เที่ยวญี่ปุ่น [1] Day 7-8 Kyoto > Kobe [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Day 7 [15.10.12] Kyoto 京都 หนึ่งวัน-เที่ยววัด เก่าในเกียวโต [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Kyoto 京都　 การเดินทาง Shin-Osaka > Kyoto [Shinkansen hikari 506] 14 Min วันนี้เราต้องเดินทางกันด้วยรถบัสไปตามที่ต่างๆ Kiyomizu Temple วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส จากสถานีเกียวโตนั่งรถบัสสาย 100, 202, 206, 207 ลงป้าย Kiyomizu-michi เดินต่ออีก 10-15 นาที ระหว่างทางเดินเข้าวัด จะมีร้านขายของฝากของที่ระลึกตลอดแนว แต่ตอนนี้เช้าอยู่ ยังไม่มีร้านเปิดเลย ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน เวลาเปิด 06.00-18.00 น.  การวางแผนเที่ยว ควรวางแผนเที่ยววัดนี้เป็นที่แรก หรือที่สุดท้าย เพราะว่าเปิดเร็ว และปิดช้า  เขียนบัตรขอพร ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขน๊ะ (มั่ว) Ginkakuji Temple วัดเงินแห่งเกียวโต เป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ โดยท่านใช้เวลาปั้นปลายของชีวิตหลังเกษียณอาศัยอยู่ที่นี่  ต้นแบบของวัดแห่งนี้ได้อิทธิพลมาจากวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ซึ่งเป็นที่พักของปู่ของเขาในช่วงเกษียณอายุเช่นกัน  การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 100 ลงที่ป้าย Ginkakuji-mae แล้วเดินอีก 5 นาที ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 เยน เวลาเปิด 09.00-17.00 น. โยนเหรียญ อธิษฐาน แต่ในน้ำเค้าไม่มีเต่าน๊ะ  ต้นไม้สูงมาก ๆ น่าจะได้รับการดูแลอย่างดี วัดกินคะคุจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโก UNESCO Kinkakuji Temple วัดทองคินคะคุจิ (วัดพลับพลาทอง) นั่งรถบัสสาย 12, 59 ลงป้าย Kinkakuji-mae หรือสาย 101, 102, 204, 205 ลงป้าย Kinkakuji-michi เดินต่ออีก 5 นาที  ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน เวลาเปิด 09.00-17.00 น. โยนเหรียญ ขอพร (รู้สึกว่า น่าจะผิดหวังกันเยอะน๊ะ รวมเราด้วย) กลับมา Kyoto station Fushimi Inari Shrine ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ นั่งรถไฟ JR Nara Line จากสถานี Kyoto ลงที่สถานี Inari แค่ 2 สถานี ออกจากสถานีไปก็ถึงประตูทางเข้า แต่ ขึ้นรถผิดค่ะ นั่งอยู่หลายรอบมาก ดีน๊ะมี JR Pass   รถไฟต่างจังหวัด จะมีรถเร็ว ที่ไม่จอดทุกป้าย ที่สำคัญดูไม่ออก ถ้าให้ชัวร์ถามเจ้าหน้าที่ หรือคนแถวนั้นอีกทีก่อนขึ้นนะ    ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง อยู่ด้านหน้าสถานี JR Inari ลงรถไฟมาก็จะเจอกับทางเข้าเลย Fushimi Inari Shrine  ศาลเจ้าฟุชิมิ อินะริ (ศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอก) เป็นศาลเจ้าชินโตของเทพอินะริ เป็นเทพแห่งกสิกรรม ตั้งอยู่ในเขตฟุชิมิ เกียวโต แผ่นไม้ที่เอาไปวาดหน้าจิ้งจอกเอง Kyoto Tower อยู่ตรงข้ามกับสถานีเกียวโต ภายในใีร้านอาหร ร้านขายของที่ระลึก ตัวหอคอยสูง 131 เมตร  ไม่ได้เข้าไปเดินน๊ะ หมดแรง ต้องกลับไปพักแล้ว  Day 8 [16.10.12] Kobe 神戸  [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Flower Clock นาฬิกาดอกไม้เรือนใหญ่ๆ เดินได้เหมือนจริง แต่ตอนที่ไป ปิดซ่อมพอดีเลย  Meriken Park สวนเมริเคน เป็นสวนสาธารณะริมทะเลขนาดใหญ่บนพื้นที่ กว่า 100 ไร่ มี ศิลปิน มานั่งวาดรูปริมทะเล ย่านนันกิมาชิ (Nankin-machi) ถือเป็นย่านไชน่าทาวน์ที่เล็กที่สุด Day 7 (17.10.12) Osaka > Bangkok [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Bye Bye Japan  Ja mata ne !!   Create Date : 25 พฤษภาคม 2560     0 comment Last Update : 30 พฤษภาคม 2560 21:19:46 น.     Counter : 923 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยวญี่ปุ่น [1] Day 5-6 Takayama - Shirakawago [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Day 5 [13.10.12]  Osaka > Nagoya > Takayama  Takayama 〔高山〕เที่ยวเมืองโบราณ การเดินทาง  1. Osaka > Nagoya [Shinkansen Hikari 508] 69 Min 2. Nagoya > Takayama [LTD.EXP (WIDE VIEW) HIDA 3 ] 133 Min  รถไฟ JR Limited Express "Wide View Hida" [No.11] ขบวนรถมีหน้าต่างกว้าง เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ 2 ข้างทาง ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง  ข้อดีของการเดินทางระยะยาวๆ ด้วยรถไฟ ก็คือมีห้องน้ำพร้อม มีของขายบนขบวนรถด้วย JR Takayama ตอนที่ไปสำรวจบริเวณ Nohi Bus center มีเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปเที่ยวที่ Hidano Sato 飛騨の里  หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ โดยมีตั๋วเหมารวมค่าเข้า + ค่ารถไปกลับ ราคา 900 เยน ไปค่ะเวลายังมีเหลืออีกเยอะ และยัง Chick-in ไม่ได้ด้วย ขึ้นรถที่ ป้ายบัส No.3 (แฮ่ะๆ ถ้าจำไม่ผิดน๊ะ) Next station : S4 Hidano Sato ที่ขายตั๋ว ราคาผู้ใหญ่ คนละ 700 เยน  Hidano Sato 飛騨の里 หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ  เป็นหมูบ้านพื้นเมืองจำลอง (สมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ) ทำให้เมือง ฮิดะโบราณฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ในบ้าน ทุกหลัง จะมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของหมู่บ้านกสิกรรมในหุบเขานี้  ภายในบ้านจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ในสมัยก่อน หลังคาบ้านแบบกัสโซ่  เป็นแบบหลังคาทรงสูง ดูคล้ายกับ คนพนมมือ เหมือนกับที่หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ  มีร้านขายของฝาก อยู่หน้าทางเข้า กลับมาเช็คอิน เข้าที่พัก Hodakaso Yamano Lori,  หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็ออกไปเดินเล่นชมหมู่บ้าน San-machi - Sushi กันต่อ Nakabashi Bridge (สะพานแดง)  เป็นสะพานสีแดงสดที่มีแม่น้ำทอดไหลผ่านด้านล่าง อยู่ใกล้กับตลาดเช้า  San-machi-Suji ชุมชนเมืองเก่า ซังมาจิ ซูจิ จากสถานีรถไฟ Takayama เดินตรงยาวจากหน้าสถานีมาจนข้ามสะพาน Yanagibashi  (เป็นสะพานเล็กๆ) พอข้ามสะพานมาก็จะเห็น ตึกเก่าเรียงรายสองข้างทางบรรยากาศแบบยุคสมัยก่อนๆ บ้านโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์มาตั้งแต่สมัยอดีต ตามถนน สองฝั่งมีร้านขายของฝากมากมาย ซารุโบโบะ (ざるぼぼ) เป็นของฝากประจำเมืองทาคายาม่า "ซารุโบโบะ" แปลว่า ลิงเด็ก ในอดีตซารุโบโบะเป็นตุ๊กตาที่ทำขึ้นมาให้ลูกหลานเล่นและทำให้ลูกสาวเพื่อใช้เป็นเครื่องรางให้ได้คู่ครองที่ดีและมีครอบครัวที่มีความสุข และที่ ไม่มีหน้า เพราะอยากให้เด็กๆ ได้จินตนาการและวาดหน้าตาของตุ๊กตาตามความรู้สึกและความชอบของตัวเอง สาเก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นประจำเมืองทาคายาม่า  ขนมดังโงะ Dango ขนมหวานที่มีทั้งรสหวานและเค็มเสียบไม้ เป็นขนมดังจากญี่ปุ่น (ส่วนตัวแล้วไม่ชอบนะไม่ชอบกินแป้ง) ดึกแล้ว อากาศหนาวด้วย กลับที่พัก พักผ่อน ละน๊า  Day 6 [14.10.12]  Takayama > Shirakawago > Osaka ตื่นเช้า Check-out ออกจากที่พักเลยเพราะเรามีแผนจะไปเดินเล่นตลาดเช้า แล้วรีบกลับมาขึ้นรถไป ชิราคาวาโกะ จะได้ไม่เสียเวลา ที่โรงแรมที่พักมีอาหารเช้าด้วย แต่ตอน booking เราไม่เอาเนื่องจากดูแล้วไม่มีเวลา และที่โรงแรมก็มีรถไปส่งที่ Shirakawa-go ด้วยราคาค่ารถไม่แแพง แต่ออกสายๆ ตอนเรากลับคนที่โรงแรมเพิ่งจะไปถึง  เดินมาสถานี JR Takayama ก่อนตั้งใจจะไปซื้อตั๋วรถบัสไป ชิราคาวาโกะ ก่อน แต่ยังไม่เปิด ฝากของไว้ที่ Coin-Loger แล้วเดินไปเที่ยวตลาดเช้า และค่อยกลับมาเอาอีกครั้งตอนกลับมาจากชิราคาวาโกะ (ดีจังเที่ยวแบบไม่ต้องแบกของ) เดินตรงไปจากสถานี เที่ยวตลาดเช้า ยังไม่มีใครเปิดบ้านเลยเช้ามาก Jinya-mae Morning Market ตลาดเช้า จินยะ มาเอะ อยู่ใกล้กับสะพาน Nakabashi เปิดตั้งแต่ 6-7 โมง ที่ตลาดจะมีของพื้นเมืองมาวางขาย เหมือนกับตลาดนัดบ้านเราเลย แอปเบิ้ลจัง ทาคายาม่า กินเถอะอร่อยมากน๊ะ  คอนเฟิม แบบลูกใหญ่ๆ ก็น่ากินมาก แต่เราไม่ซื้อเพราะเราจะไม่แบกของ  Takayama Jinja สำนักงานว่าการเมืองโบราณ เป็นอาคารสำนักงานว่าการเมืองเก่า (Historical Government House) ตั้งแต่สมัยเอโดะมีอายุนับย้อนไปราว พ.ศ. 2235 ใช้เป็นศูนย์การปกครองเมืองฮิดะ เดินเลยจากสะพานแดง มาอีกหน่อย อยู่ตรงปากทางเข้า ชุมชนเมืองเก่า ซังมาจิ ซูจิ  Shirakawa-go จากสถานี Takayama Nohi Bus Central  นั่งรถบัส Bus No.4 ถึง  Shirakawago ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที ค่ารถไป-กลับ 4,300 เยน ซื้อได้ที่ Takayama Nohi Bus Central อยู่ข้าง JR Takayama  ซื้อเสร็จก็มายืนเข้าแถว รอขึ้นรถบัส เจ้าหน้าที่จะนับจำนวนคนขึ้น ถ้าคนเต็มเขาก็จะเรียกรถมาเพิ่ม ไม่ให้ยืนนะค๊ะ สุโก้ย!! อันนี้ชอบ ลงจากรถบัส เดินข้ามสะพานเพื่อเข้าไปในหมู่บ้าน ใช้เวลาเดินเที่ยว ประมาณ 3-4 ชม. เริ่มกันเลย Shirakawa-go (หมู่บ้านชิราคาวาโกะ)  ตั้งอยู่ทามกลางหุบเขาทางตอนเหนือของเมืองทาคายามะ เป็นหมู่บ้านโบราณแบบญี่ปุ่นที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน สถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบโรงนาหลังคา  หลังคาแบบ กัสโซ่ (Gassho) ซึ่งมีลักษณะสามเหลี่ยม ลาดเอียงมากกว่า 45 องศา ทั้งสองด้านมุงด้วยหญ้าอัดแน่นหนาเป็นฟุตๆ เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักของหิมะที่จะตกหนักมากในฤดูหนาว หลังคาแบบนี้มีอายุคงทนใช้งานได้นานเกิน 40-50 ปี การเปลี่ยนหญ้าหลังคาจะใช้การร่วมแรงร่วมใจของคนในหมู่บ้าน  จุดชมวิว หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เราเดินขึ้นมาตามทางขึ้นเขา เหนื่อยแฮก เพื่อนถึงกับหมดแรง บรรยากาศระหว่างทางเหมือนเดินป่า แต่เราก็เห็นคนญี่ปุ่นเดินกัน มีคนสูงอายุด้วย  ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึง จุดชมวิว สวยมาก ลืมเหนื่อยไปเลย เป็นจุดที่มองเห็นหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน ภาพนี้เน้นให้เห็นภาพหมู่บ้านด้านหลัง น๊ะ (ที่จริงถ่ายพลาดเหมือนเดิม)  อันนี้ชอบ มาแก้ตัวเหมือนเดิม ทริปนี้มาหัดถ่าย ภาพแบบเบลอๆ  หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site ) เมื่อปี ค.ศ. 1995 บรรยากาศภายในหมู่บ้าน และร้านขายของฝาก เอาหน้าเทียบกับดอกไม้ดู  ร้านขายของฝาก มีภาษาไทยด้วยน๊ะ เก๋อ่ะ แบบว่าคนไทยมาเยอะจริงๆ แต่คนญี่ปุ่นบางคนไม่รู้จัก  หมดเวลาแล้วต้องเดินทางกลับล่ะ  เดินกลับออกมาขึ้นรถบัส ตรงที่ลงน๊ะ เรากลับ แต่ยังมีรถกำลังเข้ามาอีกเยอะเลย ถ้าใครมีรถส่วนตัวจะตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน แต่เที่ยวแบบรถบัสก็ไม่ขี้เหร่น๊ะ สบายๆ กลับถึง Takayama เอาของที่ Logger เดินทางกลับ Shin-osaka  1. Takayama > Nagoya [ LTD.EXP (WIDE VIEW) HIDA 14 ] 143 Min. 2. Nagoya > Shinosaka [ Shinkansen Hikari 479] 53 Min. จบการเดินทางวันนี้ด้วย ไอติมชาเขียว Shirakawa-go น๊ะ อร่อยแท้ๆ อยากกินอีก    Create Date : 25 พฤษภาคม 2560     0 comment Last Update : 30 พฤษภาคม 2560 18:25:54 น.     Counter : 1702 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยวญี่ปุ่น [1] Day 3-4 Miyajima > Iwakuni > Okayama [Kansai & Hiroshima Trip 2012] Day 3 [11.10.12] Miyajima > Iwakuni > Hiroshima [Kansai & Hiroshima Trip 2012] วันนี้ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเที่ยวเกาะ มิยาจิม่ากัน ตอนเย็นต้องมาเก็บ สถานที่เราพลาดไปในวันแรกน๊ะ  Miyajima (เกาะมิยาจิม่า)  การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Sanyo Line จากสถานี Hiroshima ลงที่สถานี Miyajimaguchi ใช้เวลา 26 นาที  จากนั้นนั่งเรือ JR Ferry ข้ามไปเกาะ Miyajima ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที มีเรือออกทุกๆ 15 นาที จากสถานี Miyajimaguchi ให้เดินตามป้าย JR Ferry (เป็นการเดินลอดอุโมงค์ใต้ถนนไปฝั่งตรงข้าม) แนะนำให้ใช้ JR Ferry ค่าโดยสาร 170 เยน (JR Pass ฟรี) ตารางเรือ JR Ferry มีเรือออกทุกๆ 15 นาที   ต้อนรับด้วยประตู โทริอิ สีแดง ขนาดใหญ่ก่อนเข้าฝั่ง Itsukushima Shrine ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (ศาลเจ้าลอยน้ำ) ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า ในส่วนของศาลเจ้าประกอบด้วยหลายอาคาร และเชื่อมต่อด้วยระเบียงทางเดินที่มีเสาด้านล่างอยู่ในทะเล ช่วงเวลาน้ำขึ้น จึงทำให้ดูเหมือนว่าศาลเจ้าลอยอยู่ในน้ำ ค่าเข้าชม 320 เยน เปิด 09.00-16.30 ช่วงเวลาที่ไป "น้ำลง" ศาลเจ้า เลยไม่ลอยน้ำ ให้เห็น  เสาโทริอิ สีแดง ขนาดใหญ่  เด็กนักเรียนญี่ปุ่น ที่ทางโรงเรียน พาออกมาทัศนศึกษาเรียนเกี่ยวกับประวัติศาตร์ เห็นมีทุกที่เลย  Daisho-in Temple おみくじを結んでください。ถ้าไม่ดี ผูกฝากไว้ที่นี่น๊ะ  น้องกวาง สัญญลักษณ์ของ เกาะมิยาจิม่า ได้เวลากลับเข้าฝั่ง สังคมญี่ปุ่น มีความเป็นระเบียบมาก (มันอยู่ใน ดี เอ็น เอ)   ขึ้นจากฝั่ง เดินทางต่อไปที่ Iwakuni  ไปเดินเล่นที่ สะพานคินไตเคียว การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Sanyo Line จากสถานี Miyajimaguchi ลงที่สถานี Iwakuni ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นนั่งรถเมล์จากหน้าสถานีไปลงที่ป้าย Kintai-kyo ใช้เวลา 15 นาที ค่ารถเมล์ 240 เยน รถออกทุกๆ 30 นาที การขึ้นรถบัส จะจ่ายเงินที่กล่องด้านหน้าข้างคนขับ ค่ารถจะดูได้จาก ตารางด้านบน และดูบัตรที่ได้รับมาตอนขึ้นว่าที่บัตรหมายเลขอะไร จ่ายตาม หมายเลขที่อยู่ด้านบน ค่ะ Kintai-Kyo Bridge (สะพานคินไตเคียว) เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำนิชิกิ (Nishiki River) และมุ่งไปยังปราสาทอิวาคูนิ ลงรถบัส ข้ามไฟแดง ไปก็ถึงสะพานเลยค่ะ ง่ายมากๆ สะพานคินไตเคียว ใช้วิธีการสร้างแบบดั้งเดิม ไม่ใช้ตะปูสักตัวเดียว ใช้การเข้าชิ้นด้วยสลัก มีทั้งหมด 5 โค้ง  เหนือสะพาน บนยอดเขาจะเห็น ปราสาทอิวาคูนิ ลิบ ๆ นู้น  พักรับประทานอาหาร แป๊บ ข้าวปั้น พกใส่กระเป๋ามา เที่ยวแบบไม่เน้นกิน  หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ Hiroshima โดยการนั่งรถบัส มาลงที่สถานี Iwakuni  นั่งรถไฟ JR Sanyo Line จากสถานี Iwakuni มาลงที่สถานี Hiroshima バズのりば　ป้ายรถเมล์ ญี่ปุ่น สะอาด เรียบร้อย (ชอบ)　 Hiroshima Castel 広島城　ปราสาทฮิโรชิม่า การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 1,2,6 หน้าสถานี Hiroshima ลงที่ Hatchobori แล้วเปลี่ยนเป็นสาย 9 ลงที่ Shukkeien-mae เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที  ปราสาทสมัยก่อนจะสร้างโดยมีน้ำล้อมรอบ  Atomic Bomb Dome (โดมปรมาณู) สัญญลักษณ์ ความโหดร้ายของระเบิดปรมาณู  ได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2539  โดยคณะกรรมการมรดกโลกตัดสินให้ผ่นหลักเกณฑ์ทางวัฒนธรรม ข้อที่ว่า มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นในทางประวัติศาสตร์ ข้อมูลอ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ อนุสาวรีย์ นกกระเรียน และเด็กหญิงซาดะโกะ  เด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ผู้ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจาก ระเบิดนิวเคลียร์ เมื่อสมัยฮิโรชิม่าถูกทิ้งระเบิด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยวัยเพียง 12 ปี  ตั้งอยู่ภายในสวนสันติภาพ หรือ Peace Memorial Park ณ เมืองฮิโรชิม่า  และทุกๆ วันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี ถือเป็นวันสันติภาพ เด็กๆ จะพับนกกระเรียนไปวางไว้ที่อนุสาวรีย์ เพื่อแสดงความรำลึกถึงเด็กหญิงซาดะโกะ โอริซุรุ (折り鶴）นกกระเรียนกระดาษ ถือเป็นสัญญลักษณ์ที่เป็นเครื่องเตือนใจให้ชาวโลกได้รู้ว่าสงครามไม่เคยปราณีใคร และก่อให้เกิดความเสียหายกับทุกคน แม้ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์ Peace Memorial Park (สวนสันติภาพฮิโรชิม่า) หลังจากนั้นก็มาเดินเล่น ที่ Hiroshima Downtown  และกลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย Oyasuminasai !! Day 4 [12/10/2012]  Okayama > Osaka  ตื่นแต่เช้า Check-out เดินทางมาที่ Okayama การเดินทาง : Hiroshima > Okayama  [Shinkansen Hikari 460]  74 Mins. เก็บสัมภาระที่ Coin Locker （コインロッカー）ตู้ฝากของที่มีระบบปิดล็อคอย่างแน่นหนา มีอยู่ตามสถานีรถไฟใหญ่ๆของญี่ปุ่น  ที่พึ่งของเรายังไม่เปิดเลย (มาเช้าไป) Information central ว่าจะมาขอแผนที่ซะหน่อย ไปเองเลยดีกว่าอาศัยแผนที่ ที่ติดอยู่ในสถานี เดินไปตามป้ายลูกศร  Korakuen Garden  เดินไปเรื่อยๆ เช้าๆ อากาศไม่ร้อน เดินไปตามลูกศร กับถามคนญี่ปุ่นไปเรื่อยๆค่ะ จริงๆ แล้วสามารถนั่งรถรางจากหน้าสถานีไป 3 ป้ายลงที่ป้าย Shiroshita แล้วเดินลงทางข้ามใต้ดินไปถนนฝั่งตรงข้าม ในที่สุดเราก็เดินมาถึงตรงทางเข้าแล้ว แค่ข้ามสะพานนี้ไปเอง Korakuen Garden  เป็นสวนขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 ของสวนที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของจังหวัด โอคายาม่าด้วย ค่าเข้าชม 400 เยน (สวนอย่างเดียว)  560 เยน (เข้าปราสาทโอคายาม่าด้วย) มี ปลาคราฟ สวยๆ อยู่ในบ่อน้ำ /สระน้ำ ด้วย มองเห็นปราสาทจะอยู่ด้านหลัง เดินตามเส้นทางเข้าไปเรื่อยๆ ตากล้องเรา โฟกัสแจ่มมาก หน้าเบลอหลังชัด เปล่าหรอกมันผิดที่เราเองแหละ  ข้อแก้ไขลดขนาดภาพลงหน่อย (หน้าบานเต็มจอ)  มาแก้ตัว (ภาพขวามือ) การใช้ขาตั้งกล้อง ให้เราโฟกัสไปที่เป้าหมายที่เราจะถ่าย เช่นเพื่อนที่เราจะถ่ายด้วย แล้วพอเราเข้าไปอยู่ในเฟรมก็จะได้ภาพมา ปล. เทคนิคจริงๆไม่แน่ใจน๊ะ อันนี้ เล่าจากที่ลองทำจริงนะค๊ะ มั่วไปเรื่อยๆค่ะ  Okayama Castle ปราสาทโอคายาม่า หรือบางคนเรียกว่าปราสาทอีกา เพราะสีดำที่ใช้ภายนอก   เจอกับเด็กนักเรียนอีกแล้ว น่ารักดี  เดินกลับมาที่สถานี Okayama ดีกว่า เพื่อเดินทางกลับ Osaka รถราง ญี่ปุ่น ลวดลายน่ารักมาก Shin-Osaka การเดินทาง Okayama > Shin-Osaka [ Shinkansen Hikari 468] 74  Mins. ถึง Osaka เดินมาเห็นร้านขาย ทาโกยากิ น่ากิน แวะชิมซะหน่อย   Namba / Shinsaibashi ย่านนัมบะ และย่านชินไซบาชิ เป็นย่านศูนย์กลางช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโอซาก้าและภูมิภาคคันไซ อยู่ทางตอนใต้ของเมือง นัมบะ Namba ชินไซบาชิ Shinsaibashi โดทงโบริ หรือดงโทโบริ (Dotonbori) หนึ่งในสถานยันเทิงยามค่ำคืนที่โด่งดังของโอซาก้า มีร้านอาหารมากมายที่เปิดให้บริการ 24 ชั้่วโมง ถนนแห่งนี้จะเรียบริมคลอง โดทงโบริ มีร้านค้าและแหล่งบันเทิงมากมาย ในช่วงกลางคืนก็จะเปิดไฟสวยงาม รวมไปถึงป้ายนักวิงกูลิโกะ (Glico Running Man sign) ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man sign) จบการเดินทางวันนี้ พักผ่อนตามอัธยาศัย เที่ยวต่อกันวันพรุ้งนี้  Oyasuminasai !! ne    Create Date : 25 พฤษภาคม 2560     0 comment Last Update : 30 พฤษภาคม 2560 19:16:27 น.     Counter : 1261 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยวญี่ปุ่น [1] Day 1-2 Osaka > Hiroshima [Kansai & Hiroshima Trip 2012 ] เที่ยวญี่ปุ่น [1]  เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ครั้งแรก เนื่องจากเพื่อนได้จองตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่น ของแอร์เอเซียไว้ แต่การจองตั๋วโปรโมชั่นนั้นต้องจองล่วงหน้าเป็นปี (ตามช่วงเวลาที่เราจะไป) ซึ่งก็ต้องทำใจว่าอาจจะมีเหตุการณ์ที่ผิดพลาดหรือแผน ขึ้นมาได้  เรื่องผิดแผน เรื่องแรก เพื่อนสมาชิกในทีม เกิดตั้งครรภ์ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ทั้งครอบครัว ทำให้ทริปนี้ เหลือสมาชิก 2 คน (ยังดีที่มีเพื่อน) เริ่มต้นตั้งแต่ วางแผนการเดินทาง จองที่พัก ประมาณการค่าใช้จ่าย สรุปเป็นแผนการเดินทางขึ้นมา  ทริปนี้เราเลือกใช้ JR Pass เนื่องจากว่าเราอยากเที่ยวต่างเมืองและเพิ่ม Hiroshima เข้ามาในแผน สรุปแผนการเดินทาง  Day 1  Bangkok > Osaka  Day 2  Osaka > Hiroshima  Day 3  Hiroshima > Miyajima > Iwakuni  Day 4  Hiroshima > Okayama > Osaka  Day 5  Osaka > Nagoya > Takayama Day 6  Takayama > Shirakawago > Osaka Day 7  Osaka > Kyoto Day 8  Osaka > Kobe Day 9  Osaka > Bangkok Day 1 [09/10/2012]  Bangkok (Don mueang)  > Osaka (Kansai) เรื่องผิดแผน เรื่องที่สอง เดิมเที่ยวบินนี้ ต้องออกที่ สุวรรณภูมิ แต่ก่อนเดินทางเล็กน้อย ทางแอร์เอเซียก็ประกาศเปลี่ยนมาออกที่ ดอนเมือง ซึ่งทำให้เรามีข้อต่อรอง ขอเปลี่ยนแปลงวันเดินทางทำให้ได้จำนวนวันเที่ยวเพิ่มขึ้น  เรื่องผิดแผน เรื่องที่สาม เราต้องไปต่อเครื่องที่ Kuala Lumpur ตอน 01.00 AM แต่เกิดเหตุ Flight จาก Kuala Lumpur delay ไปประมาณ 4 ชม. ทำให้แผนการเดินทาง เสียไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร  ดีน๊ะที่ได้รองท้องด้วย อาหารกล่อง 7-11 ที่ ดอนเมืองมาก่อน หน้าตาแบบนี้  หลังจาก นั่งๆ นอนๆ เกลือกกลิ้งที่สนามบิน มาเลเซีย มาเป็นเวลา 4 ชม. กว่าๆ เราก็จะได้ขึ้นเครื่องไปต่อกันแล้วเย้ เครื่องออก 05.20 AM มีของปลอบใจ ก่อนขึ้นเครื่องด้วยน๊ะ "แซนวิส" อันใหญ่ๆ คนละ 1 ชิ้น  Day 2 [10/10/2012]  Osaka (Kansai) > Shin-Osaka > Hiroshima ถึง Osaka 12.45 PM ผ่าน ต.ม รับกระเป๋า แลกตั๋ว JR Pass และซื้อตั๋ว เดินทางไป Hiroshima ต่อเลย การเดินทาง : 1. Osaka (Kansai) > Shin-Osaka [LTD.EXP Haruka 28] 51 Min  2. Shin-Osaka > Hiroshima [ Shinkansen Sakura 563] 90 Min JR Pass ไม่สามารถขึ้นขบวน Nozomi (เสียเงินเพิ่ม) ขึ้นได้เฉพาะ Hikari, Sakura และ Kodama  ตารางแสดงขบวนรถ Shinkansen จะสลับไปเรื่อยๆ ระหว่างภาษาญี่ปุ่น-อังกฤษ ขึ้นรถไฟ ตามหมายเลข Platform (Track No.) ที่เขียนอยู่ หลังขบวน  [Sakura 563 Track No. 20] ถึง Hiroshima 5 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว เข้าที่พัก Check-in แล้วออกมาหาของกิน (หิวมาก) การเดินทางใน Hiroshima เมืองฮิโรชิม่า มีเครือข่ายรถรางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยรถราง 8 สายที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า Hiroshima Station กับสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในเมือง มี 2 สาย วิ่งไปไกลถึง Miyajima-guchi ซึ่งเชื่อมต่อกับท่าเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปยังเกาะมิยาจิมะ ค่าใช้จ่ายรถรางเที่ยวละ 160 เยน (JR Pass ไม่ครอบคลุมนะ)  ข้อมูลจาก //www.talonjapan.com/transportation-in-hiroshima/ วันนี้เราเลือกกิน Okonomiyaki อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เข้าร้านจัดการสั่งมาคนละ 1 ถาดเลย เนื่องจาก อยากกินรสชาติ ที่ไม่เหมือนกัน   นั่งดูวิธีการทำ-กันไป (มันใหญ่ไปไหมหนอ) จริงๆแล้วเราสามารถสั่งมาแล้ว แบ่งกันกินก็ได้น๊ะ สรุปคือ กินเต็มที่แล้ว เหลือตามภาพเลย เจ้าของร้านนั่งมองตาปริบๆ เค้าคงคิดไม่อร่อยหรืออย่างไร เหลือขนาดนี้ แต่อยากจะบอกว่า มันอิ่มมาาาก Gomenasai ne!! การกินอาหารที่ญี่ปุ่น คือ ต้องกินให้หมด ถ้ากินไม่หมดถือเป็นการเสียมารยาท (เจ้านายญี่ปุ่นบอกมา) และก็ได้ลองสังเกตุดู การกินคนญี่ปุ่น-ไม่ว่าจะร้านไหนๆ  ก็ไม่มีใครกินเหลือจริงๆ นะค๊ะ อิ่มแล้ว เดินเล่นกันอีกพักนึง กลับที่พัก-พักผ่อนเอาแรงเที่ยวต่อพรุ้งนี้ดีกว่า  คืนนี้พักที่ APA Hotel Hiroshima-Ekimae Oyasuminasai   Create Date : 22 พฤษภาคม 2560     0 comment Last Update : 27 พฤษภาคม 2560 10:51:30 น.     Counter : 805 Pageviews.   Share Tweet