หลวงพี่ตอนนี้อยู่ที่จังหวัดพะเยามาทำงานที่ไม่เคยคาดฝันซิ่งจะยังไม่ขอเล่าเรื่องราว แต่มีประโยคหนึ่งฝากไว้เหมือนบุคคลท่านหนึ่งซึ่งจำชื่อไม่ได้แล้วกล่าวว่า "จงโง่ต่อไป"
วันไหนถ้าเรายังรู้ตัวว่าเรายังโง่อยู่วันนั้นเราจะค้นหา รากเหง้า ของความโง่ "จงโง่ต่อไปแต่อย่าโง่เง่า(เหง้า)"
คำนี้มอบให้ลูกแม่โจ้ทีประสบความสำเร็จในค้นหาความฝันที่แลกด้วยกำลังใจอันยิ่งใหญ่บุคคลบางคนเคยกล่าวไว้ว่า การที่จะให้การศึกษาหล่อหลอมให้ความเป็นมนุษย์สมบรูณ์ได้นั้นบางทีอาจต้องใช้เวลานานในรั้วมหาลัย..
เราจะเข้าใจมันเมื่อเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันอยู่ความทรงจำของรุ่นน้องหลายรุ่น
เราเป็นรุ่นทวดที่รุ่นน้องบอกว่าเราไม่ได้โง่เลยแต่เรามันบ้า ความบ้าความกล้าหาญออกจากกรอบกรง..
หลายวิชาที่เราแสวงหามามันไม่ได้อยู่ตรงหน้าทั้งหมดให้เราเปิดอ่านบางวิชาการเราไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเรียนในห้องส่วนรวม ขอให้เรามีห้องหัวใจส่วนตัวที่นี่จะเป็นที่ลงทะเบียนวิชาที่เรา like and life..
เมื่อหลวงพี่นึกถึงวันนี้ที่ใครๆไปรับหลักฐานแห่งความสำเร็จก็มักจะปลื้มใจด้วยเหมือนครั้งที่ไปช่วยขายดอกไม้แล้วเห็นภาพหมู่พี่ๆน้องๆของเราเองทยอยไปก่อนเรา
การไปรับปริญญาครั้งนี้ของโยมน้องชายเป็นโอกาสที่หลวงพี่ไม่มีโอกาสได้รับ
เชื่อว่าความสุขของเราไม่ได้อยู่ที่เราได้รับปริญญากับน้องๆของเราอย่างเดียวแต่เรากำลังเป็นต้นแบบให้น้องอีกหลายคนได้เห็นว่า
การศึกษาต้องเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตจิตใจสมกับเพลงที่ร้องว่าชีวิตจิตใจมอบให้แม่โจ้และนี่คือความสุขที่แท้จริงที่เราได้รับจากมหาวิทยาลัย
แม้วันนี้สตีบจ๊อบจะไม่อยู่แล้วแต่สิ่งหนึ่งที่เหลือให้เราเห็นคือ ipad iphone imac เป็นต้น
ดังนั้นหลวงพี่มีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าการที่เราต้องทนอยู่กับการแก้ I ในมหาวิทยาลัยไม่ได้หมายความว่าเราโง่ทั้งหมด
แต่อาจหมายถึงเรากำลังค้นหา I ของตัวเองเหมือนที่สตีบจ็อบทำสำเร็จมาแล้วก็ได้...คือ ipac
เออนี่คงเป็นจดหมายทางอีเมลฉบับแรกที่หลวงพี่ได้ส่งหาญาติมิตรตั้งแต่ได้บวชมา ปีนี้ สี่พรรษาแล้ว
แม้ไม่เห็นหน้าตากันคงยังจำกันได้นะ และเมื่อมีโอกาสคงได้คุยกันอีกเรื่อยๆ เจริญพรโยมน้องชาย......