update [ 28*07*2014 ] ในกรุ๊ปบล็อก talkative เรื่อง "facebook งานภาพประกอบของเรา"
Group Blog
 
All blogs
 

2553 กันยายน

------------------------------------------------------------------------------------------

2 กันยายน 2553




** ไม่น่าเชื่อ แป๊บๆกรุ๊ปบล็อกนี้ก็เริ่มเข้าสู่ปีที่สองซะแล้ว
ถ้าภาษาการ์ตูน ต้องพูดว่า เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
ช่วงสองสามวันมานี้อากาศร้อนจัดพร้อมกับฝนโครมใหญ่
ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ตื่นมามึนๆ เวียนๆหัวรับต้นเดือนกันเลย
ไม่ว่าอากาศรอบตัวจะเป็นยังไง แต่เรื่องงานก็ต้องเข็นกันให้คืบหน้าต่อไป
ส่วนเฟซบุ๊คที่เริ่มเล่นและยังไม่ติดมากมาย ก็เก็บไว้ก่อน อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

3 กันยายน 2553



** เช้าแดดส่อง บ่ายฝนมา กลางคืนเย็นสบาย
ตื่นมามีขี้มูกเต็มสองรูจมูก ตกลงว่าเราเป็นภูมิแพ้หรือเปล่าหว่า
หรือเป็นเรื่องปกติที่ใครๆเขาก็เป็นกัน
ปั่นงานปฏิทินต่อ ได้วาด ได้ดูรูปนกพอควร
ทั้งนกที่คุ้นเคย นกที่ไม่คุ้นเลย สนุกดี
ได้ใช้ทักษะหลายอย่าง ทั้งดรออิ้ง ทั้งวาดมือ ทั้งวาดในคอม
แถมได้ทำกราฟิค หนุกหนานดีเหมือนกัน

------------------------------------------------------------------------------------------

5 กันยายน 2553




** นอกจากชา กาแฟที่กินเป็นประจำเป็นกิจวัตรแล้ว
หลังๆเริ่มสอดส่ายสายตาเมียงมองเครื่องดื่มอื่นๆมาอยู่ในวังวนแห่งการดื่มด้วย
ไปหาตะไคร้ใบเตยอบแห้งมา แถมอุปกรณ์ในการเพิ่มความสะดวกในการดิ่มก็ไม่มี
เลยใส่ตะไคร้ใบเตยลงในถ้วยกันไปเลย กินลำบากนิดหน่อย ไม่เป็นไร
ขอให้ได้กิน และรับรู้รสชาติเถอะ ยอมทนได้ทุกอย่าง
คงมีเครื่องดื่มอื่นๆตามมาอีกหลายอย่าง
รับรองไม่มีเครื่องดื่มชูกำลังแน่นอน เพราะเดี๋ยวคึกเกินปกติ
พอหมดฤทธิ์แล้ว จะกลายเป็นคนหมดสภาพกันไป

** การ์ตูนการกุศลที่ทำให้นิตยสาร be magazine ตีพิมพ์ออกจำหน่ายแล้ว
ฉบับที่ 16 หน้าปก อนันดา เอวริ่งแฮม (โปรโมทหนังเรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย")
นานๆทำงานการกุศลก็ดีเหมือนกัน ได้มีผลงานที่ต่างไปจากงานปกติ
เผื่อใครมาถูกใจ อาจได้งานไปทำต่อยอดแบบไม่รู้ตัว
ก็ได้แค่หวังไว้แบบนั้นเล็กๆ โอกาสที่จะเข้ามาจริงๆ ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก

------------------------------------------------------------------------------------------

6 กันยายน 2553




** งานก็ต้องทำ รูปก็อยากถ่าย หนังสือก็อยากอ่าน
เลยทำมันทุกอย่างในวันเดียวนี่แหละ
ประเดิมวันด้วยการกินผัดพริกแกงทะเลพร้อมไขเจียวฟูๆ อร่อยสุดๆ

** ก็เพราะไปดูหนังเรื่อง "กวน มึน โฮ" มา
หนังสนุก บทเจ๋ง ผู้กำกับเก่ง ดาราเล่นฮามาก
เลยทำให้อยากอ่านหนังสือที่เป็นต้นเรื่องของหนังเรื่องนี้ "สองเงาในเกาหลี"
เมื่อมีไว้ในครอบครองก็เริ่มอ่านอย่างสนุกสนาน
เป็นหนังสือของ "ทรงกลด บางยี่ขัน" เล่มแรกที่ได้อ่าน
บทแรกๆต้องปรับตัวเล็กๆกับสำนวนภาษา แต่พอเริ่มคุ้นเคย ความสนุกก็เริ่มทยอยกันมา
หลายเรื่องหลายอย่างในเล่มทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ
เช่น คนเกาหลีกับคนญี่ปุ่นจะพอฟังและเข้าใจภาษาของต่างฝ่ายรู้เรื่อง
ทำให้เรานึกถึงบ้านพี่เมืองน้อง ไทยกับลาว ที่พอฟังกันรู้เรื่อง
เวลาถ่ายรูปที่เกาหลีจะพูดคำว่า "กิมจิ" เพื่อให้ดูยิ้ม
ส่วนฝรั่งเป็นที่รู้ๆกันว่าพูดคำว่า "ชีส"
ส่วนเราเองจากประสบการณ์ (ฮาๆ) คำที่มีคนคิดขึ้นใช้คือ "ขี้"
แม้จะฟังดูขำๆฮาๆ แต่ในความเป็นจริงพอลองพูดคำดังกล่าว
มุมปากของเราก็จะเผยอขึ้นเหมือนคนยิ้ม
คิดได้ไงทั้งฮา ทั้งดูไท้ไทยมั่กๆ
เริ่มเล็งหนังสือของทรงกลดเล่มหน้าไว้แล้ว ว่าจะอ่านเรื่องอะไรดี

** ไหนๆกรุ๊ปบล็อกนี้ก็ขึ้นสู่ปีที่สองแล้ว
เลยเกิดไอเดียใหม่ในการ redesign วิธีการวางรูปถ่ายให้ดูน่าสนใจ
เป็นการฝึกการวางองค์ประกอบให้ดูเหมือนหนังสือในพื้นที่อันจำกัด
ดีเหมือนกัน เปลี่ยนบรรยากาศ กรุ๊ปบล็อกนี้จะได้ดูสดใหม่ขึ้นอีกนิด

------------------------------------------------------------------------------------------

7 กันยายน 2553




** ถ่ายรูปต้นไม้ดอกไม้ แค่พื้นที่เล็กๆ
ไม่น่าเชื่อว่ามีดอกไม้ให้เรากดชัตเตอร์ได้สนุกสนานมากๆ
ช่วงเย็นๆนั่งทำงานต่อ งานเดิมปฏิทินที่ยังคั่งค้างอยู่

------------------------------------------------------------------------------------------

8 กันยายน 2553



** ใจบอกให้ตัวเองทำงาน แต่สมองและกายไม่ตอบสนอง
อยากอยู่เฉยๆ ไม่รู้เครียดงานหรืออะไรหรือเปล่า หรือไม่ก็ขี้เกียจเป็นนิสัย
ออกไปกินก๋วยเตี๋ยว ซัดไปสองชาม ลืมเรื่องเครียดไปเลย อารมณ์ดีทันใด
เพิ่งเคยเห็นลูกเสาวรส ผลไม้สุดโปรดอีกอย่างของเรา
(ชอบกินน้ำเสาวรสที่บรรจุกล่องสุดๆ)
กลิ่นหอมมากๆ เพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้กินตรงเนื้อ แต่กินตรงเม็ดและเมือกด้านใน
ตอนแรกเกือบกินตรงเนื้อแบบผลไม้ทั่วไปแล้ว เกือบปล่อยไก่แต่หัววัน

------------------------------------------------------------------------------------------

11 กันยายน 2553



** ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป พยามยามลากตัวเองกลับมาทำงาน
แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อการตามใจตัวเองมีอำนาจเหนือเหตุผล
เลยออกไปเตร็ดเตร่ กินกาแฟ ถ่ายรูป แม้จะรู้สึกผิด แต่ยังไม่ค่อยสำนึก

------------------------------------------------------------------------------------------

12-13 กันยายน 2553



** วันอาทิตย์ที่สิบสองกลับบ้านไปเลือกตั้ง สท. (สมาชิกสภาเทศบาล)
ได้ยิน ได้ฟัง เรื่องการเมืองท้องถิ่นแถวบ้านแล้วก็ได้แต่ปวดหัว

** วันจันทร์ที่สิบสามไปหาหมอตา เพื่อตรวจตา
เข้าใจว่าเราเป็นวุ้นในลูกตาเสื่อม ให้หมอตรวจดูก็ไม่มีอะไร
ไม่มีต้อ โดยทั่วไปอาการปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือเวลาใช้สายตาเยอะๆ
จะมีปัญหาแบบที่อยู่ดีๆตาก็วูบ ค่อยๆวูบ จนมองอะไรเบลอไปหมด
ต้องนั่งหรือนอนพักราวยี่สิบนาทีจึงจะหาย หมอบอกว่าให้มาตรวจใหม่
โดยหยอดยาลงที่ตา พักไว้หนึ่งชั่วโมง แล้วก็ใช้เครื่องตรวจตา
ซึ่งสามารถตรวจตาที่อยู่ด้านหลังได้ แต่หลังจากนั้นตาจะมัวไปหกชั่วโมง
เลยต้องรอให้งานการเสร็จเรียบร้อยดีก่อน แล้วจะไปตรวจอีกที
หมอสงสัยว่าหรือจะเป็นไขมันขึ้นตาก็เป็นได้ เฮ้อ นอกจากไขมันจุกอก
ไขมันยังจะไปจุกที่ตาอีกหรือนี่ คุณพระคุณเจ้าช่วย

------------------------------------------------------------------------------------------

14 กันยายน 2553




** ทำงานที่คั่งค้างให้คืบหน้าต่อไป
วันนี้หลานเตยมาบ้าน เลยได้หัวเราะเอิ๊กอ๊ากและถ่ายรูปเจ้าเตยอีกแล้ว
เจ้าเตยทำหน้าทำตา แถมเพิ่มท่าทางทะเล้นให้เราถ่ายรูปไว้มากมาย
ไม่มีเหน็ดเหนื่อยซะหล่ะ ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมา กลายเป็นวิ่งไล่จับกันซะงั้น
เจ้าเตยคงไม่เท่าไหร่ แต่เราหน่ะสิ พอเลิกเล่นแล้วดันเจ็บเท้า
แหม วิ่งซะลืมวัยไปเลย ปล่อยแก่ทิ้งไปบ้าง ขำๆ ฮาๆ มีความสุขอย่างแรง

------------------------------------------------------------------------------------------

15-16 กันยายน 2553



** ทำปฏิทินต่อ ก่อนทำมีความไม่มั่นใจและกังวลอยู่พอควร
กลัวทำออกมาไม่ดี ไม่เวิร์ค แต่สุดท้ายความกังวลก็แปรเป็นความตั้งใจในงาน
จากเครียดกลายเป็นสนุกและทำอย่างมีความสุขในที่สุด
นี่แหละสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในงาน ทำด้วยความสุข แล้วอะไรๆที่ควรมีในงาน
ก็จะตามมาเอง

------------------------------------------------------------------------------------------

18 กันยายน 2553




** ปีนี้มีงานปฏิทินเข้ามาพร้อมๆกันสองงานติดๆ
เป็นช่วงปรับสไตล์ภาพให้ได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ
ต้องใช้เวลากันหน่อย นี่ก็เกือบสิ้นเดือนแล้ว ไม่รู้งานจะไปจบลงวันไหน
แม้ว่าทั้งสองงานจะมีเด็ดไลน์สิ้นเดือนเหมือนกัน ลุ้นต่อไป
สิ้นเดือนได้เหนื่อยแน่ๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

20 กันยายน 2553




** ไปคุยงานที่โอกิลวี่ เพื่อปรับความเข้าใจเรื่องสไตล์ภาพประกอบให้ถูกต้องตรงกัน
โชคดีทำตัวอย่างให้น้องดูชิ้นนึง เลยพบว่า เราเข้าใจสไตล์ภาพแล้ว
สไตล์เลยผ่านฉลุย รีบทำให้คืบหน้าต่อได้เลย
เร่งรีบสเก็ตช์ภาพที่เหลือทั้งหมดให้เสร็จโดยไว

------------------------------------------------------------------------------------------

21 กันยายน 2553



** แก้สไตล์ภาพประกอบในปฏิทินนก
ทำสไตล์ให้ลูกค้าดูไปสองหน แต่ลูกค้าไม่โอเคด้วย เครียด
สุดท้ายลูกค้าก็กลับไปเลือกสไตล์แรกสุดที่ทางบริษัทเอาไปเสนอ
เจ็บปวดยิ่งนัก แทบอยากเลิกทำงานนี้ไปเลย
แต่รับปากไว้แล้วจะหนีหายไปก็ใช่เรื่อง
เลยเรียกสติกลับมาแล้วแก้งานต่อไป สู้ๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

22-23 กันยายน 2553




** เดือนนี้เต็มไปด้วยเรื่องงาน คงไม่ค่อยสนุกนักสำหรับใครต่อใครที่เข้ามาอ่าน
แต่มันก็ไม่มีเรื่องอื่นๆให้บันทึกไว้เท่าไหร่
ใจมันจดจ่ออยู่กับงานเต็มๆ กังวล แต่ไม่เครียด
ได้แต่คิดว่า ถ้าอยากให้งานเสร็จ ก็ต้องเร่งมือเข้า อย่าเนือยนัก
ว่าแล้วก็ผลักดันงานให้คืบหน้าไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

------------------------------------------------------------------------------------------

25 กันยายน 2553



** หลังจากสไตล์ภาพปฏิทินนกชัดเจน ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว
ความก้าวหน้าในงานชิ้นนี้ก็เพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไป
โชคดีเทคนิคในการสร้างภาพประกอบไม่ยุ่งยากซับซ้อนนัก
งานเลยเสร็จไปพอควร

------------------------------------------------------------------------------------------

27-30 กันยายน 2553




** สลับตัวมาทำงานปฏิทินอีกงาน
งานชุดนี้เป็นงานดิจิต็อลคอลลาจ ตัด แปะ ปะ จัดวางในโฟโต้ช็อป
ใช้เวลาแต่ละชิ้นนานพอดู บางรูปร่วมๆสิบชั่วโมง
เพราะรายละเอียดและองค์ประกอบเล็กๆย่อยๆในภาพมีเยอะ
เลยเสียเวลาปรับสี ปรับองค์ประกอบให้ดูลงตัวนานพอดู

------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 03 กันยายน 2553    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:39:19 น.
Counter : 1259 Pageviews.  

2553 สิงหาคม

------------------------------------------------------------------------------------------

1 สิงหาคม 2553



** จังหวะดี งานไม่ยุ่ง หาเรื่องไปเที่ยวหัวหินสามวัน
ใกล้บ้านเรา แต่เพิ่งเคยมาเที่ยวก็หนนี้ ส่วนใหญ่จะไปแค่ชะอำ
แวะไปเที่ยวพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เพลินวาน ร้านใกล้วัง
เป็นการเที่ยวที่เด็ดดวงมาก เป็นช่วงโลซีซั่นในหน้าฝน
ที่พักราคาถูกกว่าช่วงไฮซีซั่น แต่ไม่รู้ว่าจะเจอฝนเวลาไหน
ช่วงบ่ายฝนตก โชคดีที่รีบเที่ยว เพราะท้องฟ้าทึมๆตั้งแต่เที่ยง
คืนแรกพักตรงโรงแรมใกล้ๆทางไปเขาตะเกียบ

------------------------------------------------------------------------------------------

2 สิงหาคม 2553





** วันที่สองในหัวหิน ตื่นมาว่ายน้ำยามเช้า ว่ายอยู่คนเดียว สบายใจเฉิบ
ก่อนออกเดินทาง ไปหาของอร่อยกินที่ร้านเจ๊กเปี๊ยะ
ร้านเก่าแก่ดั้งเดิม ได้อารมณ์ย้อนยุค
ไปถึงอุทยานสามร้อยยอดฝนตก พอฝนเริ่มซาจึงออกเดินไปดูป่าชายเลน
แต่เดินไปได้แค่ห้าสิบเมตรต้องเดินย้อนกลับ
ไม่ใช่ฝนตกหนักหรืออะไร แต่ว่ายุงป่ามารุมกินเลือดกันหนุกหนาน
ขนาดแกว่งแขน แกว่งขา มันยังไม่บินหนี ขืนอยู่ต่อได้โดนยุงหามแหง๋ๆ
คืนที่สองไปพักเกือบติดริมหาด มีแค่ถนนคั่นกลาง
บรรยากาศเงียบมาก เพราะเป็นวันจันทร์
ค่ำๆออกมากินอาหาร มีน้องหมาชื่อ "โค้ก" มาเดินตาม
ไปนั่งริมทะเลก็เดินตาม แถมตอนกลางคืนยังมานอนหน้าห้องอีก
ทางรีสอร์ทจัดบอดี้การ์ดหน้าขนมาให้ก็ไม่บอก อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

3 สิงหาคม 2553





** วันสุดท้ายว่าจะเล่นน้ำทะเล
แต่เนื่องจากเมื่อวานว่ายน้ำในสระของโรงแรม
ไม่ได้ว่ายอะไรเยอะแยะเลย แต่ทำให้วันนี้ปวดเมื่อยเนื้อตัวพอควร
เลยเปลี่ยนเป้าหมายออกเดินถ่ายรูปริมทะเลไปเรื่อยๆ
มีต้นไม้ ดอกไม้ให้ถ่ายเยอะเหมือนกัน
ได้คุยกับเจ้าของรีสอร์ทเลยได้รู้ประวัติเจ้า "โค้ก" อีกนิดหน่อย
ไปหาของอร่อยแถวหัวหินกิน แล้วก็เดินทางกลับ

------------------------------------------------------------------------------------------

5 สิงหาคม 2553





** ถ่ายรูปเล่นรอบบ้านตามปกติ
เจอแมลงปอเกาะใบไม้อยู่หน้ากล้อง ใกล้มากๆ
เลยถ่ายรูปน้องแมลงปอไปเกือบสามสิบรูป ถ่ายจนหมดมุมถ่าย
เดินไปเดินมา เจ้าเป๊ปซี่มาชวนเล่น เล่นแบบดุดันนิดหน่อย
มางับแขนเราเบาๆ เดินหนีก็ตะกายใส่ ในรูปดูน่ากลัวมาก
แต่ความเป็นจริงแค่เบาๆเบาะๆ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

------------------------------------------------------------------------------------------

6 สิงหาคม 2553



** เจอใยแมงมุมอยู่ใต้ไม้ตรงบ่อเก็บน้ำแถวชานบ้าน
เป็นงานสถาปัตย์และงานวิศวะที่โดดเด่นมาก สร้างได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องไปซื้อวัสดุจากร้าน พ่นออกมาเป็นใยได้เลย ไม่ง้อใครทั้งนั้น
แถมเก็บอาหารไว้กินได้อีก สารพัดประโยชน์

------------------------------------------------------------------------------------------

7 สิงหาคม 2553



** แล้วงานใหญ่สุดของปีก็มีความคืบหน้ามาถึงเรา
นึกว่าแห้วไปซะแล้ว แต่ก็ได้ทำดังที่ใจหวังสมใจ
เป็นช่วงเริ่มต้นของงาน จะตั้งใจทำงานนี้ให้ดีสุดๆ
ตั้งใจไว้อย่างนั้น

------------------------------------------------------------------------------------------

8 สิงหาคม 2553







** ไปแถวๆสยาม เดินผ่านโปสเตอร์งานแสดงงานนึง
เลยเดินตามข้อความในโปสเตอร์ไปยังสถานที่ๆถูกเอ่ยอ้างไว้
เป็นการร่วมกันระหว่างนักวาดภาพประกอบกับมอเตอร์ไซค์ scoopy
ช่วยกันวาดลาย และทิ้งลายไว้บนตัวมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อดังกล่าว
เป็นการแสดงงานที่มีพื้นที่จำกัดมากๆ
เอามอเตอร์ไซค์มาจอดๆเบียดๆกัน ถ่ายรูปลวดลายยากมาก

** ซื้อหนังสือ "มหัศจรรย์แห่งการอ่าน" และ "แมวน้อยอยากนิพพาน" มาอ่าน
เล่มหัศจรรย์แห่งการอ่านขอแนะนำเลยว่า
พ่อแม่ ครู อาจารย์ นักเขียน บรรณาธิการ ผู้ปกครอง
ที่ต้องเกี่ยวข้องกับเด็กเล็กๆ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เพราะทำให้เข้าใจว่าการหาเวลาอ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่แรกเกิด
สำคัญกับเด็กมากมายมหาศาลเพียงใด

** ทำงานให้โอกิลวี่ต่อ รอฟังความคืบหน้าวันอังคารที่ 10 นี้

------------------------------------------------------------------------------------------

10 สิงหาคม 2553



** ไปพูดคุยเรื่องนิทานเด็กที่มูลนิธิซีเมนต์ไทย
ถ้าไ่ม่ได้ร่วมโครงการนี้ก็ไม่รู้ว่ามูลนิธิอยู่แถวบางซื่อ นั่งรถไฟใต้ดินไปสุดสายก็เจอเลย
เดินเข้าไปในเครือซีเมนต์ไทย เห็นบ้านไทยๆย้อนยุค เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
เพิ่งมาร่วมพูดคุยด้วยเป็นครั้งแรก หนแรกพลาดไปเนื่องจากน้องที่มูลนิธิติดต่อเราไม่ได้
หนนี้เลยมาร่วมแจมด้วย ครั้งนี้เป็นการเกลาภาษาในนิทานที่จะตีพิมพ์
นิทานที่แปลมาแล้วมีสองหน้ากระดาษเอสี่
เฉพาะหน้าแรกหน้าเดียว ช่วยกันเกลาภาษาไปสามชั่วโมง
หน้าสองที่เหลือเก็บไว้เกลาคราวหน้า
สนุกดี เพราะตอนเราเขียนนิทานเอง ก็แก้แล้วแก้อีก แก้จนมึน
จนบางทีไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือยัง ต้องทิ้งไว้หลายๆวันแล้วกลับมาอ่านใหม่
อยากมาร่วมโครงการนี้ เพราะอยากได้ความรู้ในการเขียนและวาดนิทานมากๆ
เมื่อก่อนเราก็ไม่นึกว่าการเขียนนิทานเป็นเรื่องยาก
แต่พอได้ลองเขียนเองแล้ว พบว่า การเขียนนิทานเป็นเรื่องยากมาก
เขียนออกมาให้เสร็จซักเรื่องไม่ยาก แต่เขียนให้ดีนั้นยากยิ่งนัก

------------------------------------------------------------------------------------------

11 สิงหาคม 2553



** สองสามวันมาีนี้ร่างกายส่งสัญญาณมาว่าจะไม่สบายแล้วนะ
แต่เราก็กินยาสกัดไว้ อยากป่วยหน้าร้อน ไม่อยากป่วยหน้าฝน
อากาศก็ทึมๆ ถ้าต้องมาป่วยหน้าฝน คงหดหู่แย่ แถมเป็นหวัดยุคนี้
หายยากกว่าสมัยที่ละอ่อนกว่านี้ ไม่รู้เชื้อโรคมันพัฒนาไปเรื่อยๆหรืออย่างไร

** อาทิตย์ที่แล้วมีงานเข้ามาใหม่
คุยเรื่องรายละเอียดกันเรียบร้อย แถมบอกกับลูกค้าไว้ว่าจะทำตัวอย่างงานให้ดูรูปนึง
ปรากฏว่าวันนี้ลูกค้าโทรมาตามงาน เราก็งง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเราลืมทุกสิ่งอย่างไปเลย
คงเป็นเพราะตั้งใจไว้ว่าจะรอให้ราคาผ่านเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยจัดการทำภาพให้ดู

** ดึกๆนั่งทำงานชุด "โกมินิ"
จริงๆควรจะทำเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง
แต่คอมที่เปิดไว้ข้างหน้าดันมีปัญหา เลยทำงานไปด้วย นั่งแก้ปัญหาในคอมไปด้วย
ผลที่ได้คือ งานโกมินิทำเสร็จในสามชั่วโมง แต่คอมก็ยังแก้ไม่ได้อยู่ดี เซ็ง

------------------------------------------------------------------------------------------

12 สิงหาคม 2553



** วันนี้เป็นวันแม่ โทรกลับไปคุยกับแม่ซะหน่อย
ไม่ได้บอกรัก หรืออะไรในลักษณะนั้น แค่โทรมาให้แม่รู้ว่า
ลูกคนนี้คิดถึง เป็นห่วง รวมทั้งรักแม่ด้วย
มาพิมพ์ไว้ในนี้มันช่างง่ายเหลือเกิน แต่ถ้าให้บอกแม่ทำนองนี้ คงยากมากๆ
คุยกันนิดหน่อย แล้วก็แซวแม่ว่าเป็นวันแม่แท้ๆ แต่ไม่มีใครอยู่บ้านเลย
แต่ส่วนใหญ่พี่ๆน้องๆเราก็โทรหาแม่กันทั้งหมดแหละ พี่อีกสองคนเย็นๆก็กลับมาบ้าน

------------------------------------------------------------------------------------------

13 สิงหาคม 2553



** แว่บไปเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปเดินซื้อของโครงการหลวงของในหลวง
ชอบของกินหลายอย่าง เช่น กะท้อนอบแห้ง สตรอเบอร์รี่อบแห้ง มะเขือเทศอบแห้ง
แยมเสาวรส น้ำเสาวรส คุ้กกี้ชาอู่หลง(อร่อยมาก)
และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย นอกจากความอิ่มอร่อยที่ได้รับ
ยังเป็นการอุดหนุนเกษตรกรไทยไปในตัวอีกด้วย

------------------------------------------------------------------------------------------

15 สิงหาคม 2553



** ทำงานปฏิทินให้กับโรงงานพลาสติกแห่งหนึ่ง
ปีนี้มีงานปฏิทินเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน 2 งาน
น่าจะได้สำแดงฝีมืออย่างเต็มที่ทั้งสองงาน
เป็นช่วงสร้างเงินและสร้าง (คุณภาพ) งาน อย่างเต็มที่
เสร็จเมื่อไหร่จะรีบเอามาแปะให้ดูกัน

------------------------------------------------------------------------------------------

19 สิงหาคม 2553



** ทำงานให้เรียลพาเร็นติ้ง
สเก็ตช์ด้วยดินสอแล้วสแกนทำสีในโฟโต้ช็อป
ปากกาดิจิต็อลอันใหม่ช่วยให้งานคล่องและสะดวกสบายขึ้นเยอะ
อันเก่าใช้ไปโมโหไป ใช้แล้วสะดุดตลอด ไม่ได้ดั่งใจ
เพราะสภาพมันย่ำแย่เต็มทน

------------------------------------------------------------------------------------------

20 สิงหาคม 2553



** สเก็ตช์ปกปฏิทินของโรงงานพลาสติก
รู้สึกดีที่ได้คิดว่าจะได้เห็นผลงานเราตั้งอยู่บนโต๊ะเป็นปีๆ
อยากเห็นงานที่พิมพ์สำเร็จออกมาแล้ว อยากเห็นไวๆ ต้องรีบปั่นงานซะแล้ว

------------------------------------------------------------------------------------------

22 สิงหาคม 2553





** ทำปกปฏิทินโรงงานพลาสติกต่อ คราวนี้ทำสีจริงให้ลูกค้าเอาไปทำกราฟฟิคส่งโรงพิมพ์ก่อน

** ตอนบ่ายๆกลับบ้านแม่กลอง แวะไปซื้อผัดไทยตรงตลาดหุบร่ม หรือร่มหุบนี่แหละ
ร้านนี้อร่อยและเคยซื้อกินมานานแล้ว เปิดร้านราวๆสี่ถึงห้าโมงเย็น
ระหว่างกำลังรอผัดไทย รถไฟก็วิ่งจากมหาชัยเข้าสถานีแม่กลองพอดี
รถเข็นผัดไทยอยู่คร่อมรางรถไฟพอดี เลยได้เห็นกรรมวิธีการขนย้ายข้าวของ
แม่ค้าผัดไทยเข็นรถเข็นออกมา พร้อมกับพี่ผู้ชายหิ้วถังแก๊สหลบออกมาอีกทาง
นักท่องเที่ยวมายืนดูกันใหญ่ว่าตลาดเค้าเก็บของหลบรถไฟกันยังไง

------------------------------------------------------------------------------------------

23 สิงหาคม 2553





** ตอนสายๆไปซื้อแพมเพิร์สกับของเล่นเล็กๆน้อยๆไปเยี่ยมเพื่อน
ซึ่งคลอดลูกสาวมาเจ็ดเดือนแล้ว 555 กว่าจะมาเยี่ยมลูกของเพื่อนก็จะขวบนึงแล้ว
น้องจีน ลูกสาวของเพื่อน ใครมาก็นึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย เพื่อนบอกว่าหน้าตาเหมือนพ่อเค้า
(แฟนเพื่อนเป็นลูกพี่ลูกน้องเราเอง)
ได้อ่านคำกลอนให้น้องจีนฟัง ธรรมดาถ้ามีคนแปลกหน้ามาเยี่ยม
น้องจีนต้องอยู่กับคนคุ้นเคยด้วย ถึงจะไม่ร้องไห้
อ่านคำกลอนให้ฟังจนเกือบจบเล่ม น้องจีนตาแป๋วฟังด้วยความสนอกสนใจ
และมีสมาธิมากๆ ทำให้เห็นว่า เพื่อนเราอ่านนิทานและกลอนเล่มนี้ให้ฟังบ่อยๆ
แต่พออ่านจะจบเล่ม น้องจีนก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่มีคนคุ้นเคยอยู่ด้วย จึงเริ่มร้องไห้
ดูน้องจีนจะชอบ "ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน ไข่ตกดิน อดกินไข่ต้ม" มากที่สุด

** ตอนเย็นๆ เดินถ่ายรูปเล่น น้องขนุนที่ส่งไปให้ข้างบ้านเลี้ยงส่งเสียงให้เราได้ยิน
เราเลยเดินไปหามันซักหน่อย มันดีใจใหญ่ มันโตเป็นสาวเต็มตัว ดูสมบูรณ์
แข็งแรง รู้เลยว่าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี
โชคดีมันอยู่นิ่งพอควร เลยถ่ายรูปออกมาชัดแจ๋ว ไม่เบลอๆดูมึนๆแบบหนก่อนๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

24 สิงหาคม 2553





** วันนี้วันสารทจีน ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้วิญญาณไร้ญาติ
ที่บ้านลดทอนปริมาณข้าวของ อาหารที่ใช้ไหว้ลงเรื่อยๆ
เพราะมันค่อนข้างจุกจิก วุ่นวาย เฉพาะอาหารอย่างเดียวสมัยก่อน
เห็นวุ่นวาย โขมงโฉงเฉงกันตั้งแต่ตีสี่นั่นเลย มาวันนี้เรื่อยๆ ตามสะดวก

** กลับเข้าสู่โหมดงานต่อ ทำงานโกมินิ ตัดเส้นลงสีให้เสร็จเรียบร้อย
รีบเคลียร์งานเล็กๆออกไปให้หมด จะได้มีสมาธิกับงานใหญ่ต่อไป
วันพุธกับวันศุกร์ต้องไปคุยกับลูกค้าสองเจ้า เดือนนี้ไปพบปะผู้คน
เกี่ยวกับเรื่องงานเยอะพอควร ดีเหมือนกัน เปลี่ยนบรรยากาศ

------------------------------------------------------------------------------------------

26 สิงหาคม 2553



** งาน งาน และงาน สเก็ตช์งานให้เรียลพาเร็นติ้ง รออนุมัติแล้วทำสีต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------

29-30 สิงหาคม 2553





** ปีนี้ซึ่งเป็นปีเกิด อ่านดวงจากหนังสือต่างๆนานา สรุปได้สองสาย
สายแรกบอกจะแย่มากๆ นู่นนี่นั่นร้อยแปด
สายที่สองบอกว่าจะดีมากๆต่างๆนานา
ผ่านมาจนจะหมดสิงหา เลยมีข้อสรุปให้ตัวเองได้ว่า
ดวงจนถึงตอนนี้ นับว่าค่อนข้างดีทีเดียว ไม่แย่ ไม่เลวร้าย ออกจะน่ายินดีซะด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะเรื่องงาน มีงานแบบเรื่อยๆมาเรียงๆให้อุ่นใจว่ามีงานตลอด ไม่อดตายแน่นอน
ขอให้เป็นอย่างนี้ไปจนสิ้นปีเลยครับ สาธุ
แถมบล็อกเราในบล็อกแก็งค์และที่ทำไว้กับเว็บอื่นๆ ยังนำงานดีๆมาสู่เราอีกด้วย
เป็นปีที่น่ายินดีจริงๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

31 กรกฎาคม 2553



** สเก็ตช์งานปฏิทินไปสามภาพ
ที่เหลือต้องทยอยสเก็ตช์ให้เสร็จในเร็ววัน
สเก็ตช์ด้วยความเนี้ยบและตั้งใจเต็มที่
แต่ดูเหมือนมันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์กับโจทย์ที่ได้รับมา
(สเก็ตช์ยังไม่ค่อยตรงกับโจทย์ แต่ก็นับว่าใกล้เคียง)
สู้ต่อไปเรา

------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2553    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:39:46 น.
Counter : 2112 Pageviews.  

2553 กรกฎาคม

------------------------------------------------------------------------------------------

1-3 กรกฎาคม 2553





** ทำงานชิ้นสุดท้ายของเดือนสิงหาให้เรียลพาเร็นติ้ง
สแกนหนังสือเก่าๆเพื่อเอามาใช้กับงานชิ้นนี้และงานอื่นๆในอนาคต
ตามด้วยงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใส ชุด2 วาดและจัดหน้านิทาน
เหมารวบยอดเบ็ดเสร็จในคนเดียว
เป็นช่วงเหนื่อยสะสมมาเป็นเดือน ใกล้จะหลุดพ้นจากการงานอันมากมายซะที
อยากไปเที่ยว อยากไปไหนต่อไหน

** เพิ่งเห็นเมล์ฉบับนึง ส่งมาประมาณ 8 วันแล้ว
แต่เราเพิ่งได้เห็น เป็นเมล์ที่บอกว่าเราได้เข้ารอบสามคน เพื่อไปทำนิทาน
กับโครงการโครงการนึง ซึ่งเราส่งเมล์ไปเสนอตัวนานจนเราลืม
และคิดว่าคงไม่ได้แล้ว แต่ปรากฏว่าเราได้รับคัดเลือก
วันเวลาตามอีเมล์ที่เขานัดไว้ครั้งแรกก็ผ่านไปแล้ว
แถมคนประสานงานบอกว่าติดต่อเราไม่ได้เลย
ทางโครงการส่งเมล์มาในเมล์ที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ค่อยได้เช็ค อะไรกันนี่
ดวงจะไม่ได้ทำงานชิ้นนี้อย่างเห็นได้ชัด คิดเสียว่า ได้อย่างเสียอย่าง
แต่ไม่เป็นไรคนประสานงานบอกว่าไปคุยได้ในคราวหน้า
แต่ถ้าได้ทำจริงคงเป็นปีหน้าเลย เสียดายอย่างแรง

------------------------------------------------------------------------------------------

4 กรกฎาคม 2553







** หลังจาก ปั่น โม่งานไปได้เยอะพอควร วันนี้เราปล่อยตัวเอง
ให้มาที่จตุจักร คิดถึงและโหยหาจตุจักรมากๆ เดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว
ดูหนังสือมือสอง นิทาน หาร้านอาหารอร่อยๆกิน ดูอะไรแปลกๆ
มองซอกแซกไปเรื่อย ยิ่งมีกล้องติดมาด้วย ยิ่งต้องสอดส่องหาสิ่งน่าสนใจ
เราชอบไปดูของเก่า หนังสือมือสอง และอื่นๆร้อยแปดที่จะมีให้ดู
เดินได้ไม่นานมาก เพราะรู้สึกเปลี้ยๆ ร่างกายไม่อำนวย นอนดึกมาเป็นเดือน
แต่ท้ายสุดได้หนังสือภาพถ่ายเก่าๆของฝรั่งมาเล่มนึง ภาพข้างในสวยดี
จะเก็บไว้ใช้เป็นแบบในการวาดรูป

------------------------------------------------------------------------------------------

6 กรกฎาคม 2553





** ไปรับหนังสือโมเอะที่ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ อิเซตัน
รับมาสามเล่ม สามเดือน เล่มเก่าลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์
จดชื่อนิทานที่อยากได้ไปสั่งที่ร้าน แต่น้องที่ร้านอ่านภาษาญี่ปุ่นที่เราจดไม่ออก
สงสัยจะจดแล้วจดใหม่มาหลายหน มันเลยมั่วซั่วอ่านยาก
น้องถามว่านี่เป็นภาษาญี่ปุ่นใช่ไม๊ครับ หุหุ ใช่ครับน้อง
พี่เก่งมากเลยทำให้ภาษาญี่ปุ่นดูเหมือนภาษาอื่นได้ อันนี้นึกในใจ
แล้วก็เดินไปทดสอบอาหารญี่ปุ่นที่ชั้นซุปเปอร์มาร์เก็ต
สั่งข้าวหน้าหมูซอสบาร์บีคิวมากิน แถมมิโซะซุป กับชาญี่ปุ่นเย็น
กินชาเข้าไปรู้สึกเหมือนกินชาดำเย็นบ้านเราแบบเจือจาง แต่ก็อร่อยดี
ข้าวหน้าหมูรสชาติดี หมูหอมมากๆ แต่ตอนกินเกือบหมดชามรู้สึกเลี่ยนๆ

** ไปทำบัตรเอทีเอ็มใบใหม่ ก่อนหน้านี้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารนี้หักไปสองใบ
ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ใช้ซักเท่าไหร่
ถามน้องเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้ความว่า
บัตรที่ใส่ไว้ในช่องกลางคั่นระหว่างช่องบนและช่องล่างของกระเป๋าตังค์
มีโอกาสหักมากสุดหากใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปกระแทกอะไร
ไม่รู้จริงเท็จประการใด ใครรู้ช่วยมายืนยันที

** ตอนขึ้นรถเมล์กลับ ถือถุงของกินสองใบ ยืนรอกระเป๋ารถมาเก็บตังค์
น้องที่นั่งอยู่ขอช่วยถือถุงก๊อปแก๊ปให้ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
แต่ทำให้เรารู้สึกชื่นใจบอกไม่ถูก

** งานที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งเดือนสำเร็จเสร็จสิ้นลงแล้วในวันนี้
ขอไชโยโห่ฮิ้วยาวๆซักยี่สิบวินาที โหย ฮี้ โหย ฮี้ โหย ฮิ๊ววววววว

------------------------------------------------------------------------------------------

7 กรกฎาคม 2553





** หลังอาบน้ำเสร็จ ยืนอยู่หน้ากระจก สายตาก็ไวเหลือเกิน
เจอผมหงอกเส้นนึง เลยลองจับผมพลิกไปพลิกมาดู เจออีกเส้น
นึกว่าจะหมด เปล่า เปิดผมไปมา เจอเส้นที่สาม ศิริรวมแล้วสามเส้น
ไม่อยากพูดอะไรต่อ เราเข้าใจทุกอย่างดี 555 ฮือๆๆ

** มื้อแรกของวันนี้ กินเกาเหลาเครื่องในพร้อมข้าวเปล่าหนึ่งถ้วย
เห็นในร้านมีเต้าหู้พะโล้ขายด้วย เลยสั่งมาอีกหนึ่ง
เต้าหู้เป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่เราชอบมาก ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน
มื้อนี้เลยอิ่มอร่อย สมใจ

** เข้าเมืองไปแถวๆลิตเติ้ลเจแปนไปดูนิทานและหนังสือมือสอง
หน้าร้านคัสตาร์ด นากามูระ จัดเทศกาลทานาบาตะไว้
ให้ลูกค้าได้เขียนนู่นนี่นั่นตามใจและมือจะพาไป เขียนเสร็จก็แขวนไว้
กระดาษสีๆอยู่รวมกันเยอะๆก็สวยไปอีกแบบ

------------------------------------------------------------------------------------------

8 กรกฎาคม 2553





** สางงานที่เหลือให้คืบหน้าไปโดยไว
ทำโลโก้ร้านทำขนมเค้กต่อจากที่ค้างไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว
ใกล้ความจริงมากๆแล้ว

** ใครรู้จักมิฟฟี่บ้าง เมื่อเดือนที่แล้ว มิฟฟี่มีอายุครบ 55 ปีแล้ว
เราเข้าเว็บแล้วไปโหลดสกรีนเซฟเวอร์มิฟฟี่มาใช้ ชอบของฟรีอย่างแรง
ตอนเย็นๆวันนี้ท้องฟ้าสีส้มมาก แถมมีเมฆมาหมุนวนๆเป็นก้อน
ราวกับท้องฟ้าเปิดให้ผู้เดินทางข้ามกาลเวลาหลุดข้ามเวลามาตรงก้อนเมฆก้อนนี้
ว่าไปนั่นเลยเรา

------------------------------------------------------------------------------------------

9 กรกฎาคม 2553





** ทำงานโลโก้ต่อ ใกล้เคียงความจริงเข้าไปทุกขณะ
ใกล้ถึงเวลาที่คนจ้างน่าจะพอใจกับโลโก้แล้ว
ได้คนจ้างงานที่คุยกันง่าย ไม่ยุ่งยาก งานก็ฉลุยเช่นนี้แล
สเก็ตช์งานของเรียลพาเร็นติ้งต่อในตอนเกือบๆเที่ยงคืน

------------------------------------------------------------------------------------------

11 กรกฎาคม 2553





** กลับไปยืนที่เดิม ที่เยาวราช เคยไปยืนถามราคา
ประติมากรรมทองเหลืองประธานเหมา เจ๋อ ตง เมื่อประมาณปีก่อน
มาปีนี้ประธานเหมาก็ยังคงยืนรอเราอยู่ที่เดิม คนขายคนเดิม ราคาเดิม
หนนี้ต้องพ่ายให้กับกิเลสที่อดกลั้นไว้นานนับปี
สอยมาเป็นสมบัติบ้าในครอบครองจนได้

** หลังจากเสียตังค์ให้กับของฟุ่มเฟือยแล้ว จำต้องกลับมาสร้างเงินสร้างงานต่อ
จะได้ไม่รู้สึกผิดกับการใช้จ่ายกับข้าวของแบบนี้

** ฟุตบอลโลก 2010 คู่ชิง ฮอลแลนด์กับสเปนเริ่มแล้ว ไปดูก่อน
ไม่รู้ใครจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมโลกครั้งแรก

------------------------------------------------------------------------------------------

13 กรกฎาคม 2553





** รอบๆตัวมีหลายสิ่งที่ทำให้นึกถึงความเสื่อมและความไม่จีรัง
น้อง "หม่ำ" แก่ทรุดโทรมไปเยอะ แต่ยังไปกัดคนแก่หลังบ้านได้อีก
เจ้าเป๊ปซี่ ถูกเลี้ยงไว้หน้าบ้าน ไม่ได้ปล่อยไปด้านข้างบ้าน
เนื่องจากปล่อยไปทีไร ได้แผลทุกที ไม่กัดกับเจ้าหม่ำก็กัดกับหมาข้างบ้าน
หรือไม่ก็ไปกัดกับหมาแถวหลังบ้าน เลยให้มันอยู่หน้าบ้านไป จำกัดบริเวณไปเลย
น้ำหวาน หมาพุดเดิ้ล แก่มาก ตาฟาง มองอะไรไม่เห็นแล้ว เนื้อตัวเปื่อยย่น
และสุดท้าย อาของเรา ซึ่งปัญญาอ่อนแต่เกิด ตอนนี้ความจำเสื่อม หลงๆเรียบร้อย
แต่ก่อนยังรู้เรื่องมากกว่านี้ เดี๋ยวนี้ทำเรื่องเดิมซ้ำๆวันละสิบ ยี่สิบหน
แถมอากาศตอนนี้มืดๆ ทึมๆ ฝนตกเรื่อยๆ ทำไมมันดูหดหู่ใจไปหมด
อะไรที่เราดิ้นรน เหน็ดเหนื่อย เพื่อให้มีมัน สุดท้ายแล้วปลายทางก็ไม่เหลืออะไร
เราเชื่อว่าความดีเท่านั้นที่จะติดตัวเราไปได้
วันนี้รู้สึกตัวเองเหมือนคนแก่อายุเจ็ดสิบเลย

------------------------------------------------------------------------------------------

14 กรกฎาคม 2553



** เดินถ่ายรูปรอบบ้านตามกิจวัตรปกติ
เพิ่งรู้ว่าแม่ปลูกแตงโมไว้กินเอง อีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์คงกินได้แล้ว
อะไรๆที่ลงมือทำด้วยตัวเอง เวลาเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมก็น่าชื่นใจอย่างนี้แหละ
(พูดเหมือนปลูกเองเลย ชื่นใจแทนแม่ เดี๋ยวจะขอชิมด้วยว่าหวานไหม)

------------------------------------------------------------------------------------------

16 กรกฎาคม 2553



** ไปศูนย์สิริกิตติ์ เพื่อไปงานสัปดาห์หนังสือเด็กและเยาวชน
อยากได้นิทานมาอ่าน เผื่อเป็นแรงบันดาลใจปิ๊งไอเดียแต่งนิทานของเราเอง
ได้นิทานมาชุดนึง ภาพประกอบสวยๆทั้งนั้น บางเรื่องรูปสวยมากๆ แต่เรื่องธรรมดา
บางเรื่องรูปธรรมด๊า ธรรมดา แต่เรื่องดีเหลือเกิน
บางเรื่องดีเด่นทั้งรูปและเรื่อง ถือเป็นกำไรสำหรับคนอ่านอย่างเรา

** สางงานที่คั่งค้างอยู่ จัดการหน้าเกมเรียลพาเร็นติ้ง
ลองเอาเทคนิคที่เคยทำแล้วคิดว่าเวิร์คมาลองทำใหม่ สีสันสะใจมากๆ
ไปรอลุ้นตอนพิมพ์ออกมาแล้วว่าสีจะเป็นยังไง

------------------------------------------------------------------------------------------

17 กรกฎาคม 2553





** ออกไปเดินเตร็ดเตร่ เรื่อยเปื่อยแบบไร้จุดมุ่งหมาย
สุดท้ายก็ไม่พ้นที่เดิมๆ ที่ๆคุ้นเคย มีเทศกาลอาหารพอดี
ไปยืนๆ เดินๆ ด้อมๆ มองๆ ถ่ายรูปขนมน่ากิน ซื้อไส้อั่วของชอบของเรากินไปหนึ่งขึด
เจอขนมวงในกระทงใบตอง ได้อารมณ์แบบสมัยเด็กๆ
สมัยที่ยังมีเรือพาย พายมาขายของหลากหลายหน้าบ้าน
ทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนม ผลไม้ เรือขายผัก เรือรับซื้อของเก่า แต่เดี๋ยวนี้
เหลืออยู่น้อยมาก...
พระที่เคยพายเรือมาบิณฑบาตรหน้าบ้านตอนเช้ามืดก็ไม่มีแล้ว

** กลับมานั่งจมในเก้าอี้เพื่อทำงานต่อ งานเรียลพาเร็นติ้งเหมือนเดิม

------------------------------------------------------------------------------------------

18 กรกฎาคม 2553



** ฝนตกตลอด ถ่ายรูปนอกสถานที่ทีไร ภาพออกมามืดๆเหมือนภาพขาวดำเลย
ไปเจอออมสินปูนพลาสเตอร์เก่าๆ รีบปรี่เข้าไปดู ได้อารมณ์ย้อนยุควันวานหลายๆ
ซื้อตัวเล็กๆติดมือมาอันนึง เป็นช่วงเก็บสะสมความคุ้นเคยในอดีตไว้ในครอบครอง

------------------------------------------------------------------------------------------

20 กรกฎาคม 2553



** สเก็ตช์งานสองงานไปพร้อมๆกัน
งานนึงเป็นงานที่เพิ่งเข้ามาไม่กี่วันนี่เอง อีกงานเป็นงานที่ไปคุยไว้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
เหลืองานการกุศลอีกงานที่ยังไม่ได้เริ่มเลย แต่ไม่ยุ่งยากมากนัก
รอการแก้ไขสเก็ตช์ที่ส่งไป มีเวลาทำนู่นทำนี่ได้อีกหลายอย่าง
แต่ที่อยากทำมากสุด คืออ่านหนังสือที่ซื้อไว้จากเดือนก่อนและเดือนนี้
ว่าแล้วก็ไปอ่านหนังสือดีกว่า

------------------------------------------------------------------------------------------

21 กรกฎาคม 2553





** ไปงานประกาศผลรางวัลนายอินทร์อวอร์ดที่บริษัทอมรินทร์มา
ก่อนหน้านี้เคยได้รับการ์ดเชิญมาสองสามปีแล้ว แต่ไม่เคยไป
หนนี้อยากรู้อยากเห็นว่างานเค้าเป็นอย่างไร เลยขอไปร่วมอยู่ในงานซักหน่อย
ไปในฐานะผู้เข้ารอบสุดท้ายของการประกวดประเภทหนังสือภาพสำหรับเด็ก
ผู้คนเยอะแยะพอควร มีสื่อจากหลายๆสถานีมาทำข่าว
มีนักเขียนผู้มีชื่อเสียงมากันพอควร
การประกวดมีหกประเภท ประเภทที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมมี 4 ประเภท
ส่วนอีก 2 ประเภท ไม่มีผู้ได้รับรางวัล
จบงานก็ได้รู้ว่าบรรยากาศของงานที่นี่เป็นยังไง เข้าใจวัฒนธรรมองค์กร
ของที่นี่ขึ้นมาอีกนิดหน่อย แต่ที่ชอบสุดคือกาแฟกับน้ำพันช์
และเจ้าหน้าที่ๆคอยดูแลผู้มาร่วมงาน ดูใส่ใจดี

** กลับมาทำงานโลโก้ต่อ น่าจะก้าวหน้าไปได้เกือบๆครึ่งทางแล้ว

------------------------------------------------------------------------------------------

22 กรกฎาคม 2553







** ทำงานการกุศลให้นิตยสาร be magazine ไปหนึ่งหน้า
เป็นการ์ตูนที่พูดถึงสังคม จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้
เลยทำด้วยความรวดเร็วและสนุกสนาน แม้จะเสียเวลาคิดมุขอยู่นานมาก
แต่ก็สำเร็จและเป็นที่พอใจของเราเป็นอย่างยิ่ง

** ไปเดินหอศิลป์กรุงเทพฯ ไม่รู้หรอกว่ามีงานอะไรแสดงอยู่
แต่ไปทีไรก็มีงานใหม่ๆให้ได้ดูเสมอๆ ไม่ได้มาเดินเสียนาน
น้องๆจากสถาปัตย์ธรรมศาสตร์กำลังมาจัดเตรียมงานแสดงอยู่
ส่วนชั้นบนสุดขึ้นไปดูไม่ได้ เพราะมีรัฐมนตรี ใครซักคนมาแจกรางวัลอะไรซักอย่างอยู่
พอดูจบฝนตกโครมใหญ่ ไปไหนไม่ได้
เลยเดินลงไปชั้นห้องสมุด เสียดายจังจากเมื่อปีก่อนมาจนถึงปีนี้
หนังสืออาร์ตที่มีอยู่ดูเหมือนจะมีเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเยอะ
แล้วก็ไม่หลากหลายประเภทเท่าไหร่ รัฐบาลจ๋ามีนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แล้ว
ยังไงๆก็ช่วยส่งงบซื้อหนังสือให้หอศิลป์แห่งนี้ด้วยเถิด (อันนี้คิดๆบ่นๆกับตัวเอง)

------------------------------------------------------------------------------------------

26-27 กรกฎาคม 2553





** ทำงานโลโก้ต่อ สเก็ตช์ช่วงหลังเริ่มหนืดๆ เพราะรอลูกค้าตอบกลับ
ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกค้าจะเพิ่มดีกรืความจุกจิกขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยากจะควบคุม
ตอนนี้คืบหน้าไปได้เยอะแล้ว แต่เหลือแต่พวกฟ็อนท์ที่ใช้ในโลโก้

** ออกไปดูต้นไม้ ใบไม้ ให้รู้สึกสดชื่น

------------------------------------------------------------------------------------------


28-31 กรกฎาคม 2553





** ช่วงเดือนสองเดือนก่อนงานถาโถมเข้ามาแบบทำแทบไม่ทัน
แต่พอปลายเดือนนี้ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม งานเหลืออยู่สองงาน
แต่ดูช้าและเงียบเหงาวังเวงมากๆ งานใหญ่สุดของปีก็วังเวงสุดๆ
ส่งอะไรไปก็ไร้การตอบกลับ ไม่รู้แห้วแล้วหรือเปล่า

** ช่วงนี้ฝนตกเป็นระยะ ต้นไม้ ใบไม้ แข่งกันอวดสีเขียวกันเต็มต้น
มองไปทางไหนก็เจริญตา สบายใจ หนอนตัวอ้วนก็สบายอารมณ์
นอนตีพุงกินใบไม้กันอิ่มไปเลย
ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน อารมณ์ดี เซ็ง เครียด มีความสุข
ชอบออกไปเดินถ่ายรูปต้นไม้และอะไรก็ตามที่เจอระหว่างการเดิน
เดินไปทางนั้น เดินไปทางโน้น บางทีเหมือนเป็นการปรับสมดุลย์อารมณ์
ไม่ให้พุ่งหรือตกมากเกินพอดี ไม่ให้อยู่กับอารมณ์อะไรมากเกินไป

------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:40:09 น.
Counter : 3252 Pageviews.  

2553 มิถุนายน

------------------------------------------------------------------------------------------

1-2 มิถุนายน 2553





** เข้าสู่เดือนที่หก เดือนกลางปีมาถึงแล้ว
ได้เวลาเริ่มคิดว่าอะไรที่ยังไม่ได้ทำก็ต้องรีบทำซะ
ส่วนเราตอนนี้ปรับอารมณ์และเป้าหมายสู่การทำงาน
งาน งาน งาน งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข
ต้อนรับสู่วันใหม่ เดือนใหม่ สิ่งดีๆสิ่งใหม่ๆ
กลับมาปั่นงานด้วยความตั้งใจอีกหน หลังจากอิดเอื้อนมานาน
ยิ่งเครียดกับไฟในการทำงานที่เหือดหายมากเท่าไหร่
ยิ่งต้องตั้งใจทำงานให้ออกมาดีๆให้มากขึ้นไปอีก
อย่างน้อยๆก็รักษาคุณภาพให้คงเส้นคงวา ไม่ใช่เส้นกราฟดิ่งลงเหว
มาคิดดี คิดบวก ใช้ชีวีให้มีความสุขกันดีกว่า

------------------------------------------------------------------------------------------

3 มิถุนายน 2553





** เพิ่งทำงานเสร็จตอนเกือบๆตีสาม
เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข ไม่รีบเร่ง ทำไปเรื่อยๆ
ได้งานที่พอใจที่สุด อยากมีเวลาละเลียด ละเอียดกับทุกงานแบบนี้
แต่ส่วนใหญ่เวลามักจะไม่อำนวย หรือว่าเป็นข้ออ้างหว่า
ใครช่วยมาจ้างทำนิทานสไตล์นี้หน่อยเถอะ จะขอบคุณหลายๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

5 มิถุนายน 2553



** ทำงานชิ้นสุดท้ายของเรียลพาเร็นติ้ง (เดือนกรกฎา)
ทำแบบด้นสด ไม่ได้คิดไว้ในใจว่าอยากให้ออกมาเป็นแบบไหน
ทำไปเรื่อย แก้ไปด้วย อันไหนได้ก็คงไว้ อันไหนไม่ได้ก็เปลี่ยน ลบออก ตัดทิ้ง
ได้งานอย่างที่เห็น

------------------------------------------------------------------------------------------

7 มิถุนายน 2553



** ไม่รู้จะเขียนอะไรดี นึกไม่ออก เริ่มด้วยการแปะรูปที่ถ่ายไว้
แล้วลองนึกถึงอะไรต่อมิอะไร
การงานติดค้าง กำลังโดนไล่บี้ และ (โดน) ด่า
เงินก็อยากได้ แต่ดันเอื่อยอืด แต่ต้องทำแล้วหล่ะเพราะสงสารคนตามงาน
อยู่บ้านแล้วมีความสุขมากๆ ทุกอย่างคุ้นเคย รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ห้องของเรา ข้าวของที่คุ้นตา น้องหมาที่รักเรา ต้นไม้ที่ทำให้สบายตา
แม้จะมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจบ้าง แต่ก็เป็นบ้านของเราอยู่ดี
นึกเรื่องที่จะเขียนออกได้เท่านี้.... จบข่าว

------------------------------------------------------------------------------------------

9-11 มิถุนายน 2553



** กลับมาแล้ว หลังจากซุ่มทำงานอย่างหักโหม 2 อาทิตย์
มาพร้อมกับความเหนื่อยล้าที่ยังไม่สลายหายไป
ก่อนหน้านี้โดนตามงาน เราเกิดสำนึกและมีสติในความล่าช้าของตัวเองขึ้นมาได้
แถมด้วยการลดอีโก้ในตัวลง งานการก็เดินหน้าอย่างไม่มีอะไรมาฉุดได้
เลยตะลุยงานไปยาวๆแบบสิบกว่าวัน เป็นเหตุให้อดหลับอดนอนบ้าง
ไม่ได้โผล่พาตัวออกไปข้างนอกเท่าไหร่ เป็นช่วงวันที่สเก็ตช์งานทั้งหมดให้เสร็จ

** "เพื่อนรักในป่าใหญ่" ได้พิมพ์ครั้งที่ 2 แล้ว ดีใจหลายๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

12-16 มิถุนายน 2553





** จมอยู่ในกระดาษสีน้ำกับจานสี
เพราะหลายวันมานี้ มองแต่กระดาษและจานสีเป็นหลัก
ก้มหน้าก้มตา เร่ง เร่ง เร่ง ให้งานตรงตามเวลาที่คุยไว้
แล้วงานก็เสร็จได้ตามเวลาเป็นที่เรียบร้อย
นึกถึงคำของน้องที่รู้จักคนนึงขึ้นมาได้
เราบอกกับน้องคนนี้ว่า เพิ่งเสร็จงานวาดสีน้ำมา นั่งวาดมาหลายวัน ตาเกือบบอด
น้องก็บอกว่า แหมนึกว่าวาดรูปจะได้ใช้สีต่างๆแต่งแต้มให้งานสวยงาม
เพลิดเพลินในสุนทรียะ
จริงๆก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่เป็นเฉพาะงานที่ไม่เร่งมาก
มีเวลาระบายไปเรื่อยๆ แต่สำหรับงานที่เร่งมากถึงมากที่สุด
มันไม่มีเวลาแม้แต่จะมานั่งคิดว่าจะเติมสีอะไรเข้าไปอีก
ความจริงกับสิ่งที่เราคิด มักไม่ตรงกันเช่นนี้แล

------------------------------------------------------------------------------------------

17-20 มิถุนายน 2553







** ทำตัวอย่างอาร์ตเวิร์คให้คนจ้างดูว่าโอไหม
ดีนะที่น้องไม่จู้จี้จุกจิก การทำอาร์ตเวิร์คเพื่อส่งเข้าโรงพิมพ์
เลยไม่ยุ่งยากมากนัก งานเลยเดินไปตามเวลาที่ตั้งไว้ได้อย่างเรียบร้อย

** ออกไปดูต้นไม้ ต้นหญ้า พักสายตาด้วยสีเขียวๆ
แต่ว่าร่างกายมันแสนจะเหนื่อยเปลี้ย (บ่นว่าเหนื่อยไปหลายรอบแล้วนะนี่)
ต้องการน้ำตาลและคาเฟอีนโดยด่วน พอให้เวลาตัวเองได้พักพอควรแล้ว
ก็กลับไปทำงานต่อไป

** แม้จะเป็นช่วงวันเกิด แต่ก็ไม่ได้มีการฉลองอะไรเป็นพิเศษ
เพราะต้องปั่น โม่ งานให้ลุล่วง แบบให้ตรงเวลาเป๊ะๆ
ถือซะว่า การทำงานเยอะๆ แล้วรอรับเงินในช่วงเวลาอันใกล้
ก็นับได้ว่าเป็นของขวัญที่ดีไม่ใช่น้อยเลย อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

21 มิถุนายน 2553







** ส่งสเก็ตช์โลโก้ให้ลูกค้าที่ทำขนมปังขาย
ตอนสเก็ตช์สนุกดี ไม่ได้ทำงานพวกโลโก้มานานมากๆแล้ว
อยากให้โลโก้ดูสบายๆ เป็นกันเอง น่ารักๆแบบญี่ปุ่น
แต่ต้องไปลุ้นอีกทีว่าท้ายสุด คนจ้างจะโอด้วยไหม

** และแล้วก็ได้ไปเยือนสยาม ถิ่นรักของเราอีกครั้ง
ทุกอย่างดูเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีก็แต่อาคารหลายจุดที่ถูกเผา
ถูกล้อมด้วยสังกะสี เป็นเครื่องเตือนให้รู้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆเกิดขึ้นจริง
และทิ้งให้ใครหลายๆคนได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น เราควรมีส่วนร่วม
เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อีกอย่างไร หวังไว้อย่างนั้น
เดินไปดูหนังที่ลิโด้ เห็นโพสต์อิทติดไว้เขียนถึงโรงหนังสยามที่จากไป
มีข้อความหลายอันที่โดนใจ

** อีกเช่นเคย หาน้ำตาลเข้าร่างกาย จะได้หายเพลียเปลี้ย
ได้ไอติมมะม่วงมากิน สดชื่นดีจริงๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

25 มิถุนายน 2553







** ออกไปรับแดดนอกบ้าน อากาศดี แดดร้อน ดอกไม้สีสด
แม้ว่าเคยไปตรวจเก๊าท์ไว้เมื่อสองปีก่อน แนวโน้มใกล้เคียงจะเป็นเก๊าท์
ก็ยังไม่วายไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าประจำที่กินมาตลอด
พยายามลดมื้อที่มีเป็ด ไก่ ให้น้อยลง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็กิน
ใกล้เวลาต้องไปตรวจร่างกายครั้งใหญ่ได้อีกแล้ว ไม่ได้ออกกำลังกายเลย
พยายามทดแทนการออกกำลังกายด้วยการกินผัก ผลไม้ นม โยเกิร์ต
และของมีประโยชน์ต่างๆเท่าที่ทำได้
ยิ่งช่วงงานเยอะๆ ยิ่งต้องบำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้

** นิทานผลงานของเรา "ขอบคุณครับจากหมีน้อย" พิมพ์ครั้งที่ 4 แล้ว
ขอบคุณใครก็ตามที่ช่วยอุดหนุนนิทานเล่มนี้

------------------------------------------------------------------------------------------

26-27 มิถุนายน 2553





** ทำงานอย่างต่อเนื่อง เดือนนี้เป็นเดือนที่ทำงานแบบได้พักน้อยมาก
ไม่เหมือนเดือนอื่นๆ งานพอประมาณ มีเวลาเอ้อระเหยทำนู่นนี่นั่นได้ร้อยแปด
แต่เดือนนี้เป็นเดือนทำเงินทำทองจริงๆ
นั่งทำอาร์ตเวิร์คนิทานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสฯ
เสร็จไปห้าเล่มแล้ว ยังเหลืออีกห้าเล่มที่ต้องวาดภาพประกอบ
และจัดอาร์ตเวิร์คเหมือนเดิม เหนื่อยแต่เงินดีก็มีกำลังใจ อิอิ
ตามมาด้วยภาพประกอบในเรียลพาเร็นติ้ง สำเร็จไปตามตารางเวลา

------------------------------------------------------------------------------------------

28 มิถุนายน 2553





** งานเช่นเดิม บันทึกเดือนนี้มีคำว่างานกับคำว่าเหนื่อยอยู่เต็มไปหมด
บางทีก็บ่นไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้คิดมากกับคำว่าเหนื่อยซักเท่าไหร่
ทำสเก็ตช์ให้องค์กรเพื่อความโปร่งใสฯ อย่างต่อเนื่อง
ตามมาด้วยหน้าเกมของเรียลพาเร็นติ้ง

** นิทานรางวัลนายอินทร์ปีนี้(คิดว่า) ไม่มีใครได้รางวัลชนะเลิศ
แต่มีเล่มที่เข้ารอบสุดท้ายและได้รับการปรับแก้แล้วตีพิมพ์ และวางขายแล้ว
นั่นคือเรื่อง "หนูรอ กับ หนูรี"
นิทานที่เราส่งไปประกวดเข้ารอบสุดท้ายเช่นกัน แต่ก็พลาดไปอีกครั้งหนึ่ง

------------------------------------------------------------------------------------------

29 มิถุนายน 2553





** นอกเหนือจากงานที่ทำทุกคืนแล้ว ยังได้ดูบอลโลกแถมไปด้วย
แต่ไม่ค่อยได้ดูซักเท่าไหร่ ฟังซะมาก เสียดายญี่ปุ่นตกรอบ ทั้งๆที่เล่นได้ดีมากๆ
วันนี้ออกไปรับงานชิ้นใหญ่ของปี
น้อง art director ที่ Ogilvy ติดต่อเราไว้ทางเมล์ อยากให้ไปคุยเรื่องงาน
แถมงานเราลูกค้าโอเคแล้ว ไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่นๆอีก
คุยงานราบรื่นดี เตรียมเคลียร์งานที่มีให้หมดไป จะได้เริ่มงานนี้ในเร็ววัน

** เดินไปร้านคิโนะคุนิยะที่อิเซตันด้วยแรงคิดถึง
ไม่ได้มานานนับแต่มีเหตุปิดล้อมและขอคืนพื้นที่
มีหนังสือเซลล์ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เพียบ
ในร้านต้องเอาพัดลมโรงงานตัวใหญ่ๆมาเป่า ตอนแรกก็สงสัยว่าจะเป่าทำไม
นึกขึ้นได้เพราะกลิ่นไหม้ที่ยังมีอยู่ในอากาศจางๆลอยมาเตะจมูก
กลิ่นไหม้จากเซ็นทรัลเวิล์ดยังรวมตัวกันอยู่ในอิเซตัน

------------------------------------------------------------------------------------------

30 มิถุนายน 2553





** วันนี้ปิดงานไปได้อีกหนึ่งงาน
แต่อีกงานที่ตั้งใจไว้ ยังไปไม่ถึงไหน แถมหนีมาอัพบล็อก
ว่าจะอัพแป๊บๆแล้วรีบกลับไปทำงานต่อ
ท้ายสุดและสุดท้ายตอนที่พิมพ์บรรทัดนี้อยู่ก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว
คงพอก่อนคืนนี้วันนี้ พรุ่งนี้ค่อยทำงานต่อ
มาคลายเครียดด้วยการเขียนบล็อกให้มีความเคลื่อนไหวซักหน่อย
หมดไปครึ่งปีแล้ว เร็วเหลือเกิน ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน

------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2553    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:40:33 น.
Counter : 4171 Pageviews.  

2553 พฤษภาคม

------------------------------------------------------------------------------------------

1 พฤษภาคม 2553





** ต่อเนื่องจากวันสิ้นเดือนเดือนที่แล้ว
เจอไข่นกกางเขนบ้านอยู่ในบ้านนกที่เราซื้อให้แม่
รู้สึกว่านี่น่าจะเป็นรุ่นที่สองที่มาไข่ไว้ในบ้านนก ด้านในมีลูกนกที่ฟักตัวแล้ว
พ่อแม่มันบินวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ มาคอยดูว่ามีใครมารุกรานรังมันหรือเปล่า

** ชมพู่น้ำดอกไม้ที่แม่ปลูกไว้หลายปี ออกลูกให้ได้กินแล้วในปีนี้
แม่บอกว่าเป็นชมพู่โบราณหากินได้ยากแล้ว ลูกชมพู่เป็นทรงกลม แบนนิดๆ
ลูกสุกจะมีสีออกเหลืองนวลๆ ลูกใหญ่ขนาดเท่ามะเขือประมาณนั้น
เด็ดกินไปหลายลูก รสชาติหวานๆ หอมๆ เพิ่งเคยกินเป็นครั้งที่สอง

** เข้ากรุงเทพ ไปเดินแวะเวียนอยู่แถวเอ็มโพเรี่ยม และ ลิตเติ้ลเจแปน
เห็นได้ชัดว่าคนเยอะกว่าปกติ ได้นิทานของจีนมาเล่มนึง อายุร่วมๆ 25 ปี
ไปดูหนังสือที่คิโนะคุนิยะ และเอเชียบุ๊คส์ มีหนังสือใหม่หลายเล่ม
อยากได้สองเล่ม อั้นไว้ก่อน ถ้าอยากได้จริงๆ เดี๋ยววันหลังค่อยว่ากัน

------------------------------------------------------------------------------------------

3 พฤษภาคม 2553



** เมื่อคืนฝันเป็นเรื่องเป็นราว เป็นตุเป็นตะ
เมื่อก่อนเราฝันเป็นเรื่องสั้นๆหลายเรื่องต่อกันต่อคืน
บางคืนก็หลับสนิทไม่ฝันอะไรเลย
แต่เดี๋ยวนี้ฝันเรื่องเดียวยาวๆ เหมือนหนังเรื่องนึง
ฝันว่าบ้านเราเป็นบ้านตึกสี่ชั้น (บ้านจริงเป็นบ้านไม้สองชั้น)
ฝันว่าชั้นสามเป็นชั้นว่างๆมีห้องเหลือ วิวสวยมาก
กะจะทำห้องนี้เป็นห้องทำงาน วาดรูป สุดหรู และสุดชิล
มองออกไปจากหน้าต่างสองบานเป็นวิวทะเล
คิดไว้เสร็จสรรพว่าจะเอาตู้หนังสือ โต๊ะวาดรูป อุปกรณ์นานา
วางไว้ตรงไหน มุมไหนดี
แต่แล้วฝันหวานก็จบลง ตื่นขึ้นเพราะได้เวลาตื่นนั่นเอง
สงสัยก่อนนอนกินเยอะไปหน่อย หรือไม่ก็นอนนานไปนิด อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

6 พฤษภาคม 2553





** ทำโปสการ์ดฝากคุณวนิสขายที่ร้าน
ที่ทำๆอยู่นี่เป็นเช็ตที่สอง รูปที่ใช้มีซ้ำๆบ้าง ใหม่บ้าง ปนๆกัน
ตัดกระดาษจนปวดมือ ปวดนิ้วเลย กลัวจะเป็นอัมพฤกษ์ตรงนิ้ว
เขาเรียกว่านิ้วล็อกหรือเปล่า ต้องบีบๆนวดๆนิ้วกับมืออยู่นาน

** รูปที่ขายในโฟโตเลียขายออกไปได้อีกหนึ่งรูป
ขอเห่อหน่อยเถอะ เพราะขายออกช้าเหลือเกิน
ดูสถิติแล้ว ขายได้เดือนละรูปนะเนี่ย อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

7 พฤษภาคม 2553





** ไหนใครกันบอกว่าวันที่ร้อนที่สุดผ่านไปแล้ว
ขอค้าน ขอค้าน วันนี้ร้อนที่ซู้ด ร้อนจนสติเกือบหลุด วิญญาณเกือบออกจากร่าง
ปาดเหงื่อหลายรอบ เนื้อตัวคันไปหมด
แม้จะร้อนขนาดนี้ แต่มื้อเที่ยงก็ดันกินข้าวต้มร้อนไม่แพ้อากาศ
ความร้อนยิ่งทะลุปรอทแตกกันไปใหญ่ อิอิ

** เคยคิดอยากเกิดเป็นแมวเป็นหมา แม้แต่ปลาโลมา
แต่ก็พบว่า ชาตินี้ได้เกิดเป็นคนก็ดีเท่าไหร่แล้ว
ขอแค่อย่าให้เสียชาติเกิด เป็นคนให้เต็มคน
รู้จักพอ พอดี พอเพียง พอใจ ก็น่าจะเวิร์คสำหรับยุคนี้สมัยนี้

** คุยงานมาได้ระยะนึงแล้ว เป็นช่วงโค้งสุดท้าย
เสนอราคา ถ้าได้ทำงานนี้จริงๆ ก็สบาย อยู่ได้ยาวไปครึ่งปีเลย

------------------------------------------------------------------------------------------

9 พฤษภาคม 2553



** ตอนนี้ทุกวันเป็นวันที่ร้อนที่สุด
ตรงแขนขึ้นผดผื่นเต็มไปหมด ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพิ่งมาเป็นปีนี้ สงสัยอากาศมันร้อนกว่าปรกติจริงๆ
เพราะอาหารการกินเราก็ไม่เคยแพ้อะไรมาก่อน

** ถึงวันนี้ตอนนี้ เราประชาชนตาดำๆ อย่าหวังพึ่งใครอีกเลย
ทั้งทหาร ตำรวจ รัฐบาล ทำไมมันทำให้เรารู้สึกว่า
องค์กรไหนๆก็ล้มเหลวพึ่งพิงไม่ได้
ประชาชนเท่านั้นแหละที่ต้องจับมือกันไว้ ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองกันเอง
แย่ที่สุด ไม่รู้จะแย่กว่านี้ยังไงอีกแล้ว
มาเขียนเพิ่มเติมวันนี้วันที่ 26 พฤษภาคม
ขอบคุณทหารหาญที่ทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติ
ส่วนตำรวจมะเขือเทศ ทหารแตงโมเราขอไม่ขอบคุณ

** สิ่งที่ดีที่สุดคือ ทำมาหากินต่อดีกว่า ทำหน้าที่ของเราต่อไป
คิดมาก ฟุ้งซ่านไปก็ปวดหัว มาสร้างสรรค์งานดีๆ
ทำสิ่งดีๆทิ้งไว้ให้มากมากกันน่าจะดีที่ซู๊ด

------------------------------------------------------------------------------------------

11 พฤษภาคม 2553





** ฝนตกตูมใหญ่ อากาศที่ร้อนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นสบาย
แถมอากาศเย็นๆได้นำพาข่าวดีมาสู่เรา
งานที่บอกไว้วันที่ 7 ที่ผ่านมา วันนี้ได้รับข่าวตอบกลับแล้ว
ราคาผ่านเรียบร้อย เปลี่ยนแต่เทคนิค
จากภาพประกอบทำในคอมพิวเตอร์ เป็นภาพวาดมือสีน้ำ
คงต้องยุ่งมากกกกไปอีกราวๆเดือนครึ่ง

** เคยนึกกันบ้างไหม
ว่าประเทศเราช่างโชคดี ไปที่ไหน แห่งหนใด ต้นไม้ ต้นหญ้า เต็มไปหมด
เคยคิดเล่นๆว่า คนที่อยู่ประเทศทะเลทราย มาเที่ยวประเทศเรา
คงร้องไห้กับความสมบูรณ์ที่ช่างต่างจากประเทศเค้ามากๆ
แค่คิดเล่นๆ เพลินๆ ว่าประเทศเราดีและอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน

** ทำภาพประกอบให้คอลัมน์ในเรียลพาเร็นติ้ง ทำไปสามรูป
ต้องรีบปั่นให้เสร็จ เพราะต้องทำงานใหญ่ที่รออยู่
ต้องตั้งสติ สมาธิ และทำงานที่จะทำออกมาให้ดีที่สุด
แม้งานจะเยอะมากก็ตาม สู้ๆ (เป็นการปลุกปลอบขวัญกำลังใจในตัวเอง)

------------------------------------------------------------------------------------------

13 พฤษภาคม 2553





** ไม่ว่าตอนนี้จะมีเหตุการณ์อะไร เรื่องอะไรเกิดขึ้น
ต้องพยายามมองโลกอย่างมีความหวัง และมีกำลังใจไว้มากๆ
จะพยายามรับรู้ข่าวสารแล้วไม่เครียด สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
มองอะไรรอบๆตัวให้เป็นทางบวก คิดว่าวันเวลาแบบนี้
ท้ายที่สุดก็จะผ่านไป และผู้คนก็จะได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้ามีสติ กำลังใจ
เรื่องร้าย วันร้ายก็จะผ่านไปในเร็ววัน
------------------------------------------------------------------------------------------

15 พฤษภาคม 2553





** นั่งทำสติ สมาธิ พร้อมลุยงาน วางอุปกรณ์ให้พร้อม
เรื่องร้อนรอบตัวตัดทิ้งไป ซื้อสีไม้กล่องเล็กมาหนึ่งกล่อง
กล่องที่แล้วซื้อเมื่อราวๆสิบกว่าปีก่อน ใช้ซะคุ้มเกินคุ้ม
เรื่องบางเรื่องจัดการเองไม่ได้ ต้องปล่อยวาง ทำใจให้พ้นๆไป
ทำหน้าที่ที่ต้องทำให้ดีที่สุด จำได้พระท่านว่า
การทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดถือเป็นธรรมะพื้นฐานที่ดีของมนุษย์
เราอยากเป็นมนุษย์ที่ดีจีงพยายามทำหน้าที่ที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด

------------------------------------------------------------------------------------------

16 พฤษภาคม 2553





** หลายวันมานี้ เริ่มต้นทำงานใหม่
วาดภาพสีน้ำประกอบนิทานเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ จิตสาธารณะ
ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบ ความพอเพียง
เนื้องานค่อนข้างมาก ทั้งวาดภาพ จัดรูปเล่ม
ชอบเนื้อหาในงาน ปลูกฝังสิ่งดีๆลงในเมล็ดพันธุ์ของชาติ

** เจอะเจอต้นตะขบ ต้นไม้สุดโปรดในวัยเด็ก
เมื่อก่อนบ้านลูกพี่ลูกน้องมีต้นตะขบใหญ่ เหมาะแก่การปีนป่าย
มีลูกตะขบสีแดงสวยกระจายเต็มต้น เราชอบปีนขึ้นไปเก็บลูกตะขบกิน
เพลิดเพลินใจ สบายอารมณ์ ไม่มีลูกอม ท๊อฟฟี่กิน ไม่เป็นไร ไม่ง้อหรอก
เรามีแหล่งขนมสุดหอม หวาน ยืนต้นนิ่งรอเราอยู่เสมอ
ตอนนี้ต้นตะขบต้นนี้ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมอีกแล้ว
แต่เมื่อไหร่ที่เดินผ่านต้นตะขบ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อใด
เราจำเพื่อนเก่าของเราได้เสมอ

** ประทับใจพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจงในงานประกาศรางวัล “นาฏราช” มาก
(งานประกาศรางวัลในวงการโทรทัศน์โดยให้คะแนนจากคนในวงการเอง)
พงษ์พัฒน์รับรางวัลจากเรื่อง “พระจันทร์สีรุ้ง” ตอนขึ้นกล่าวเราถึงกับขนลุก
พงษ์พัฒน์พูดประมาณว่า ตั้งแต่เกิดมาในบ้านที่สวยงามหลังนี้
ก็มีพ่อคอยดูแล ทำงาน ทำหน้าที่ และเหน็ดเหนื่อยมานาน
แต่วันนึงกลับมีใครก็ไม่รู้ โกรธอะไรมาก็ไม่รู้ แล้วมาด่าพ่อ
ถ้าไม่ชอบพ่อ ด่าพ่อ ก็ขอให้ออกไป
เราเป็นคนไทย สีเดียวกัน คือ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน
โอ้โห้เราประทับใจมากกกก ดาราในงานยืนขึ้นปรบมือ พร้อมโห่ร้อง
หลายคนร้องไห้ ยิ้มแย้ม ปิติ มีความสุข
ขอปรบมือให้พี่อ๊อฟนานสามนาที และขอย้ำอีกครั้ง
เรารักในหลวง เราจะสู้เพื่อในหลวง

------------------------------------------------------------------------------------------

18 พฤษภาคม 2553





** สเก็ตช์งานไปเรื่อยๆ รออนุมัติสเก็ตช์แรกว่าผ่านไหม
ระหว่างนั้นวาดรูปด้วยสีไม้ไปพลางๆแก้เครียด
วาดไปวาดมาเลยทำเป็นแบนเนอร์อันใหม่ให้กับบล็อกเราซะเลย
แล้วก็ได้ตัวหนังสือ "ถ่านหินจำศีล" อันใหม่มาด้วยพร้อมๆกัน

** ซื้อหวานเย็น น้ำแข็งไสมากิน เห็นน้ำแข็งเป็นกองภูเขา
เลยใส่รูปให้ได้บรรยากาศเย็นสดชื่นแปะไว้
อยากเห็นบรรยากาศกรุงเทพกลับมาสดชื่นสดใสอีกครั้ง
จะรอวันนั้นด้วยความอดทนอย่างสูง(มากๆ)

------------------------------------------------------------------------------------------

19 พฤษภาคม 2553



** หวังว่า เหตุการณ์ ปวดใจ สิ้นสุด วันนี้
แว่วว่า แกนนำ ณ เวที ประกาศ เสียงดัง สลาย การชุมนุม ณ บัดนี้
ผู้ชุมนุม ราชประสงค์ โห่ไล่ ด่าทอ
ภายหลัง สลาย แยกย้าย ลาจาก รัฐถะ จะ จัดการ อย่างไร
มากมี ทั้ง ผู้ก่อ การร้าย จัดการ พวกอยาก ล้มเจ้า อย่างไร
ฤา ปีหน้า จะมา เผาบ้าน เผาเมือง ในวัน สงกรานต์ กันใหม่
อยากรู้ อยากรู้ ประชาชน ผู้เสีย ภาษี ถูกต้อง ทุกปี อย่างเรา ขอถาม

------------------------------------------------------------------------------------------

21 พฤษภาคม 2553



** สวัสดีพี่น้องชาวไทย ขอให้กำลังจิตกำลังใจอยู่สมบูรณ์
สถานการณ์เป็นอย่างที่รู้ๆ หลายที่หลายจุดกลายเป็นซากอาคาร
ห้างร้าน อาคาร ธนาคาร โรงหนัง เอทีเอ็ม ร้านหนังสือ หลายจุดวอดวาย
ขอแสดงความเห็นใจ และเสียใจกับผู้เสียหายทั้งหมดด้วย

** หาหนังสืออ่าน หนังสือ songsin รวมผลงานภาพประกอบ ภาพวาด
ของทรงศีล ทิวสมบุญ-นักวาดการ์ตูน นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ของไทย
เห็นเล่มนี้ตั้งแต่งานสัปดาห์หนังสือแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อ
เพราะบู๊ธของ a day เต็มไปด้วยวัยสะรุ่น และวัยเลยสะรุ่นอย่างเรา
เห็นคนเยอะแยะมากมายเลยขี้เกียจเบียดเสียดให้อารมณ์แปรปรวน
แป๊บเดียวก็อ่านจบ ชอบงานที่เป็นดรออิ้งและใส่สีในคอมทั้งหลาย
สวยงาม โดนใจ ไม่เคยอ่านผลงานของเขาเลย แต่ชอบภาพที่เขาวาด
ได้อ่านคำนำเล่มที่อยู่ในมือ ชอบมากๆ เป็นนักวาดที่เป็นนักเขียนด้วยในตัว
เคยอ่านสัมภาษณ์ของทรงศีล
ทรงศีลพูดถึงเด็กยุคนี้ที่อยากมีชื่อเสียง อยากดังเร็วๆว่า
จริงๆกว่าจะมาถึงวันนี้ เด็กเหล่านี้ไม่เคยเห็นเลยว่า
เขาต้องปั่นงานหัวฟู วุ่นสุดขีดตอนงานยุ่งมากๆขนาดไหน
จากประสบการณ์ของเราเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะ
คนจำนวนไม่น้อยมองสิ่งที่เห็นแล้วคิดเอาเองว่าสวยงามและง่ายดาย
ซึ่งมันฉาบฉวยเกินไป
ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และไม่ต้องผ่านอุปสรรค ปัญหาใดๆ
มีคนอยากทำงานด้านนี้ไม่ใช่น้อย
แต่ท้ายที่สุดเหลือคนที่ทำจริงจังเป็นอาชีพแค่หยิบมือ
ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณจะได้ไปต่อหรือเปล่า
เพราะมันขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

24 พฤษภาคม 2553



** แล้วความสงบก็เข้ามาแทนที่ความวุ่นวายโกลาหล
ขอแสดงความชื่นชมทุกท่านที่ไปช่วยทำความสะอาด
บริเวณเกิดเหตุร้ายในเมืองกรุงด้วยใจจริง
ภาพแบบนี้ทำให้คลายความเครียดกังวลลงไปได้เยอะ
หลายสิ่งหลายอย่างเหมือนฟ้าหลังฝน ภาวนาขอให้เป็นเช่นนี้ไปนานๆ
แต่อย่าได้ประมาท เกรงว่าเมื่อมีฟ้าหลังฝนย่อมมีฟ้าก่อนฝน
อะไรๆย่อมเกิดขึ้นได้ ไม่อยากคิดกลัวไปก่อน คิดไปก็เท่านั้น
ขอสิ่งดีงามช่วยปกปักษ์บ้านเมือง คนดี และสิ่งดีๆทั้งหลายทั้งปวง ด้วยเถิด

------------------------------------------------------------------------------------------

26 พฤษภาคม 2553



** ได้เวลากลับมาเยียวยาจิตใจตัวเอง รู้ว่าเครียดแต่ก็หลีกไม่พ้นข่าวสาร
เวลามีปัญหาไม่รู้จะแก้ยังไง ไม่รู้จะหลีกยังไง วิธีง่ายๆใกล้ตัวคือ
หายใจเข้าออก ให้ลึกยาวกว่าปกติ ให้อ๊อกซิเย่นเข้าไปสู่สมองเยอะๆ
สมองปรอดโปร่งความคิดก็แล่น ร่างกายก็สดชื่นตามไปด้วย
ลองทำดูซักครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงนึง ใครที่ทำได้บ่อยๆมากๆ
ร่างกายจะแข็งแรงกว่าคนที่หายใจตื้นๆและสั้นๆ
อีกวิธีที่ทำบ่อยคือการชัตดาวน์ร่างกาย ด้วยการนอน
ปิดเครื่องเรื่องราวให้สมองร่างกายและจิตใจได้พักไปพร้อมกันทั้งระบบ
ยกเว้นว่านอนไม่หลับก็อีกเรื่อง อิอิ

------------------------------------------------------------------------------------------

27 พฤษภาคม 2553



** วาดสีน้ำเป็นตัวอย่างหนึ่งภาพให้ลูกค้าดู
ไม่รู้จะออกหัวหรือออกก้อย ลุ้นๆๆ
ช่วงนี้การงานเนือย เอื่อยอย่างรุนแรง
รู้สึกไฟในตัวมันลดลงกว่าแต่ก่อน
กำลังสร้างไฟในการทำงานให้ตัวเอง
อยากรู้สึกเหมือนสมัยเรียน อาจารย์สั่งงานอะไรมา
ได้ทำงานอะไรก็สนุกไปหมด ชอบไปเสียหมด
แต่ตอนนี้เหมือนทำงานให้เสร็จๆทันเวลากันไป
ต้องทำตัวให้สดชื่น และมีไฟแบบนั้นให้ได้ สู้ๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

29 พฤษภาคม 2553



** นึกเรื่องตลกๆเกี่ยวกับตัวเราขึ้นมาได้
ทำนามบัตรไว้เยอะแยะมากมาย ไม่ค่อยได้แจกซักเท่าไหร่
ซื้อสมุดใส่งานหรือกระเป๋า portfolio (แฟ้มสะสมงาน) ไว้เยอะ แต่ไม่ค่อยได้ใช้
ทำ self promotion (สิ่งพิมพ์โฆษณาตัวเราเอง) ไว้สองสามชุด แต่ไม่เคยส่ง
ทำภาพประกอบขึ้นใหม่หลายชุด หลายสไตล์ แต่ไม่ค่อยได้เอาไปเสนอที่ไหน
ความอยากมันเยอะ แต่มัวเหนียมๆ อายๆอยู่แบบนี้แหละ
สมชื่อถ่านหินจำศีลจริงๆ อิอิ
เรื่องกับรูปไม่เกี่ยวกันเลย
ตอนแรกจะพูดเรื่องสันติ สันติภาพ แต่นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร ทางไหนดี

------------------------------------------------------------------------------------------

31 พฤษภาคม 2553



** เดือนนี้ในความรู้สึกของเรา เป็นเดือนที่วุ่นวาย ปวดหัว เครียด
ในที่สุดเรื่องร้ายๆก็ผ่านไป วันที่ดีกว่าก็มาถึง วันหน้าอย่าเพิ่งไปกังวล
เดือนนี้หมดลงและผ่านไป ผ่านเรื่องร้าย ขอให้พบเรื่องดี
เริ่มต้นกับวันใหม่ เดือนใหม่กันดีกว่า

------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:40:57 น.
Counter : 4817 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ถ่านหินจำศีล
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




///////////////////////////////////////////////

© ถ่านหินจำศีล
ผันตัวจากอาชีพอาร์ตไดเร็คเตอร์
มาเป็นนักเขียนและนักวาดภาพประกอบนิทาน
เมื่อราวๆเดือนมีนาคม 2545
ทำงานและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่แม่กลอง

บล็อกแห่งนี้ถือกำเนิดเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2550
มี 11 กรุ๊ปบล็อก รวมบล็อกได้ 354 บล็อก
มีอายุบล็อกนับถึง 16 ก.พ. 2557 ครบ 7 ปีแล้ว
-------------------------------------------------------
https://www.trytobeillustrator.bloggang.com
ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายลิขสิทธิ์ปี 2537
© ถ่านหินจำศีล
-------------------------------------------------------

Find more artworks/photos like this on PORTFOLIOS*NET
Friends' blogs
[Add ถ่านหินจำศีล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.