I ♥ U T D
 
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
9 เมษายน 2553

ครองใจคน” หลากหลายเหตุผลที่คนไทยรัก “ในหลวง”(1)

ครองใจคน” หลากหลายเหตุผลที่คนไทยรัก “ในหลวง”(1)



Photobucket


ครองใจคน
หลากเหตุผลที่คนไทยรัก ในหลวง


“….
ผมเคยอยู่มาแล้วหลายแผ่นดิน
แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวแผ่นดินใดที่คนทั้งเมืองเขาเป็นเจ้าเข้า
เจ้าของ ให้ความเคารพบูชาอย่างสนิทสนมอย่างทุกวันนี้…
พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลก่อน ๆ ทรงครองแผ่นดิน
แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลนี้ทรง “ครองใจคน..”


หม่อมราชวงศ์คึก
ฤทธิ์ ปราโมช





“เดิมพันของ
เรานั้นสูง”




ครั้งหนึ่ง เมื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
กราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “เคยทรงเหนื่อย
ทรงท้อบ้างหรือไม่” ครั้งนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสตอบว่า
ความ จริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย
แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน
เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ


ข้อมูลจาก ไทยรัฐ
ฉบัย 5 ธ.ค.32 



“ราษฎร
ยังอยู่ได้”


ปีพุทธศักราช 2513 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์
ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไป เยี่ยมราษฎรในตำบลหนึ่งของอำเภอเมืองพัทลุง
อันเป็นแหล่งที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปฏิบัติการรุนแรงที่สุดในภาคใต้
เวลานั้น
ด้วยความห่วงใยอย่างยิ่งล้น
ทางกระทรวงมหาดไทยได้กราบบังคมทูลขอให้ทรงรอให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่เป็น
อยู่เสียก่อน แต่คำตอบที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับก็คือ
ราษฎรเขาเสี่ยง ภัยยิ่งกว่าเราหลายเท่า
เพราะเขาต้องกินอยู่ที่นั่นเขายังอยู่ได้
แล้วเราจะขลาดแม้แต่จะไปเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของเขาเชียวหรือ… คนเราจะอยู่สุขสบายแต่คนเดียวไม่ได้
ถ้าคนที่อยู่ล้อมรอบมีความทุกข์ยาก ควรต้องแบ่งเบาความทุกข์ยากของเขาบ้าง
ตามกำลังและความสามารถเท่าที่จะทำได้!


ข้อมูลจากคำอภิปราย
เรื่อง “พระบิดาประชาชน”



“ดอกไม้
จากหัวใจ”



ที่นครพนม
บนเส้นทางรับเสด็จตรงสามแยกชยางกูร-เรณูนคร บายวันที่ 13 พ.ย. 2498 อาณัติ
บุนนาค หัวหน้าส่วนช่างภาพประจำพระองค์
ได้บันทึกภาพในวินาทีสำคัญที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งของประเทศ ภาพที่พูดได้มากกว่าคำพูดหนึ่งล้านคำ






วันนั้น หลังจากทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเสร็จสิ้นในช่วงเช้าแล้ว ทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จฯ
โดยรถยนต์พระที่นั่งกลับไปประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
ราษฎรที่รู้ข่าวก็พากันอุ้มลูก
จูงหลานหอบกันมารับเสด็จที่ริมถนนอย่างเนืองแน่น ดังเช่นครอบครัว
จันท์นิตย์ ที่ลูกหลายช่วยกันนำ แม่ตุ้ม จันทนิตย์ วัย 102 ปี ไปรอรับเสด็จ
ณ จุดรับเสด็จห่างจากบ้าน 700 เมตร
โดยลูกหลานได้จัดหาดอกบัวสายสีชมพูให้แม่เฒ่าจำนวน 3 ดอก
และพาออกไปรอที่แถวหน้าสุดเพื่อให้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่สุด


เปลวแดดร้อนแรงตั้งแต่เช้าจนสาย เที่ยงจนบ่าย
แผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจรักภักดีของหญิงชรายังเบิกบาน

เมื่อเสด็จฯ มาถึงตรงหน้า แม่
เฒ่าได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกนั้นขึ้นจบเหนือศีรษะแสดงความจงรักภักดี
อย่างสุดซึ้ง พระเจ้าแผ่นดินทรงโน้มพระองค์อย่างต่ำที่สุด
จนพระพักตร์แนบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า

ทรงแย้มพระสรวลอย่างเอ็นดู
พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของเกษตรกรชราชาวอีสานอยางอ่อนโยน


เป็นคำบรรยายเหมือนไม่จำเป็น
สำหรับภาพที่ไม่จำเป็นต้องบรรยาย ไม่มีใครรู้ว่าทรงกระซิบคำใดกับแม่เฒ่า
แต่แน่นอนว่าแม่เฒ่าไม่มีวันลืม


เช่น
เดียวกับที่ในหลวงไม่ทรงลืมราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนวันนั้น
หลานและเหลนของแม่เฒ่าเล่าว่า “หลังจากเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว
ทางสำนักพระราชวังได้ส่งภาพรับเสด็จของแม่เฒ่าตุ้ม
พร้อมทั้งพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานผ่านมาทางอำเภอพระธาตุพนมให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก” พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้
อาจมีส่วนชุบชูชีวิตให้แม่เฒ่ายืนยาวขึ้นอีกด้วยความสุขต่อมาอีกถึงสามปี
เต็ม ๆ แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ราษฎรผู้โชคดีที่สุดคนหนึ่งในรัชกาลที่ 9
สิ้นอายุขัยอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ 105 ปี


ข้อมูลจาก
“แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์” ภาคพิเศษโดย คุณหญิงศรีนาถ สุริยะ วารสารไทย



“เขา
เดินมาเป็นวัน ๆ”


… มีอยู่ครั้งนึง ข้าพเจ้าอายุ 18 ปี
ได้ตามเสด็จ…ตอนนั้นเป็นช่วงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จฯ
เยี่ยมราษฎรทุกจังหวัดและอำเภอใหญ่ๆ ก็เสด็จฯ ประมาณ 9 โมงเช้า
เสด็จออกทรงเยี่ยมราษฎรมาเรื่อยๆ ทีนี้ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่า แหมนานเหลือเกิน
ตอนนั้นยังไม่กางร่ม ตอนนั้นยังไม่ค่อยกลัวแดด ไม่ใส่หมวก
ก็รู้สึกแดดเปรี้ยง หนังเท้านี้รู้สึกไหม้เชียว ก็เดินเข้าไปกระซิบท่านว่า
พอหรือยัง ก็โดนกริ้ว


นี่เห็นไหมราษฎรเขา
เดินมาเป็นวัน ๆ เพื่อมาดูเราแม้แต่นิดเดียว แต่นี่เรายืนอยู่ไม่เท่าไรล่ะ
ตอนนี้ทนไม่ไหวเสียแล้ว..


พระราชดำรัสสมเด็จ
พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ วันที่ 11 ส.ค. 2534



“ต่อ
ไปจะมีน้ำ”


บทความ “น้ำทิพย์สาดเป็นสายพรายพลิ้วทิวงาม
ทั่วเขตคามชื่นธารา” เขียนโดย มนูญ มุกข์ประดิษฐ์
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 5 ธ.ค.2528 ได้เล่าให้ผู้อ่านชาวไทยได้ประจักษ์ถึงเรื่องอัศจรรย์
ของ
“ในหลวง”
กับ “น้ำ”
ที่เกิดขึ้นในคำวันหนึ่งของเดือน ก.พ.2528


ด้วย
ความทุกข์ที่เปี่ยมล้นใจอันเนื่องมาจากต้องเผชิญความแห้งแล้งอย่างหนัก
หญิงชราคนนึ่งที่มาเข้าเฝ้าฯ
รับเสด็จได้คลานเข้ามากอดพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กราบบังคมทูลด้วยน้ำตาอาบแก้ม ขอพระราชทานน้ำ
พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบว่า
ยายไม่ต้องห่วงแล้วนะ ต่อไปนี้จะมีน้ำ
เราเอาน้ำมาให้
แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระดำเนินกลับไปยังรถ
พระที่นั่งซึ่งจอด ห่างออกไปราว 5 เมตร ปรากฎว่าท่ามกลางอากาศที่ร้อนแล้ง จู่ๆ
ก็เกิดฝนตกลงมาเป็นครั้งแรกในรอบปี

ทำให้ผู้ตามเสด็จและราษฎรในที่นั้นถึงกับงุนงงไปตามๆ กัน



“เก็บ
ร่ม”



การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง
แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง
ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้อที่จะอดทนรอรับเสด็จให้ถึงที่สุด
แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ไม่มีใครยอมกลับบ้าน


ร้อยเอกศรีรัตน์ หริรักษ์ เล่าไว้ในบทความ
“พระบารมีปกเกล้าฯ ที่อำเภอท่ายาง” ตีพิมพ์ในหนังสือ “72
พรรษาราชาธิราชเจ้านักรัฐศาสตร์” ว่า ครั้งหนึ่งที่โครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง
ปรากฎว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก
ราษฎรและข้าราชการที่มาเข้าแถวรอรับเสด็จต่างเปียกปอนกันหมด

แต่ก็ยังตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่อย่างนั้น


เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงมาจาก
เฮลิคอปเตอร์ นายตำรวจราชองค์รักษ์ที่ตามเสด็จได้เข้าไปกางร่มถวาย
ทรงทอดพระเนตรเห็นบรรดาข้าราชการและราษฎรที่มายืนตั้งแถวรอรับเสด็จอยู่ต่าง
ก็เปียกฝนโดยทั่วกัน “จึงมีรับสั่งให้นายตำรวจราชอครักษ์เก็บร่ม
แล้วทรงพระดำเนินเยี่ยมข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเสด็จ
โดยทรงเปียกฝนเช่นเดียวกับข้าราชการ
และราษฎรทั้งหลายที่ยืนรอรับเสด็จในขณะนั้น”





เครดิต :: //www.chaoprayanews.com



ขอทรงพระเจริญเพคะ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใน จะขอเกิดเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป  แม้ต้องสิ้นชีิวิตเพื่อปกป้องพระองค์ ข้าพเจ้าก็ให้พระองค์ได้






Free TextEditor




 

Create Date : 09 เมษายน 2553
0 comments
Last Update : 9 เมษายน 2553 18:07:08 น.
Counter : 818 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


2faiutd
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add 2faiutd's blog to your web]