|
โปรแกรมสิงคโปร fragrance hotel oasis
โปรแกรมสิงคโปร fragrance hotel oasis 3 วัน 2 คืนเต็ม
วันแรก ประมาณ 11.00 น. ถึง MRT Lavender ออก exit B นั่งสาย145 ไป 10 ป้าย ผ่านข้าวมันไก่ Boon Tong Kee เดินย้อนมาอีกนิดถึงโรงแรม ฝากกระเป๋าที่โรงแรม
ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม นั่งสาย 145 ไป ลงที่โบสถ์ St.Andrew ถ่ายรูปโบสถ์เสร็จ นั่งสาย 145 ไปอีกป้ายเดียว (เดินก็ได้) จนถึง Supreme Court ถ่ายรูปกับ จานบิน บนตึก อิอิ
แล้วก็นั่งสาย 145 ไปอีก 3 ป้าย ลงตรงข้าม วัดพระทันตธาตุพุทธเจ้า Buddha Tooth Relic Temple วัดจะอยู่ขวามือ แต่ซ้ายมือ ป้ายที่ลงเนี่ย คือ Maxwell Food Centre ซึ่งมี ข้าวมันไก่ไหหนานนีส (ไหหลำ) tian tian ไปลองชิม ชิมเสร็จแล้วก็ไป URA CENTRE ชม Singapore City Gallery (ปิดห้าโมงเย็น งั้นต้องไปถึงไม่เกินสามโมงเย็น)
แต่ถ้ายังมีเวลาเหลือ ไปเดินเล่น AnnSiang Road เป็นอาคารที่มีทางเดินหน้าอาคารเป็นซุ้มโค้งๆ มีร้านสินค้าแบรนด์เนมด้วยนะ เห็นเพื่อนผมยังปลาบปลื้มไม่หายกับเสื้อยืด FredPerry ที่ซื้อมาจากแถวนั้น ชิม/ชม/ช็อป เสร็จแล้ว (นี่แค่วันแรกนะเนี่ย) ก็ข้ามถนนไปไหว้พระ วัดพระทันตธาตุพุทธเจ้า ขึ้นไปไหว้ให้ครบทุกชั้นที่เขาเปิดให้เข้า อิ่มบุญแล้วเดินออกจากวัดเลี้ยวซ้ายเดินตรงไป ผ่าน Smith Street/ TempleStreet/วัดแขก Sri Mariamman/ จนถึง Pagoda Street
เลี้ยวซ้าย เดินเข้า Pagoda Street เลือกซื้อพวงกุญแจ/ที่เปิดกระป๋อง (ซื้อเลยเวลาน้อย เผื่อไม่ได้มาแถวนี้อีก) เดินไปจนถึง MRT Chinatown แต่ไม่ต้องลงสถานี MRT ให้เดินต่อไปจนทะลุปากซอยจะเจอ New Bridge Road
เดินไปทางขวามือ จะเจอป้ายรถเมล์ ให้ขึ้นสาย 124 เพื่อไป Henderson Wave นั่งไป 12 ป้าย (ถ้าจะไป Henderson Wave ให้อ้อยอิ่งแถว Chinatown นานๆ หน่อย กะว่า สักห้าโมงเย็นค่อยไป จะได้ไม่ร้อน)
ชม Henderson Wave เสร็จ ลงมาป้ายรถเมล์เดิม นั่งสาย 131 ไปลงหน้าโรงแรม Fullerton แล้วเดินลอดถนนไปถ่ายรูปกับ Merlion แล้วเดินต่อไป Esplanade (สิงคโปร์อ่านว่า เอส พลา เหนด) เดินต่อไป suntec city ย้อนมาที่ Singapore Flyer เดินข้ามHelix Bridge ไป Marina Bay Sand เมื่อเที่ยวครบแล้ว ขึ้นสาย 133 จากฝั่งหน้าโรงแรม Marina Bay Sand Hotel ไป สถานี MRT Marina Bay ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง เปลี่ยนเป็นสีเขียวที่ Raffle Place ไป MRT Lavender ออก exit B นั่งสาย145 ไป 10 ป้าย ผ่านข้าวมันไก่ Boon Tong Kee เดินย้อนมาอีกนิดถึงโรงแรม
------------------------ วันที่สอง ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม ขึ้นสาย 145 ไปลง Vivo City
เดินเข้า ViVocity ไป LEVEL 3 , Lobby L ต่อ Monorail Sentosa Express เข้า Sentosa
ตอนค่ำกลับจาก Sentosa นั่ง MRT สายสีม่วงไปสถานี Clark Quay เดินเล่น คลากคีย์
แล้วนั่ง MRT ไปสถานี farrer park เลือกทางออกไป seragoon plaza (มุสตาฟาอยู่หลังห้างนี้) ช้อปที่มุสตาฟา ช็อปเสร็จ ไป ฝั่งตรงข้าม Seragoon Plaza เดินไปตามทิศทางการวิ่งของรถ จนถึงบริเวณ ถนน Seragoon ตัดกับถนน Baliestier ก็เลี้ยวขวา ขึ้นสาย 145 ไปประมาณ 5-6 ป้าย (แต่ดึกๆ นั่งแท็กซ่าดีกว่ามั้ง)
ลงตรงข้ามโรงแรม ข้ามถนน แล้วเดินเข้าโรงแรมพักผ่อน
วันที่สาม ออกจากโรงแรม นั่ง 131 ฝั่งเดียวกับโรงแรม ไป MRT Noveana ขึ้น MRT ไปสถานี Raffle Place เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว ไปสถานี Boon Lay ต่อรถเมล์ 194 หรือ 251 ไป Jurong Bird park แต่ไกลมากนะครับ ไปกลับ ก็ สองชั่วโมง ไม่รวมเดินเที่ยว
ลองเปลี่ยนไป Mariina Barage ไหมครับ นั่งสายสีแดงจาก Noveana ไม่ต้องเปลี่ยนสายไปลง MRT Marina Bay ออกจากสถานี ป้ายบอกทางจะหลอกว่าไป Marina Barrage ให้เลี้ยวซ้าย ถ้าเชื่อก็เดินไกลมาก แต่ถ้าดื้อไปทางขวา ไปแค่ 50 เมตร ก็เจอป้ายรถรับ-ส่ง แล้ว ให้ขึ้นรถสาย 400 หรือที่เขียนว่า Marina Barrage คันแรก เริ่ม แปดโมงยี่สิบ
ชม Marina Barrage แล้ว ก็นั่งรถกลับมาสถานี MRT Marina Bay นั่ง MRT สายสีแดงไป Orchard Road เมื่อช็อปิ้งเสร็จให้ไปที่หน้าสถานทูตไทย Royal Thai Embassy หรือหน้าห้าง Tang หรือ Midpoint Orchard หรือ Concorde Hotel หรือ MRT Dhoby Ghaut แล้วขึ้นสาย 7 มาลงที่ ป้ายรถเมล์ MRT lavender แล้วต่อรถสาย145 ไปโรงแรม รับสัมภาระเสร็จแล้ว ออกจากโรงแรม นั่งสาย 131 ไป MRT Noveana เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว ที่ Raffle Place ไปสนามบิน
Create Date : 13 กันยายน 2554 | | |
Last Update : 13 กันยายน 2554 23:10:41 น. |
Counter : 9326 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พระราชดำรัสเกี่ยวกับการพัฒนารถไฟในประเทศไทย
"ที่จริงรถไฟนี้จะได้ประโยชน์มาก เพราะว่า ดีกว่าการคมนาคมทางถนน ทางถนนมันแพงมาก ความจริงก็ ทางรถไฟจะถูกลงไปอีกมาก ก็หมายความว่า ดีสำหรับการเศรษฐกิจของไทย ถ้าทำได้สำเร็จโดยเร็ว"
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 27 มิถุนายน 2554
Create Date : 01 กรกฎาคม 2554 | | |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 13:05:38 น. |
Counter : 1118 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Xiamen BRT ตัวอย่างที่ดีของระบบบีอาร์ทีในฝัน
จากที่เคยเขียนเเรื่อง BRTในฝันกับความเสียดายขยายถนนหทัยราษฏร์เป็น(แค่) 4 เลน ว่า
" BRTในความฝันของผม (เอ่อ เรียกว่า Taoru-BRT หรือ TRT แล้วกัน) TRT จะเป็นรถบัสพ่วง ที่บรรทุกคนได้เยอะๆ สัก 100 คน มีช่องทางพิเศษ อยู่เกาะกลางถนน แต่พอถึงสามแยกหรือสี่แยกก็สร้างสะพานให้ TRT ข้ามไป ไม่ต้องรอติดไฟแดงให้เสียเวลา บางที สะพานที่ให้ TRT ข้าม อาจจะมีทุกระยะ 2 กม. เพื่อให้สามารถกลับรถยนต์ บนถนนปกติได้
ทีนี้ ช่องทาง TRT มันก็จะเหมือนกับรางรถไฟฟ้า นั่นแหละ ที่สามารถวิ่งผ่านได้ตลอด ไม่ติดการจราจรอะไรเลย
หรือจะสร้างเป็นทางยกระดับตลอดสาย แบบรางรถไฟฟ้า BTS ก็ได้นะ (ลองนึกภาพดูก็ได้ ว่า ถ้าเราใช้รถบัส ไปวิ่งบนรางรถไฟฟ้า BTS รถบัส มันจะติดอะไรไหม) "
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=taoru&month=05-2008&date=10&group=1&gblog=40
ปัจจุบัน BRT แบบในฝันของผม เป็นจริงแล้ว ที่เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน
เซียะเหมินบีอาร์ที (Xiame BRT) เป็นระบบบีอาร์ที ที่แยกจากถนนปกติโดยสิ้นเชิง บางช่วงเป็น บีอาร์ทีลอยฟ้า (Elevate BRT) แม้บางช่วง จะลงมาวิ่งในระดับเสมอดิน ก็เป็นช่องทางพิเศษแยกต่างห่าง รถอื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปวิ่งในช่องทางบีอาร์ทีได้เด็ดขาด ทำให้ บีอาร์ที เดินทางได้ตรงเวลา ผู้ใช้บริการจึงนิยม และกลายเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักของเมืองเซียะเหมินในปัจจุบัน
ได้ข่าวว่า จังหวัดภูเก็ต มีแนวคิดจะสร้างรถไฟฟ้า ถ้าสร้างได้ก็ดี แต่ลองพิจารณาบีอาร์ทีลอยฟ้า (elevated BRT) แบบ Xiamen BRT บ้าง เผื่อบางทีค่าดำเนินการ อาจจะถูกลง ที่สำคัญ Xiamen ก็มีความคล้ายคลึงกับภูเก็ตหลายอย่าง เช่น มีเมืองส่วนที่เป็นเกาะ มีชาวจีนเชื้อสายฮกเกี้ยนเหมือนกันด้วย
ลองเทียบกับ บีอาร์ที ของ กทม. ดู คุณอยากนั่งแบบไหนมากกว่ากัน
Create Date : 06 มีนาคม 2554 | | |
Last Update : 13 มีนาคม 2554 13:48:27 น. |
Counter : 1410 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เสาะหาข้อมูลกว่างโจว
เสาะหาข้อมูลกว่างโจว
1. ที่กว่างโจว มีบัตรขึ้นรถ เหมือนบัตร Octopus ของฮ่องกง ชื่อบัตร Yang Cheng Tong ซื้อ 80 หยวน ใช้ได้ 50 หยวน และเวลาคืนบัตรจะได้ค่ามัดจตำคืนทั้งหมด โดยไม่หักอะไรเลย แต่เวลาเงินในบัตรจะหมด ห้ามเติมเงิน ให้ซื้อบัตรใหม่เลย เพราะบัตรที่เติมเงินเพิ่มเข้าไป จะขอคืนเงินไม่ได้ ขอคืนเงินได้ 4 แห่งเท่านั้น คือ 1. ออฟฟิซ ตรงทางออก G สถานี ถี่ยู่ซีลู่ 2. ออฟฟิซ ตรงทางออก J สถานี กงหยวนเฉียน 3. ออฟฟิซ เลขที่ 466 ถนน เหยินหมิงเป่ยลู่ 4. ออฟฟิซ เลขที่ 37 ถนน ตงหัวตง เชอลู่เปียน ข้อมูลจาก //www.wutkatefanclub.com/webboard/webboard/viewtopic.php?f=6&t=1125 2. การไป Nansha Tianhou Palace ซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่ Tianhau ตามรูปนี้ //commondatastorage.googleapis.com/static.panoramio.com/photos/original/21971203.jpg (คิดว่า เป็นเทพองค์เดียวกับ เจ้าแม่อาม่าของมาเก๊า )
พิกัดตาม Google Map แบบภาพจากดาวเทียม 22.760224,113.615965 แต่ที่เปรี้ยวคือ ตำแหน่งที่ตั้งของที่นี่ จะอยู่ใกล้ปากแม่น้ำไข่มุก
วิธีไปคือ นั่ง Metro สายสีเขียว ไปสุดสายที่ Jinzhou แล้วต่อรถเมล์สาย 360/ 361A / 361B ไปที่ Tianhau Palace สิ่งที่อยากรู้ก็คือ 2.1 ใช้บัตร Yang Cheng Tong กับรถเมล์สาย 360/ 361A / 361B ได้หรือไม่ 2.2 ควรไปที่นี่ เวลาใด เช้า สาย บ่าย เย็น กลางคืน ? 3. การไป Lianhua Shan (เหลียนหัวซาน) ซี่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประทับยืน ตามรูปนี้ //en.wikipedia.org/wiki/File:Guanyin_of_Lianhuashan.jpg พิกัดตาม Google Map แบบภาพจากดาวเทียม +22° 59' 27.92", +113° 30' 1.44" นั่ง Metro สายสีเขียว (เหมือนกัน) ไปลงสถานี Shiqi ออกจากสถานี Shiqi เดินมาทางซ้ายหน่อยมีป้ายรถประจำทาง นั่งรถประจำทางฝั่งเดียวกับสถานี รถประจำทางมีสายเดียว ค่าโดยสารคนละ 2 หยวน นั่งไปลงสุดสาย เดินออกจากอู่รถประจำทาง เลี้ยวซ้ายเดินมาหน่อยมี super เดินเลยไปหน่อย ถึงทางแยก ให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวมาแล้ว จะเห็นซุ้มใหญ่ เป็นทางเข้า Lianhua Shan เสียค่าเข้า แล้วเสียเงินค่ารถยนต์ไฟฟ้า รถจะพาขึ้นไปบนเขา (ข้อมูลจาก คุณ ห้าสิบกะรัต) //www.data4thai.com ควรใช้เวลาทีนี่ 3 ชั่วโมง สิ่งที่อยากรู้ก็คือ 3.1 ควรไปตอนไหน เช้า สาย บ่าย เย็น กลางคืน 3.2 ในบางเว็บบอกว่า มีเรืออกจากตัวเมืองกวางโจว จากท่าเรือ Xidi มายังที่นี่ แต่ไม่ได้ระบุ เวลา อยากให้สอบถามว่า มีเรือมาที่นี่เวลาไหนบ้าง ค่าเรือเท่าไหร่ ใช้บัตร Yang Cheng Tong ได้ไหม 4. การไป Xiqiao Shan (ซีเฉียวซาน) ซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประทับนั่งตามรูปนี้ //2.bp.blogspot.com/_512VEbm7xB0/SlXn2TblO5I/AAAAAAAAel8/R_w-91woqsA/s400/14.jpg พิกัดตาม Google Map แบบภาพจากดาวเทียม คือ +22° 55' 47.14", +112° 58' 19.28" นั่งรถไฟ (รถไฟธรรมดา ไม่ใช่ Metro ) ไปสถานีเมือง Foshan ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เช็คตารางรถไฟ จาก Guangzhou ไป Foshan ได้ที่ //www.travelchinaguide.com/china-trains หน้าสถานีรถไฟ นั่งรถท่องเที่ยวสาย 1 ไปลงที่ทางเข้า ซีเฉียวซาน เสียค่าเข้า แล้วจะมีรถบริการ ขึ้นไปบนเขา ควรใช้เวลาที่นี่ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพราะกว้างมาก สิ่งที่อยากรู้ 1. รถท่องเที่ยวสาย 1 หน้าตาเป็นอย่างไร 2. รถรับขึ้นไปบนเขา ราคาเท่าไหร่ รับ-ส่ง นักท่องเที่ยวไปจุดอื่นๆ หรือไม่ 3. ควรไปเวลาใด 5. ร้านติ่มซำภัตตาคาร ซิ่งยุ่นโหลว-หอนำโชค ซึ่งอยู่ที่ Tikanglu (ไถ้คังลู่)-ถนนสุขสมบูรณ์ ใกล้ๆกับ เป่ยจิงลู่ ถนนคนเดิน ป้ายตัวใหญ่หน้าอาคาร เขียนว่า Lucky Fellow Restuarant ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 6 เลือกโต๊ะนั่งได้แล้ว พนักงานจะส่ง บิล ให้เรา 1 แผ่น เพื่อให้เราไป เลือกสั่งอาหาร โดย ต้องการจานไหน? ก็หยิบใส่ถาดมา เค้าจะ แสตมปฺ์รายการ ลงใน บิล ของเรา หรือ จะเลือกเอาจาก รถเข็น ก็ได้ครับ จาก //www.wutkatefanclub.com/webboard/webboard/viewtopic.php?f=6&t=1125&start=15
Create Date : 06 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 6 ตุลาคม 2553 23:04:39 น. |
Counter : 3279 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
โปรแกรมสิงคโปร์แ สำหรับคนพัก AQUEEN Hotel LAVENDER
โปรแกรมสิงคโปร์ AQUEEN Hotel LAVENDER 3 วัน 2 คืนเต็ม
วันแรก ประมาณ 11.00 น. ถึง MRT Lavender นั่งสาย 133/145 ฝั่งตรงข้าม ICA building ไป 2 ป้าย
เดินต่อไปอีกนิดถึงโรงแรม ฝากกระเป๋าที่โรงแรม
ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม หันหลังให้โรงแรมเลี้ยวขวา ตรงไปผ่าน Kallang Bahru จนถึงป้ายรถเมล์หน้า HockSeng building รหัสป้ายรถเมล์ 07369 นั่งสาย 145 ไป 4 ป้าย ไม่นับป้ายที่ตัวเองขึ้น
ลงรถแล้วเดินมุ่งหน้าต่อไป ตามNorth Bridge Road (ถนนที่เราเดินอยู่) จะผ่าน ปาก Kandahar Street จนถึง Masjid Sultan ชมมัสยิดสุลต่านแล้ว เดินมุ่งหน้าต่อไป จะเจอ Arab Street ตัดกับ North Bridge Road เดินต่อไป ก็เป็น ปากซอยฮัจยี ( Haji Lane) เดินต่อไปก็เป็น ปากซอย Bali Lane เดินต่อไป ข้ามถนน Orphir Road , ผ่านปาก Fraser street จนถึงป้ายรถเมล์หน้า Parkview Square ตรงข้าม Raffle Hospital ขึ้นสาย 145 ไป 3 ป้าย ลงที่โบสถ์ St.Andrew ถ่ายรูปโบสถ์เสร็จ นั่งสาย 145 ไปอีกป้ายเดียว (เดินก็ได้) จนถึง Supreme Court ถ่ายรูปกับ จานบิน บนตึก อิอิ
แล้วก็นั่งสาย 145 ไปอีก 3 ป้าย (สาย 145 นี่ก็เทพเหมือนกันนะเนี่ย) ลงตรงข้าม วัดพระทันตธาตุพุทธเจ้า Buddha Tooth Relic Temple วัดจะอยู่ขวามือ แต่ซ้ายมือ ป้ายที่ลงเนี่ย คือ Maxwell Food Centre ซึ่งมี ข้าวมันไก่ไหหนานนีส (ไหหลำ) tian tian ไปลองชิม ชิมเสร็จแล้วก็ไป URA CENTRE ชม Singapore City Gallery (ปิดห้าโมงเย็น งั้นต้องไปถึงไม่เกินสามโมงเย็น)
แต่ถ้ายังมีเวลาเหลือ ไปเดินเล่น AnnSiang Road เป็นอาคารที่มีทางเดินหน้าอาคารเป็นซุ้มโค้งๆ มีร้านสินค้าแบรนด์เนมด้วยนะ เห็นเพื่อนผมยังปลาบปลื้มไม่หายกับเสื้อยืด FredPerry ที่ซื้อมาจากแถวนั้น ชิม/ชม/ช็อป เสร็จแล้ว (นี่แค่วันแรกนะเนี่ย) ก็ข้ามถนนไปไหว้พระ วัดพระทันตธาตุพุทธเจ้า ขึ้นไปไหว้ให้ครบทุกชั้นที่เขาเปิดให้เข้า อิ่มบุญแล้วเดินออกจากวัดเลี้ยวซ้ายเดินตรงไป ผ่าน Smith Street/ TempleStreet/วัดแขก Sri Mariamman/ จนถึง Pagoda Street
เลี้ยวซ้าย เดินเข้า Pagoda Street เลือกซื้อพวงกุญแจ/ที่เปิดกระป๋อง (ซื้อเลยเวลาน้อย เผื่อไม่ได้มาแถวนี้อีก) เดินไปจนถึง MRT Chinatown แต่ไม่ต้องลงสถานี MRT ให้เดินต่อไปจนทะลุปากซอยจะเจอ New Bridge Road
เดินไปทางขวามือ จะเจอป้ายรถเมล์ ให้ขึ้นสาย 124 เพื่อไป Henderson Wave นั่งไป 12 ป้าย (ถ้าจะไป Henderson Wave ให้อ้อยอิ่งแถว Chinatown นานๆ หน่อย กะว่า สักห้าโมงเย็นค่อยไป จะได้ไม่ร้อน)
ชม Henderson Wave เสร็จ ลงมาป้ายรถเมล์เดิม นั่งสาย 124 เหมือนเดิม แล้วรถจะวนกลับมา จะได้ไม่ต้องข้ามถนน ถ้าใจร้อน จะข้ามถนนไปขึ้นสาย 124 ฝั่งตรงข้ามก็ได้ ให้นั่งไปลงที่ห้าง เซ็นทรัล แล้วเดินต่อไปอีกนิด ถึงแม่น้ำสิงคโปร์ จะเห็นคลากคีย์ เดินข้ามแม่น้ำ ไปซื้อตั๋ว Hippo Cruise ล่องแม่น้ำสิงคโปร์ ขึ้นจากท่าน้ำแล้วเดินเที่ยวคลากคีย์ ไปตรงลานน้ำพุ เดินเที่ยวคลากคีย์เสร็จ ข้ามแม่น้ำกลับมาห้างเซ็นทรัลเหมือนเดิม แวะไปกิน Yakun Kaya toast ในห้างนี้ กินเสร็จไปที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างเซ็นทรัล นั่งสาย 145 ไปอีก 9 ป้าย ลงแล้วเดินต่อไปที่โรงแรม พักผ่อน ------------------------ วันที่สอง ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม หันหลังให้โรงแรมเลี้ยวขวา ตรงไปผ่าน Kallang Bahru จนถึงป้ายรถเมล์หน้า HockSeng building รหัสป้ายรถเมล์ 07369 นั่งสาย 133 ไป 6 ป้าย ไม่นับป้ายที่ตัวเองขึ้น ลงที่ Bugis Juction ช็อปกระจาย ช็ปอเสร็จแล้ว กลับมาขึ้นรถเมล์ที่ป้ายเดิม นั่งสาย 133 ไป 3 ป้าย ลงหน้า หน้า Suntec Convention Centre แล้วเดินไปที่ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (ของคนสร้าง หุหุ) แตะน้ำพุเสร็จเดินมาขึ้นรถเมล์ที่เดิม ขึ้นสาย 97/111/133 ไป 2 ป้าย (พอรถเลย Singapre Flyer ไปก็ลง แล้วเดินย้อนมา)
ขึ้น Flyer แล้วเดินกลับไปป้ายรถเมล์เดิม นั่งสาย 97 ไป 2 ป้าย ลงที่ CLIFFORD PIER (พอเห็น Merlion ทางซ้ายมือ ก็ลงได้)
ถ่ายรูปกับ Merlion ตัวลูกและตัวแม่ เสร็จ ก็กลับมาที่ป้ายรถเมล์เดิม ขึ้นสาย 10/57/ 97/100/131 แล้วนั่งไปลง Vivo City
เดินเข้า ViVocity ไป LEVEL 3 , Lobby L ต่อ Monorail Sentosa Express เข้า Sentosa
ตอนค่ำกลับจาก Sentosa นั่ง MRT สายสีม่วงไปสถานี farrer park ช้อปที่มุสตาฟา ช็อปเสร็จ ไป ฝั่งตรงข้าม Seragoon Plaza ขึ้นสาย 67 ไป 3 ป้าย ลงตรงข้ามโรงแรม ข้ามถนน แล้วเดินเข้าโรงแรมพักผ่อน
วันที่สาม ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม หันหลังให้โรงแรมเลี้ยวขวา ตรงไปผ่าน Kallang Bahru จนถึงป้ายรถเมล์หน้า HockSeng building รหัสป้ายรถเมล์ 07369 นั่งสาย 107/133 ไป MRT Lavender ขึ้น MRT ไปสถานี Raffle Place เปลี่ยนเป็นสายสีแดง ไปสถานี Marina Bay
ออกจากสถานี ป้ายบอกทางจะหลอกว่าไป Marina Barrage ให้เลี้ยวซ้าย ถ้าเชื่อก็เดินไกลมาก แต่ถ้าดื้อไปทางขวา ไปแค่ 50 เมตร ก็เจอป้ายรถรับ-ส่ง แล้ว ให้ขึ้นรถสาย 400 หรือที่เขียนว่า Marina Barrage คันแรก เริ่ม แปดโมงยี่สิบ
ชม Marina Barrage แล้ว ก็นั่งรถกลับมาสถานี MRT Marina Bay นั่ง MRT สายสีแดงไป Orchard Road เมื่อช็อปิ้งเสร็จให้ไปที่หน้าสถานทูตไทย Royal Thai Embassy หรือหน้าห้าง Tang หรือ Midpoint Orchard หรือ Concorde Hotel หรือ MRT Dhoby Ghaut แล้วขึ้นสาย 7 มาลงที่ ป้ายรถเมล์ MRT lavender แล้วต่อรถสาย 133/145 ไปโรงแรม รับสัมภาระเสร็จแล้ว ออกจากโรงแรม ข้ามไปฝั่งตรงข้าม หันหลังให้โรงแรมเลี้ยวขวา ตรงไปผ่าน Kallang Bahru จนถึงป้ายรถเมล์หน้า HockSeng building รหัสป้ายรถเมล์ 07369 นั่งสาย 107/133 ไป MRT Lavender ขึ้น MRT ไปสนามบิน
Create Date : 15 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 15 มกราคม 2553 20:32:42 น. |
Counter : 1359 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|