Group Blog
 
All Blogs
 
เปลี่ยนสมอง เปลี่ยนความคิด และชีวิต...







หลายสัปดาห์มาแล้ว.. นายกตู่กล่าวอะไรต่อมีอะไรตามสไตล์...อย่างสับเพเหระและให้ใครต่อใครรวมทั้งสื่อฯไปเปลี่ยนสมองใหม่กัน ทำให้เกิดประเด็นที่เราอยากทักในบันดล... แต่ติดงานประจำที่ต้องทำเพื่อหลีกหนีความยากจน...ตอนนี้ได้จังหวะมีเวลาก็ขอเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความจริงแท้ของสมองในแง่ที่อาจนำมาเทียบเคียงกับวิถีสังคมและการเมืองบ้านเราเผื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านนายกตู่และเหล่าพี่น้องผองเพื่อนของท่าน...ได้เปลี่ยนความคิดโดยไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนย้ายสมองกันหรอก...ทั้งนี้ไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดกายวิภาคของสมองที่ท่านนายกฯเกิดสับสนกับหัวใจซึ่งเราก็เข้าใจในตัวท่านนายกตู่ที่มีพื้นฐานความรู้จำกัด…เพียงแต่เราคิดยังไงก็คิด (ในแง่ดี) ไม่ออกว่าทำไมท่านอยากเข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองด้วยกลไกกระทืบแผ่นดินด้วยรองเท้าบูธอีก...ทั้งๆที่ประวัติศาสตร์บ้านเราก็วนเวียนกับการทำรัฐประหารกันมาอย่างพร่ำเพรื่อและฉุดรั้งประเทศชาติไม่ให้ไปไหนกันไม่รู้กี่นับมาแล้ว...เฮ้อๆๆๆๆ

ขอเข้าเรื่องดีกว่า

สมองจัดเป็นอวัยวะที่มีความพิเศษแตกต่างจากอวัยวะอื่นๆของร่างกายได้รับการปกป้องอย่างเหลือเชื่อด้วยกลไกสุดมหัศจรรย์ทางธรรมชาติหลายๆรูปแบบ....ที่สำคัญที่สุดของหนึ่งในนั้นก็คือการสร้างตัวเองให้หลุดพ้นจากการรุกล้ำของเซลล์เม็ดเลือดขาว...ถ้าเปรียบเม็ดเลือดขาวก็คงไม่แคล้วเสมือนกับเหล่าทหารนั่นแหละ... ขณะที่สมองก็คือตัวตนและจิตวิญญาณของเราที่ทำหน้าที่คิดตัดสินใจและเลือกหนทางชีวิตซึ่งเปรียบไปก็คล้ายกับผู้บริหารบ้านเมือง...นั่นเอง

แม้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ในการช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งเชื้อโรคต่างๆแต่ธรรมชาติก็ต้องการให้ดำรงอยู่ในขอบเขตของร่างกายที่ไม่เกี่ยวข้องกับสมอง ปกติแล้วเซลล์เม็ดเลือดขาวจะกำจัดทุกๆสิ่งที่เข้ามาในร่างกายที่เป็นสิ่งแปลกปลอมไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเชื้อโรคหรือไม่ก็ตามโดยไม่ทำลายเซลล์ของเราเอง (โดยตรง) เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดขาวรับรู้ว่าเซลล์ต่างๆในร่างกายคือพวกเดียวกันเองอย่างไรก็ตามการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมีปฏิกิริยาก้าวร้าวรุนแรงกับสิ่งแปลกปลอมและก่อให้เกิดผลกระทบกับอวัยวะต่างๆในบริเวณใกล้เคียง (ประหนึ่งช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็กระจุยกระจาย) จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการทางพยาธิสภาพกับอวัยวะนั้นๆได้ด้วย...เพียงแต่ว่าผลกระทบข้างเคียงนั้นเมื่อเกิดกับอวัยวะอื่นๆที่ไม่ใช่สมองก็ยังอยู่ในระดับที่พอรับพอทนกันได้...แต่หากการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวเกิดขึ้นในสมองก็จะรุนแรงจนยากต่อการเยียวยาเนื่องจากเซลล์สมองมีความอ่อนไหวเป็นจุดยุทธศาสตร์ของชีวิต และมีการสร้างใหม่ช้ามากหรือแทบไม่สร้างเลย ดังนั้นสมองมีการสร้างกลไกขัดขวางไม่ให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเข้ามาภายในซะเลย...และด้วยเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือเซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกายเราเองแท้ๆจะขาดสำนึกว่าเซลล์สมองก็คือส่วนหนึ่งของร่างกายเราเอง ดังนั้นหากมีอุบัติการใดๆก็ตามแต่ที่ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปในสมองได้เซลล์เม็ดเลือดก็จะทำลายเนื้อสมองของเราซะเอง.......(เอะๆ! อย่างที่ชอบพูดว่าทหารไม่ใช่นักการเมืองนั่นน่ะ)

อุปมาอุปมัย...หากท่านทหารทั้งหลายรับทราบและสามารถเข้าถึงปรัชญาความสมดุลย์และพอเพียงได้...ท่านก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบทหารที่เข้ายึดบ้านเมืองด้วยการอ้างเหตุหรือโอ้อวดที่จะเปลี่ยนอะไรต่อมิอะไรเถอะท่านควรทำหน้าที่ของท่านเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องก้าวก่ายหน้าที่อื่นอันไม่ควรแม้จะมีเสียงยกยอปอปั้นให้ท่านหลงตัวเองก็ขอให้เป็นเพียงชั่วขณะ...อย่าถึงกับติดเป็นนิสัยสันดานเลย...ท่านต้องหยุดการก้าวก่ายและวิธีดำเนินการด้วยระบบทหารของท่าน...เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขี้นไม่ว่าช้าหรือเร็วก็คือการทำให้การความเสื่อมถอยของชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกับที่สมองของเราเมื่อถูกเซลล์เม็ดเลือดขาวเข้ามารุกล้ำเมื่อไหร่ก็จะทำให้เกิดความเสื่อมของความคิดเกิดความจำเลอะเลือนและนำไปสู่จิตวิปลาส...แม้อาจทำให้ความเจ็บปวดหายไปเพียงชั่วขณะเพราะทำลายสมองส่วนที่รับรู้ความเจ็บปวดเท่านั้น..ไม่สามารถแก้ที่ต้นเหตุได้และในที่สุดเซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะร่วมทำลายสมองตัวเองจนสิ้นเพราะเข้าใจว่าสมองคือศัตรูของตัวเอง...

แม้ว่า...พระพุทธเจ้ากล่าวว่าบัวมีสี่เหล่าและถูกกำหนดวิถีชีวิตตามแต่ที่เกิดมาและดำรงอยู่...แต่ท่านก็คงทราบได้ว่าบัวไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้เพราะบัวไม่สามารถเปลี่ยนสมองได้(เพราะไม่มี) แต่ท่านๆทั้งหลายครับ ท่านเปลี่ยนตัวเองได้ ท่านเปลี่ยนเถอะครับ อย่ายืดเยื้ออย่ายึดติด อย่าอ้างโน้นนี่นั่น....คืนชะตาชีวิตให้กับคนในชาติตามวิถีและครรลองไม่จำเป็นต้องอ้างความสงบ ความมั่นคง ทึกทักว่ามีใครอยากใครไม่อยากเลือกตั้งเพราะไม่ว่าจะมีฝ่ายไหนมากน้อยกว่ากันการเลือกตั้งก็คือการเริ่มต้นให้เราได้หลุดจากการทำลายตัวเราเอง...ถ้าหากยังทนทุรันกันต่อไป เราก็คงไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยนสมองใหม่หรอก...นอกจากไปเกิดใหม่กัน

(*!) นอกจากสมองแล้ว อวัยวะที่สำคัญอื่นๆอย่างลูกตาและอัณฑะก็ไม่ยอมให้เซลล์เม็ดเลือดขาวรุกล้ำ




Create Date : 07 มีนาคม 2561
Last Update : 8 มีนาคม 2561 14:28:32 น. 0 comments
Counter : 468 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธีร์ พัชร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ธีร์ พัชร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.