Breaking Dawn (Twilight Saga IV) Copyright for non-commercial use ONLY
 
 

Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Episode 10.4

 


Blog นี้มีไว้เพื่อผู้ที่ชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าแต่อย่างใด


 


 


นี่มันจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันเอ่ยออกมา เมื่อตอนกลางวันนายยังกลัวที่จะให้พรรคพวกของเราต้องไปตกอยู่ในอันตรายอยู่เลย


 


 


เมื่อกลางวันนี้ฉันไม่รู้นี่ว่าครอบครัวของเราจะต้องมาเสี่ยงชีวิตด้วย


 


 


 


 


ให้ตายเถอะ พวกนายจะฆ่าไอ้สิ่งมีชีวิตนั่นโดยไม่ฆ่า Bella ได้ยังไงกัน


 


 


 


ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดรอดออกมา ความเงียบสงัดนั่นเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว


 


 


 


 


 


ฉันคำรามออกมา เธอก็เป็นมนุษย์เหมือนกันนะ แล้วเราไม่ต้องปกป้องเธอเหรอไง


 


 


 


 


ยังไงเธอก็กำลังจะตายอยู่ดี Leah คิด เราแค่ทำให้มันเกิดเร็วขึ้นเท่านั้น


 


ฉันก้าวออกมาจาก Seth มองไปที่พี่สาวของเขา ด้วยความไม่พอใจ ฉันคว้าขาซ้ายของเธอไว้เมื่อฟันของ Sam กัดที่สะโพกของฉัน ลากฉันกลับไป


 


 


 


 


ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และหันไปทางเขา


 


 


 


หยุด! เขาสั่งฉันด้วยอำนาจของหัวหน้าหมู่


 


 


ขาฉันหยุดชะงักไป


 


 


 


 


 


เขาละสายตาจากฉันไป หันไปทาง Leah เธอจะไม่ทำอย่างนั้นกับเขาอีก Leah เขาออกคำสั่งกับเธอ การที่เราต้องเสียสละ Bella ไปนั้นนับเป็นการสูญเสียอย่างมาก และเราทั้งหมดก็ต้องจำไว้ว่า มันจะค้านต่อทุกอย่างที่เราเคยยึดถือว่าเราจะปกป้องมนุษย์ การที่เราให้เธอเป็นข้อยกเว้นที่เราจะผิดกฏในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการจะให้เกิดขึ้น เราทั้งหมดจะไว้อาลัยให้กับสิ่งที่เราจะทำในคืนนี้


 


 


 


 


คืนนี้เหรอ Seth ทวนซ้ำด้วยความตกใจ Sam ฉันคิดว่าเราควรจะปรึกษากันมากกว่านี้ ลองปรึกษาพวกผู้เฒ่าดูก็ได้อย่างน้อย นายคงไม่ได้ตั้งใจจะให้เรา....


 


 


 


 


 


ไม่มีเวลาที่จะไปปรึกษาแล้ว นายจะทำอย่างที่ฉันสั่ง Seth


 


 


 


 


 


Seth คุกเข่าลงกับพื้น หัวของเขาผงกไปข้างหน้าตามคำสั่งของหัวหน้าหมู่


 


 


 


 


 


Sam เดินไปรอบๆเราทั้งคู่


 


 


 


 


 


เราต้องการกำลังจากพวกเราทุกคนสำหรับภารกิจครั้งนี้ Jacob นายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด นายจะสู้กับเราคืนนี้ ฉันเข้าใจว่านี่อาจจะยากลำบากสำหรับนาย ดังนั้นนายจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับคู่ต่อสู้ของนาย Emmett กับ Jasper เท่านั้น นายไม่จำเป็นต้องไปทำอย่างอื่น Quil กับ Embry จะเป็นคนจัดการดี


 


 


 


 


 


ฉันพยายามพยุงร่างของตัวเองไว้ในขณะที่เสียงของหัวหน้าหมู่ทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกฟาดด้วยแส้


 


 


 


 


Paul Jared และฉันจะจัดการ Edward กับ Rosalie เอง ฉันคิดว่า จากข้อมูลที่ Jacob นำมาให้เรา พวกเขาจะเป็นพวกที่ปกป้อง Bella Carlisle กับ Alice ก็จะอยู่ใกล้เธอเช่นเดียวกันกับ Esme


 


 


 


Brady Collin Seth กับ Leah จะเป็นคนจัดการพวกเขา ใครก็ตามที่สามารถเข้าใกล้สัตว์ประหลาดนั่นได้ ให้ทำลายมันซะ การทำลายสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรก 


 


 


 


 


พรรคพวกของเราหวั่นวิตกกับสิ่งที่ได้ยิน ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นทำให้ขนของทุกคนตั้งขึ้น


 


 


 


 


มีแต่ Seth กับฉันที่ยังคงหยุดนิ่ง จมูกของ Seth แตะอยู่ที่พื้น เพื่อโค้งให้แก่คำสั่งของ Sam ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของเขา


สำหรับเขาแล้ว นี่ก็เหมือนการทรยศหักหลังพันธมิตรที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่อย่าง Edward


 


 


 


 


แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีแรงต่อต้านจากเขา เขาต้องเชื่อฟังคำสั่งถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม เขาไม่มีทางเลือกอื่น


 


 


 


 


แล้วฉันล่ะมีทางเลือกอะไรอื่นอีก เมื่อหัวหน้าหมู่สั่ง ทั้งกองก็ต้องปฏิบัติตาม


 


 


 


 


Sam ไม่เคยใช้อำนาจมากขนาดนี้มาก่อน ฉํนรู้ดีว่าเขาเกลียดการที่จะให้ Seth มาคุกเข่าเบื้องหน้าเขาเหมือนทาสคุกเข่าอยู่หน้าเจ้านาย


เขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นถ้าเขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เขาไม่อาจโกหกเราได้เมื่อใจเราเชื่อมต่อกันแบบนี้ เขาเชื่อจริงๆว่ามันเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำลาย Bella และสัตว์ประหลาดที่เธออุ้มท้องอยู่ เขาเชื่อจริงๆว่าเราไม่มีเวลาพอที่จะเสียอีกแล้ว เขาเชื่อว่ามันคุ้มค่าที่จะตายเพื่อสิ่งนี้


 


 


 


 


ฉันเห็นเขาเผชิญหน้ากับ Edward ด้วยตัวเอง ความสามารถของ Edward ในการอ่านความคิดพวกเราได้นั้นคงเป็นสิ่งที่อันตรายมากที่สุดต่อจิตใจของ Sam


 


Sam คงไม่ยอมให้เราคนใดคนหนึ่งต้องตกเป็นอันตรายเป็นอันขาด  


 


 


 


 


เขาเห็น Jasper เป็นศัตรูที่มีความแข็งแกร่งอันดับรองลงมา  นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมเขาถึงยก Jasper ให้ฉัน เขารู้ดีว่าฉันมีโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำให้พรรคพวกของเราชนะศึกในครั้งนี้ เขาปล่อยเหยื่อที่ง่ายที่สุดให้แก่หมาป่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายกับ Leah 


 


Alice นั่นคงจะไม่เป็นอันตรายถ้าไม่มีความสามารถในการมองเห็นอนาคตของเธอเป็นตัวนำทาง และเรารู้ดีว่า Esme ไม่ใช่นักสู้


 


ส่วน Carlisle นั้น ก็รังเกียจการใช้ความรุนแรงเหลือเกิน


 


 


 


 


ฉันรู้สึกแย่เมื่อเห็น Seth มอง Sam กำลังวางแผน พยายามที่จะจัดกำลังคนให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้


 


 


 


 


ทุกอย่างล้วนกลับกันหมด เมื่อตอนกลางวันฉันเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะไปโจมตีพวกเขา แต่ Seth พูดได้ถูกต้อง มันไม่ใช่ศึกที่เราเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมันเลย สายตาของฉันถูกบดบังด้วยความเกลียดชัง  ทำให้ฉันไม่ได้คิดพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน 


 


 


 


 


 


Carlisle Cullen มองเขา ผู้มีสายตาซึ่งปราศจากความเกลียดชังใดๆ ฉันไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการฆ่าเขานั้นคือการฆาตกรรม เขาเป็นคนดีมาก ดีเหมือนกับมนุษย์ที่เราปกป้อง บางทีอาจจะดีกว่านั้นเสียอีก คนอื่นๆด้วย แต่ฉันไม่ได้รู้สึกรุนแรงกับพวกเขาเหมือนกับ Carlisle


 


 


 


ฉันไม่ได้รู้จักพวกเขาดีพอเช่นกัน แต่ Carlisle ก็เกลียดการต่อสู้เพียงพอที่จะไม่ต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันจะสามารถฆ่าเขาได้ เพราะว่าเขาไ่ม่ต้องการให้เรา ... ศัตรูของเขา ...​ตาย


 


 


 


 


นี่มันผิดไปหมดแล้ว


 


 


 


และไม่ใช่แค่เพราะ การฆ่า Bella ก็เหมือนกับการฆ่าฉัน เหมือนการฆ่าตัวตายนั่นแหล่ะ


 


 


คิดดูให้ดีๆ Jacob Sam ออกคำสั่ง เผ่าพันธุ์ของเราต้องมาอันดับหนึ่ง


 


 


 


วันนี้ฉันผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง Sam


 


 


เหตุผลของพวกนายก็ผิดไปแล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันมีหน้าที่ที่ต้องทำ


 


 


ฉันย้ำบอกกับตัวเอง ไม่


 


 


Sam คำรามด้วยความเกรี้ยวกราด และเดินมาข้างหน้าฉัน เขาจ้องมาที่ตาของฉัน กัดฟันกรอด


 


 


ได้สิ หัวหน้าหมู่ประกาศ เสียงของเขาทวีพลังขึ้นไปอีก มันจะไม่มีรูโหว่ของแผนการเราในคืนนี้ นาย Jacob ต้องไปสู้กับพวก Cullens กับเรา นาย Quil กับ Embry จะเป็นคนจัดการ Jasper กับ Emmett 


 


 


นายมีหน้าที่ต้องปกป้องเผ่าของเรา นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมนายถึงได้เกิดขึ้นมา นายปฏิบัติตามคำสั่ง


 


 


ไหล่ของฉันตั้งขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ขาของฉันอ่อนแรงลง และฉันกำลังจะคุกเข่าลงให้เขา


 


 


 


ไม่มีใครในพรรคพวกของเราที่ขัดคำสั่งหัวหน้าหมู่ได้ 






 

Create Date : 27 มกราคม 2552   
Last Update : 27 มกราคม 2552 20:48:27 น.   
Counter : 444 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 10.3


Blog นี้มีไว้เพื่อผู้ที่ชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าแต่อย่างใด



ฉันลุกขึ้นยืน



“เธอจะไปไหนน่ะ”



“ฉันทำอะไรไม่ได้แล้วนี่”



เธอเอื้อมมือมาแตะฉัน “อย่าไปเลยนะ”




ฉันรู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันไม่อาจจากเธอไปไหนได้




“ฉันไม่เหมาะกับที่นี่ ฉันต้องกลับไป”




“แล้ววันนี้เธอมาทำไมกันล่ะ” เธอถาม




“แค่มาดูว่าเธอยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าน่ะ ฉันไม่เชื่อว่าเธอป่วยตามที่ Charlie บอก”



ฉันไม่อาจอ่านสีหน้าเธอแล้วบอกได้ว่าเธอเชื่อฉันหรือไม่




“เธอจะกลับมาอีกมั้ย ก่อนที่....”




“ฉันจะไม่มาอยู่ที่เวลานั้น เพื่อมาดูเธอตายนะ Bella”



เธอหลบตาลง “เธอพูดถูกแล้ว เธอน่าจะไปซะ”



ฉันเดินตรงไปที่ประตู




“บาย” เธอกระซิบบอกฉัน “ฉันรักเธอนะ Jake”



ฉันเกือบจะหันกลับไปแล้ว ฉันเกือบหมุนตัวกลับไปและคุกเข่าลงเพื่อขอร้องเธออีกครั้ง แต่ฉันรู้ดีว่าฉันต้องเลิกยุ่งกับ Bella ซะ ก่อนที่เธอจะฆ่าฉัน เหมือนที่เธอกำลังจะฆ่า Edward




“แน่ๆสิ” ฉันพึมพำตลอดทางที่เดินออกไปข้างนอก




ฉันไม่เห็นแวมไพร์สักตัว ฉันไม่สนมอเตอร์ไซด์ของฉัน ตอนนี้มันเร็วไม่พอสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว พ่อของฉันต้องบ้าแน่ๆ Sam ด้วย พวกของฉันจะคิดมั้ยว่าพวก Cullens จับฉันได้ก่อนที่ฉันจะมีโอกาสจัดการพวกเขา ฉันไม่สนว่าใครกำลังมองฉันอยู่ แต่ฉันเริ่มออกวิ่ง และกลายร่างเป็นหมาป่า




พวกเขากำลังรอฉันอยู่ แน่นอนว่าพวกเขาต้องรอแน่




Jacob/Jake เสียงทั้งแปดประสานกันในหัวฉันด้วยความผ่อนคลายขึ้น



กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ เสียงคำสั่งจากหัวหน้าหมู่ เขากำลังโกรธมาก




ฉันรู้สึกว่า Paul เฟดหายตัวไป และฉันรู้ดีว่า Billy และ Rachel กำลังรอข่าวอยู่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับฉัน Paul ตื่นเต้นมากที่จะรีบไปบอกข่าวดีนี้ ที่ว่าฉันยังไม่ได้ถูกแวมไพร์จัดการ



ฉันไม่ต้องบอกพรรคพวกของฉันหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเห็นมันทั้งหมด ...



เห็น Bella ท้องโต เสียงของ Bella ที่บอกว่าเด็กคนนั้นแข็งแรงดี



สีหน้าของ Edward ที่แสนจะเจ็บปวดทรมานเมื่อเห็นมันทำร้ายเธอ



Rosalie ยืนอยู่ใกล้ๆกับ Bella ชีวิตของ Bella ไม่มีความหมายใดๆต่อเธอเลย


และพวกเขาก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย




พวกเขารู้สึกตกใจจนเงียบไปหมด ไม่มีอะไรหลุดปากออกมาแม้แต่คำเดียว




ฉันเกือบถึงครึ่งทางที่จะกลับบ้าน แล้วพวกเขาทั้งหมดก็วิ่งตรงมาหาฉัน




พวกเราเจอกันที่สิบไมล์ห่างจาก La Push ที่ซึ่งจะไม่มีผู้ใดเห็นเรา แล้วทุกคนก็ไปรวมกันที่นั่น




ในหัวของฉันมีแต่เสียงพวกเขาโต้เถียงกันดังไปหมด ทุกคนตะโกนพร้อมกัน




Sam ลุกขึ้นและคำรามกึกก้องในขณะที่เดินไปข้างหลังกลุ่มของเรา Paul และ Jared เคลื่อนไหวราวกับเงาของเขา




ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าพวกเขาโมโหอะไร แต่ฉันคิดว่าเป็นเพราะฉันเอง ฉันยุ่งเกินกว่าที่จะสนใจมันตอนนี้ พวกเขาจะทำอะไรฉันก็ได้แต่ยังไงฉันก็จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่ดี




และแล้วความสับสนทั้งหมายก็รวมเป็นหนึ่งเดียว




นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน มันหมายความว่าอย่างไร แล้วนี่อะไรจะเกิดขึ้นเนี่ย




ไม่ปลอดภัย ไม่ถูกต้อง อันตราย




ไม่เป็นธรรมชาติ สัตว์ประหลาด สิ่งที่น่าเกลียดชัง




เรายอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้




ตอนนี้พรรคพวกของฉันเดินอย่างพร้อมเพรียงกัน คิดอย่างพร้อมเพรียงกัน ฉันนั่งอยู่ข้างๆใครสักคนในกลุ่มของฉัน งงเกินกว่าที่จะมองไปข้างๆด้วยสายตาหรือด้วยใจก็ตามว่าใครอยู่ข้างๆฉัน ในขณะที่พรรคพวกของฉันกำลังล้อมกันเป็นวงกลม




สนธิสัญญาไม่ครอบคลุมเรื่องนี้นะ




นี่ทำให้ทุกคนเป็นอันตรายกันหมด




ฉันพยายามที่จะทำความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ว่ามันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ภาพในจิตใจของพวกเขามีมากมาย แต่ภาพที่แย่ที่สุดคือ รอยช้ำตามตัวของ Bella และสีหน้าของ Edward ที่ทุกข์ทรมานราวกับถูกไฟเผา



พวกเขาก็กลัวมันด้วยเหมือนกัน



แต่พวกเขาจะไม่ทำอะไรมันทั้งนั้น




ปกป้อง Bella Swan




เราจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งนั้นมีอิทธิพลเหนือเรา




ความปลอดภัยของครอบครัวของเรา ทุกคนที่นี่ สำคัญกว่าชีวิตมนุษย์เพียงคนเดียว




ถ้าพวกเขาไม่ฆ่ามันซะ พวกเราก็ต้องเป็นคนจัดการมันแทน



ปกป้องเผ่าพันธุ์ของเรา



ปกป้องครอบครัวของเรา



เราต้องฆ่ามันก่อนที่จะสายเกินไป



อีกความทรงจำหนึ่งของฉัน คราวนี้เป็นเสียงของ Edward สิ่งนั้นกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว


 




ฉันพยายาที่จะจดจ่อกับเสียงใดเสียงหนึ่ง



ไม่มีเวลาแล้ว Jared คิด



นั่นหมายถึงการต่อสู้นะ Embry เอ่ยเตือน ที่เลวร้ายด้วย



พวกเราพร้อมแล้ว Paul ยืนกราน



เราต้องทำให้พวกเขาตั้งตัวไม่ติด Sam คิด



ถ้าเราจับพวกเขาแยกออกจากกัน เราก็สามารถจัดการพวกเขาทีละคนได้ มันจะเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เราชนะมากขึ้น Jared คิด พยายามหากลยุทธในการต่อสู้



ฉันส่ายหัวเบาๆ พยายามถ่ายน้ำหนักลงบนเท้าทั้งสองข้าง เหมือนกับว่าหมาป่าที่อยู่รอบๆฉันจะทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้หน่อยๆแล้ว หมาป่าตัวข้างๆฉันลุกขึ้นเหมือนกัน ไหล่ของเขาผลักมาที่ฉัน


เดี๋ยวก่อน ฉันคิด


ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวไปจังหวะหนึ่ง  แล้วก็เดินต่อไปอีกครั้ง


เรามีเวลาน้อยมาก Sam บอก



แต่ พวกนายคิดอะไรอยู่น่ะ เมื่อตอนกลางวันนายบอกว่านายจะไม่โจมตีเขาเพราะว่ามันจะละเมิดสนธิสัญญา แต่ตอนนี้นายกำลังวางแผนที่จะลอบโจมตีเขา ทั้งๆที่สนธิสัญญาก็ยังคงมีอยู่นี่อ่ะนะ





นี่ไม่ใช่สิ่งที่ในสนธิสัญญาของเราคาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นนะ Sam บอก นี่มันเป็นอันตรายต่อมนุษย์ทุกคนในพื้นที่นี้เลย เราไม่รู้ว่าไอ้สิ่งมีชีวิตนั่นเป็นตัวอะไร แต่เรารู้ว่าสิ่งนั้นแข็งแรงมากและกำลังโตอย่างรวดเร็ว และมันก็เด็กเกินกว่าที่จะทำตามสนธิสัญญาใดๆทั้งนั้น จำพวกแวมไพร์เกิดใหม่ที่เราสู้ได้มั้ย ทั้งป่าเถื่อนและรุนแรง เกินกว่าที่เข้าใจเหตุผลหรือถูกควบคุมได้ ลองคิดดูสิ แล้วนี่ยังถูกปกป้องโดยพวก Cullens




เราไม่รู้หรอกนะ ฉันพยายามที่จะขัดจังหวะ




ใช่ เราไม่รู้ เขายอมรับ และเราจะไม่ยอมเสี่ยงกับไอ้สิ่งที่เราไม่รู้เป็นอันขาด เรายอมให้พวก Cullens มีชีวิตอยู่ได้เพราะว่าเรามั่นใจเหลือเกินว่าพวกนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อใคร แต่เราไม่อาจจะเชื่อใจสิ่งนี้ได้เลย




พวกเขาไม่ได้ไม่ชอบมันมากกว่าเราหรอกนะ



Sam หวนนึกถึงใบหน้าของ Rosalie คนที่ปกป้องสิ่งนั้นอยุ่ และโชว์ความคิดนี้ให้กับทุกคนได้เห็น



บางคนพร้อมแล้วที่จะสู้เพื่อมัน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม



มันเป็นแค่เด็กทารกน่ะ แค่ร้องไห้เสียงดังก็เท่านั้น



ไม่นานหรอก Leah กระซิบบอกฉัน




Jake นี่มันเรื่องใหญ่นะ เราจะเพิกเฉยไม่ได้หรอก  Quil เอ่ยออกมา




นายกำลังจะทำให้เรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าที่ควรจะเป็นนะ ฉันโต้แย้งไป คนเดียวที่ได้รับอันตรายในที่นี้คือ Bella



แล้วเธอก็เป็นคนเลือกเองด้วย.....อีกครั้ง Sam บอก แต่คราวนี้การตัดสินใจของเธอมีผลต่อเราทุกคน




ฉันไม่คิดอย่างนั้น




เราเสี่ยงไม่ได้หรอก เราไม่ยอมให้ผีดูดเลือดออกล่าเหยื่อในพื้นที่ของเราหรอก



งั้นบอกพวกเขาให้จากไปซะสิ หมาป่าที่เอ่ยสนับสนุนฉันเอ่ยออกมา แน่นอนว่าเป็น Seth นั่นเอง



แล้วปล่อยให้ไอ้สิ่งชั่วร้ายนั้นไปทำร้ายคนอื่นเหรอ เมื่อพวกผีดูดเลือดข้ามมาที่พื้นที่ของเรา เราทำลายมัน ไม่ว่าพวกมันวางแผนว่าจะไปออกล่าที่ไหนก็ตาม เราปกป้องทุกคนที่เราสามารถทำได้





TBC 225




 

Create Date : 27 มกราคม 2552   
Last Update : 27 มกราคม 2552 17:04:41 น.   
Counter : 1105 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 10.2

Blog นี้มีไว้เพื่อผู้ที่ชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าแต่อย่างใด


“ไม่ ฉันไม่ได้โง่นะ” เธอหันมามองหน้าฉันอีกครั้ง “ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ดีว่าเธอคงจะรู้แล้วมันคืออะไร”


 


“การเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์แบบฉุกเฉิน” ฉันพึมพำออกมา


 


“มันเวิร์คสำหรับ Esme Emmett Rosalie แม้กระทั่ง Edward  Carlisle เปลี่ยนแปลงพวกเขาก็เพราะว่ามันจะทำให้เขารอดตายได้ เขาไม่ได้ต้องการจะจบชีวิตพวกนั้น แต่ต้องการจะช่วยพวกเขาต่างหาก”




ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงจิตใจที่ดีงามของคุณหมอแวมไพร์ผู้นั้นเหมือนแต่ก่อน ฉันปัดความรู้สึกนั้นออกไปแบะพยายามอ้อนวอนเธออีกครั้ง


 


“ฟังฉันนะ Bells อย่าทำแบบนั้นเลย” เหมือนแต่ก่อน เมื่อ Charlie โทรศัพท์มาหาฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าสำหรับฉันแล้วมันจะแตกต่างไปมากมายขนาดไหน ฉันรู้ดีว่าฉันอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ในสถานะไหนก็ได้ ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไม่ต้องรอจนกระทั่งมันสายเกินไปหรอก Bella ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ โอเคมั้ย แค่มีชีวิตอยู่ ไม่ต้องทำเพื่อฉัน ไม่ต้องทำเพื่อเขา” เสียงของฉันเริ่มแข็งกร้าวขึ้น “เธอรู้ดีว่าเขาจะทำอะไรเมื่อเธอตายไป เธอก็เคยเห็นมาครั้งหนึ่งแล้ว เธอต้องการให้เขาไปหาไอ้พวกอิตาเลียนนั่นเพื่อฆ่าเขาอีกครั้งเหรอ” เธอนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาอย่างครุ่นคิด



ฉันไม่ได้บอกเธอว่า....มันไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นตอนนี้



ฉันพยายามทำเสียงให้อ่อนโยนมากขึ้น “จำได้มั้ยตอนที่เราสู้กับพวกแวมไพร์เกิดใหม่ เธอบอกอะไรฉัน”



ฉันรอ แต่เธอก็ไม่ตอบคำถามฉัน เธอเม้มปากแน่น


 


 


“เธอบอกฉันให้ทำตัวดีๆ และเชื่อฟัง Carlisle” ฉันบอกกับเธอ “และฉันทำอะไรลงไปรู้มั้ย ฉันเชื่อฟังแวมไพร์ เพื่อเธอ”


 


“เธอเชื่อฟังเขาเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วต่างหาก”


 


“โอเค เธอก็รู้เหตุผลนี่นา”




เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า “แต่เรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง” เธอก้มลงไปมองที่ครรภ์ของเธอ และกระซิบเบาๆว่า “ฉันจะไม่ฆ่าเขา”



มือของฉันสั่นอีกครั้ง “อ๋อ นี่ฉันพลาดข่าวดีไปใช่มั้ย เด็กผู้ชายตัวน้อยๆ จะต้องให้ฉันซื้อลูกโป่งมาให้ฝากเขาด้วยมั้ย”



หน้าของเธอกลายเป็นสีชมพู ช่างงดงามมาก มันทำให้ฉันรู้สึกบิดมวนในท้องไปหมด ราวกับถูกมีดเฉือน



ฉันกำลังจะสูญเสียสิ่งนี้ไป .... อีกครั้ง


 


 


“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายรึเปล่า” เธอยอมรับ “อุลตร้าซาวด์ไม่น่าจะได้ผล เยื่อที่ปกคลุมเด็กคนนี้เอาไว้หนามาก เหมือนผิวหนังของพวกเขา ดังนั้นเขาก็ออกแนวลึกลับนิดหน่อยนะ แต่ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเสมอในหัวของฉัน”


 


“มันไม่ใช่เด็กที่น่ารักอะไรหรอก Bella ในนั้นน่ะ”


 


“แล้วเราจะได้รู้กัน” เธอบอก


 


“เธอจะได้เจอมันหรอก” ฉันพูดเสียงแข็ง


 


“เธอนี่มันมองโลกในแง่ร้ายจริงๆนะ Jacob มันมีความหวังแน่นอนที่ฉันจะรอดไปได้”




ฉันไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองลง พยายามหายใจให้ช้าลง พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง


 


“Jake” เธอเรียกฉัน แล้วเธอก็จับที่ปลายเส้นผมของฉัน จับแก้มฉัน “มันจะต้องโอเคอยู่แล้วน่า ชู่วว อย่าห่วงไปเลย”



ฉันไม่ได้มองขึ้นไป “ไม่หรอก มันไม่โอเคเลย”



เธอเช็ดน้ำตาบนแก้มฉันออกไป “ชู่ววว”


 


 


“นี่มันอะไรกันล่ะ Bella” ฉันมองไปที่พรมสีขาวเบื้องหน้า เท้าของฉันสกปรกทำให้มันเป็นรอยเปื้อนโคลน เยี่ยม “ฉันคิดว่าเธออยากเป็นแวมไพร์เหนือสิ่งอื่นใด และตอนนี้เธอกำลังจะยอมแพ้เหรอ มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธออยากจะเป็นแม่คนขนาดนี้ ถ้าเธอต้องการมันขนาดนี้ ทำไมเธอถึงแต่งงานกับแวมไพร์กันล่ะ”



ฉันเริ่มเข้าใกล้ประเด็นที่เขาเสนอให้ฉันแล้ว



เธอถอนหายใจ “มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้แคร์เรื่องมีลูกหรอกนะ ฉันแทบไม่เคยคิดถึงมันเลย มันไม่ใช่แค่การมีลูกหรอก มันแค่ .... เออ .... ลูกคนนี้”


 


“มันเป็นฆาตกร Bella ดูสภาพเธอตอนนี้สิ”


 


“เขาไม่ใช่นะ มันเป็นเพราะฉันเอง เพราะฉันอ่อนแอเกินไปและเป็นมนุษย์ แต่ฉันจะผ่านมันไปได้ Jake ฉันทำได้...”


 


“ขอร้องล่ะ Bella หยุดพูดเถอะ เธอสามารถตั้งท้องไอ้สัตว์ประหลาดนี่ให้ไอ้ผีดูดเลือดตัวนั้นได้ แต่เธอจะไม่หลอกฉัน เธอรู้ดีว่าเธอไม่รอดแน่ๆ”



ธอเหลียวมามองฉัน “ฉันไม่รู้เลย ฉันก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน”


 


 


“กังวลเกี่ยวกับมันงั้นเหรอ” ฉันเอ่ยผ่านช่องไรฟันออกมา



เธอลูบไล้ที่ครรภ์ตัวเองอย่างแผ่วเบา และแล้วความโกรธของฉันก็ดับลงราวกับถูกปิดสวิตช์


 


“ฉันสบายดี มันไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”



แต่ฉันไม่ได้ยิน  มือของเธอกำลังดึงเสื้อตัวเองไปข้างๆ  และฉันมองไปที่เธออย่างหวาดกลัว ราวกับว่าผิวของเธอจะปริแตกออกมา ท้องของเธอดูราวกับว่าเต็มไปด้วยรอยเปื้อนของน้ำหมึกสีดำๆม่วงๆ




แล้วเธอก็หันมาเห็นสายตาของฉัน และเธอก็รีบชี้แจงทันที


 


“เขาก็แค่แข็งแรงน่ะ” เธอพูดปกป้องมัน



รอยนั้นเป็นรอยช้ำ



ฉันเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงว่าอะไร ... ที่ว่าเห็นมันทำร้ายเธอ ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า


 


 


“Bella” ฉันเอ่ยออกมา



เธอได้ยินโทนเสียงของฉันเปลี่ยนไป เธอมองขึ้นมา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน


 


“Bella อย่าทำอย่างนี้เลยนะ”


 


 


“Jake”


 


 


“ฟังฉัน อย่าพึ่งพูดอะไร แค่ฟังฉันก่อน ถ้าเกิด...”


 


 


“ถ้าเกิดอะไรเหรอ”


 


 


“ถ้าเกิดว่านี่ไม่ใช่แค่รวดเดียวจบ ถ้าเกิดว่านี่ไม่ใช่ทุกอย่างหรือไม่มีอะไรเลย ถ้าเกิดเธอฟัง Carlisle เหมือนเด็กดีที่เชื่อฟังผู้ใหญ่ และทำให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป”


 


 


“ฉันไม่...”


 


 


“ฉันยังพูดไม่จบ แล้วถ้าเธอมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอก็สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ นี่มันไม่เวิร์คหรอก พยายามใหม่อีกครั้งเถอะ”




เธอดูโศกเศร้า นิ้วของเธอเอื้อมมาแตะที่หน้าผากฉัน ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด


 


 


“ฉันไม่เข้าใจเลย เธอหมายความว่ายังไงเหรอ พยายามใหม่อีกครั้ง??? เธอคงไม่คิดว่า Edward จะยอมให้ฉัน แล้วมันจะแตกต่างอะไรกันล่ะ ฉันแน่ใจว่าไม่ว่าลูกคนไหน...”


 


 


“ใช่” ฉันกัดฟันพูด “ไม่ว่าเด็กคนไหนก็เหมือนกันทั้งนั้น”



สีหน้าของเธอดูสับสนมากขึ้น “อะไรนะ”



แต่ฉันพูดต่อไปไม่ได้แล้ว มันไม่มีเหตุผลเลย ฉันไม่เคยช่วยเธอจากตัวเธอเองได้ ฉันไม่เคยทำมันได้



แล้วเธอก็กระพริบตา และฉันคิดว่าเธอรู้แล้วว่าฉันหมายถึงอะไร


 


“ได้โปรดเถอะ Jacob เธอคิดว่าฉันควรจะฆ่าเด็กคนนี้ซะและแทนเขาด้วยอย่างอื่นงั้นเหรอ ทำกิฟต์อะไรทำนองนั้นเหรอ” เธอเป็นบ้าไปแล้ว “ทำไมฉันถึงจะอยากได้ลูกใครก็ไม่รู้กันล่ะ ฉันเดาว่ามันก็คงไม่แตกต่างกันหรอกใช่มั้ย”


 


 


“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ฉันพึมพำ “ไม่ใช่ ใครก็ไม่รู้”



เธอโน้มตัวมาข้างหน้า “แล้วเธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่ล่ะ”


 


“ไม่มีอะไรหรอก ฉันไม่ได้พูดอะไร เหมือนเคยแหล่ะ”


 


“ความคิดนี่มาจากไหนกัน”


 


“ลืมมันไปซะเถอะ Bella”




เธอถามด้วยความสงสัย “นี่เขาบอกให้เธอมาพูดกับฉันเรื่องนี้เหรอ”


ฉันรีรอ แล้วก็อดประหลาดใจไม่ได้ที่เธอเดาเรื่องราวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว “ไม่”


 


“เขาบอกใช่มั้ย”


 


“ไม่ จริงๆนะ เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องทำกิฟต์หรือผสมเทียมอะไรเลย”




สีหน้าของเธอดูเบาใจขึ้น และเธอก็เอนตัวลงบนหมอน ดูหมดแรง เธอมองไปด้านข้างในขณะที่เธอพูด ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้พูดกับฉันหรอก “เขาคงจะยอมทำอะไรก็ได้เพื่อฉัน และฉันก็ทำร้ายเขามากเหลือเกิน แต่นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่ คิดว่าฉันจะยอมแลกเด็กคนนี้” แล้วมือของเธอก็ลูบไล้มันเบาๆ “เพื่อเด็กที่ไหนก็ไม่รู้......” เธอพึมพำท่อนสุดท้าย แล้วเสียงเธอก็เงียบไป ดวงตาของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา


 


“เธอไม่จำเป็นต้องทำร้ายเขาหรอก” ฉันกระซิบบอก มันเผาไหม้ราวกับยาพิษในปากของฉันที่อ้อนวอนเพื่อเขา แต่ฉันรู้ดีว่านี่เป็นเหตุผลที่ดีที่สุดแล้วที่จะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป “เธอจะทำให้เขามีความสุขอีกครั้ง Bella และฉันคิดว่าเขากำลังจะสูญเสียความสุขไป ฉันคิดแบบนั้นจริงๆนะ”



เธอเหมือนไม่ได้ฟังฉันอยู่ มือของเธอลูบไล้ที่ท้องเป็นวงกลม ในขณะที่เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น มันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะยาวนาน พวก Cullens อยู่ห่างไกลออกไป พวกเขาจะกำลังฟังความพยายามที่น่าสมเพชของฉันที่กำลังจะบอกเหตุผลกับเธอรึเปล่านะ


 


 


“ไม่ใช่ลูกใครก็ได้ ไม่ใช่คนแปลกหน้าเหรอ” เธอพึมพำกับตัวเอง ฉันหลบตาเธอทันที “Edward บอกอะไรกับเธอกันแน่น่ะ”


 


“ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่คิดว่าเธออาจจะฟังฉัน”


 


“ไม่ใช่เรื่องนั้น เกี่ยวกับที่จะให้ฉันพยายามอีกครั้งน่ะ”



เธอจ้องมาที่ฉัน และฉันก็เห็นได้เลยว่าฉันพูดมากเกินไปแล้ว


 


“ไม่มีอะไรหรอก”



เธออ้าปากเล็กน้อย “ว้าว”



ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น และฉันก็ก้มมองที่เท้าตัวเองอีกครั้ง ไม่กล้าสบตาเธอ


 


 


 


“เขาคงจะยอมทำอะไรก็ได้ใช่มั้ย” เธอกระซิบบอก


 


“ฉันบอกเธอแล้วว่าเขาน่ะบ้าไปแล้ว Bells”


 


“ฉันแปลกใจว่าเธอไม่ได้บอกตอบรับไปทันทีนี่ ทำให้เขารู้สึกแย่ไปเลย”



เมื่อฉันมองขึ้นไป เธอก็กำลังฝืนยิ้มอยู่


 


“ลองคิดดูสิ” ฉันพยายามที่จะฝืนยิ้มกลับไป




เธอรู้ว่าฉันกำลังเสนออะไร และเธอจะไม่คิดมันอีกเป็นครั้งที่สอง ฉันรู้ว่าเธอไม่คิดอีกแน่ๆ


 


“เธอก็ทำเพื่อฉันมามากแล้ว ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมเธอถึงยังมากวนใจฉันเรื่องนี้อีก ฉันไม่คู่ควรกับเธอทั้งคู่เลยจริงๆ ไม่ว่าใครก็ตาม”


 


“ถึงแม้ว่ามันจะไม่แตกต่าง ... ใช่มั้ย”


 


“ไม่ใช่ครั้งนี้” เธอถอนหายใจ “ฉันหวังว่าฉันจะสามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้นะ Jacob ฉันทำร้ายเขาไม่ได้” เธอชี้ลงไปที่ท้องของเธอ “ฉันทำร้ายเขาต่อไปอีกไม่ได้แล้ว มากซะจนฉันสามารถหยิบปืนขึ้นมาตอนนี้และฆ่าเธอได้เดี๋ยวนี้เลย ฉันรักเขา”


 


“ทำไมเธอต้องรักสิ่งที่ผิดตลอดเวลาด้วยนะ Bella”


 


“ฉันไม่คิดว่าฉันเป็นแบบนั้นนะ”



ฉันกระแอมเบาๆเพื่อทำให้คอโล่งขึ้น เพื่อที่ฉันจะได้ทำให้เสียงของฉันเข้มขึ้นอย่างที่ฉันต้องการ


 


“เชื่อฉันสิ”


218






 

Create Date : 27 มกราคม 2552   
Last Update : 27 มกราคม 2552 10:19:45 น.   
Counter : 625 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 10.1

10. ทำไมฉันถึงไม่เดินออกมานะ อ๋อ ใช่สิ เพราะฉันมันโง่ไง




ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย เหมือนมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง เหมือนอยู่ในช่วงตลกร้ายของรายการซิทคอมอย่างนั้นล่ะ




แทนที่ฉันจะไปขอเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนไปงานพรอมด้วยกัน นี่ฉันกำลังเป็นมนุษย์หมาป่านัมเบอร์ทู ที่กำลังจะไปขอร้องเมียแวมไพร์เพื่อให้มามีอะไรด้วย และมีลูกกัน ... มันเยี่ยมไปเลย




ไม่ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น นี่มันเพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะลืมให้หมดว่าเขาพูดอะไรออกมา



แต่ฉันจะไปคุยกับเธอ พยายามให้เธอฟังฉัน




แต่เธอก็คงจะไม่ฟังหรอก เหมือนทุกๆครั้งนั่นแหล่ะ




Edward ไม่ตอบหรือคอมเมนท์ความคิดของฉันในขณะที่เขาพาฉันกลับไปที่บ้าน ฉันสงสัยว่าที่ๆเขาหยุดคุยกับฉันนั้นเป็นที่ไกลเพียงพอที่จะไม่ทำให้ใครได้ยินเสียงของเรา แค่นั้นเองเหรอ




ก็เป็นไปได้นะ เมื่อเราเดินผ่านเข้าไปในบ้าน พวก Cullens คนอื่นๆดูสงสัยเราอย่างมาก ไม่มีใครมองว่าเราเป็นตัวน่ารังเกียจแต่อย่างใด ดังนั้นพวกนั้นก็คงไม่ได้ยินหรอกว่า Edward ขอร้องฉันว่าอย่างไรบ้าง




ฉันรั้งรออยู่ตรงทางเดินข้างนอก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีตอนนี้ แต่อย่างน้อยที่นั่นก็ดีกว่า เพราะมันมีอากาศพัดมาจากด้านนอก




Edward เดินเข้าไปตรงกลางห้อง  Bella มองดูเขาด้วยความวิตกกังวล แล้วสายตาของเธอก็เลื่อนมาที่ฉัน แล้วกลับไปมองที่เขาอีกครั้ง




เธอหน้าซีดลงไป และฉันรู้ได้เลยว่าอะไรที่เขาหมายถึงว่าความเครียดจะยิ่งทำให้เธอแย่ลงไปอีก




“เราจะเปิดโอกาสให้ Jacob กับ Bella คุยกันสองคน อย่างเป็นส่วนตัว” Edward บอกกับทุกคน เสียงราวกับหุ่นยนต์ ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ




“ต้องอยู่ในสายตาของฉัน” Rosalie มองไปทางเขา เธอยังคงอยู่วนเวียนรอบๆตัว Bella มือของเธอข้างหนึ่งจับที่แก้ม Bella อย่างหวงแหน




Edward ไม่ได้หันไปมองเธอ “Bella” เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกว่างเปล่า “Jacob อยากจะคุยกับเธอ เธอกลัวที่จะอยู่กับเขาตามลำพังมั้ย”




Bella มองมาที่ฉัน ด้วยความสับสน และเหลียวกลับไปมอง Rosalie




“Rose มันไม่มีอะไรหรอกจ้ะ Jake ไม่มีวันทำร้ายเราหรอก ไปกับ Edward เถอะ”



“มันอาจจะเป็นกลลวงก็ได้” ยัยผมบลอนท์เตือนเธอ



“ฉันไม่เห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นเลยนะ” Bella เอ่ยออกมา



“ฉันกับ Carlisle จะอยู่ในระยะที่เธอมองเห็นได้เสมอ Rosalie” Edward เอ่ยออกมา เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ เสียงของเขาเริ่มเจือปนด้วยความโกรธ “เราเป็นคนเพียงกลุ่มเดียวที่เธอกลัว”




“ไม่” Bella กระซิบบอกเขา สายตาของเธอพลันทุกข์ระดม ดวงตาเริ่มมีน้ำตา “ไม่นะ Edward ฉันไม่ได้...”




เขาส่ายหัวช้าๆ ยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นช่างเจ็บปวดเหลือเกิน “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอก Bella ฉันสบายดี ไม่ต้องกังวลเรื่องฉันหรอก”




เขาพูดถูกเรื่องที่เธอจะโทษตัวเองว่าเป็นคนทำร้ายความรู้สึกเขา เธอช่างเหมือนผู้หญิงสมัยก่อนเสียจริงๆ เธอน่าจะเกิดผิดศตวรรษนะ



“ทุกคน” Edward เอ่ยขึ้นมา ในขณะที่นิ้วชี้ไปที่ประตู “ได้โปรดเถอะ”




เมื่อทุกคนเห็นท่าทีที่แสนจะเจ็บปวดของ Edward พวกเขาก็เดินออกจากประตูไปอย่างเงียบๆ และรวดเร็ว ทั้งห้องไม่มีใคร ยกเว้นแต่ Rosalie ที่รั้งรออยู่ตรงกลางห้อง และ Edward ก็ยังคอยอยู่ที่ประตู



“Rose” Bella เอ่ยออกมาเบาๆ “ฉันอยากให้เธอออกไปก่อนนะ”



ยัยผมบลอนท์หันมามอง Edward และผายมือให้เขาไปก่อน เขาเดินออกไป แล้วเธอก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน




เมื่อเราอยู่ด้วยกันตามลำพัง ฉันก็เดินมาที่ห้องและนั่งบนพื้นถัดจาก Bella ฉันเอื้อมมือไปจับมือเธอเอาไว้ บีบมือเธอเบาๆด้วยความระมัดระวัง



“ขอบคุณนะ Jake นั่นทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย”



“ฉันจะไม่โกหกเธอล่ะกัน Bella ตอนนี้เธอรูปร่างน่าเกลียดมากเลย”



“ฉันรู้” เธอถอนหายใจ  “ฉันดูน่ากลัวมาก”



“ยังกับหลุดออกมาจากหนังผีเลยล่ะ” ฉันเห็นด้วย




เธอหัวเราะ “ฉันดีใจนะที่เธอมาที่นี่ ฉันรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยิ้มออกมา ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทนความกดดันได้มากขนาดไหน”




ฉันกรอกตาไปมาด้วยความสงสัย




“ก็ได้ๆ” เธอเห็นด้วย “ฉันคิดมากไปเอง”




“ใช่ เธอคิดอะไรกันอยู่แน่ Bells”




“เขาขอให้เธอมาตะโกนใส่หน้าฉันเหรอ”




“ก็ประมาณนั้นแหล่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเธอจะฟังฉัน เธอไม่เคยฟังฉันเลยนี่นา”


เธอถอนหายใจ




“ฉันบอกเธอแล้ว....” ฉันกำลังเริ่มที่จะพูด




“เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเคยบอกเธอว่า เธอมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง Jacob” เธอกล่าวตัดบทฉัน “และชื่อของเขาคือ หุบปากซะ”




“ชื่อดีนะ”




เธอค้อนฉัน ผิวของเธอดูตึงแน่นบนกระดูกของเธอ “ฉันจำมาจาก The Simpsons น่ะ”



“ฉันพลาดตอนนั้นไป”



“มันตลกมากเลยนะ”




เราเงียบกันไปสักพัก มือของเธอเริ่มที่จะอุ่นขึ้นเล็กน้อย




“นี่เขาขอร้องให้เธอมาคุยกับฉันเหรอ”




ฉันพยักหน้า “ให้ฉันบอกอะไรที่ดูสมเหตุสมผลกับเธอน่ะ การต่อสู้ครั้งนี้ฉันแพ้ก่อนที่ฉันจะเริ่มเสียอีก”




“แล้วทำไมเธอถึงยอมตกลงล่ะ”




ฉันไม่ได้ตอบคำถามเธอ ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้รึเปล่า



แต่ฉันรู้นี่ ทุกวินาทีที่ฉันใช้ร่วมกับเธอมันจะทำให้ฉันยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น ฉันจะต้องทนทุกข์ทรมานในภายหลังแน่





“ฉันจะผ่านมันไปได้ เธอรู้มั้ย” เธอเอ่ยทำลายความเงียบออกมา “ฉันเชื่อว่าฉันจะทำได้”


นั่นทำให้ฉันเห็นสีเลือดบนแก้มเธออีกครั้ง “นี่ก็เป็นอาการอีกอย่างหนึ่งของเธอเหรอ” ฉันอดจิกกัดเธอไม่ได้




เธอหัวเราะออกมา ถึงแม้ว่าความโกรธของฉันจะทำให้มือของเราสั่นก็ตามที





“ก็เป็นไปได้นะ” เธอเอ่ยออกมา “ฉันไม่ได้บอกว่ามันจะผ่านพ้นไปได้โดยง่ายนะ Jake แต่ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่เชื่อในเวทมนตร์ได้เหรอ ทั้งๆที่ฉันผ่านอะไรมาตั้งมากมายขนาดนี้”




“เวทมนตร์เหรอ”




“โดยเฉพาะกับเธอ” เธอเอ่ยออกมา และยิ้มให้ฉัน เธอปลดมือข้างหนึ่งออก และวางไว้บนแก้มของฉัน “มากกว่าใครทั้งนั้น เธอมีเวทมนตร์อะไรบางอย่างที่จะทำให้เรื่องทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเธอ”



“นี่เธอเพ้อถึงอะไรกันน่ะ”




เธอยังคงยิ้มอยู่ “Edward เคยบอกฉันครั้งหนึ่งว่า อะไรที่เหมือน การต้องตาต้องใจในแบบของเธอน่ะ เขาพูดว่ามันเหมือนกับ ฝันกลางฤดูร้อน เหมือนเวทมนตร์ เธอจะค้นพบว่าใครคือคนที่เธอกำลังตามหา Jacob และนั่นอาจจะทำให้เรื่องทั้งหมดดำเนินต่อไปก็ได้นะ”




ถ้าเธอไม่ได้ดูเปราะบางขนาดนี้ ฉันคงจะกรีดร้องออกมาแล้ว



และก็เหมือนเช่นดังทุกครั้ง ฉันกระฟัดกระเฟียดใส่เธอ




“ถ้าเธอคิดว่า ไอ้เรื่องการต้องตาต้องใจนั่นมันสมเหตุสมผลเหรอ เธอเคยคิดบ้างมั้ยว่าสักวันหนึ่งฉันอาจจะเกิดอาการแบบนั้นกับคนแปลกหน้าก็ได้” ฉันวางมือลงบนครรภ์ของเธอ “บอกฉันว่านี่มันจะเกิดประโยชน์ตรงไหน Bella ทำไมฉันถึงต้องรักเธอ ทำไมเธอถึงต้องรักเขา และเมื่อเธอตายไป.....” ฉันแผดเสียงออกมา “แล้วมันจะกลับไปถูกต้องอีกครั้งได้ยังไง แล้วความเจ็บปวดทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่ออะไรกัน ของฉัน ของเธอ ของเขา เธอจะฆ่าเขาด้วย แต่นั่นฉันไม่แคร์หรอก”



“แล้วสุดท้ายเธอจะจัดการกับเรื่องความรักของเธอยังไง ถ้ามันมีเหตุผลแม้แต่สักเล็กน้อย ได้โปรดบอกฉันเถอะ ฉันไม่รู้เลยจริงๆ”




เธอถอนหายใจออกมา “ฉันยังไม่รู้เลย Jake แต่ฉันรู้สึกว่า นี่จะเป็นสิ่งดีที่เกิดขึ้นแน่นอน ถึงแม้ว่าอาจจะยากไปสักหน่อยที่จะมองเห็นมันในตอนนี้ เธออาจจะเรียกมันว่าโชคชะตาก็ได้”




“เธอกำลังจะตายอย่างไร้ค่า Bella ... อย่างไร้ค่า”





เธอเลื่อนมือจากใบหน้าของฉันไปที่ท้องของเธอ เธอลูบไล้มันอย่างน่าทะนุถนอม เธอไม่ต้องบอกอะไรฉันอีกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยอมตายเพื่อมัน




“ฉันจะไม่ตายหรอกนะ” เสียงของเธอเล็ดรอดผ่านไรฟันออกมา และฉันก็บอกได้เลยว่าเธอเคยพูดสิ่งนี้ซ้ำๆมาก่อนแล้ว “ฉันจะทำให้หัวใจฉันเต้น ฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเขาออกมา”


 



“นั่นมันขยะชัดๆ Bella เธอพยายามที่จะเก็บไอ้สิ่งเหนือธรรมชาตินี้มานานเกินไปแล้วนะ ไม่มีคนปกติที่ไหนเค้าทำกันหรอก เธอแข็งแรงไม่พอหรอก” ฉันจับหน้าเธอไว้ ไม่ต้องเตือนตัวเองให้จับมันอย่างทะนุถนอม ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอดูเหมือนจะเปราะบางและแตกได้ทุกเมื่อ





“ฉันสามารถทำได้ๆ” เธอบ่นพึมพำเหมือนเด็ก



“แล้วแผนของเธอเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ฉันหวังว่าเธอจะมีสักแผนนะ”




เธอพยักหน้า แต่ไม่ยอมสบตาฉัน “เธอรู้มั้ยว่า Esme เคยกระโดดลงจากหน้าผาน่ะ ตอนที่เธอเป็นมนุษย์”




“แล้ว??”







“แล้วพวกเขาก็หมดหวังที่จะช่วยเธอ เพียงพอที่จะไม่ไปส่งเธอที่ห้องฉุกเฉิน แต่พาเธอไปที่ที่เก็บศพเลย หัวใจของเธอยังคงเต้นอยู่เมื่อ Carlisle เจอเธอ”





“เธอไม่ได้วางแผนว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้แบบเป็นมนุษย์” ฉันเอ่ยออกมาอย่างทื่อๆ







 

Create Date : 26 มกราคม 2552   
Last Update : 26 มกราคม 2552 17:05:32 น.   
Counter : 552 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 9.3


มีเสียงมากมายในหัวของฉันบอกฉันว่า ทำไมการแยกเขาออกมาจากพรรคพวกเขาถึงไม่ยากอย่างที่คิด


เขาเดินไปข้างหน้า ไม่เหลียวหันกลับมามองฉันเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันก็รู้ดีว่าเขาไม่ต้องหันมาเช็คดูหรอกว่าฉันจะทำร้ายเขาจากด้านหลังรึเปล่า เขาจะรู้ตัวทันทีที่ฉันเข้าทำร้ายเขา นั่นแปลว่าฉันต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว




“ฉันยังไม่พร้อมให้นายฆ่าฉันหรอกนะ Jacob Black” เขากระซิบบอกฉันในขณะที่เดินออกห่างจากตัวบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ “นายอาจจะต้องอดทนต่อไปอีกสักหน่อย”




เหมือนกับว่าฉันสนในหมายกำหนดการของเขาอย่างนั้นล่ะ ฉันกัดฟันกรอด “ความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ฉันถนัดเลยนะ”




เขาเดินต่อไปเรื่อยๆ อาจจะสองสามร้อยหลาจากทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน ฉันรู้สึกตื่นตัวไปหมด นิ้วมือสั่นไม่หยุด ได้แต่เตรียมพร้อมและเฝ้ารอต่อไป




เขาหยุดโดยที่ไม่บอกกล่าว และหันหน้ากลับมาทางหน้า สีหน้าของเขาทำให้ฉันชะงัก




ในชั่ววินาทีนั้นเอง ฉันตระหนักเลยว่าตัวเองเป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้น เด็กน้อยที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ



เพราะว่าฉันรู้ดีว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน ทนทุกข์ทรมานมากกว่านี้ ถึงจะเข้าใจความเจ็บปวดในดวงตาของ Edward ได้



เขายกมือขึ้นเพื่อปัดเหงื่อบนหน้าผากตัวเอง แต่นิ้วของเขากลับเหมือนจะทึ้งเอาผิวหนังออกไปด้วย ตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมัวราวกับว่าจะไม่เห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอีก ปากของเธอเผยอออกมาราวกับต้องการจะกรีดร้อง แต่ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย



นี่คือสีหน้าของผู้ชายนี่ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานราวกับถูกไฟเผา



ในช่วงเวลานั้นเอง ฉันไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้เลย ฉันหวนไปคิดถึงสายตาของเธอและของเขา



“มันกำลังจะฆ่าเธอใช่มั้ย เธอกำลังจะตาย....งั้นสิ” และฉันก็รู้ได้เลยว่า คำพูดของฉันทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก แต่ฉันก็ยังรู้สึกตกใจมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ติด เขามีเวลาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่สำหรับฉันมันไม่เหมือนกัน ฉันสูญเสียเธอมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว


..ไม่เหมือนตรงที่ฉันไม่เคยได้เป็นเจ้าของของเธอจริงๆ


.. ไม่เหมือนตรงที่นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน




“ความผิดของฉันเอง” Edward กระซิบออกมา เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน ... ช่างอ่อนแอ มันช่างง่ายเหลือเกินที่ฉันจะจัดการเขาตอนนี้



ฉันรู้สึกเยือกเย็นมากขึ้น



“ใช่แล้ว” เขายังคงคร่ำครวญอยู่บนพื้นหญ้า “ใช่แล้ว มันกำลังจะฆ่าเธอ”




การที่เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดรำคาญอย่างมาก ฉันต้องการที่จะต่อสู้ ไม่ใช่การตัดสินแบบนี้ ความทะนงตัวของเขาหายไปไหนหมด




“แล้วทำไม Carlisle ไม่ทำอะไรบ้างล่ะ” ฉันคำราม “เขาเป็นหมอไม่ใช่เหรอ เอามันออกไปจากเธอก็ได้นี่”



เขามองขึ้นมาที่ฉัน แล้วก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่แสนจะเหนื่อยหน่าย ราวกับเขากำลังอธิบายให้เด็กอนุบาลฟังเป็นรอบที่สิบ “เธอไม่ยอมให้เราทำอย่างนั้น”



ฉันใช้เวลาสักครู่ที่จะย่อยความหมายของมัน โอ้ พระเจ้า แน่นอนว่าเธอจะยอมตายเพราะไอ้สัตว์ประหลาดนั่น สมกับที่เป็น Bella เหลือเกิน




“นายก็รู้จักเธอดี” เขากระซิบ “นายเข้าใจมันอย่างรวดเร็ว แต่ฉันไม่ ... ไม่ทันเวลา เธอไม่พูดกับฉันเลยตลอดทางที่กลับมาบ้าน ฉันคิดว่าเธอคงรู้สึกตื่นกลัว และนั่นคงเป็นเรื่องธรรมดา ฉันคิดว่าเธอคงโกรธที่ฉันทำให้เธอมาเจอกับอะไรแบบนี้ ทำให้เธอต้องเสี่ยงชีวิตตัวเอง แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ฉันไม่เคยเดาได้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอกำลังจะทำอะไร จนกระทั่งครอบครัวของเรามารับเราที่สนามบิน เธอวิ่งไปหา Rosalie และแล้วฉันก็ได้ยินว่า Rosalie กำลังคิดอะไรอยู่ ฉันไม่เข้าใจจนกระทั่งได้ยินนั่น แต่นายเข้าใจมันภายในวินาเดียว” เขากึ่งถอนหายใจกึ่งคร่ำครวญ



“เดี๋ยวๆๆๆ เธอไม่ยอมให้นาย...” คำพูดพวกนี้ราวกับน้ำกรดบนลิ้นของฉัน “นายไม่เคยสังเกตเหรอว่าเธอก็แข็งแรงพอๆกับผู้หญิงหนักร้อยปอนด์ทั่วไปนั่นแหล่ะ ทำไมพวกนายแวมไพร์โง่อย่างนี้ นายก็แค่วางยาเธอก็จบแล้ว”



“ฉันก็อยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน” เขากระซิบบอก “Carlisle ก็อยากจะ...”




อะไรกัน พวกเขาไม่ได้เฉลียวฉลาดไปซะทุกเรื่องเหรอไง




“ไม่หรอก บอดี้การ์ดของเธอทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้นน่ะ”




โอ้ เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย แต่ตอนนี้ฉันชักเริ่มจะเข้าใจแล้ว หมายความว่านั่นคือสิ่งที่ยัยผมบลอนท์นั่นกำลังทำสินะ แต่อะไรเป็นแรงจูงใจทำให้เธอทำแบบนี้ล่ะ ยัยนั่นไม่ได้ต้องการจะให้ Bella ตายหรอกเหรอ




“อาจจะนะ” เขาเอ่ย “Rosalie ดูไม่เหมือนคนที่ต้องการอะไรแบบนั้นเลย”




“เราก็จัดการยัยผมบลอนท์นั่นก่อนสิ นายสามารถเก็บความใจดีของนายไว้ก่อน จริงมั้ย จัดการทำให้เธอเป็นชิ้นๆซะ และก็ค่อยจัดการเรื่อง Bella”



“Emmett กับ Esme ช่วยเธออยู่น่ะ Emmett ไม่ยอมให้เรา ทำแบบนั้นน่ะสิ และ Carlisle ก็ไม่ยอมช่วยฉันตราบใดที่ Esme ไม่เห็นด้วยหรอกนะ…..” เสียงของเขาเงียบหายไป



“นายน่าจะปล่อย Bella ไว้กับฉันเสียตั้งแต่แรก”



“ใช่”




ถึงแม้ว่ามันจะสายเกินไปแล้ว แต่เขาก็ควรที่จะคิดถึงเรื่องนี้ก่อนที่เขาจะเสกไอ้สัตว์ประหลาดนั่นเข้าไปในท้องของเธอสิ”


เขาจ้องมาที่ฉัน และฉันก็รู้สึกได้เลยว่าเขาเห็นด้วยกับฉัน



“เราต่างไม่รู้” เขาเอ่ยออกมา เสียงของเขาเบาราวกับเสียงลมหายใจ “ฉันไม่เคยฝันถึงมันมาก่อน มันไม่เคยมีเหตุการณ์เหมือนในกรณีแบบฉันกับ Bella มาก่อนเลย เราจะรู้ได้ยังไงว่ามนุษย์สามารถมีลูกกับแวมไพร์ได้”



“เพราะส่วนใหญ่แล้วมนุษย์จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ในระหว่างมีอะไรกันงั้นสิ”


 


“ใช่” เขาเห็นด้วย “มันก็มีพวกนั้นเหมือนกัน พวกซาดิสม์ พวก incubus (ผีดูดเลือดที่มักร่วมประเวณีกับผู้หญิงขณะนอนหลับ) พวกนั้นก็มีตัวตนเหมือนกัน แต่ไม่มีใครรอดหลังจากมีอะไรกับพวกนั้นเลยแม้แต่คนเดียว” เขาสั่นศีรษะช้าๆ เหมือนกับว่าความคิดนั้นปฏิวัติเขา ราวกับว่าเขาแตกต่างจากพวกนั้น



“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า เขามีชื่อเรียกเฉพาะ ให้สำหรับคนอย่างนายด้วย” ฉันสบถออกมา



เขาจ้องมาที่ฉัน ด้วยสีหน้าที่ราวกับอายุพันปี



“แม้กระทั่งนาย Jacob Black ก็คงไม่อาจเกลียดฉันได้ มากเท่าที่ฉันเกลียดตัวเองตอนนี้ได้หรอก”



ผิดแล้ว ฉันคิด รู้สึกแค้นเกินกว่าที่จะพูดออกไปได้




“ฆ่าฉันตอนนี้ได้เลย แต่มันก็ไม่อาจช่วยเธอได้หรอก”



“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ”



“Jacob นายต้องทำอะไรบางอย่างให้ฉัน”



“ไปลงนรกซะเถอะ ไอ้ตัวปรสิตเอ๊ย”




เขายังคงจ้องมองมาที่ฉันอย่างเศร้าสร้อย “เพื่อเธอ”


ฉันกัดฟันเป็นสันนูน “ฉันจะทำทุกอย่างที่จะฉันสามารถจะทำได้ เพื่อให้เธออยู่ห่างจากนายให้มากที่สุด ฉันยอมทำทุกๆอย่าง แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว”




“นายรู้จักเธอดี Jacob นายสามารถเข้าใจเธอในระดับที่ฉันไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ นายเป็นส่วนหนึ่งของเธอ และเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของนาย เธอไม่ฟังฉันเพราะเธอคิดว่าฉันดูถูกเธอ เธอคิดว่าเธอแข็งแรงพอที่จะ.....” เขาไอออกมาเบาๆแล้วกลืนคำพูดนั้นลงไป “เธออาจจะฟังนายก็ได้”



“ทำไมล่ะ”



ตาของเขาเป็นประกายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ฉันสงสัยว่าเขากำลังจะเป็นบ้าไปจริงๆแล้วใช่มั้ย แวมไพร์เป็นบ้าได้รึเปล่าเนี่ย



“อาจจะนะ” เขาตอบความคิดของฉัน “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันรู้สึกเหมือนกับว่า” เขาส่ายหัว “ฉันต้องซ่อนมันไว้ต่อหน้าเธอ เพราะว่าความเครียดของฉันจะทำให้เธอป่วยได้ เธอไม่สามารถรับมือกับอะไรได้อีกแล้ว ฉันต้องเสแสร้งเพราะว่าฉันไม่ต้องการจะทำให้มันยากขึ้นไปอีก แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว เธอต้องฟังนาย”


“จะให้ฉันบอกอะไรที่นายยังไม่ได้บอกอีกล่ะ นายอยากให้ฉันทำอะไร บอกเธอว่าเธอโง่งั้นเหรอ เธอคงจะรู้ตัวแล้วล่ะ บอกเธอว่าเธอกำลังจะตาย ฉันก็พนันว่าเธอรู้แล้วเหมือนกัน”


“นายสามารถให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้”


เดี๋ยวก่อน นี่มันอะไรกันเนี่ย เขาบ้าไปแล้วเหรอ


“ฉันไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้เธอยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก็พอแล้ว” เขาเอ่ยออกมา “ถ้าเธอต้องการที่จะมีลูก ก็ให้เธอได้มีล่ะกัน เธอจะมีลูกสักครึ่งโหลก็ได้ อะไรก็ได้ที่เธอต้องการ” เขาหยุดก่อนที่จะเอ่ยต่อไปว่า “เธอจะเลี้ยงหมาก็ได้ ถ้าเธอต้องการ”


เขาจ้องมาที่ฉัน มือฉันสั่นไปหมดในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะพูดอะไรออกไป ฉันอ้าปากด้วยความตกใจ


“แต่ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่สัตว์ประหลาดนั่น ที่กำลังดูดชีวิตเธอไป ในขณะที่ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย มองดูเธอป่วยอย่างนี้ เห็นมันทำร้ายเธอ” เขาหายใจอย่างรวดเร็วเหมือนใครต่อยที่สมองเขา “นายต้องทำให้เธอเข้าใจเหตุผล Jacob เธอไม่ยอมฟังฉันแล้ว Rosalie อยู่ที่นั่นตลอดเวลา คอยสนับสนุน ให้ท้ายและปกป้องเธอ ไม่สิ ชีวิตของ Bella ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับ Rosalie”


เสียงมาจากคอของฉัน เหมือนฉันกำลังไออยู่


นั่นเขาพูดอะไรกันน่ะ ว่า Bella ควรจะมีลูก กับ ..... ฉัน งั้นเหรอ.... อะไร...... อย่างไร ...... ทำไม


เขายอมแพ้แล้วเหรอ หรือเขาคิดว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าเขาแบ่งเธอให้กับฉัน


“จะอะไรก็ได้ ขอแค่เธอยังมีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว”


“นั่นเป็นสิ่งที่บ้าที่สุดเท่าที่นายเคยพูดมาเลย”


“เธอรักนาย”


“ไม่พอหรอก”


“เธอพร้อมที่จะตายเพื่อให้กำเนิดลูก บางทีเธออาจจะยอมรับอะไรที่สุดโต่งน้อยกว่านี้ก็ได้”


“นี่นายไม่รู้จักเธอเลยเหรอ”


“ฉันรู้ๆ มันอาจจะต้องใช้แรงโน้มน้าวเธอมากสักหน่อย นั่นถึงทำไมฉันถึงต้องการนาย นายรู้ว่าเธอต้องการอะไร นายต้องทำให้เธอเข้าใจเหตุผลนั้น”


ฉันไม่อาจทนคิดถึงในสิ่งที่เขาเสนอได้ มันมากเกินไป เป็นไปไม่ได้ จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว จะให้ฉันยืม Bella ในช่วงเสาร์อาทิตย์แล้วให้พากลับมาส่งวันจันทร์ตอนเช้า เหมือนเช่าหนังนี่อ่ะนะ วุ่นวายไปกันใหญ่แล้ว


ช่างเย้ายวนเหลือเกิน


ฉันไม่ต้องการที่จะคิดถึงมัน ไม่ต้องการที่จะจินตนาการถึง แต่ฉันก็เห็นภาพเหล่านั้นอยู่ดี ฉันจินตนการถึง Bella ในหลายๆทาง กลับไปสู่ในอดีตเมื่อยังพอมีความเป็นไปได้ระหว่างเรา จนกระทั่งฉันรู้ดีว่าความฝันนั้นเหลือทิ้งความเจ็บปวดไว้แก่ฉันเท่านั้น เพราะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลย


ไม่มีวัน ฉันไม่อาจหยุดคิดได้แล้ว


Bella ในอ้อมแขนของฉัน Bella เรียกชื่อฉันอย่างแผ่วเบา


ฉันไม่เคยคิดถึงภาพเหล่านี้มาก่อน ภาพที่ไม่ควรจะมีควรจะมีอยู่สำหรับฉัน


ภาพที่ฉันรู้ดีว่า ฉันจะเจ็บปวดทรมานไปอีกหลายปีถ้าฉันไม่สลัดมันออกจากหัวซะตอนนี้


แต่มันก็ยังคงอยู่ในนั้น เติบโตขึ้นราวกับเมล็ดพันธุ์ในหัวของฉัน


Bella ที่แข็งแรง สดใส แตกต่างจากตอนนี้มากๆ


แต่บางสิ่งก็ยังคงเหมือนเดิม ร่างกายของเธอไม่บิดเบี้ยวไปในทางที่ผิดธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยลูกๆของฉัน


ฉันพยายามที่จะหนีออกมาจากความคิดเหล่านั้น “ทำให้ Bella เข้าใจถึงเหตุผลนั้น นายอยู่ในโลกไหนกันแน่เนี่ย”


“อย่างน้อยก็พยายามก่อนก็ยังดี”


ฉันส่ายหัว เขายังคงรอคำตอบของฉันโดยไม่สนใจท่าทีที่ปฏิเสธของฉัน เพราะเขาได้ยินเสียงในใจของฉันกำลังขัดแย้งกันอยู่


“นายไปเอาความคิดบ้าๆนี่มาจากไหนกัน นายคิดเองเหรอ”


“ฉันคิดมาตั้งหลายวิธีแล้วที่จะช่วยชีวิตเธอ ตั้งแต่ฉันรู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร อะไรที่เธอต้องตายถ้าได้ทำมัน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อนายยังไง ฉันรู้ว่านายก็ไม่ฟังฉันอยู่ดีถ้าฉันโทรไป ฉันอาจจะไปตามหานายในไม่ช้าถ้านายไม่มาวันนี้ แต่ฉันก็ไม่อยากละสายตาจากเธอแม้เพียงเสี้ยววินาที อาการของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก สิ่งนั้นกำลังเติบโตอยู่ภายในร่างกายของเธอ ฉันไม่อาจทิ้งเธอไปไหนได้เลยจริงๆ”


“นั่นมันเป็นตัวอะไรน่ะ”


“พวกเราไม่มีใครรู้เลย แต่ตอนนี้มันแข็งแรงกว่าเธอแล้ว”


ทันใดนั้น ฉันก็เห็นภาพสัตว์ประหลาดนั้นในหัวของฉัน ฉีกร่างของเธอออกมา


“ช่วยฉันหยุดมัน” เขากระซิบบอกฉัน “ช่วยฉันหยุดสิ่งที่นายคิดอยู่ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น”


“ยังไงกันล่ะ โดยให้ฉันเสนอตัวเองเนี่ยอ่ะนะ” ฉันแทบไม่กล้าที่จะเอ่ยถึงสิ่งนั้น “นายนี่มันบ้าไปแล้ว เธอจะไม่ยอมฟังเรื่องอะไรแบบนี้หรอก”


“พยายามก่อนสิ ตอนนี้เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”


มันทำร้ายฉัน นี่ฉันยังได้รับการปฏิเสธจาก Bella ไม่เพียงพออีกเหรอ


“เจ็บเล็กน้อยแต่ช่วยเธอได้ นั่นมันเป็นเรื่องใหญ่เหรอไง”


“แต่มันไม่ได้ผลหรอก”


“อาจจะไม่ แต่มันอาจจะทำให้เธอได้คิดก็ได้นะ อย่างน้อยก็ให้เธอลองได้คิดดู แค่นี้ล่ะที่ฉันต้องการ”


“นายจะให้ฉันไปเสนออะไรแบบนี้ แล้วบอกว่า โอ้ ฉันล้อเล่นนะ Bella เหรอ”


“ถ้าเธอต้องการที่จะมีลูก ก็ให้เธอได้มีเถอะ ฉันไม่ค้านอะไรหรอก”


ฉันไม่เชื่อว่าฉันกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่


Bella อาจจะต่อยฉันก็ได้ แต่ฉันไม่แคร์หรอก แต่มันก็อาจทำให้มือเธอหักได้อีกครั้ง ฉันไม่น่าให้เขาพูดกับฉันเลย ทำให้ฉันสับสนมากขึ้นไปอีก ฉันน่าจะฆ่าเขาเสียตั้งแต่ตอนนี้


“ไม่ใช่ตอนนี้หรอก” เขากระซิบ “ยังก่อน ไม่ว่าจะถูกหรือผิด มันจะทำลายเธอ และนายก็รู้ ไม่ต้องเสียเวลารั้งรออะไรอีกแล้ว ถ้าเธอไม่ฟังนาย  นายก็จะได้โอกาสอยู่ดี วินาทีที่หัวใจของ Bella หยุดเต้น ฉันจะอ้อนวอนให้นายจัดการฉันซะ”


“นายไม่ต้องอ้อนวอนนานนักหรอก”


เขายิ้มที่มุมปาก “ฉันหวังพึ่งนายอยู่นะ”


“เอาเป็นว่าเราตกลงกันแล้วนะ”


เขาพยักหน้าและยื่นมือออกมา


ฉันพยายามที่จะกล้ำกลืนความรู้สึกขยะแขยง และยื่นมือออกไปหาเขา


ฉันจับมือเขา เขย่าไปครั้งหนึ่ง






“เราตกลงกันเรียบร้อย” เขาเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วย




 

Create Date : 26 มกราคม 2552   
Last Update : 26 มกราคม 2552 14:28:30 น.   
Counter : 884 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  

BaTT~TaBB
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BaTT~TaBB's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com