4. เข้า ICU อยู่ยาวเลย

หลังไฟไหม้สักพัก อาการเราก็ไม่ค่อยดีเลย แล้วสิ่งที่กลัวที่สุดก็ต้องมาเจออีก หมอให้นอน รพ.อีกแล้ว หมอบอกซีดมาก ตามญาติมาเอยะแยะไปหมด มาตรวจเลือดดูสิว่าเลือดใครสามารถเข้ากับเราได้บ้าง คงต้องใช้เลือดเยอะนะ
เรารู้สึกตัวอีกที นอนหลับอยู่ในห้องไรเนี่ย ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกันเบา ๆ ถ่ายเลือดแบบนี้ก็อยู่ได้อีกไม่นานหรอก เอ พูดอะไรกันเนี่ย ลืมตาขึ้นมา
แขนข้างซ้ายก็มีเข็มเจาะ แขนข้างขวาก็มีเข็มเจาะเหมือนกัน อ้อ เห็นแล้ว ให้เลือดอยู่ แต่คราวนี้อยู่ห้องไร มีแค่ไม่กี่เตียงเอง พยาบาลก็เยอะ หมดแรงนอนต่อ
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พยาบาลมาเอาเข็มให้เลือดออก อีกข้าง เข็มที่เจาะอยู่ที่มือ โยงสายยางลงไปด้านล่าง อ้อ เอาขึ้นมาแล้วเป็นขวดแก้ว ข้างในมีของเหลว ประมาณ 1 ลิตร โอ คงเป็นเลือดเรา แต่มันไม่ใชเลือดนะ สีมันเหมือนน้ำล้างปลามากกว่า
อ้อ อย่างนี้สินะ เรียกว่า ถ่ายเลือด แล้วเราจะอยู่ได้อีกไม่นานไช่ไม๊
ไม่กี่วันรู้สึกตัวดีขึ้น หมอก็ให้กลับมาอยู่ห้องชั้น 2 ตึกหลุยส์เหมือนเดิม เฮ้อ เอาอีกแล้ว
ด้วยความที่ห้องนี้มีหลายเตียงมาก ถ้าเด็กคนไหนอาการหนัก ก็จะให้นอนด้านหน้า ใกล้กับห้องพยาบาล เพื่อจะได้ดูแลได้ทั่วถึง ตอนนี้ เราได้อยุ่เตียงหน้า ๆ เลย
รักษาไปเรื่อย ๆ สักอาทิตย์ เอ ทำไม ตัวบวมหล่ะ อ้าว คราวนี้ฉี่เป็นเลือดเลย ยุ่งแล้วทีนี้ หมอตรวจใหญ่เลย ตกลงตอนนี้ไตไม่ทำงานอีก จนสุดท้าย คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรค SLE สมัยนั้นยังใหม่มากโรคนี้
เราก็ไม่เข้าใจว่ามันคือโรคอะไร แล้วเมื่อไหร่จะหาย จะกลับบ้านได้ ไม่เคยมีคำตอบให้เลย
เราต้องกินอาหารที่ไม่ใส่เกลือ ไม่มีรสเค็มเลย กินไข่ต้มวันละ 4 ฟอง จำกัดน้ำดื่ม ตวงปัสสาวะทุกครั้ง เจาะเลือดแทบทุกวัน
ตอนนี้ แม่ต้องมาเยี่ยมเราทุกวัน ทั้ง ๆ ที่แม่อุ้มท้องน้องเฮียงอยู่ แม่ต้องทำอาหารใส่ปิ่นโต ขึ้นรถเมล์ แล้วก็เดินมาอีกตั้งไกลกว่าจะถืงตึก ทุกวันเราต้องชะเง้มองหน้าต่างว่าเมื่อไหร่แม่จะมา แม่จะทำอาหารมาให้กินทุกวัน
แม่จะกลับตอนเเย็น เวลา อิกคิวซังจบพอดี แม่ก็จะเดินกลับ เราก็จะเฝ้าดูแม่เดินไปจนลับมาทุกวัน (เราฝังไจมากจนปัจจุบันไม่อยากได้ยินเพลงอิคคิวซังเลย)




 

Create Date : 15 เมษายน 2552    
Last Update : 15 เมษายน 2552 15:48:33 น.
Counter : 286 Pageviews.  

3. ไฟไหม้บ้าน

วันนี้ต้องไปตรวจเลือดอีกแล้ว พ่อพาน้องไปด้วยวันนี้ น้องกุงมีฝีขึ้นที่แขน
พ่อขับมอไซค์พาไปค่ะ
เวลาไปตรวจที่ตึกคลองไชยันต์เนี่ย จะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน
ตรวจเสร็จแล้ว ขากลับช่วงใกล้ถึงบ้าน เอะ ทำไมรถติดนะ
มีคนรู้จักชี้มือมาที่พ่อ เฮ้ย บ้านลื้อไฟไหม้หมดแล้ว
จริง ๆ ด้วย พอถึงบ้านไฟไหม้หมดแล้ว แม่เอาน้อง ๆ ไปฝากไว้แถวนั้น
เอาของออกมาไม่ได้เลยสักอย่าง เฮ้อ หมดตัว สงสารพ่อจัง
ช่วงนีเราต้องไปอยู่บ้านอีกหลังนึง แล้วบ้านที่ไฟไหม้นี่ ก็ซ่อมใหม่ ปูหลังคาใหม่ ที่สุภาษิตพูดไว้ไม่ผิดเลยนะ โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว (เพราะเจอมาทั้ง 2 อย่าง)
ไฟไหม้เนี่ย ทีวี เตารีด พัดลม ตู้เย็น หมอน ผ้าห่ม จานชามช้อนหม้อกระทะ กระเป๋าหนังสือ ซื้อใหม่หมด
เครื่องจักรใหญ่ตัดกระดาษ ก็เสีย ทุกวันต้องเอากระดาษที่ไหม้ริมมาตากแดด เสร็จก็ต้องเอามาเข้าเครื่องสับทีละ 2-3 แผ่น(เหมือนเครื่องตัดกระดาษนามบัตรสมัยนี้ แต่ใหญ่กว่า
พอบ้านที่ไฟไหม้ซ่อมเสร็จ ก็ย้ายกลับมา ตอนนี้ บ้านเราก็เลยมีคราบของไฟไหม้ติดอยู่ เพราะไม่ได้ทาสีใหม่ เอาแค่พออยู่น่ะ พ่อแม่ลำบากนะ




 

Create Date : 15 เมษายน 2552    
Last Update : 15 เมษายน 2552 15:25:17 น.
Counter : 178 Pageviews.  

2 เข้า รพ.ครั้งแรก

ตอนปิดเทอมขึ้นจะขึ้น ป. 5 อายุประมาณ 10 ขวบ เราเริ่มเหนื่อยง่าย ซีด พ่อพาไปหาหมอที่รพ. จุฬา หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคเลือด คุณหมอบอกต้องต้องนอนที่รพ. จำได้ว่าเป็นเดือนเมษายน ชีวิตใน รพ.ก็เหมือนกับเด็กโรงเรียนกินนอนเหมือนกันนะ ตึกที่ไปนอนอยู่เนีย ชื่อ ตึกหลุยส์ทีเลียวโนเวนส์ ชั้น 2 ห้องรวม ไม่มีคนเฝ้า ร้องไห้ทุกคืนเลย
ทุกเช้าตื่นมาก็ต้องวัดปรอท แล้วไปดูว่ามีขวดเลือดเล็ก ๆ ชื่อของเรามั้ย ถ้ามีก็เตรียมโดนเจาะเลือดตอนเช้าได้เลย หลังจากนั้นก็อาบน้ำ เตรียมกินอาหารเช้า ประมาณ 9 โมงเช้าก็จะมีคุณหมอจะมาเดินตรวจตามเตียง มีตั้ง 35 เตียง กว่าหมอจะตรวจหมดก็เที่ยง ไม่ใช่ตรวจเปล่า ๆ นะคะ จะมีคุณหมอเรียนเดินตามมาด้วย น่าอบอุ่นไปหมด
พอคุณหมอกลับไป ก็เตรียมวัดปรอท กินข้าวกลางวัน กินยา
แล้วก็มีคุณครูมาสอนด้วยนะคะ เรียนชั้นไหน คุณครูส่อนได้หมดค่ะ
หลังเที่ยงนี่ ก็จะให้พ่อแม่มาเยี่ยมได้ จนถึงประมาณ 6 โมงเย็น
ตกเย็กก็วัดปรอท กินข้าว กินยา อาบน้ำ นอน
นอนอยู่ 1 อาทิตย์ หลังจากออกจาก รพ. คิดว่า ชีวิตนี้คงจะลำบากที่สุดในวิตแล้วหล่ะ ในความคิดของเด็กสิบขวบ
คุณหมอจะนัดมาตรวจอยู่ตลอดเพราะมันคงไม่หายขาด ต้องมาตรวจที่ตึกคลองไชยันต์ อยู่ตึกหลังสุด ๆ ของ รพ. ติดกับสนามม้าเลย พอหมอนัดมาก็ต้องเจาะเลือดตรวจหาความเข้มข้นของเม็ดเลือด ถ้าเมื่อไหร่เลือดจาง ก็ต้องนอนให้เลือด ช่วงบ่ายให้เลือดเสร็จก็กลับบ้านได้ ทุกครั้งลุ้นกลัวจัง ไม่อยากต้องนอน รพ.อีกเลย




 

Create Date : 15 เมษายน 2552    
Last Update : 15 เมษายน 2552 15:06:04 น.
Counter : 243 Pageviews.  

1 ชีวิต 8 เดือน ในโรงพยาบาล

ตอนอายุ 10 ป่วยเป็นโลหิตจาง ต้องไปนอนโรงพยาบาลครั้งแรก วันที่ 7 เมษา จำพอศอไม่ได้ นอนอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ ตอนนั้นคิดว่าชีวิตนี้ จะไม่เข้ามาอีกแล้วที่นี่ หลังจากออกจาก รพ. ก็ต้องไปตรวจเลือด หาหมอตามนัดตลอด
จนกระทั่ง หลายเดือนผ่านไป ไปตรวจเลือด ผลออกมา เลือดจางสุด ๆ คราวนี้ต้องเข้าไปนอนอีก ไปถ่ายเลือด ตรวจไปตรวจมาเป็น SLE สมัยนั้น(ประมาณพ.ศ.2524) โรคนี้ยังใหม่มาก คราวนี้นอนนานเลยค่ะ
ชีวิตในโรงพยาบาล จะบอกว่าเหมือนตกนรก ก็น้ำเน่าจัง
แต่ลองคิดดูนะ เด็กอายุ 12 ปี อยู่รพ. ห้องอนาถา(ตอนหลังแม่ไม่มีตังค์รักษาแล้ว) กินอาหารเค็มก็ไม่ได้ อนาคตว่าเมื่อไหร่จะหายจากโรคก็ไม่รู้(สถานการณ์ตอนนั้นหายจากโลกคงง่ายกว่า)
ชีวิตแต่ละวัน ผ่านไปอย่างไม่รู้อนาคต เห็นอะไรเยอะ เช่น เพื่อนร่วมห้อง(เป็นห้องใหญ่มี 36 เตียง อยู่รวมกัน)
เดี๋ยว ๆ ก็เข้า icu เป็นว่าเล่น... ,เดี๋ยวก็เห็นมาปั้มหัวใจกันเตียงข้าง ๆ สักพักก็ปิดร่างแล้วก็เข็นเตียงไป ..., อันนี้เดี๋ยวจะเล่าเป็นตอน ๆ ไปเนอะ ตอนนี้เอาไกด์ก่อน
ไอ้ที่ออกจาก รพ. น่ะ ไม่ใช่หายแล้วนะ วันนึง เราบอกแม่ว่า "กลับบ้านเถอะ ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าจะตายก็ไปตายที่บ้าน" ก็ขอหมอกลับเลย
ปัจจุบัน หายแล้วค่ะ ได้ประสบการณ์มากมายในการใช้ชีวิต แล้วจะค่อย ๆ เล่าเป็นตอน ๆ ไปนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านค่ะ




 

Create Date : 22 เมษายน 2550    
Last Update : 15 เมษายน 2552 15:05:14 น.
Counter : 218 Pageviews.  

 
 

siriwan_asia
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดี...........ทุก ๆ ท่าน
[Add siriwan_asia's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com