2 ข้อนี้เมื่อไหร่ รับรองได้อาวุธปืนมาครอบครองสมใจครับ จะให้ดีใช้มันตั้งแต่ต้นเลยครับจะได้ไม่เสียเวลา ถ้าท่านซื้อกับร้านค้า ก็ให้ร้านค้าท่านทำให้เลยครับ นัยว่าร้านค้าพวกนี้ เป็นผู้มีพระคุณของเหล่าท่านๆอยู่ ค่าใช้จ่าย ด

แค่ไหนนะครับ

ข้อห้ามสำหรับนักยิงปืน
ท่านที่ชอบแข่งขันยิงปืนประเภทต้องใช้สมาธิในการปั้น 10 เช่นปืนยาวติดกล้องหรือแข่งระบบสากลทั้งหลาย (ไม่รวมเป้าบินและ IPSC) มีหลักป้องกันไม่ให้ล้มเหลวในการแข่งขันอยู่ 10 ประการ ลองอ่านและปฏิบัติดูครับ ถ้าท่านเกิดไปตรงกับข้อหนึ่งข้อใด หลักก็คือ ห้าม ห้าม ห้าม คุยโม้, อวดเก่ง, เล็งนาน, พาลปืน, ฝืนลม, ชมตัวเอง, ตื่นเต้น, ตกใจ, กระตุกไก, กระพริบตา ท่องเป็นกลอนนะครับ จะจำได้ไว้ เพราะคำมันจะสัมผัสกันอยู่แล้ว บางตำราเพิ่มมาอีก 4 ประการได้แก่ เมาถี่, ปวดท้องขี้, หิวข้าว, รองเท้าคับ ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้คือ

1. คุยโม้ ก็คือ ยังไม่ทันแข่งก็คุยซะแล้วว่าจะเอาเหรียญนั้น เหรียญนี้ สร้างแรงกดดันให้ตนเองทำไม

2. อวดเก่ง ประมาทคู่แข่งไม่เห็นอยู่ในสายตา ทำให้ขาดความรอบคอบ

3. เล็งนาน เล็งนานเท่าใดปืนก็ส่ายมาก ตามทฤษฎีก็คือ หลังจากกลั้นหายใจแล้วต้องลั่นไกให้ได้ภายใน 7 วินาที ถ้ามากกว่านั้น ต้องวางปืนเริ่มหายใจใหม่

4. พาลปืน ยิงไม่ดีเนื่องจากตนเอง ก็ไปพาลว่า ปืนห่วย ไม่ดี ไม่หันมาพิจารณาตนเอง ทำให้ไม่มั่นใจในอาวุธ

5. ฝืนลม ก็เห็นอยู่แล้วว่าลมพัดแร๊งแรง ยอดไม้ไหวลู่ ก็ยังยิงออกไป มันจะเข้า 10 ได้ไง

6. ชมตัวเอง แข่ง 60 นัด ยิง 10 เข้านัดแรก (ฟลุ๊ก) หลงตัวเองแล้วว่าต้องได้ทองแน่ ยังเหลืออีก 59 นัดนะครับ

7. ตื่นเต้น แล้วจะถือปืนนิ่งได้อย่างไร (อันนี้ต้องฝึกนานโดยต้องแข่งมากๆ ๆ ๆ ๆ)

8. ตกใจ เสียงปืนดังแล้วตกใจ หรือตกใจเสียงปืนช่องข้างๆ ก็แย่ซิครับ หาอะไรอุดหูซะ

9. กระตุกไก ยังงี้เข้า 9 ก็บุญแล้ว

10. กระพริบตา ยิงแล้วไม่ follow ศูนย์ แล้วจะเข้า 10 เหรอ

11. เมาถี่ พรุ่งนี้จะแข่ง คืนนี้ยังเมาอยู่เลย อย่ายิงดีกว่าเสียดายกระสุน

12. ปวดท้องขี้ ไม่ต้องอธิบายมาก ยืนยิงไม่ได้หรอกครับ

13. หิวข้าว แล้วเอาแรงที่ไหนมายกปืนจ๊ะ

14. รองเท้าคับ มันกัดเท้าแล้ว ยืนยิงได้หรือจ๊ะ






มือใหม่หัดยิง
ก่อนยิง จะสำหรับมือใหม่เท่านั้นครับ มือเก่าจะอ่านก็ไม่ว่ากันครับ)
1. การนำปืนเข้าช่องยิง ถ้าเป็นปืนสั้นลูกโม่ ให้เปิดโม่ออก ถือปืนโดยปากกระบอกชี้ขึ้นด้านบน เอานิ้ว ออกนอกโกร่งไก ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ให้เปิดลำเลื่อนค้างไว้ ถือปืนโดยปากกระบอกชี้ขึ้นด้านบน เอานิ้วออกนอกโกร่งไก ถ้าเป็นปืนยาวลูกเลื่อนให้เปิดลูกเลื่อนค้างไว้ ถือปากลำกล้องขึ้นด้านบน
2. อย่าบรรจุกระสุนก่อนเข้าช่องยิง เดินเข้าช่องยิงให้เรียบร้อยเสียก่อน
3. ทำการตรวจดูลำกล้องและรังเพลิงว่ามีเศษผ้า สำลี หรือสิ่งใดค้างอยู่หรือไม่ ถ้ามี (แม้แต่เล็กน้อย) ต้องเอาออกให้หมด คราบน้ำมันหล่อลื่นมากๆ จนเยิ้ม จารบีในลำกล้อง ต้องเช็ดออกให้หมดก่อนยิง ห้ามใช้วิธีการ “ยิงไล่” เพราะปืนท่านจะเสียหาย อย่างน้อยที่สุดก็คือลำกล้องบวม
4. เมื่อจะบรรจุกระสุน ให้หันปากกระบอกปืนไปยังเป้าเสียก่อน
5. เมื่อปืนบรรจุกระสุนแล้ว ปากกระบอกจะต้องชี้ไปยังเป้าอยู่เสมอ มิ



ในสนามยิงปืนนั้นมีนักผู้คร่ำหวอด มือเกห้อ ลูกหลาน เพื่อนๆ รวมทั้งมือใหม่เพิ่งหัดยิง หรือมือเก่าแต่นาน ๆ มายิงสักครั้ง สิ่งที่พวกเรากลัวก็คือ เกิดอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปโดนผู้อื่
ผม
ใช่ตามตำราเพื่อนักยิงปืนมือใหม่จะได้ไม่พลาดพลั้งกัน เพราะถ้าพลาดหมาย



เมื่อทำการยิงถึงการ

1. เมื่อได้รับสัญญาณหยุดยิงจากผู้ควบคุม ต้องหยุดยิง เข้าห้ามไก และวางปืนทันที และไม่แตะต้องปืนอีก เป็นอันขาด โดยเดินถอยหลังห่างออกจากปืนของท่านอย่างน้อย 2 ก้าว หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณ อนุญาตยิง

2. ขณะยิงเมื่อกระสุนด้านไม่ลั่น อย่า อย่า และ อย่า รีบลดปืนลงทันที ให้ถือปืนค้างไว้โดยลำกล้องชี้ ไปยังเป้า นับ 1 ถึง 10 ในใจช้าๆ เหตุผลก็คือ กระสุนอาจจุดระเบิดช้าเนื่องจากความชื้นในดินปืนหรือ แก๊ปหรือเหตุอื่นใดก็แล้ว แต่หากท่านรีบลดปืนลงเพื่อตรวจปืนหรือขึ้นลำกระสุนใหม่ ลูกปืนอาจลั่นจังหวะนั้น ซึ่งผมเคยเจอว่า ยิงไม่ลั่น พรรคพวกรีบขึ้นลำเลื่อนใหม่ทันทีเพื่อเอากระสุนด้านออก โชคดีก็คือขณะ กระสุนที่คิดว่าด้านนั้นกำลังจะตกถึงพื้นก็ลั่นทันทีและไม่โดนใคร แต่ก็หน้าซีดกันเป็นแถว

3. ขณะยิงถ้าได้ยินเสียงปืนตนเองดังค่อยกว่าปกติ อย่ารีบยิงนัดต่อไป เพราะว่าดินขับเผาไหม้ไม่หมด หัวกระสุนอาจจะค้างอยู่ในลำกล้อง ให้ทำดังนี้คือ ในปืนลูกโม่ต้องปลดโม่ออก และตรวจดูลำกล้องว่าหัว กระสุนค้างอยู่ในลำกล้องหรือเปล่า ถ้าค้างก็ต้องเอาออกโดยปรึกษาเจ้าหน้าที่สนามซึ่งมีหน้าที่บริการให้ ท่าน ถ้าท่านยังขืนยิงต่อโดยเข้าใจผิดว่าให้ลูกปืนนัดใหม่ไปดันหัวกระสุนค้างออกไป สิ่งที่ท่านจะได้รับก็คือ ปืนจะระเบิดในมือท่านเหมือนท่านกำระเบิดมือและให้มันระเบิดบนมือยังไงยังงั้น แต่ถ้าท่านโชคดีที่ กระสุนไปค้างระหว่างช่องโม่กับลำกล้อง ปืนก็ยิงต่อไปไม่ได้เพราะโม่ไม่หมุน ถ้าเป็นปืนออโต้ สังเกต ได้ง่ายเพราะลำเลื่อนจะไม่ถอยหลัง ท่านจะต้องดึงแม๊กกาซีน ออก ดึงลำเลื่อนเพื่อนำกระสุนออก สังเกตว่ามีหัวกระสุนติดกับปลอกหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ให้ตรวจลำกล้องด่วน



4. ท่านที่ใช้ปืนออโต้และปืนของท่านสลัดปลอกกระสุนได้แรงและไกล ขอให้ขยับฉากกันปลอกกระสุน (เกือบทุกสนามจะมี) ให้อยู่ในสภาวะที่สามารถป้องกันปลอกกระสุนท่านไปรบกวนคนอื่นในช่องข้างเคียง

5. อย่ายิงปืนโดยทำท่าเป็นคาวบอย คือนำปืนใส่ซองข้างเอวหรือสะโพก แล้วชักขึ้นมายิงทันที ผมเห็น กับตาเลยว่าปืนลั่นเข้าต้นขากระสุนชอนไชมาระเบิดออกที่หัวเข่า (พิการครับ) ถ้าท่านอยากทำยังงั้น จริงๆ ให้ซ้อมแบบยิงแห้งดีกว่าครับ แล้วไปหัดชักยิงจริงๆ ในป่าไกลๆ ผู้คนโน่นเลยครับ

6. ถ้าท่านมีกระสุนยิงมากเป็นร้อยๆ นัด ควรทำความสะอาดปืนบ้าง เพื่อขจัดเขม่าและความสกปรก ออกไป ไม่ใช่เพื่อให้ปืนดูสะอาด แต่ทำเพื่อให้กลไกของปืนทำงานเป็นปกติ โดยเฉพาะปืนที่ทำงานด้วย ระบบแก๊สในการบริหารกลไก มีตัวอย่างในการแข่งขันยิงลูกซองรายการหนึ่ง ยิงกันเป็นร้อยนัด ปรากฎ ว่าปืนกระบอกหนึ่งเป็นแบบบริหารกลไกด้วยแก็ส ยิงจนมีเขม่าที่รังเพลิงมาก กระสุนนัดหนึ่งเข้ารังเพลิง ไม่100% ลูกเลื่อนก็เลยไม่ขัดกลอน 100% ด้วย พอเหนี่ยวไกปั๊บ กระสุนถอยหลังออกมาระเบิดในช่อง คายปลอก ปืนพังเลย โชคดีคนไม่พังตามปืนไปด้วย

7. ท่านที่ยิงปืนยาวระบบลูกเลื่อน ให้เอานิ้วออกจากไกปืนก่อนปิดลูกเลื่อน ผมโดนกับตัวเองเลยคือ ผู้ ยิงท่านนั้น (มือใหม่) ไม่ได้เอานิ้วออกจากไก หลังจากดันลูกเลื่อนป้อนกระสุนนัดใหม่ พอตบลูกเลื่อนลง สุดปืนลั่นตูมเลย ดีที่ลำกลัองหันขึ้นด้านบน แต่กระนั้นหัวกระสุนกระทบซีเมนต์แตกเป็นสะเก็ดตะกั่วเล็กๆ มาฝังที่ไหล่ผม (ตอนนี้ยังมีแผลเป็นอยู่เลย) ถ้าเข้าตาวันนั้นตาบอดแล้วครับ ตาขวาซะด้วยสูญเสียและเป็นคดี ควา

หลังยิงรื่องที่น่าเสียใจที่สุ

1. ตรวจปืนให้เรียบร้อยว่าไม่มีกระสุนค้างในรังเพลิง ลูกโม่
2. เปิดโม่หรือค้างลำเลื่อนก่อนออกจากช่องยิง นำปืนออกนอกช่องยิงโดยนิ้วชี้อยู่นอกโกร่งไก ลำ กล้องชี้ขึ้นด้านบนเสมอ
3. เป้าปืนของท่านที่ยิงแล้ว และไม่ต้องการนำกลับไป กรุณาเอาออกจากช่องยิงไปทิ้งด้วย (ตาม มารยาท)
4. ทำความสะอาดปืนทันทีอย่าทิ้งค้างคืนไว้เป็นอันขาด มิฉะนั้นปืนท่านจะเป็นสนิมเร็วมาก
5. ถ้าท่านใช้บริการล้างปืนตามสนาม น้ำมันที่ใช้ล้างนั้นเป็นน้ำมันก๊าด จะล้างแค่เขม่าออกเท่านั้น แต่ คราบตะกั่ว สารประกอบอื่นๆ ที่เกิดจากการเผ้าไหม้ยังล้างไม่หมด คุณควรล้างด้วยน้ำยาล้างปืนจริงๆ อีกครั้งที่บ้าน ใช้ยี่ห้อใดก็ได้ที่ระบุว่าใช้ขจัดคราบเขม่าและตะกั่ว













การแก้ไขปัญหาสนิมในลำกล้อง
สนิมภายในลำกล้อง ถ้าเกิดมีขึ้น...คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ทำได้แต่เพียง…ต้องหยุดมัน !!! โดยใช้น้ำยาล้างลำกล้องปืนโดยตรง ยี่ห้อ เบิร์ชวูดเคซีย์ ( ัBirchwood casey : Bore scrubber ) หรือ ยี่ห้อ ฮ็อปส์ เบอร์ 9 ก็ได้ ใช้คู่กับแปรงลวดทองเหลือง( ล้างปืน ) ขัดจนกว่าสนิมขุมจะหมดไป ขัดเสร็จเคลือบด้วยน้ำยากันสนิมทั่วไป เว้นไว้ซักอาทิตย์ ค่อยทำใหม่ จะสามารถหยุดสนิมขุมได้....... สนิมขุมถ้าเกิดที่ตรงโคนลำกล้อง ตรงที่ลูกวิ่งเข้า ถ้าสนิมกินมากๆ ถ้านำมาใช้งาน..อาจเกิดปัญหาลำกล้องแตกบวมได้ ในกรณีนี้ ควรเปลี่ยนลำกล้องใหม่ แต่ถ้าสนิมขุมเกิดตรงปลายลำกล้อง ไม่มีอันตรายใดๆ ขัดสนิมออกแล้ว ก็ใช้งานได้ตามปกติ ที่เคยเห็นมา ลำกล้องปืน 11 มม. ของปืนยี่ห้อ สตาร์ และลาม่า จะเกิดสนิมมากที่สุด ลำกล้องปืนโคลท์ ขนาด 11 มม. ของทหารตั้งแต่ ปี 1975 เป็นต้นมา ลำกล้องภายในจะชุบฮาร์ดโครม จึงมีความทนทานต่อทุกสภาวะ....ในปืนพาณิชย์ โดยทั่วๆไป ไม่ได้ชุบฮาร์ดโครมด้านใน การดูแลน้อยกว่าที่ควร……สนิมขุมย่อมมาเยือนได้เสมอ

สุดท้ายถ้าท่านเป็นสุจริตชนแต่ขี้เกียจที่จะติดต่อกับระบบข้าราชการก็คุยกับร้านขายปืนไดครับ จัดการเรื่องที่ถูกกฏหมายได้ทุกเรื่อง


Create Date : 06 กรกฎาคม 2550
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 1:48:55 น. 1 comments
Counter : 1568 Pageviews.

 
ได้ความรู้มิใช่น้อย...

แต่ขอถามอีกนิดนะค่ะ ในกรณีที่จะได้รับมรดกเป็นปืนนี่ ต้องทำยังไง หรือว่าสามารถไปหาอ่านได้จ้ากที่ไหนบ้างค่ะ

ขอบคุณค่า


โดย: Jolly Joey วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:53:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ouiaa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ouiaa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.