snowpok
Group Blog
 
All Blogs
 

บ้านป้าเกล็นปี2 วันที่สาม

วันนี้เรามีเวลาเที่ยวเฉพาะช่วงเช้าเพราะบ่ายแก่ๆต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว ป้าเกล็นแนะนำให้ไปน้ำตกห้วยนาก เป็นน้ำตกใหม่เส้นทางเพิ่งบุกเบิก ดังนั้นจึงต้องมีคนนำทางไปด้วย 3 คนคอยอำนวยความสะดวกแก่พวกเรา แต่ไอ้ที่งงน่ะ เจ้าบอลมันเดินตามพวกเราไปด้วย




เส้นทางไปน้ำตกห้วยนากต้องเดินผ่านวัดที่เราไปทำบุญตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ต้องเดินเท้าไปประมาณ 2 กิโล ฝนยังไม่หยุดตกเลย ได้อารมณ์ chill chill ไปอีกแบบ อุปสรรคแรกของเราก็ข้ามลำธารนี้แล่ะ ไม่มีสะพานซะด้วย คนนำทางเค้าก็ไปหาไม้มาพาดให้เราเดินข้ามไป




ต้องข้ามสะพานไม้ทีละคน เสียวเหมือนกัน น้ำข้างล่างแรงพอสมควร




เจ้าบอลที่เดินตามพวกเรามา มันก็ทำท่าจะข้ามมาด้วย เราก็ยังงงๆมันจะข้ามได้ยังไงเนี่ย ก็พยายามลุ้นอยู่เหมือนกันเห็นมันเดินวนไปก็วนมาเลยคิดว่ามันคงข้ามไม่ได้มั้ง เดินไปได้ซักพัก เจ้าบอลวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ เออ มันเก่งข้ามมาได้ไง





ทางเดินเริ่มรกขึ้นเรื่อยๆ เชื่อแล้วว่าเป็นเส้นทางบุกเบิกจริงๆ หญ้าคาทั้งนั้น ถ้ามาหน้าร้อนคงคันน่าดู โชคดีฝนตกช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน ที่น่าชื่นชมคือเจ้าบอล มันทำหน้าที่หมานำทางได้ดีเยี่ยมมากกก มันจะวิ่งรั้งท้ายพวกเรา สักพักมันก็วิ่งแซงพวกเราไปหน้าสุด แล้วก็วนกลับมารั้งท้ายต่อ เดาว่ามันคงเช็คพวกเราว่าอยู่กันครบหรือเปล่า นี่เป็นน้ำตกเล็กๆ ระหว่างทางไปน้ำตก





อากาศเย็นเลยต้องปล่อยน้ำออกบ้าง ก็ปล่อยให้เพื่อนๆนำไปก่อน เจ้าบอลเหมือนรู้งาน มันวิ่งกลับไปเฝ้าต้นทางให้ ที่รู้เพราะถ้าเราหยุดถ่ายรูปมันก็ไม่ยอมไปไหน เดินรั้งท้ายตลอด ทำธุระเสร็จก็เร่งฝีเท้าให้ทันเค้า ทางเดินเริ่มชันและลื่นมากขึ้นเรื่อยๆ คนนำทางเลยตัดไม้ไผ่ที่ขึ้นข้างทางแจกคนละกันไว้พยุงกันล้ม ช่วงที่ผ่านป่าไผ่ ทำให้คิดถึงภูสอยดาวยุคที่ยังไม่เจริญเดี๊ยะ ทั้งชันและลื่น ใบไผ่ที่ร่วงเต็มพื้นเป็นตัวช่วยให้เราถึงที่หมายเร็วขึ้น แต่เราไม่รีบขนาดนั้นหรอก ใจเย็นๆค่อยๆเดินก็ได้






หลังจากผ่านป่าไผ่ เริ่มได้ยินเสียงน้ำไหล แสดงว่าใกล้เข้ามาแล้วสิ ถึงเวลาต้องลุยน้ำอีกแล้ว ไอ้เราก็ขนของมาซะเยอะ ทั้งกล้องดิจิตอล ถ่านชารต์ มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าตังค์ 2 ใบ เลยต้องเดินระวังๆ กันหน่อย ถ้าทะเล่อทะล่าล้มไป ของพังแน่ตู




เดินทวนกระแสน้ำเนี่ยมันช่างยากเย็นซะเจงเจง กระแสน้ำก็แรงขึ้นทุกขณะที่เราเข้าใกล้น้ำตก ต้องค่อยๆย่างๆ ไม้ไผ่อันเล็กๆ ที่ได้รับแจกคนละอันมีประโยชน์มาก ถ้าไม่มีมันก็คงล้มก้นแช่น้ำไปหลายรอบแล้ว





เห็นต้องลุยน้ำอย่างงี้ก็เหอะ เจ้าบอลที่ตามพวกเรามา มันก็วิ่งไปวิ่งมามุดเข้ามุดออกพงหญ้าโน้นนี้ไปเรื่อยๆ ฝนยังคงตกไม่ยอมหยุด คนนำทางใช้มีดที่ติดตัวมาฟันหญ้าข้างทางที่มันรกเข้าหน้าเข้าตา อืม ได้กลิ่นหญ้าโชยอ่อนๆ มาด้วย นานแล้วนะที่ไม่ได้สัมผัสกลิ่นดินกลิ่นหญ้าอย่างงี้ ทำให้พาลคิดถึงบ้านต่างจังหวัดขึ้นมาตะหงิดๆ




เห็นน้ำตกแล้ว เสียงน้ำตกเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งป่า ถึงแม้ความสูงจะไม่เท่าน้ำตกจ๊อกกระดิ่นเมื่อวานนี้ แต่ความยากลำบากในการเดินทางบุกป่าฝ่าดงทั้งหญ้าคา ป่าไผ่ ธารน้ำเล็กๆ ทำให้พวกเราประทับใจทริปนี้กันสุดๆ แต่ไปน้ำตกมา 2 ที่ ก็ไม่ได้เล่นน้ำอยู่ดี เพราะมันเปียกฝนตั้งแต่เดินออกจากที่พักแล้ว เลยไม่รู้จะเปียกอีกทำไม




เผลอแป๊บเดียวเจ้าบอลมันขึ้นไปเล่นน้ำอยู่บนยอดน้ำตกแล้ว ในขณะที่เราขึ้นไปข้างบนอย่างมันไม่ได้ เอาน่ะ ยกให้เจ้าถิ่นละกัน บริเวณที่เรายืนมีดอกกระดุมทองขึ้นเหลืองละลานตาอยู่รอบๆน้ำตก อยากให้น้ำตกแห่งนี้อยู่ในซอกหลืบลึกลับแบบนี้อีกนานๆ เพราะเกรงว่าความเจริญอาจทำลายความงดงามของธรรมชาติ อย่างที่มันควรจะเป็น





ชื่นชมน้ำตกพอสมควร ถึงเวลากลับแล้ว รู้สึกว่าขากลับเร็วกว่าขาไปซะอีก หรือว่าเริ่มชินทางแล้ว ถ้าเห็นป้ายนี้เมื่อไหร่ แสดงว่าคุณมาถูกแล้ว ไม่หลงชัวร์





สะพานไม้ไผ่บริเวณที่พักคนงานพม่า ส่วนรูปข้างล่างเป็นสะพานข้ามไปเรือนริมน้ำที่เราพักกัน







ใครมาพักที่นี่ก็ต้องถ่ายรูปกับป้าเกล็นเป็นที่ระลึก





บ๊าย บาย ป้าเกล็น ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับไปเที่ยวอีก





ไทเกอร์มาส่งเรากลับบ้าน แถวสภต.ปิล๊อกเช่นเคย หมอกหนาและฝนตกทั้งวันเหมือนวันแรกๆที่มาถึง เลยไม่เคยเห็นเด็กแถวนี้วิ่งเล่นกันนอกบ้านเลย






 

Create Date : 19 สิงหาคม 2548    
Last Update : 26 สิงหาคม 2548 12:24:39 น.
Counter : 1348 Pageviews.  

บ้านป้าเกล็น ปี2 วันที่หนึ่ง

วันหยุดที่ผ่านมา โดนตาโอ๊ตบังคับไปบ้านป้าเกล็น แห่งเหมืองสมศักดิ์ อ.ทองผาภูมิ หลังจากที่ปฏิเสธอยู่นาน แต่จนแล้วจนรอดก็ใจอ่อนไปมันจนได้แล่ะ นี่ถ้าไม่ไปคงเสียดายแย่แน่ๆเลย ได้กลับไปบ้านน้อยกลางป่า ที่ซึ่งมีรอยยิ้มและการต้อนรับอันอบอุ่นของป้าเกล็นอยู่เสมอ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ชิมเค้กชอกโกแลตชิ้นโตที่แสนอร่อยของป้าเกล็น ก็ต้องมีเหตุให้ต้องกลับไปเยือนที่แห่งนี้เป็นครั้งที่ 2...3.....4......งั้นเรามาเริ่มมนต์ดำเค้กชอกโกแลตบ้านป้าเกล็น ปี 2 กันเถอะ




พวกเรารวมตัวกันที่ออฟฟิศตาโอ๊ต แถวถนนศรีอยุธยา เมื่อมากันครบก็ถึงเวลาออกเดินทางได้เลย




ระยะทางจากกท.-อ.ทองผาภูมิ กี่กิโลแล้วก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าหลับแล้วหลับอีกก็ยังไม่ถึงซะที จากทองผาภูมิต้องเดินทางต่อไปยังสภต.ปิล๊อก อีก 68 กิโลเอง ใกล้แค่เนี้ย แต่ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า เนื่องจากต้องขึ้นเขาลงเขา ข้างทางก็หุบเหวลึก ไหล่ทางไม่แข็งแรงโดนน้ำฝนเซาะพังเกือบทุกโค้ง ฝนตกตลอดเวลา ถนนลื่นปรื๊ดปร๊าด หมอกลงหนาจนแทบไม่เห็นทาง จนมาถึงสภต.ปิล๊อก พบว่ารถจากบ้านป้าเกล็นมารอรับพวกเราสักพักนึงแล้ว รถที่มารับเป็นรถกระบะ ไทเกอร์ไม่มีหลังคา เราต้องแปลงร่างใส่เสื้อกันฝนสีลูกกวาดอย่างเงี้ย




โฉมหน้าเค้กชอกโกแลตแสนอร่อย




ป้าเกล็น หญิงชราใจดีชาวออสเตรเลียผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยมาค่อนชีวิต กำลังพูดคุยทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเอง จนเรารู้สึกว่าคุณป้าท่านเป็นเหมือนญาติสนิทของเรา




คืนนี้เราพักบ้านริมน้ำหลังนี้ น่าอยู่ใช่มั้ย




หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็หามุมสวยๆถ่ายรูปกันหน่อย รูปนี้น้าโนเหมือนมาเฟียคุมเด็กในสังกัด




เราไปเที่ยวตรงกับวันเข้าพรรษาก็เลยไปทำสังฆทานที่วัดแถวนั้นซะหน่อย




แต่กว่าจะถึงวัดก็เพลิดเพลินกับการโพสต์ท่าถ่ายรูป ไม่ว่ามุมไหนๆก็สวยไปหมด




ถวายสังฆทานเสร็จหลวงพ่อท่านแจกสายสิญจน์ให้คนละเส้น หลวงพ่อท่านนี้เป็นชาวพม่าเผอิญธุดงค์มาแถวนี้ ชาวบ้านเกิดความศรัทธาเลยให้ท่านจำวัดอยู่ที่นี่ซะเลย




อากาศที่โน่นดีมาก มองไปทางไหนมีแต่สีเขียวเต็มไปหมด ดูแล้วสดชื่นสบายตา ดอกไม้ก็สวย





ลำธารใกล้ที่พักและถังเก็บน้ำเก่าสมัยที่เหมืองแร่กำลังบูม





หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาพักผ่อนกันแล้ว ลุงหนวดกะพี่หมูกำลังสาละวนกับการจุดตะเกียงสร้างบรรยากาศ โดยมีน้าโนแอบมองอยู่เป็นระยะๆ




จบคืนแรกแล้วติดตามได้ตอนต่อไปนะ




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2548    
Last Update : 29 กันยายน 2548 8:58:00 น.
Counter : 579 Pageviews.  

บ้านป้าเกล็น ปี2 วันที่สอง

เจ้า target มาทักทายพวกเราแต่เช้า




ทานข้าวเช้าตอน 9 โมง อาหารมีให้เลือกทั้งไทยและฝรั่ง ถ้าหมดก็มีเติมได้ไม่อั้น หลังจากทานเสร็จเราเริ่มเดินสำรวจรอบๆบ้านป้าเกล็น เจอสาวพม่ากำลังล้างจาน ชวนคุยด้วยเค้าก็อึ้ง มะเข้าใจ เนื่องจากยังพู้ไทมะด้ายเลย




ส่วนน้องหม่องคนนี้กำลังเล่นกีต้าร์อยู่ แอบเห็นหนังสือเพลงเป็นภาษาพม่าพร้อมคอร์ด เราดูแล้วงงมะเข้าใจ




ดูต้นไม้ต้นนี้สิ มอสขึ้นซะเขียวเต็มต้นเชียว




ถึงเวลาเดินทางไปน้ำตกกันแล้ว น้ำตกมีชื่อว่า "จ๊อกกระดิ่น" แปลว่าอะไรลืมอีกแล้ว ว้า ไม่แม่นข้อมูลใดๆเลย ดูรูปละกัน แค่นั่งรถกระบะไปก็มันส์แล้ว โยกหัวสั่นหัวคลอนไปตลอดทาง




ทางไปน้ำตกเป็นดินลูกรังเละๆ รถไม่สามารถไปต่อได้ เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเกือบ 2 กิโล เดินไปหลายๆคนสนุกดี




อ่างเก็บน้ำปิล๊อก นี่ถ้าฝนไม่ตกนะ แถวนี้บรรยากาศดีมั่ก เหมาะแก่การสร้างเกสตเฮ้าส์ เพราะมีหุบเขาล้อมรอบเห็นหมอกรำไรอยู่บนยอด




ชอบรูปนี้เป็นการส่วนตัวไม่เกี่ยวกะตาโอ๊ตลืมแขม่วพุงแต่ประการใด




ทางไปน้ำตกไม่มีร่องรอยเก่าให้เห็นกันเลย ถ้าไม่มีคนนำทาง ก็อาจหลงไปไม่ถึงน้ำตกแน่นอน





เย้ มาถึงน้ำตกแล้ว น้ำแรงมากเพราะตกมาจากที่สูง ขนาดยืนไกลๆแล้วนะ ละอองน้ำยังกระเซ็นไปถึงเลย




หลังจากชื่นชมพอสมควร ก็เดินทางต่อไปที่หมู่บ้านอีต่อง ที่นั่นเงียบมาก ไม่เห็นคนเดินกันเลย หน้าต่างประตูปิดกันหมด เหมือนหมู่บ้านผีสิง บรรยากาศวังเวงชอบกล ที่เป็นอย่างนี้เพราะเค้าป้องกันความชื้นไม่ให้เข้าไปภายในตัวบ้าน ไหนๆก็ไปถึงชายแดนแล้วจะไม่ไปเนินเสาธงได้อย่างไรกัน มีทหารพม่าถือปืนคุมอยู่ ทำหน้าตาโหดแต่เราไม่กลัวทำมือส่งซิกขอถ่ายรูปคู่ด้วยเค้าก็ใจดีให้ถ่าย แต่ถ่ายไปได้รูปเดียวหัวหน้าเค้าโวยวายใหญ่เลย ประมาณว่าไปถ่ายกะเราได้ยังไง ไอ้เราเสียววาบกลัวจะโดนยิงทิ้งอยุ่แถวนั้นซะแล้ว อ๊ะไม่ถ่ายก็ได้ ขึ้นไปดูธงไทยกะพม่าเคียงคู่กันดีกว่า ข้างบนลมแรงมาก เสียงธงโบกสะบัดดังปึงๆ






แล้วก็หมดไปอีก 1 วัน ว่าแต่คืนนี้มีบาบีคิวด้วย อืม น้ำยายไหยแย้ว




มีเพลงฟังจากศิลปินหลายๆคน ไม่ว่าจะพี่หมู พี่ดุล คนขับรถ




พวกสาวๆไปนอนกันหมดเหลือเราอยู่คนเดียว ก็บรรยากาศมันดีออกอย่างี้นี่นา





จบคืนที่2 แล้วรอตอนต่อไปนะ




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2548    
Last Update : 19 สิงหาคม 2548 18:54:42 น.
Counter : 982 Pageviews.  


snowpok
Location :
ตรัง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add snowpok's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.