So many projects, so little time.
Group Blog
 
All blogs
 

เดี้ยงอีกแล้วเจ้าข้า...

ช่วงนี้ ต้องใช้ไม้เท้าอีกแล้ว เจ็บเท้ามาก เดินทิ้งน้ำหนักลงไปไม่ได้เหมือนที่เคยเป็น แต่หนนี้เปลี่ยนมาเจ็บที่ส้นเท้าแทน

ครั้งนี้ไม่นิ่งนอนใจ เพราะที่เคยรอให้หายเอง เมื่อผ่านไป มันก็จะเจ็บน้อยลง แต่คราวนี้ ตกเย็นมาเจ็บมากขึ้นแตะเท้าไม่ได้เลย แล้วพอเดินเขย่งๆ น่องที่เมื่อยอยู่แทบทุกวัน มาหลายปี ก็เมื่อยขึ้นจนเข้าขั้นเจ็บค่ะ

วันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมอ หมอที่ตรวจแนะนำให้ไปพอหมดด้านกระดูก ชื่อคุณหมอวิเชียร หมอซักถามอาการแล้วตั้งประเด็นว่าไม่น่าจะเป็นรองช้ำ เพราะอาการไม่ได้เกิดตั้งแต่ตื่นนอน ของฉันเป็นตอนนั่งทำงานอยู่ แล้วพอลุกปุ๊บ ก็เจ็บเลย

หมอตรวจโดยการจับเส้น หาจุดที่เจ็บ แบบเดียวกับหมอนวดจับเส้นเลย ฉันรู้สึกเหมือนไฟช็อตแล่นแปล๊บๆ ไปตามขา ตามเท้า คุณหมอจึงสรุปว่าเป็นเส้นประสาทอักเสบ ทั้งเส้นที่น่องสองข้าง และเส้นที่ส้นเท้า ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

ต้องรักษาโดยการกินยาแก้อักเสบ และวิตามิน B รวม ( 1, 6, 12 ) และแช่ขาทั้งสองในน้ำอุ่นจัดๆ วันละหนสองหน ถ้าเมื่อยอยู่ก็ให้ประคบน้ำอุ่น ไม่ต้องนวดไม่ต้องทายา

ฉันถามถึงสาเหตุ แล้วก็ได้อึ้ง คงเหมือนเวลาเจอหมอดูที่ทายอะไรแม่นๆ เพราะหมอบอกว่า สาเหตุที่น่องเมื่อยนั้น เป็นเพราะเดินเร็ว ก้าวขายาวๆทำให้น่องตึงตลอด แล้วก็ใส่รองเท้าส้นเตี้ย..ใช่เลย ฉันใส่รองเท้าส้นแบนมาตลอดเพราะคิดว่าจะทำให้ขาหายเมื่อย ซึ่งไม่เคยหายเลย

แล้วฉันก็เป็นคนเดินเร็วจริงๆด้วย ไม่ได้เดินเร็วแบบนักกีฬาแบบที่ซอยเท้ายิกๆ แต่ชอบก้าวขายาวๆสับเท้าฉับๆ แม่นจริงๆค่ะหมอ..

ส่วนที่ส้นเท้า หมอบอกว่าเป็นเพราะนั่งงอเท้านาน เช่นนั่งพับเพียบ หรือขัดสมาธิ คราวนี้ฉันเถียงล่ะ เพราะแทบไม่ได้นั่งท่านั้นเลย คุณหมอก็บอกให้กลับมาสังเกตดูว่าในชีวิตประจำวัน มีท่าอะไรที่ทำให้เท้าบิดอยู่เสมอๆหรือเปล่า แล้วฉันก็ปิ๊ง เพราะท่านั่งตัวเองที่นั่งมาตั้งแต่เด็กคือ นั่งเก้าอี้แล้วยกขาซ้ายขึ้นมาพับไว้ นั่งแบบนี้ตอนทานข้าว นั่งทำงาน หรือแม้แต่ขับรถ ยังยกขาซ้ายมาเลย..นั่นล่ะ เป็นสาเหตุ..แม่นเหมือนตาเห็นเลยค่ะคุณหมอ

เมื่อมานอนนิ่งๆอยู่นเตียง จึงได้คิดว่า สิ่งที่ทำบ่อยๆ เป็นอาจิณกรรม ย่อมส่งผลกับเราจริงๆด้วย เพียงแต่เราไม่รู้หรอก ว่าผลจะออกมาในรูปใด นี่เป็นตัวอย่างเพียงนิดเดียว ที่ส่งผลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

แต่ฉันซึ้งถึงใจ และตั้งใจว่า ในย่างก้าวต่อๆไป ฉันต้องนั่ง ยืน เดิน นอน อย่างมีสติ รู้เนื้อรู้ตัวตลอดเวลา ก่อนที่เส้นประสาทส่วนอื่นๆจะมาสอนธรรมะให้อีก แล้วขณะที่พิมพ์อยู่นี่ ก็ได้สติ เหยียดขาที่พับไว้ออกมา อื๊ด..ด...ปวดจริงๆ




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2552    
Last Update : 22 สิงหาคม 2552 13:39:20 น.
Counter : 438 Pageviews.  

งานลอยกระทง..ที่ผ่านมา

วันสงกรานต์แท้ๆ..แต่ฉันนึกถึงวันลอยกระทงครั้งหนึ่งที่ผ่านมา

"ขอโทษครับ ไม่ทราบคุณอาท่านไหนคืออากิ๊บครับ"

นี่เป็นประโยคแรกที่ได้ยินจากหนุ่มน้อย ที่ตัวไม่น้อย เพราะรูปร่างเหมือน แจ๊คแฟนฉัน แต่หน้าหล่อ...เหมือนโก๊ะตี๋ ที่มาพร้อมรอยยิ้มสุภาพสดใส

ตอนนั้นทั้งโต๊ะก็งงๆอึ้งๆ และถึงแม้จะยังไม่หายงง ทุกคนก็สามัคคีกันชี้นิ้วมาที่ฉัน แบบแอบโล่งใจที่เด็กนั่นไม่ได้มาถามหาพวกเค้า

หลังจากที่ได้รู้ว่าใครคืออากิ๊บ พ่อหนุ่มก็สาธยายมาเป็นชุดแทบไม่เว้นหายใจ เหมือนกับมีใครคอยจับเวลา ฉันชักสงสัยว่าร้านอาหารที่พวกเราไปทานข้าวกันเมื่อคืนวันลอยกระทงนั้น เค้าคิดเวลาโฆษณาสินค้าเป็นวินาทีเลยหรือไงนะ

น่าเสียดายที่ฟังแทบไม่ทันเลยจำคำเด็ดๆไม่ได้ แต่รู้ว่ามีมุกแพรวพราวตลอดสปอตเกือบหนึ่งนาทีนั้น, Copy Writer ทำการบ้านมาดีจริงๆ

คำโฆษณานั้นสรุปได้ว่า หนุ่มน้อยอยู่อยุธยา ยายทำตะโก้ให้นั่งรถไฟมาขาย เขามั่นใจว่าขนมของยาย อร่อย เลยจะมาท้าให้อากิ๊บชิม หลังจากที่ทานอาหาร และดื่มไวน์เสร็จแล้ว..แน่ะ ช่างสังเกตเสียด้วย

ถ้าชิมแล้วว่าไม่อร่อยเข้มข้นหวานมัน และหอม จะไม่คิดเงินตะโก้กล่องนั้น...แต่ถ้าชอบก็ซื้อกล่องนั้นไปเลย เพียงกล่องละ 20 บาทเท่านั้น

ด้วยความกลัวว่าหนุ่มอ้วนดำจะหมดแรงเสียก่อน ฉันเลยบอกกับเค้า ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่าชื่อ เอก

"โอเค เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เอกเอามาให้ชิมละกัน"

"ครับ ผมมั่นใจว่าอากิ๊บจะไม่ซื้อกล่องเดียว จะต้องมีกล่องที่สอง ที่สามแน่นอน"

"แหม มั่นใจงั้นเชียว ? "

" แต่อากิ๊บต้องหันหน้าไปทางซ้ายก่อนชิมนะครับ"

น่าน...หยอดมุกมาอีกละ คนไม่อายที่ไม่รู้อย่างฉันเลยไม่ต้องคิดนาน ถามไปเลยว่า
"ทำไมล่ะ"

"ก็ปากจะได้ตรงกับใจไงครับ.."




ค่ะ ตะโก้อร่อยจริงสมคำโฆษณา พอเอกมารับออเดอร์ เราเลยรุมสัมภาษณ์เอกกันยกใหญ่ เอกเลยทิ้งท้ายด้วยเสียงพูดที่ชัดเจนขึ้น ทั้งคำควบกล้ำไม่มีตกหล่นว่า

"ถ้าสนใจชีวิตผม เดือนหน้า วันที่...เวลา...เชิญชมรายการ คนเก่ง หัวใจแกร่ง นะครับ เพราะเค้ามาถ่ายเรื่องของผม จากการที่ออกรายการนี้ ทำให้ผมมีทุนการศึกษาเรียนต่อได้ถึงระดับปริญญาตรีเลยครับ"


เราสั่งตะโก้กันหลายกล่อง พอเอกเอาของมาให้ พี่สาวที่ร่วมโต๊ะรำพึงว่า นี่ถ้าโต๊ะไม่ได้จองชื่อกิ๊บแต่เป็นชื่อเค้า คงได้เป็นอากับเขาบ้าง...

เอกเลยแจกยิ้มครั้งล่าสุด
" ถึงอายุจะป้า แต่หน้ายังไหวครับผม..."


เมื่อเอกก็เดินไปพร้อมแบงค์ร้อยในมือ พวกเราก็ลุกบ้าง เพื่อเอากระทงไปลอย

แต่เราก็ยังได้ยินเสียงเอกแว่วมาเบาๆ พร้อมเสียงหัวเราะจากคนที่นั่งโต๊ะถัดๆไป




 

Create Date : 14 เมษายน 2552    
Last Update : 14 เมษายน 2552 23:47:10 น.
Counter : 372 Pageviews.  

สงกรานต์ปี 52..วันต่อมา

๑๔ เมษายน ๒๕๕๒

ตั้งใจว่าจะกลับบ้านช่วงบ่ายๆวันนี้ เลยออกรถไปเล่นน้ำตั้งแต่ตอนสาย แต่แล้วก็ต้องกลับบ้าน หลังจากออกไปได้แค่ครึ่งชั่วโมง เพราะยังไม่มีใครเค้าเล่นกัน

ด้วยตระหนักดีว่า เมื่อวาน เป็นการขึ้นรถไปเล่นน้ำสงกรานต์ครั้งแรก และวันนี้ คงเป็นวันสุดท้าย เพราะปีต่อๆไป โอกาสที่คุณพ่อจะทำงานวันหยุดแบบนี้ แล้วปล่อยให้เราแม่ลูกมาเล่นน้ำ คงจะยากแล้วล่ะ

ฉันเลยตัดสินใจ ขอเล่นน้ำอีกรอบในตอนบ่าย กลับบ้านเย็นหน่อยก็ไม่เป็นไร คนยังไม่กลับกันมากหรอก ก็วันหยุดยังต่อไปอีกตั้งสองวันนี่นา...

วันนี้ พี่ชาย ผู้ทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม พาไปเล่นน้ำที่ถนนเซ็นเตอร์พอยต์แห่งสระบุรี ตลอดเส้นทาง ๔-๕ กิโล เต็มไปด้วย กองทัพข้างทาง และรถสงกรานต์ (เป็นคำเรียกรถกระบะที่บรรทุกน้ำและคน เหมือนรถเรา)

ฉันตื่นตาตื่นใจมาก ตลอดสองข้างทาง และเต็มถนน มีแต่เสียงเพลง เสียงน้ำสาด และเสียงหัวเราะ

นี่ถ้าไม่ได้มากับลูก ฉันคงจะออกท่าออกทางโยกย้ายไปกับเค้าด้วยแล้ว แต่นี่เกรงใจลูก..ก็ขนาดนี้ ลูกยังชอบว่าตลอด ว่าแม่ทำตัวเหมือนแม่คนอื่นมั่งได้มั้ย...

รถมากันเต็มถนน ค่อยๆคืบไปได้ทีละนิด..ละนิด เปิดโอกาสให้เราสาดน้ำเล่นอย่างเต็มที่ แต่บางที เจอน้ำเย็นๆ สาดมาแรงๆ ก็เจ็บใช่ย่อย แต่ด้วยความสนุกมีมากกว่า แป๊บเดียวก็หายเจ็บ

แม้รถจะติดยาวแค่ไหน ก็ไม่มีใครหงุดหงิด สาดน้ำใส่กันอย่างกับว่าได้น้ำมาฟรีๆ..เออ ก็ฟรีจริงๆนี่จ๊ะ รวมแล้วทั้งหมดที่เห็น ก็มีแต่เรื่องรื่นเริง และน่ายินดี ที่ไม่เจอเรื่องร้ายแรง อย่างอุบัติเหตุ หรือ เมาจนขาดสติ

เคยแต่เห็นการเล่นสงกรานต์ในทีวี พอได้มาสัมผัสบรรยากาศจริงๆแบบนี้ แสนจะสนุก แต่ขนาดนี้ พี่ชายและพี่สะใภ้ยังบอกว่าคนน้อยนะ...ปีนี้หงอยกว่าทุกปีเลยล่ะ..ก็แน่ล่ะนะ บรรยากาศมันไม่เอื้อให้คนมาฮาเฮกันเต็มที่เหมือนเคย

แต่วันนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย และการชุมนุมได้ยุติลงไป คนจึงออกมาเล่นน้ำกันมากกว่าเมื่อวาน

คนที่ออกมาเล่นสงกรานต์ มากที่สุดก็เป็นวัยรุ่น แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่มีเด็กๆ ก็จะมีคนร่วมรุ่นกับฉันออกมาเล่นด้วย ฉันเลยไม่รู้สึกว่าแก่เกินไป เหมือนกับที่โดนเพื่อนตะโกนล้อ เมื่อทักทายเธอตอนรถผ่าน

แต่เอาเถอะ ไงๆวันนี้ก็ขอปล่อยแก่สักวันน่า

เพิ่งเห็นว่า วัยรุ่นนี่เค้าแต่งตัวเต็มที่กันน่าดู แม้จะรู้ว่าจะต้องชุ่มโชก ก็ไม่ยั่น เสื้อผ้า หน้าผม หมวก แว่นตา ใส่กันมาเต็มที่ เป็นการสร้างสีสันที่น่าดู

และจากการสังเกตของฉัน ก็พบว่า เด็กผู้ชาย ทำผมสีทองเยอะมาก เด็กอายุเริ่มๆวัยทีน ยังตัดผมทรงนักเรียนอยู่เลย ก็ย้อมผมสีทองกันหมดแล้ว ประมาณร้อยละ ๗๐ ของผู้ชายที่เห็น มีผมสีต่างๆที่ไม่ใช่สีดำ !

ผู้หญิงวัยรุ่น กลับมีผมสีดำมากกว่าเสียอีก หรือถ้าย้อม ก็จะย้อมสีน้ำตาล ไม่ทองจ๋าแบบผมผู้ชาย..ก็แปลกแฮะ

แล้วการเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้ายก็จบลง..หวังว่าจะเป็นแค่วันสุดท้ายของปีนี้ ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของฉัน

กลับไปบ้านแม่ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของ ให้เด็กๆล่ำลาคุณยาย จากมาด้วยความสุข

ขับรถผ่านสี่แยก เมื่อมองเข้าไปถนนเส้นเดิมอีกครั้ง ย้อนแสงยามเย็น เห็นเงารถที่มีคนเต็ม ยังต่อกันยาวเหยียด น้ำที่สาดใส่กัน หรือที่ถูกฉีดจากสายยางเป็นสายยาว สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง รับกับเสาไฟรูปหงส์สีทองตลอดสองข้างทาง สวยงามเหลือเกิน

เป็นภาพสุดท้ายที่ปิดฉากความสุขอย่างสมบูรณ์




 

Create Date : 14 เมษายน 2552    
Last Update : 14 เมษายน 2552 20:54:40 น.
Counter : 325 Pageviews.  

สงกรานต์ปี 52

13 เมษายน 2552

ฉันเติบโตมาในจังหวัดสระบุรีแท้ๆ แต่ไม่เคยได้เล่นน้ำสงกรานต์เต็มที่แบบสระบุรีสักที

สมัยเด็กๆ ได้แต่ตั้งป้อมหน้าบ้าน เอาถังใส่น้ำมาตั้ง หรือไม่ก็ลากเอาสายยางมาฉีดใส่คนที่ผ่านไปผ่านมา

เห็นคนที่ขึ้นรถกระบะพร้อมถังใส่น้ำ ออกไปเย้วๆกันตามท้องถนนแล้วก็อยากออกไปแบบนั้นบ้าง แต่พ่อไม่ยอม

พอโตมาเกินกว่าที่พ่อจะห่วง และหวง ก็ไม่มีโอกาสเล่นน้ำสงกรานต์แบบที่ใฝ่ฝันซักที

ในที่สุด ปีนี้ ความฝันของฉันก็เป็นจริง

บ่ายวันที่ 13 ฉันกับลูกๆ ปีนขึ้นท้ายรถกระบะที่มีพี่ชายเป็นคนขับ หัวใจเต้นตึกตักจากความตื่นเต้น ฉันรู้สึกเหมือนลดอายุตัวเองลงไปไม่ต่างจากลูกชายและลูกสาวเลย

หลานชายวัย 7 ขวบ ถูกยกให้เป็นหัวหน้าทีม เนื่องจากเป็นเจ้าถิ่นและเป็นผู้เดียวในขณะนั้น ที่มีประสพการณ์ ในการเล่นน้ำแบบนี้

ขับรถออกจากบ้าน ไปเอาถังน้ำที่บ้านเพื่อน พร้อมรับสมาชิกพ่อ-ลูก มาร่วมขบวนการ เราตระเตรียมอาวุธครบมือ ..คือปืนฉีดน้ำ และขัน

รถขับเลยไปรับน้ำจากสำนักงานประปาสาขาใกล้บ้าน ที่มีน้ำแจกให้อย่างทั่วถึง เมื่อเติมน้ำเต็มถังขนาด 400 ลิตร เรียบร้อย เราก็พร้อมตะลุยสู้ศึก และถึงเวลาเอาคืน หลังจากโดนโจมตีมาตลอด เมื่อตอนที่วิ่งรถเปล่ามา

เมื่อรถเราขับผ่านจุดที่มีคนเล่นน้ำ รถจะชลอให้คนบนรถกับคนข้างล่างเปิดศึกสาดน้ำใส่กัน ถ้าเจอกลุ่มที่สาดน้ำเย็น จะต้องแสบแก้วหูเพราะเด็กๆบนรถกรีดร้องให้คนขับรีบขับออกไป

ระหว่างขับไปตามถนน ก็จะแวะรับเด็กบ้านนู้นบ้านนี้มาเรื่อยๆ มีคุณพ่อขึ้นมาอีกคน หนุ่มๆสองคนจึงทำหน้าที่คุมท้าย กันคนอื่นปีนขึ้นมา และกันเด็กร่วงจากรถไปในตัว

เมื่อมีคนคุมท้าย ฉันเลยทำตัวกลมกลืนไปกับแก๊งเด็ก สาดน้ำสู้กับคนข้างล่าง และสาดใส่รถที่สวนมา รวมทั้งคอยหลบมือยาวๆที่ยื่นมาป้ายแป้ง แต่ก็มีบางครั้งที่ยื่นแก้มให้แต่โดยดี ถ้ามีเสียงนุ่มๆบอกว่า ขอทาแป้งหน่อยคร้าบ..


ก็แหม..จนปูนนี้ ยังมีหนุ่มๆขอสัมผัสแก้ม น่ายินดีมั้ยล่ะ..

แล้วเราก็ขับผ่านขบวนแห่นางสงกรานต์ ที่จะเข้าประกวด ทั้งตัวนางสงกรานต์ และการตกแต่งรถ แต่ละขบวนก็จะมีสาวงามถือป้ายนำ ตามด้วยนางรำ วงกลองยาว บางขบวนก็แต่งตัวแฟนซี รวมๆกันแล้ว ยาวหลายกิโลทีเดียว หลายขบวน จะมีคุณตาคุณยาย ร่วมมาด้วย เห็นได้ว่ามีการให้ความสำคัญกับวันผู้สูงอายุ ที่พ่วงมากับเทศกาลวันสงกรานต์มากขึ้น

ภาพขบวนแห่ที่สดใสสวยงามนี้ ประทับในความทรงจำของพวกเรา ทำให้ความสุขในวันสงกรานต์ปีนี้ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เมื่อเล่นน้ำจนหมดถัง ก็ไปที่สนง.ประปาแห่งใหญ่ แล้วเราก็ได้ตื่นตากับวิธีเติมน้ำของที่นี่

ท่อขนาดสี่นิ้ว สูงจากพื้นราวสองเมตรครึ่ง เป็นแหล่งปล่อยน้ำ รถจะต่อแถวกันเข้าไปรับน้ำ โดยขับไปรอใต้ท่อนั้น ในเวลาไม่กี่นาที น้ำก็เต็มถัง ช่วงที่ขับเข้าและออก น้ำแรงๆที่ถูกปล่อยออกมาตลอดเวลา ก็จะรดใส่พวกเราอย่างชุ่มโชก สนุกสนานกันเป็นที่สุด จนอยากให้น้ำหมดเร็ว จะได้เข้าไปต่อแถวรับน้ำอีกครั้ง

รถยังขับวนต่อไปรอบๆเมือง ซอกซอนเข้าออกถนนนั้น ถนนนี้ ทุกทางที่ผ่าน จะเห็นรอยยิ้ม เสียงกรี๊ด เมื่อเจอน้ำเย็น เสียงหัวเราะท้าทาย เมื่อน้ำสาดไปไม่ถึง เสียงตะโกน สุขสันต์วันสงกรานต์ และสวัสดีปีใหม่ ดังอย่ตลอดเวลา

หลายจุดจะมีเครื่องเสียงเปิดเพลงดังลั่น ที่วันนี้คงไม่มีใครว่ากัน คนเมาบางคนออกมาเต้นย็อกๆแย็กๆ แต่เห็นคนเมา จำนวนไม่มากอย่างที่คาด..นับว่าน่ายินดี ส่วนวัยรุ่นที่ไม่เมา เต้นได้เข้าท่ากว่า มีทั้งที่ดูเพลิน และขำกลิ้ง

จบวันแรกอย่างแสนสดชื่น..ชุ่มฉ่ำ พร้อมตัวดำปี๋





 

Create Date : 14 เมษายน 2552    
Last Update : 14 เมษายน 2552 20:00:34 น.
Counter : 361 Pageviews.  

New Hobbies

ตั้งใจไว้แล้วน้า...

ว่าถ้าของเก่ายังทำไม่เสร็จ จะไม่ยอมเริ่มอะไรใหม่ๆอีก

แต่ก็หลวมตัวจนได้

ไปงาน Pinn มา เพราะลงเรียนWool Painting เอาไว้ เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น ยากค่ะ แต่ก็ทึ่งคุณครูฝน..เก่งมาก สร้างภาพสวยๆจากใยบางเบาได้งามมากๆเลย

แต่ตามประสาคอคันทรี่ เราจึงคิดจะทำให้เป็นรูปแบบใหม่สไตล์เราเอง..อิอิ

แล้วไม่ใช่แค่นั้น วันอาทิตย์ยังไปเรียนเพิ่มอีก เพราะไปตะลึงตรึงตาอยู่กับกองขนมสารพัน ทำจากขนแกะนี่ล่ะค่ะ เอามาสร้างเป็นรูปขนมเค้กสารพัดแบบ...น้ำลายหก คนชอบเค้กอย่างข้าพเจ้าจึงคันไม้คันมือยิ่งนัก แม้มีเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงตามที่กำหนด ก็ขอเรียนค่ะ รู้เทคนิคนิดหน่อยแล้วมาฝึกทำต่อเองที่บ้าน..เป็นกิจกรรมที่มันมือมากจริงๆ เพราะต้องเอาเข็มจิ้มๆๆๆ ให้ใยขนแกะ มันติดกันเป็นก้อน

รีบบึ่งกลับมาบ้านที่รังสิต เพื่อมารับลูกไปเรียนภ.อังกฤษ ที่คิงส์คอลเลจ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ..โรงเรียนเพิ่งย้ายมา เลยต้องเผื่อเวลาหลงทางไว้ด้วย

ออกจากเซ็นทรัลเวิร์ด เจอรถติดสาหัสเลย หลุดมาขึ้นโทลล์เวย์ได้ ก็เลยเหยียบ 140 เร็วที่สุดในชีวิต โชคดีพอถึงแถวที่มีตำรวจ รถที่สวนมาเปิดไฟหน้าเตือน เลยชะลอความเร็วได้ทัน ขอบคุณนะคะ




 

Create Date : 08 มีนาคม 2552    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 21:43:15 น.
Counter : 435 Pageviews.  

1  2  

WoodCotton
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add WoodCotton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.