เราไมู่้มอง เราไม่ฟัง เราไม่พูด เราไม่ทำอะไรเลย ไอ้ขี้เกียจเอ้ย!

มาลงชื่อกันหน่อยมั้ย

ไหนไหนก็จากกันไปแล้วเพื่อนเอ๋ย
ก็อยากแสดงความอาลัยในการสูญเสีย

โดยการเชิญเพื่อนฝูงมานินทามันซักหน่อย

ไม่ต้องสรรเสริญเยินยอกัน เอาเรื่องมาเผากันดีกว่า เผื่อเอาไปรวมเล่มขายทำกุศลให้มัน

เรื่องไหนดีวะเรื่องมันเยอะว่ะ

เรื่องแรกเอาตอนเรียนโทกะมันดีกว่า เรื่องนี้มันอื้อฉาวดี
ตอนนั้นนะมีนิสิตหญิงรุ่นเีดียวกันอยู่คนนึง สมมติว่าชื่อ พี ละกัน
พีเนี่ยเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เพื่อนทุกคนก็รู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่ แถมขี้หึงซะด้วย
ไอ้เสมนึกยังไงไม่รู้ ดันไปสุงสิงที่ห้องเค้าบ่อย ๆ

นี่ พวกมึงอย่าคิดไปลึกซึ้งขนาดนั้นนะ
ตอนนั้นน่ะไอ้เสมมันยังเป็นคนดีอยู่ มันบอกกูว่าบริสุทธ์ใจซะอย่าง ใครจะทำไม

กูก็เชื่อนะ เพื่อนกูเป็นคนดีนี่นา

ช่วงนั้นนะ รถมันมีมันก็ไม่่่ขับ แบบว่าขับรถกระบะไม่สบา่ยซะแล้ว ต้องขับรถเก๋ง
ก็รถเก๋งพีอ้ะดิ ...บางทีนะ มันหนีไปขี่เก๋งกะพี แล้วให้กูขับกระบะมันตามพวกมันไปว่ะ
มันบอกเราเป็นสุภาพบุรุษ ต้องช่วยเหลือผู้หญิงเพศอ่อนแอ ฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อ

แต่กูก็เชื่อมันนะ เพราะไอ้เสมมันไม่ใช่คนบ้าหม้อซักหน่อย


เวลาก็ดำเนินผ่านไปสักระยะ มันก็มีเรื่องขึ้นมา

แบบว่าผู้ปกครอง พี เค้ามาร้องเรียนกะผู้บริหารมหาลัยเลยนะมึง


เฮ้ย ไม่ใช่อย่างที่พวกมึงคิดหรอก ไอ้เสมมันไม่ได้ทำใครท้องนะโว้ย
ผู้ปกครองเค้าแค่มาบอกว่ามันไปมีท่าทีคุกคามลูกเค้า ขอให้เลิกซะ

เรื่องใหญ่เลยนะมึง อาจงอาจารย์ต้องมาเรียกไปสอบถามเลยหละ

ไอ้เสมก็บอกว่ามันไม่ได้ทำหยั่งงั้น มันไม่เคยคิดจะทำตัวเป็นเจ้าชู้ยักษ์อะไร
มันไม่มีอะไรในกอไผ่ กอกล้วย หรือกอเก๋ง
ไม่มีอะไรจริงจริง เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งเพ

แต่เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจมันเลิกก็ได้

กูก็เชื่อมันนะ ก็ไอ้เสมมันเป็นคนดีจะตาย ใครจะคิดว่ามันจะทำ เฮ้อ


กูจำได้ช่วงนั้นเป็นช่วงงานวัดของมหาลัย ราวปลายปีน่ะ หน้าหนาวสาวสวย
ไอ้เสมเครียดหนีกลับปากน้ำ กูอยู่เดินเที่ยวงานกะกินเบียร์ มีไอ้น้องแหม่มอยู่เป็นเพื่อนมั้งถ้าจำไม่ผิด

ก็นั่งวิเคราะห์เรื่องฉาวโฉ่กันสิ เจ้าตัวไม่อยู่นี่หว่า พูดตรงๆก็นั่งนินทาแม่งแหละ
ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ากินไปกี่เหยือก รู้แต่มึนพอสมควร

พอสมควรแก่เวลานอนของกู กูก็กลับห้องนอน เออ คนเดียวซิวะ ก็ไอ้เสมมันไม่อยู่ไง

ตอนตีหนึ่งกว่า ก็มีโทรศัพท์มาจากไอ้เสม
แม่งเมาเหมือนกัน มันบอกมันจะฆ่าตัวตายว่ะ
กูก็มึนมึน ก็ถามมันไปว่ามึงจะตายยังไงวะ
มัน.."ตอนนี้กูจอดรถคารางรถไฟอยู่ ดับเครื่องเรียบร้อย ดับไฟทุกดวง"
กู..."เฮ้ยยย"
มัน.."มึงต้องเป็นพยานให้กูนะ ว่ากูไม่ได้ถูกใครฆ่า กูฆ่าตัวตายเอง เดี๋ยวคนอื่นเดือดร้อน"
"โถยังเป็นห่วงคนอื่นเนอะ ไอ้พ่อพระเอ้ย" กูคิดในใจ
"ทีมึงโทรหากูตอนตีหนึ่งเนี่ยนะ ไม่คิดว่ากูจะเดือดร้อนใช่มั้ย"

กูก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ๆ ไม่กล้าคุยเรื่อง พี หรอก ก็รู้นิสัยกันอยู่

สักสิบห้านาทีก็บอกมันว่า ไอ้บ้า มึงไปนอนซะ เดี๋ยวการรถไฟเค้าเดือดร้อน แล้วกูก็วางหู

ตีสอง มันโทรมาอีกครับเพื่อนๆ
มัน "เฮ้ย ไอ้หนึ่ง กูคิดอะไรดีดีออกแล้วว่ะ กูจะโทรหามึงตอนที่รถไฟมันมานะ มึงจะได้ยินเสียงรถไฟชนรถกูเป็นเสียงสุดท้ายเลยนะโว้ย"

กูก็เอ๋อสิ ทั้งเมาทั้งง่วง กูก็จำไม่ได้แล้วหละว่ากูตอบไปยังไง จำได้แต่ว่าคุยกันประมาณว่า มึงเมามึงก็ไปนอนซะเหอะ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
อย่าคิดอะไรบ้าๆ นะโว้ย ผู้หญิงคนเดียว อะไรประมาณเนี้ยแหละ แล้วก็วางสาย

อย่างที่คิดว่ะ ตีสามมันโทรมาอีก แต่ตอนนี้กูง่วงเกินกว่าจะรับโทรศัพท์มึงได้แล้วว่ะไอ้เสม

อโหสินะเพื่อน กูง่วงจริงจริง มึงโทรมาสามสี่ครั้งแน่ะ กูรับไม่ไหวจริงจริง
ง่วงด้วย เมาด้วย

ตื่นมาสิบโมงกว่า รีบโทรหามัน ในใจก็กลัวมันจะทำจริง
โถ ไอ้เวร มันนอนอยู่ที่บ้านมันนั่นแหละ ทำเอากูตกใจ
นี่ขนาดมึงบริสุทธ์ใจ ไม่คิดอะไรนะมึง ยังเพี้ยนได้ขนาดนี้
ถ้ามึงรักจริงหวังแต่ง จะเพี้ยนขนาดไหนวะ (แล้วกูก็ได้เห็นในเวลาต่อมา)


คำแถลง
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสมมติเพื่อความบันเทิงความสนุกเท่านั้น ตัวละคร พี ไม่มีตัวตนจริง
ใครอย่าทะลึ่งส่งลิงค์ให้มันอ่านนะโว้ย เดี๋ยวกูซวยจริงจริงนะ กูขอร้อง




 

Create Date : 08 มกราคม 2551   
Last Update : 8 มกราคม 2551 18:11:09 น.   
Counter : 217 Pageviews.  


ดิบ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ดิบ's blog to your web]