ผมเชื่อในความมีอยู่ของพระเจ้าผีเหมือนกับบรรพบุรุษมนุษย์ที่ล่วงลับไปนานมากมากแล้ว แต่ไม่เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าผีสอนเพราะไม่เหมาะสำหรับนำไปใช้ในชีวิตจริง แต่เหมาะสำหรับอ่านเล่นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
 
 

พระเจ้าผีผู้มีบาปในสมัยพุทธกาล๑๘

ร้านตาต้า ตลาดท่าพระ


84000.org
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

มารสังยุต
ทุติยวรรคที่ ๒
ปิณฑิกสูตรที่ ๘

[๔๖๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคาม แคว้นมคธ ฯ
             ก็สมัยนั้นแล ที่บ้านพราหมณ์ ในปัญจสาลคาม มีนักขัตฤกษ์แจกของแก่พวกเด็กๆ ครั้นรุ่งเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคามเพื่อบิณฑบาต ฯ
             ก็โดยสมัยนั้นแล พราหมณ์ผู้คฤหบดีชาวปัญจสาลคามถูกมารผู้มีบาปเข้าดลใจ ด้วยประสงค์ว่า พระสมณโคดมอย่าได้บิณฑบาตเลย ฯ
             พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคามเพื่อบิณฑบาตด้วยบาตรเปล่าอย่างใด ก็เสด็จกลับมาด้วยบาตรเปล่าอย่างนั้น ฯ
[๔๖๘] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับครั้นแล้ว จึงกล่าวกะพระผู้มีพระภาคว่า สมณะ ท่านได้บิณฑบาตบ้างไหม ฯ

             พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "แน่ะมารผู้มีบาป ท่านได้กระทำให้เราไม่ได้บิณฑบาตมิใช่หรือ ฯ"
             มารผู้มีบาปกราบทูลว่า "ถ้าอย่างนั้น ขอพระผู้มีพระภาคจงเสด็จเข้าไปสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคาม เพื่อบิณฑบาตครั้งที่สองอีกเถิด พระเจ้าข้า ข้าพระองค์จักกระทำให้พระผู้มีพระภาคได้บิณฑบาต ฯ"

[๔๖๙] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

"มารมาขัดขวางตถาคต ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญแล้ว ดูกรมารผู้มีบาป ท่านเข้าใจว่า บาปย่อมไม่ให้ผลแก่เรา ฉะนั้นหรือ พวกเราไม่มีความกังวล ย่อมอยู่เป็นสุขสบายหนอ พวกเราจักมีปีติเป็นภักษา ดุจอาภัสสรเทพ ฉะนั้น ฯ"

             ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา
พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2555   
Last Update : 16 ธันวาคม 2555 21:41:58 น.   
Counter : 2076 Pageviews.  


พระเจ้าผีผู้มีบาปในสมัยพุทธกาล๑๗

ร้านตาต้า ตลาดท่าพระ


84000.org
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

มารสังยุต
ทุติยวรรคที่ ๒
อายตนสูตรที่ ๗

[๔๖๔] ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตเมืองเวสาลี ฯ
             ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงยังภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาเกี่ยวด้วยผัสสายตนะ ๖ ฯ
             ก็ภิกษุเหล่านั้นทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ น้อมนึกมาด้วยความเต็มใจเงี่ยโสตลงสดับธรรมอยู่ ฯ
             ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปได้มีความคิดว่า พระสมณโคดมนี้แล ยังภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาเกี่ยวด้วยผัสสายตนะ ๖ และภิกษุเหล่านั้นทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ น้อมนึกมาด้วยความเต็มใจ เงี่ยโสตลงสดับธรรมอยู่ ถ้ากระไร เราพึงเข้าไปเฝ้าพระสมณโคดมถึงที่ประทับ เพื่อการกำบังตาเถิด ฯ

[๔๖๕] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับครั้นแล้ว ได้ร้องเสียงดังพิลึกน่าสะพึงกลัว ประดุจแผ่นดินจะถล่ม ในที่ใกล้พระผู้มีพระภาค ฯ
             ลำดับนั้น ภิกษุรูปหนึ่งจึงกล่าวกะภิกษุอีกรูปหนึ่งอย่างนี้ว่า ภิกษุ  ภิกษุแผ่นดินนี้เห็นจะถล่มเสียละกระมัง ฯ
             เมื่อภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคจึงตรัสกะภิกษุนั้นว่า ดูกรภิกษุ แผ่นดินนี้ย่อมไม่ถล่ม ดูกรภิกษุ นั่นมารผู้มีบาปมาแล้ว เพื่อกำบังตาพวกเธอ ฯ

[๔๖๖] ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี้เป็นมารผู้มีบาปจึงตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า

"รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ทั้งสิ้นนี้ เป็นโลกามิสอันแรงกล้า โลกหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์เหล่านี้ ส่วนสาวกของพระพุทธเจ้ามีสติก้าวล่วงโลกามิสนั้น และก้าวล่วงบ่วงมารแล้ว รุ่งเรืองอยู่ดุจพระอาทิตย์ ฉะนั้น ฯ"

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเราพระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2555   
Last Update : 15 ธันวาคม 2555 19:38:33 น.   
Counter : 1811 Pageviews.  


พระเจ้าผีผู้มีบาปในสมัยพุทธกาล๑๖

ร้านเอพีไอ หลังมอ

84000.org
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

มารสังยุต
ทุติยวรรคที่ ๒
ปัตตสูตรที่ ๖

[๔๖๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
             ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงยังภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาเกี่ยวด้วยอุปาทานขันธ์ ๕ ก็ภิกษุเหล่านั้นทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ น้อมนึกมาด้วยความเต็มใจ เงี่ยโสตลงสดับธรรมอยู่ ฯ
             ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปได้มีความคิดว่า พระสมณโคดมนี้แล ยังภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาเกี่ยวด้วยอุปาทานขันธ์ ๕ ก็ภิกษุเหล่านั้นทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ น้อมนึกมาด้วยความเต็มใจ เงี่ยโสตลงสดับธรรมอยู่ ถ้ากระไร เราพึงเข้าไปใกล้พระสมณโคดมถึงที่ประทับ เพื่อการกำบังตาเถิด ฯ
             ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุเหล่านั้นได้วางบาตรเป็นอันมากไว้ในที่กลางแจ้งฯ

[๔๖๒] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปแปลงเพศเป็นโคเดินไปยังที่บาตรเหล่านั้นวางอยู่ ฯ
ลำดับนั้น ภิกษุรูปหนึ่งจึงบอกกะภิกษุอีกรูปหนึ่งว่า ภิกษุๆ โคนั้นพึงทำบาตรทั้งหลายให้แตก ฯ
เมื่อภิกษุนั้นพูดอย่างนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุนั้นว่า

"ภิกษุนั่นมิใช่โค นั่นเป็นมารผู้มีบาป มาเพื่อกำบังตาพวกเธอ ฯ"

[๔๖๓] ครั้งนั้นแล  พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า ผู้นี้เป็นมารผู้มีบาปจึงตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า

"พระอริยสาวกย่อมเบื่อหน่ายในรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ อย่างนี้ว่า เราไม่ใช่นั่น นั่นไม่ใช่ของเรา"

แม้มารและเสนามารแสวงหาอยู่ในที่ทั้งปวง ก็ไม่พบอริยสาวก ผู้เบื่อหน่ายแล้วอย่างนี้ มีอัตภาพอันเกษมล่วงพ้นสังโยชน์ทั้งปวงแล้ว ฯ

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเราพระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2555   
Last Update : 8 ธันวาคม 2555 21:43:13 น.   
Counter : 1810 Pageviews.  


พระเจ้าผีผู้มีบาปในสมัยพุทธกาล๑๕

ร้านเอพีไอ หลังมอ

84000.org
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

มารสังยุต
ทุติยวรรคที่ ๒
มานสสูตรที่ ๕
[๔๕๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
[๔๕๙] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับครั้นแล้ว ได้กล่าวกะพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

"บ่วงใดมีใจไปได้ในอากาศ กำลังเที่ยวไป ข้าพระองค์จักคล้องพระองค์ไว้ด้วยบ่วงนั้น สมณะ ท่านไม่พ้นเรา ฯ"

[๔๖๐] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

"เราหมดความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นของรื่นรมย์ใจแล้ว แน่ะมาร เรากำจัดท่านได้แล้ว ฯ"

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเราพระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2555   
Last Update : 7 ธันวาคม 2555 20:43:02 น.   
Counter : 1797 Pageviews.  


พระเจ้าผีผู้มีบาปในสมัยพุทธกาล๑๔

ร้านเอพีไอ หลังมอ

84000.org
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

มารสังยุต
ทุติยวรรคที่ ๒
ปฏิรูปสูตรที่ ๔

[๔๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ศาลาหลังหนึ่ง ในพราหมณคามในแคว้นโกศล ฯ
             ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคแวดล้อมด้วยคฤหัสถ์บริษัทหมู่ใหญ่ทรงแสดงธรรมอยู่ ฯ
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปได้มีความคิดขึ้นว่า พระสมณโคดมนี้แวดล้อมด้วยคฤหัสถ์บริษัทหมู่ใหญ่ ทรงแสดงธรรมอยู่ ถ้ากระไรเราพึงเข้าไปใกล้พระสมณโคดมถึงที่ประทับ เพื่อการกำบังจักษุเถิด ฯ

[๔๕๖] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว จึงทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

"ท่านพร่ำสอนผู้อื่นด้วยสิ่งใด สิ่งนั้นไม่สมควรแก่ท่าน เมื่อท่านกล่าวถึงธรรมนั้น อย่าได้ข้องอยู่ในความยินดียินร้าย ฯ"

[๔๕๗] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

"พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีปรกติอนุเคราะห์ด้วยจิตอันเกื้อกูล ทรงพร่ำสอนผู้อื่นด้วยสิ่งใด ตถาคตมีจิตหลุดพ้นจากความยินดียินร้ายในสิ่งนั้นแล้ว ฯ"

ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเราพระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2555   
Last Update : 6 ธันวาคม 2555 19:54:11 น.   
Counter : 1833 Pageviews.  


1  2  3  4  

men of the day
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ศึกษาหาและสะสมความรู้ด้วยตนเองตลอดเวลาเพื่อแยกแยะของจริงและของปลอม เพื่อแยกแยะจิตดีและจิตชั่ว เพื่อที่สุดจะเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวงทั้งดีและชั่ว เป็นอมตะไม่มีใครควบคุมหรือบงการได้ ตราบเท่าที่ยังไม่ถึงเวลานั้นสัญญากับตนเองว่าจะศึกษาเปรียบเทียบวิจัยและนำเสนอให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งพึ่งมี
free counters

[Add men of the day's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com