ท่องเที่ยวสุขใจ ไปไกลทั่วโลก
Group Blog
 
All Blogs
 
เกริ่นนำ

คิดไว้นานแล้ว ว่าถ้ามีโอกาสจะไปเทียวต่างประเทศสักครั้ง หลังจากครั้งสุดท้ายของการเดินทางคือการไปเรียนปริญญาโทที่เมือง Wollongong ประเทศออสเตรเลีย

ปีนี้ถือว่าได้โอกาส เนื่องจากผลงานการทำงานที่ดีในปีที่ผ่านมา (2552) เลยมีเงินมีทองเพียงพอที่จะพาตัวเองและครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศกันสักครั้ง แรกเริ่มเดิมทีคิดว่าอยากพาพ่อและแม่ไปเยี่ยมน้องชายที่ไปเรียนต่อที่เมือง Cardiff ประเทศอังกฤษ แต่ฟังราคาค่าตั๋วแล้วคงไม่ไหว พอดีน้องตาลที่ที่ทำงานบอกว่าถ้าอยากหาทัวร์ให้ลองไปที่ website แห่งหนึ่ง เป็นของบริษัท "ส้มบิน" ชือแปลกดี

คุณแอ๋มที่เป็นคนที่เราติดต่อด้วยตลอด เป็นคนน่ารักนะ อยากได้ข้อมูลอะไรก็ส่งมาให้หมด ทีแรกเลือกไว้หลายแห่ง ทั้งฮ่องกง เกาหลี เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง แล้วก็ค่อยๆมาดูว่าทีไหนที่น่าสนใจที่สุด

เกาหลี ถูกตัดทิ้งเป็นรายการแรก เพราะเป็นช่วง high season พอดิบพอดี ราคาค่าทัวร์ปาเข้าไป 3 หมื่นต้นๆ พอดีดลูกคิดในสมองเสร็จเป็นอันตัดทิ้ง เพราะจะเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับเรา อีกอย่างหนึ่ง ส่วนใหญ่การไปเที่ยวเกาหลีเขามักพาไปสถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์เกาหลีเรื่องต่างๆ แต่พ่อแม่เราไม่ติดหนังเกาหลี ไปแล้วจะไปรู้จักรู้เรื่องได้ยังไง พอมีข้อเสียหลายประการ ไม่ไปดีกว่า

ฮ่องกง ทีแรกจะเอาที่นี่ล่ะ เพราะสามารถเที่ยวเองได้ ได้ไปช้อปด้วย ว้า แต่พ่อก็ไปมาบ่อยแล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะไปช้อปอะไรด้วย เลยตัดทิ้ง

เหลือปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ จะว่าไปเซี่ยงไฮ้ดูน่าสนุกกว่า ถึงจะแพงกว่าก็เถอะ ได้ไปดูอะไรทีมันเจริญหูเจริญตา และได้ไหว้พระด้วย (ตามประสาคนจีน ชอบไหว้พระอยู่แล้ว) แต่มาเลือกเป็นปักกิ่ง เพราะเหตุผลเดียวเลยคือ อยากไปดูกำแพงเมืองจีนและพระราชวังต้องห้าม นอกจากนั้นในรายการยังมีการพาไปเล่นสกี แถมด้วยเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งด้วย

สนนราคาต่อคน 19900 บาท เราออกให้ 5 คน ก็ประมาณ 1 แสนบาทนั่นล่ะ แต่ไม่ได้คิดมาก ก็พาพ่อแม่ไปเที่ยวจะคิดอะไรมากล่ะ ก่อนไปพี่สาวก็เตรียมตัวจัดหาเสื้อหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ลองจอน อะไรมาเต็มไปหมด เพราะอุณหภูมิในปักกิ่งช่วงที่จะไปเที่ยวกันนั้นอยู่ระหว่าง 7 - (-3) องศาเซลเซียส ไอ้เราก็นั่งเช็คพยากรณ์อากาศทุกวันเลยนะ เข้าไปดูที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของจีนเขาเลย เพราะน่าจะตรงกว่าพวก yahoo หรือ msn ใครที่จะไปเที่ยวแล้วอยากเช็คอากาศก็ไปได้ที่ //www.cma.gov.cn ได้เลย ละเอียดยิบ มีทุกเมือง

ก่อนไปสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ไปช้อปปิ้งล่วงหน้าที่ King Power Duty Free ที่ถนนรางน้ำ ส่วนใหญ่ก็ซื้อน้ำหอม ครีมทาหน้า เพราะราคามันถูกกว่าข้างนอก แต่ที่เซ็งนิดๆคือ ว้า รออีกตั้งนานกว่าจะได้ของ ก็โดยปกติเป็นคนที่ซื้อของแล้วอยากใช้เลยไง

ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก นั่งนับวัน นอนคอยเวลาไปเรื่อยๆ ถึงแล้ว วันที่ 28 ม.ค. 2553 ลางาน 1 วัน เพื่อเตรียมตัว จัดการเอาลูกๆทั้ง 3 ตัว (น้องหมา) ไปฝากไว้ที่ร้านแถวๆบ้าน จากนั้นก็ขับรถจากบ้านของเราที่บางบัวทองมารวมพลกันที่บ้านพ่อแม่ ออกจากบ้านสู่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 21.15 น. โดยขับรถไปเอง อัตราค่าจอดรถที่สุวรรณภูมิ วันละ 250 บาท หากส่วนเกินไม่ถึง 7 ชั่วโมง ก็คิดชั่วโมงละ 25 บาท ไปถึงสุวรรณภูมิ 22.15 น. มีเวลากินข้าวกันที่ร้าน Black Canyon แล้วก็ไปตามสถานที่นัดหมายของทัวร์เวลา 22.45 น. พอดีเป๊ะ


Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 12:16:11 น. 2 comments
Counter : 312 Pageviews.

 


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:45:15 น.  

 
อย่าลืมเอารูปสวยๆ มาฝากกันบ้างน๊า


โดย: happinessUP2 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:28:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wattanac
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add wattanac's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.