การอาราธณาศีล8 และคำอธิบาย การปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง (อาราธณาศีล ด้วยตนเอง) อะหังภันเต ติสะระเณนะสะหะ อัฐฐะ สีลานิยาจามิ ทุติยัมปิ อะหังภันเต ติสะระเณนะสะหะ อัฐฐะ สีลานิยาจามิ ตติยัมปิ อะหังภันเต ติสะระเณนะสะหะ อัฐฐะ สีลานิยาจามิ (ไตรสรณคมณ์) นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ (สมาทานศีล) 1.ปาณาติปาตา เวระมณีสิกขาปะทัง สมาทิยามิ 2.อทินนาทานา เวระมณีสิกขาปะทัง สมาทิยามิ 3.อพรหมะจริยา เวระมณีสิกขาปะทัง สมาทิยามิ 4.มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ 5.สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฐฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ 6.วิกาละ โภชะณา เวระมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ 7.นัจจะคีตะวาทิตะ วิสูกะทัสสะนา มาลาคันธะวิเล ปะนะธาระณะ มัณฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ 8.อุจจาสะยะนะ มหาสะยะนา เวระมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ อิมานิ อัฐฐะสิกขาปะทานิ สมาทิยามิ อิมานิ อัฐฐะสิกขาปะทานิ สมาทิยามิ อิมานิ อัฐฐะสิกขาปะทานิ สมาทิยามิ ศีล ข้อแรก คือ เจตนา งดเว้น จากการฆ่าสัตว์ ผมเองไม่ตบยุง ไม่ฆ่ามด ไม่ฆ่าสัตว์ใดๆ โดยเจตนา ผลที่ไม่น่าเชื่อ คือ ยุงก็ไม่มากวน มดก็แทบไม่เห็น วางของทิ้งไว้ ไม่มีแม้แต่มดมากิน เมื่อเราไม่เบียดเบียนเขา เขาก็ไม่เบียดเบียนเรา ศีลข้อ2 คือ เจตนา งดเว้น จากการถือเอา ของที่เจ้าของไม่ได้ให้ อันเป็นอาการแห่งโจร ศึลข้อ3 คือ เจตนา งดเว้น จากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ กล่าวคือ เสพกามนั่นเอง ศึลข้อ4 คือ เจตนา งดเว้น จากการโกหก หลอกลวงผู้อื่น ศึลข้อ5 คือ เจตนา งดเว้น จากการดื่มสุรา เสพยาเสพติด อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ขาดสติ ศีลข้อ6 คือ เจตนา งดเว้น จากการทานอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยง ศีลข้อ7 คือ เจตนา งดเว้น จากการขับร้องประโคมดนตรี ดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล และ งดเว้น การทัดทรงเครื่องประดับ ลูปไล้ของหอม ทาผิว ศีลข้อ8 คือ เจตนา งดเว้น การนั่งนอนในที่อันสูงใหญ่ มีลวดลายอันวิจิตร บุด้วยฟูกนุ่น การสมาทานศีล เพื่อ เครื่องเตือนสติ ให้ระวัง การกระทำ อันเป็นอกุศลกรรม ศีล5 เป็นปกติศีล ที่มนุษย์พึงกระทำ เป็นศีลพระโสดาบัน ศีล8 เพิ่มการประพฤติพรหมจรรย์ การสังวรระวัง ในกามคุณ5 สันโดษในปัจจัย4 ตามมีตามได้ เป็นศีลพระอรหันต์ เมื่อระวังสังวรในศีลอยู่ทุกขณะ ก็เกิดเป็นสมาธิ เมื่อสมาธิแน่วแน่ พิจารณาทุกอย่างตามความเป็นจริง ปัญญาก็เกิด ห้ามนอนแอร์ หรือใช้หมอน หรือเปล่านั้น ไม่ได้ระบุไว้นะครับ ว่าห้ามเปิดแอร์ หรือใช้หมอน ผมไปนอนวัด ก็เห็นมีหมอนสี่เหลี่ยมบุนุ่น แบบที่มีขายทั่วไปให้เราใช้ อากาศที่อินเดียหนาวมากนะครับ ท่านถึงให้พระไม่อาบน้ำบ่อย ยกเว้นปัจจันตประเทศ คือ แบบประเทศเรา ที่ร้อนมาก จึงให้อาบได้บ่อย สรุป คือ ตรงนี้ แล้วแต่ความพยายามของเราครับ จะนั่งนอนแต่บนพื้น ไม่ใช้อะไรหนุนนอนเลย หรือ มีบ้าง แต่พอสมควร ก็แล้วแต่เราครับ   Create Date : 17 มกราคม 2549     Last Update : 17 มกราคม 2549 2:59:34 น. Counter : 1642 Pageviews.   7 comment Share Tweet

พระเจ้าไม่มี สวรรค์นรกไม่มี เรายิ่งหมดหวังในชีวิต สวรรค์มี นรกมี ปาฏิหาริย์มี แต่ทุกอย่างเกิดจากเรา เกิดแต่ใจของเรา ทำดี ได้ดี ไปดี ทำชั่ว ได้ชั่ว ไปชั่ว ศรัทธา ในการทำความดีของเรา อย่างแน่วแน่ แล้วปาฏิหาริย์ จะเกิดแก่ ผู้ยืนหยัดในการทำความดีจริงๆ สมเด็จโต ท่านว่า "ลูกเอ๋ย หมั่นสร้างบุญบารมีไว้... บุญเจ้าไม่สร้าง ใครที่ไหนจะช่วยเจ้า ...ถ้ายังไม่ถึงเวลา เทวดาองค์ใด จะช่วยเจ้าก็ไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลา ชั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ " จริงอยู่ ว่าตอนนี้เรามีแต่ความทุกข์ แต่ก็เพราะกรรมที่เราเคยทำไว้ในอดีต โชคชะตา เกิดจากกรรม แต่ก็เพราะกรรมนี่แหละ ที่จะเปลี่ยนโชคชะตา อนาคต เปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการกระทำในปัจจุบันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอคอย ฤกษ์ยามที่ไหน หรือ ปาฏิหาริย์ไหนๆ ไม่ต้องหวังว่าใครจะมาช่วยเรา เพราะเรานี่แหละ เป็นที่พึ่งของเราจริงๆ ทำเต็มที่ ทำแต่ความดี แล้วผลแห่งความดีนั่นแหละ จะเหนือกว่าปาฏิหาริย์ใดๆ พระพุทธเจ้า สำเร็จได้ ด้วยพระองค์เอง พระสงฆ์ สำเร็จได้ ด้วยตนเอง ตามพระธรรม แล้วเราล่ะ จะหวังความสำเร็จ ด้วยคนอื่น ได้อย่างไร ปฏิบัติตามพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วความสำเร็จ ทั้งทางโลก และทางธรรม จะมาถึงเอง   Create Date : 17 มกราคม 2549     Last Update : 17 มกราคม 2549 2:45:34 น. Counter : 612 Pageviews.   0 comment Share Tweet

การกินเนื้อสัตว์ผิดไม๊ พอดีพึ่งเห็น ที่ถามว่าศีล5กินเนื้อสัตว์ผิดไม๊ จริงๆ ศีล5คือไม่ฆ่าสัตว์ แต่เมื่อเราปฏิบัติไป มากเข้าๆ จิตใจจะมีเมตตามาก สัตว์ก็คงจะรับรู้ได้กระมัง ผมเองนี่ เดี๋ยวนี้ ยุงก็ไม่มากวน มด วางขนมไว้ยังไม่เห็นเลย แมลงสาบก็หายเกลี้ยง นานมากเห็นทีก็ตักไปนอกบ้าน พอเรามีความเมตตามากๆเข้า ก็จะสงสารไม่อยากให้โดนทำร้าย เลยไปถึงไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของการทำร้าย จนกระทั่งไม่ยินดีในเนื้อสัตว์เลย ซึ่งก็คือผมในปัจจุบัน ผมไม่ได้บอกว่าการกินเนื้อสัตว์ ผิดศีล5 แต่ลองนึกดูว่า ถ้าทุกคนรักษาศีลข้อนี้ได้ เมื่อไม่มีคนฆ่าสัตว์ จะมีสัตว์ที่ไหนให้เรากิน แท้จริงแล้วพระพุทธเจ้าท่านแสดงธรรมเป็นกลางมาก พระต้องบิณฑบาทกับญาติโยม เลือกอาหารไม่ได้ ท่านจึงอนุญาติให้พระฉันได้ ถ้า ไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ว่าเขาฆ่ามาเพื่อเรา ถ้า เราไม่ฆ่าสัตว์ใดๆเลย เราไม่สั่งให้เค้าฆ่าให้เรากิน เช่น กุ้งสด ปลาสด ถ้าจะกินจริงๆ ก็ให้กินที่ตายแล้ว ที่เค้าทำไว้แล้ว อย่างนี้ผลกรรมจะลดลงไปมาก ก็สัตว์เหล่านี้แหละเจ้ากรรมนายเวรของเราจริงๆ แผ่เมตตาให้เค้าด้วยครับ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริงๆ   Create Date : 17 มกราคม 2549     Last Update : 17 มกราคม 2549 2:41:20 น. Counter : 636 Pageviews.   3 comment Share Tweet