พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
 
ใครว่าพระสมเด็จวัดระฆังมีน้อย หายาก ?

มีการถกเถียงมากมายในวงการพระเครื่องเกี่ยวกับจำนวนพระสมเด็จวัดระฆัง ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)สร้าง บางท่านบอกว่ามีเพียง 100-200 องค์หายาก ราคาแพง  บางท่านให้ความเห็นว่า  เคยเห็นพระสมเด็จวัดระฆังในวงการพระเครื่อง 1,000 กว่าองค์ บางท่านบอกว่ามีจำนวนมากกว่านั้น   จากการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลอาจจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า พระสมเด็จวัดระฆังมีมากเกินกว่าที่หลายท่านประมาณการไว้ จากข้อมูลต่างๆ ดังนี้


1. สมเด็จพุฒาจารย์(โต) ถึงแก่มรณกรรมในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หากนับตั้งแต่วันมรณภาพจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 130 ปี  ถ้านับชั่วอายุคนจนถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 2 ชั่วอายุคน รุ่นปู่ของปู่ (ปู่ทวด) ดังนั้น จึงมีการบันทึกคำบอกเล่าการสร้างพระสมเด็จ จากพระเถระเก่าแก่ที่เคยเป็นศิษย์ของสมเด็จพุฒาจารย์(โต) เอาไว้หลายประการ



2. จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์ขวัญ  วิสิฏโฐ  เจ้าคุณธรรมถาวร (ช่วง) พระครูธรรมราด(เที่ยง) ทราบว่ามีการสร้างพระสมเด็จเพียง 29 ชนิด แต่สำหรับการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)  มีเป้าหมายที่จะสร้าง จำนวน 84,000  องค์ (84,000 พระธรรมขันธ์) เพื่อบรรจุเจดีย์ เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาด้านรูปธรรมในทนถาวร ตามคตินิยมของคนโบราณ


3. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังบล็อคช่างหลวง (หลวงวิจารย์เจียรนัย) ตั้งแต่ พ.ศ. 2408 เป็นต้นมา ท่านได้ทยอยสร้าง ทยอยปลุกเสก และแจกแก่ประชาชน บางส่วนสร้างให้แก่ข้าราชการบริพาร ตระกูลขุนนาง คหบดี ตามคำร้องขอ เพื่อนำเอาไปบรรจุเจดีย์สำหรับเก็บอัฐิบรรพบุรุษ ตามความเชื่อคนโบราณ บางส่วนสร้างนำไปบรรจุตามฐานพระ ฐานเจดีย์ที่ท่านสร้างไว้ ส่วนหนึ่งคนรุ่นเก่าตระกูลเจ้าเจ้านาย ขุนนาง เก็บไว้เป็นมรดกตกทอด  สำหรับพระสมเด็จวัดระฆังที่บรรจุภาชนะไว้ใต้ฐานเจดีย์ เท่าที่พบองค์ที่ลงรักเก่า ความร้อน ความอับชื้น เวลาร้อยกว่าปี ทำให้รักเก่าหลุดร่อนเป็นตามธรรมชาติ จึงเป็นเพราะสมเด็จวัดระฆังที่ยังคงสภาพเดิมเอาไว้ครบถ้วน


4. เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ได้ปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆังแล้ว ท่านได้นำไปใส่ไว้ในภาชนะ เช่น บาตร กระบุง โอ่ง ไห เก็บไว้ในหอสวดมนต์ เมื่อท่านละสังขาร ได้มีการขนย้ายพระสมเด็จวัดระฆังที่เก็บไว้ ไปไว้ที่วิหารวัดระฆัง บางส่วนนำไปแจกจ่ายให้ประชนที่มาเตรียมสถานที่พระราชทานเพลิงพระสรีระสังขาร หลังจากนั้นได้มีผู้คน ต่างเอาไปบูชา ทำให้พระสมเด็จวัดระฆังหมดจากวัด ตั้งแต่ พศ. 2415



5. ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5  พ.ศ. 2416  หลังจากสมเด็จฯ ได้มรณภาพเพียง 1 ปี ได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคอหิวาตกโรค” ชาวบ้านเรียกว่า “โรคห่าปีระกา” ขึ้นในกรุงเทพ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ไปเข้าฝัน ให้นำพระสมเด็จวัดระฆังไปสรงน้ำในขันน้ำ พร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนอธิษฐาน ขอให้บำบัดสรรพโรค แล้วเอาน้ำที่สรงพระสมเด็จัดระฆังมาดื่ม โรคร้ายจะหาย”  จากนั้นเพียง 7 วัน โรคร้ายได้สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ ชาวบ้านต่างหวงแหนและเก็บรักษาพระสมเด็จวัดระฆังและเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานในปัจจุบัน



6. สมเด็จพุฒาจารย์(โต)  ชอบสร้างพระพุทธรูปและเจดีย์ใหญ่ๆ โตๆ ให้สมนาม “โต” ของท่านไว้ 6 แห่ง คือ
- พระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดที่วัดสะตือ  จ.พระนครศรีอยุธยา
- พระพุทธรูปยืนสูงที่สุดที่วัดอินทรวิหารบางขุนพรหม
- พระเจดีย์นอนจำนวน 2 องค์ หันฐานเข้าหากันที่วัดละครทำ ธนบุรี
- พระพุทธรูปนั่งองค์ใหญ่ วัดกุฏิทอง จ.พระนครศรีอยุธยา
- พระพุทธรูปยืน ที่วัดกลาง ต.คลองข่อย จ.ราชบุรี
งานประติมากรรมที่ท่านสร้างไว้มีขนาดใหญ่โตทั้งสิ้น  จึงเป็นเหตุผลสำคัญชี้ให้เห็นว่า การสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง องค์ขนาดชิ้นฟักเล็กๆ มีขนาดเพียง 2 * 3 ซม.เศษ  ท่านคงสร้างสำเร็จไม่ยาก



7. เนื่องด้วยพระสมเด็จวัดระฆัง เป็นพระเนื้อผง คนสมัยนั้นไม่มีสิ่งห่อหุ้มอย่างดีเหมือนสมัยนี้ อย่างมากใช้กระดาษหรือเศษผ้า ย่อมทำให้เกิดการชำรุดเสียหายจากการใช้ ทำให้เนื้อพระสึกกร่อนแตกหัก แต่สมเด็จพุฒาจารย์(โต) มีวิธีการชาญฉลาดในการรักษาเนื้อพระ โดยการนำพระสมเด็จไปลงรัก เคลือบรักษาเนื้อพระไว้เป็นอย่างดี จึงมีสภาพดีจนถึงปัจจุบัน



หากเราศึกษาข้อมูลหลายด้าน นำมาวิเคาะห์ด้วยเหตุผลด้วยใจที่บริสุทธิ์ จะพบความจริงที่เชื่อได้ว่า เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต) สร้างพระสมเด็จมีจำนวนมากพอควร ถึงแม้จะไม่ครบ 84000 องค์  เพราะระยะเวลานั้นท่านอยู่ในวัยชรา แต่เนื่องด้วยเพราะสมเด็จเป็นสิ่งมหัศจรรย์ล้ำค่ายิ่ง  จึงมีการเก็บรักษาไว้และเป็นมรดกให้แก่คนรุ่นหลัง มีจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ได้เปิดเผยให้เห็นในวงการพระเครื่อง


"ถึงแม้จะมีน้อยหรือมาก ก็ไม่ทำให้ความต้องการและค่านิยมลดลงแต่อย่างไร "







Create Date : 03 เมษายน 2554
Last Update : 17 พฤษภาคม 2557 16:01:20 น. 23 comments
Counter : 15607 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอขอบพระคุณที่ให้ความรู้สู่สาธารณะ ผมเพิ่งสนใจศึกษาเรื่องราวของพระสมเด็จ ความรู้เรื่องพระสมเด็จที่ท่านนำเสนอในเว็ปนี้จึงมีคุณอย่างมากต่อผมและบุคคลอื่นๆอีกมากมาย ขอบารมีสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสีจงคุ้มครองให้ท่านผู้เขียนมีความสุขความเจริญ และเสนอวิทยาทานนี้ต่อไปครับ
 
 

โดย: คนหน้าใหม่ในวงการ IP: 10.0.0.37, 202.29.39.11 วันที่: 3 เมษายน 2554 เวลา:16:59:28 น.  

 
 
 
สมเด็จโต ท่านมาทำงานที่สำนักปู่สวรรค์ และได้เทศน์เกี่ยวกับการสร้างพระสมเด็จโดยมีคนถาม ท่านได้ตอบไว้หลากหลาย ใครสนใจลองหาหนังสือที่สำนัก ที่รวบรวมไว้ อาจพอมี จะได้ความรู้ที่ลึกที่ประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกไว้ เป็นอมตะยากที่ใครตอบได้
 
 

โดย: คนโต IP: 58.9.147.20 วันที่: 3 เมษายน 2554 เวลา:21:06:27 น.  

 
 
 
พระสมเด็จจริง ๆ แล้วมีมาก ถ้าไม่เอาแบบพิมพ์นิยมที่เซียนนิยมกัน ท่านจะหาพระสมเด็จได้เจอตลอด ราคาไม่ถึงพันยังหาได้เลยครับ ถ้าท่านศึกษาเนื้อพระสมเด็จอย่างละเอียดลึกซึ้ง ไม่บ้าจี้ตามเซียนพระที่บอกว่าพระสมเด็จโตปลุกเสกมีแค่เพียง 3 วัดเท่านั้น สำหรับบล๊อกนี้ให้ความรู้ได้มากพอสมควรครับ
 
 

โดย: ต้น IP: 124.121.28.12 วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:19:28:16 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แบ่งปัน bigeye
 
 

โดย: nsk (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:7:29:29 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แบ่งปัน bigeye
 
 

โดย: nsk (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:7:53:34 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แบ่งปัน ติว
 
 

โดย: tew (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:8:19:12 น.  

 
 
 
 
 

โดย: na_nin วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:32:50 น.  

 
 
 
ข้อมูลน้อยไปสักนิด ทั้งที่มีพระพิมพ์จำนวนมากประวัติการสร้างที่ท่านพระยาทิพโกษาบันทึกไว้หลังสมเด็จฯมรณะภาพน่าเชื่อมโยงประเด็นสำคัญ ๆ เช่นสมเด็จ ฯ ไปเรียนรู้การสร้างพระพิมพ์มาจากสมเด็จฯพระสังฆราช(สุก)มาแต่ พ.ศ.๒๓๖๕ ถ้าสมเด็จโตเกิด ๒๓๓๑ ท่านอายุได้ ๓๔ จึงสร้างพระพิมพ์เป็นแล้ว ก็น่าจะสร้างไว้บ้างเป็นรุ่นโบราณจัด ถ้าพระพิมพ์รุ่น ๒๔๐๘ เป็นพิมพ์ที่เก่าสุดโดยท่านได้รับคำแนะนำจากหลวงวิจารณ์ ฯ ไม่น่าจะใช่พิมพ์แรก เพราะยุค ร.๔ การสร้างพระพิมพ์ไม่ได้ใช้วิธีกดพิมพ์ด้วยมือแล้ว เป็นกดด้วยแม่พิมพ์แผง ข้อนี้พิสูจน์ได้ 100 % ว่าร่องรอยที่ปรากฏบนองค์พระยุคนี้ชัดเจนและมีตำหนิชี้ชัดว่ามีการนำแม่พิมพ์ยุคเก่ามาถ่ายแบบลงแม่พิมพ์โลหะแล้วพิมพ์ทีละเป็นร้อยองค์ แต่ภาพพระที่ท่านนำมาแสดง พบว่าเป็นพระพิมพ์ที่สร้างก่อน ร.๔ ส่วนจะเป็น รัชสมัย ร.๓ นั้นไม่ยืนยันเพราะแม้วชิรญาณภิกขุ(เจ้าฟ้ามงกุฏ)ยังได้รับการรังควาญจากหม่อมเจ้าไกรสรที่ไม่ต้องอัธยาศัยจนท้ายสุดถูกประหารชีวิต ในช่วงรัชสมัย ร.๓ สมเด็จโตออกธุดงเข้าป่าหนีหายไปจะมัวมานั่งสร้างพระพิมพ์ย่อมไม่ใช่ จึงควรเป็นช่วงปลาย รัชสมัย ร.๒ เพราะมีตำหนิที่ต่างกันกับพระพิมพ์ที่สร้างสมัย ร.๔เป็นอย่างมากเห็นได้ชัด(ตำหนินี้จะเขียนให้อ่านกันภายหลัง) ถ้าผู้ศึกษายอมรับได้ว่า พระพิมพ์แบบเดียวกันนี้เคยถูกสร้างเมื่อ พ.ศ ๒๓๖๕มาครั้งหนึ่งด้วยการกดมือ และแม่พิมพ์นั้นกรมสังฆการนำมาสร้างแม่พิมพ์ใหม่สมัย ร.๔ มองดูเป็นพุทธลักษณะเดียวกันทุกประการ แต่ความชัด ลึก ไม่เหมือนของโบราณ การที่เซียนพระว่ากันว่ามีพระเพียง ๑๐๐ถึง ๒๐๐ องค์ก็น่าจะเป็นพระยุคนี้ ส่วนผู้ที่ว่ามีเป็น ๑๐๐๐ นั้นไม่ตรงนักต้องว่ามีเป็นแสน เพราะสมเด็จ ฯเปรยว่าจะสร้าง ๘๔๐๐๐ ที่สี่นี้สำเร็จไหมก่อนมรณะภาพ พระที่ว่าดูเหมือนใช่แต่ไม่ใช่นั้นแหละใช่ มีใครสงสัยข้อนี้ให้หาซื้อเช่าองค์ละ ๑๐๐-๒๐๐ถ่ายถาพมา จะดูให้หายสงสัยกันทั้งประเทศว่าแท้ไม่แท้ตรงใหน ขอบคุณ.
 
 

โดย: imperial ฯ IP: 192.168.200.1, 180.183.143.8 วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:8:44:47 น.  

 
 
 
ต้องขอขอบพระคุณ ที่ได้ต่อยอดความรู้และเพิ่มรายละเอียดเชิงลึก ประวัติการสร้างและยุคสมัยในส่วนที่ผู้เขียนตกหล่นไป พร้อมทั้งยังได้วิเคราะห์พระที่อยู่ใน blog นี้ ซึ่งผู้เขียนเองก็มีข้อสงสัยในเรื่องยุคของการสร้าง อะไรเป็นเหตุให้เชื่อว่าเป็นพระยุคปลาย ร.๒ และอะไรเป็นตำหนิที่ต่างกันของพระพิมพ์ที่สร้างในสมัย ร.๔ กับ ร.๒ ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน หากคุณ imperial ให้ความรู้นี้เพิ่มเติมจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ด้วยความเคารพ
 
 

โดย: เจ้าของ blog (wicca-wicca ) วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:0:36:23 น.  

 
 
 
ตามประวัติการสร้างพระพิมพ์ ของพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2368 สมัย ร.3 (ซึ่ง ร.2 สวรรคตในปี พ.ศ. 2367) ขณะนั้นท่านมีอายุได้ 37 ปี สร้างเป็นที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์ เป็นพระครุ (โต) วันอาทิตย์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีมะโรง พ.ศ.2368
และท่านได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ อีกหลายครั้งในตอนต้นสมัย ร.3 ในโอกาสต่าง ๆ ได้แก่ ปี พ.ศ.2379 (อายุ 48 ปี) พ.ศ.2381 (อายุ 50 ปี) พ.ศ.2386 (อายุ 55 ปี) พ.ศ.2387 (อายุ 56 ปี) พ.ศ. 2390 (อายุ 59 ปี) และในปี พ.ศ. 2394 ร.3 โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นพระธรรมกิตติโสภณ แต่ท่านไม่รับสมณศักดิ์และออกธุดงค์ จวบจน ร.4 ขึ้นครองราชย์ จึงกลับวัดระฆัง และในปี พ.ศ.2399 ร.4 โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นพระธรรมกิตติโสภณ ท่านจึงยอมรับสมณศักดิ์
แสดงว่าในสมัย ร.3 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังก่อนออกธุดงค์ หลายครั้ง พระที่สร้างสมัยนั้นมีจำนวนไม่มากนัก ตามตำนานเล่าขานกันว่า ท่านทยอยสร้าง ทยอยปลุกเสก และทยอยแจก เป็นแม่พิมพ์ช่างหลวง พุทธลักษณะ คมลึกชัด เนื้อปูนแกร่ง เนื้อจัดเข้มข้น มีมวลสารและเป็นต้นแบบของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ในสมัย ร.4
ต่อมาในสมัย ร.4 เมื่อปี พ.ศ. 2407 ได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ในโอกาสเป็นที่ระลึกได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และในปี พ.ศ. 2408 – 2409 ได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง จนถึง พ.ศ. 2411 – 2414 ซึ่งในสมัย ร.5 ได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ โดยแม่พิมพ์หลวงวิจารณ์เจียรนัย และในปี พ.ศ. 2514 สมัย ร.5 นั้น ท่านได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ถวาย ร.5
สำหรับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่นำมาเสนอใน Blog นี้ บางองค์สร้างในยุคต้น ร.3 (พ.ศ. 2368 – 2390) แต่ส่วนใหญ่จะสร้างราวปี พ.ศ. 2407 – 2409 เพราะพระยุคนี้แก่ข้าวสุก แก่กล้วย เนื้อจัด หดตัวย่น เป็นมันวาว มีมวลสารมาก ครับ
 
 

โดย: Legend IP: 180.180.51.154 วันที่: 11 กันยายน 2554 เวลา:10:33:19 น.  

 
 
 
ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติม
 
 

โดย: เจ้าของ blog (wicca-wicca ) วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:22:19:33 น.  

 
 
 
ศรัทธาเข้าไว้ครับ...กับพระที่ท่านมี แล้วจะเกิดปาฏิหาริย์ อย่าไปตามกระแสพวกที่เป็นเซียนมากจนเกินไป ที่เอาพระจากตาสีตาสาหาเช้ากินค่ำไปองค์ละสามสี่พัน(ยอมปล่อยทั้งที่หวงแหนเพราะไม่มีจะกิน) แล้วเซียนก็ไปปล่อยให้พวกที่มีอันจะกินองค์ละสิบยี่สิบล้าน แล้วพระจะไปอยู่ที่ไหนหมดละครับ ทั้งๆที่สมเด็จท่านสร้างพระเพื่อที่จะให้พุทธศาสนิกชนสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปให้ตราบนานเท่านาน เอ้อ...น่าเศร้านัก..
 
 

โดย: จิม พเนจร IP: 203.121.167.246 วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:17:21:51 น.  

 
 
 
ขอบคุณท่าน Imperial มากครับ ได้ความรู้ใหม่ ที่ยังไม่เคยอ่านที่ใดมาก่อน มีเพิ่มเติมจะเป็นพระคุณครับ
 
 

โดย: Preecha Prathepha IP: 202.28.35.252 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:23:41:34 น.  

 
 
 
ข้อมูลแต่ละท่านสุดยอดมากๆ
 
 

โดย: oon IP: 202.29.57.211 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:1:11:41 น.  

 
 
 
คนมีบุญหรือว่าจิตใจไม่เคยคิดร้ายกับคนอื่นเท่านั้นที่จะได้ครอบครองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไม่จำเป็นต้องมีเงิน)
 
 

โดย: อาร์ต กาญจนดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี IP: 192.168.1.18, 58.9.202.191 วันที่: 3 กรกฎาคม 2555 เวลา:1:28:57 น.  

 
 
 
.....เป็นไปได้ที่สมเด็จโตสร้างพระมากกว่า 1หมื่นองค์และท่านจะใช้เป็นเครื่องมือในการทำนุบำรุงศาสนาไม่ใช่ทำแบบพุทธพาณิชย์แบบพวกเสี้ยนทั้งหลายผมได้อ่านบันทึกหลวงปู่คำที่เขียนเป็นลายมือบันทึกการสร้างพระซึ่งท่านเป็นพระรุ่นหลังสมเด็จโต(จากหนังสือสมเด็จโตของร้านขายยายอแสงเล่มแรก เพียงแต่ภาพพระสมเด็จพิมพ์หลวงวิจารณ์ในเล่มนี้มีน้อยมาก...ขณะนี้มีพระสมเด็จมีคราบกรุและลงรักปิดทองมีความเก่ามากบริเวณอ.ท่าเรือจ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านอัดกรอบห้อยคอสอบถามว่ามาจากกรุไหนก็ไม่ตอบเหมือนระแวงว่ากลัวทางวัดจะเก็บคืน คราบกรุสวยมาก..ยังเห็นพิมพ์พระชัดเจนกว่ากรุบางขุนพรหม...
 
 

โดย: สลาตั IP: 223.204.165.44 วันที่: 24 สิงหาคม 2555 เวลา:23:02:58 น.  

 
 
 
สมัยโบราณ การสร้างพระด้วยมือ ไม่ได้ทำเพื่อการค้าและทำเพื่อสืบศาสนาจำนวนต้องมีมากมายและไม่ได้มีการเก็บข้อมูลไว้ว่ามีเท่าไร ผมเคยอ่านเจอในบทความที่มีข้อคิดน่าสนใจคือ ตรรกะง่ายๆ ตัวอย่างเช่นถ้าหลวงวิจารณ์แกะแม่พิมพ์สมเด็จ 2 อันและเป็นพิมพ์เดียวกันและแกะในวันเดียวกัน ทั้ง 2 แม่พิมพ์ ไม่มีทางที่จะเหมือนกันได้เลย ต้องเพี้ยนบ้างเพราะแกะแม่พิมพ์ด้วยมือ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ถ้าต้องการได้ครอบครองพระสมเด็จต้องดูเนื้อก่อนเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรพิจารณาความเก่าของเศษมวลสารตระกูลซุ้มกอ-กำแพงซึ่งจะมีความเก่ามากๆ ของเทียมสีออกซีดๆ เพราะเป็นเศษอิฐใหม่ ที่น่าสนใจอีกประการคือ เคยมีครูบาอาจารย์ท่านเขียนไว้ในตำราว่า "สมเด็จยังมีอีกมากมาย เป็นความโชคดีสำหรับผู้มีตาใน กล่าวคือผู้ที่สามรถจับพลังพระได้จะได้สมเด็จแน่นอน" คุณ wicca wicca ได้สร้างเวบนี้ ด้วยสัมมาทิฏฐิ - การมีแนวคิดชอบ, สัมมากัมมันโต - การกระทำชอบ เพื่อดำรงค์รักษาไว้ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้เพื่อสืบสานต่อพระพุทธศาสนา ขอนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยครับ
 
 

โดย: ภูดิส IP: 118.172.148.88 วันที่: 1 มิถุนายน 2557 เวลา:14:40:21 น.  

 
 
 
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี สร้างพระสมเด็จวัดระฆังด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงคนถาวร จึงเป็นของสูงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผู่ที่นำเรื่องราวเกี่ยวกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ มาเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้ผู้คนได้รับทราบใน blog แห่งนี้เชื่อว่าเป็นคนใจบุญเคยรับใช้ใกล้ชิดสมเด็จโตมาก่อนในอดีต บุคคลไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาในอดีต จะกระทำไม่ได้เลย เป็นความมหัศจรรย์ของโลกภายในและอำนาจพลังจิต รับรู้โดยพระอาจารย์ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์เชี่ยวชาญในการเจริญปัสสนาภาวนา และมีตาในหรือญาณทัสสนะ เป็นผู้รู้และบอกให้รู้
 
 

โดย: ศิษย์หลวงปู่ IP: 58.9.154.189 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2558 เวลา:14:37:03 น.  

 
 
 
ความมหัศจรรย์แห่งโลกภายในและอำนาจพลังจิต พระราชสังวรญาณ(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) เกจิอาจารย์ชื่อดัง ได้ใช้ตาในหรือตาวิเศษดูพระสมเด็จวัดระฆังของเซียนพระคนหนึ่ง ได้อวดอ้างว่าเป็นพระแท้มีคนขอเช่าหลายแสนบาท หลวงพ่อพุธบอกกับเซียนพระว่า "....พวกคุณอย่างดีก็รู้แต่เพียงแค่ว่า พระนี้เนื้อผงเข้าแบบเข้าตำราเท่านั้น ส่วนทางในพวกคุณไม่รู้หรอก จะเป็นอะไรก็ตาม แม้แต่เปลือกชานหมากที่ฉันเจียนเอาเนื้อมันมาเคี้ยว แล้วฉันโยนไปมันก็ยังดีนะ" เปรียบเทียบให้เห็นว่าชานหมากดีกว่าพระสมเด็จปลอมซึ่งคนเล่นพระสมเด็จสมัยก่อน เขาไม่ดูเพียงกายภาพเท่านั้น ต้องแสวงหาพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษมีญาณแก่กล้า ใช้ตาในดูอีกทางหนึ่ง จึงชัวร์ชัดนำขึ้นคอได้ และความมหัศจรรย์แห่งโลกภายในมีอยู่จริง ที่พวกเราเสาะแสวงหาพระเครื่องยอดนิยมทั้งหลายเป็นพระที่บรรดาเกจิอาจารย์ใช้พลังจิตปลุกเศกมิใช่หรือ
 
 

โดย: ทองแท้ IP: 58.9.154.189 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2558 เวลา:12:06:14 น.  

 
 
 
ชอบมากครับตรงความเป็นจริงมากครับ
 
 

โดย: สายชล IP: 49.229.6.130 วันที่: 29 ธันวาคม 2558 เวลา:7:32:52 น.  

 
 
 
ข้อมูลตั้งแต่ปี 54 เป็นประโยชน์สำหรับผมคนรุ่นใหม่ ที่พึ่งได้เข้ามาอ่านในปี 60
 
 

โดย: Phai IP: 124.120.213.79 วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:19:19:06 น.  

 
 
 
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ครู เนื้อพระต้องเก่าแก่จัดมาก ผิวพระมีริ้วรอยต่างๆมากมาย ท่านต้องดูเนื้อพระผิวพระกันให้ละเอียด เอาไปเปรียบเทียบกับเนื้อพระวัดพลับหรือพระสมเด็จวัดระฆังยุคต้น พิมพ์หลวงสิทธิการ ถ้าเนื้อเหมือนกันเป๊ะก็ใช่เลยครับท่าน
 
 

โดย: เซียนเก่า IP: 134.236.1.35 วันที่: 12 มกราคม 2561 เวลา:10:53:18 น.  

 
 
 
ขอให้ท่านลองเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับแม่พิมพ์ท่านหลวงวิจารณ์เจียรนัยในวีดีโอเปิดกรุสมบัติหลวงวิจารณ์ฯที่เริ่มเผยแพร่ประมาณปี 2558 ดูหลายๆตอนโดยเฉพาะตอนที่ 24 และ 27 จะเห็นได้ว่าแม่พิมพ์ของท่านหลากหลายกว่า 1,000 แม่พิมพ์ซึ่งก็ควรน่าจะกำหนดให้เป็นพิมพ์นิยมเช่นเดียวกันทั้งหมดและถ้าสังเกตให้ดีแล้วจะพบว่าหลายแม่พิมพ์ของท่านที่กดพระออกมานั้นโดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่ก็มีทั้งสองแบบคือ1.แบบที่ไม่มีเส้นวาสนาลากลงมจรดซุ้มตรงศอกซ้ายเลยและ2.แบบทีมีเส้นวาสนาก็มีให้ท่านลองใช้วิจารณญาณดูถึงหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฎออกมาแล้วเองว่ามาตรฐานพิมพ์ทรงที่ถูกกำหนดตามคำบอกเล่า บทความ หนังสือหรือตำหรับตำราต่างๆที่เขียนตกทอดกันมาอย่างถูกๆผิดๆนั้นเป็นอย่างไรซึ่งไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ปรากฏแต่ยังมีเรื่องอื่นๆเช่นสมเด็จวังหน้าวังหลังสมเด็จวัดพระแก้วที่มีปรากฏจริงในแม่พิมพ์ของท่านเช่นกันถูกผิดอย่างไรเป็นเพียงข้อสังเกตและความคิดเห็นผมเอง..ขอบคุณ อนึ่ง อาจมีบางท่านอยากโต้แย้งตำนานเรื่องหลวงวิจารณ์ว่า เป็น เรื่องแต่ง เรื่องเล่า โกหกกันไม่มีตัวตนจริงนั้น สำหรับการพิสูจน์หาความจริงในเรื่องนี้น่าจะกำลังมีผู้สืบเสาะค้นหาหลักฐานความจริงเพื่อนำออกเผยแพร่สู่สาธารณะชนให้รับทราบในโอกาสอันใกล้นี้อย่างแน่นอนและไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาถูกต้องน่าเชื่อถือเช่นไรก็ตามก็ควรที่จะต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลข้อมูลหลักฐานบนความถูกต้องที่เป็นจริงรวมถึงเสียงตอบรับของสังคมโดยรวมต่อไป..ครับ ส่วนข้อที่กล่าวว่าสมเด็จยุคกลางที่เซียนเก่านิยมนั้นฟังดูแล้วก็ออกแปลกๆ ถ้าสรุปตกลงมาก่อนแล้วว่าเป็นพิมพ์ที่เซียนรุ่นเก่านิยมแล้วเหตุไฉนเซียนรุ่นใหม่ในปัจจุบันจึงกลับไม่นิยมตามที่บรรพบุรุษหรือครูบาอาจารย์ที่เป็นเซียนพระรุ่นเก่านี้เล่า...????
 
 

โดย: นิพพาน IP: 114.109.150.174 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:18:06:19 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

wicca-wicca
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 140 คน [?]




เจ้าของ Blog เป็นคนทำงานด้าน IT แต่ทว่าตั้งแต่เกิดมา ก็คุ้นเคยกับพระเครื่องต่างๆ คุณพ่อเป็นคนชอบสะสมพระและเคยเขียนบทความลงในหนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่ง แต่ที่สนใจมากเป็นพิเศษคือ "พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่" จากประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 30 ปี ท่านมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่เพิ่งจะเริ่มศึกษาหรือคนที่มีพระสมเด็จอยู่ในครอบครอง ให้สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งผู้อ่านเองก็จะได้เริ่มต้นศึกษาไปพร้อมๆ กับเจ้าของ Blog ซึ่งเป็นลูกสาว โดยคุณพ่อจะสอนวิธีการดูพระสมเด็จวัดระฆังอย่างเจาะลึก บทความบางส่วนอ้างอิงจากหนังสือพระหลายๆ ฉบับและมาจากการวิเคราะห์ของคุณพ่อเอง หากท่านใดมีคำถามหรือมีคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน Blog นี้ เจ้าของ Blog ยินดีอย่างยิ่งที่จะตอบคำถามหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางหน้าเวปนี้ค่ะ


* เนื่องจาก Blog นี้เป็นเวปไซต์ส่วนตัว ขออนุญาตลบทุกความคิดเห็นที่เอ่ยชื่อพาดพิงถึงบุคคลอื่นและทำการโฆษณาซื้อขาย เนื่องจากเจ้าของ blog มีวัตถุประสงค์แค่ต้องการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบุคคลใดทั้งสิ้น หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจ และขอบคุณทุกความเห็นที่ชี้แนะและให้คำแนะนำเป็นอย่างดีค่ะ <1.Oct.2011>

** รูปถ่ายพระสมเด็จวัดระฆังจากองค์จริงที่ได้นำเสนอในเว็บไซต์นี้ สามารถนำไปเผยแพร่เพื่อใช้ประกอบในการศึกษาได้ค่ะ หากผู้ใดนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือกระทำการใดๆ โดยไม่สมควร ขอให้ผู้ที่พบเห็นช่วยตักเตือนด้วยค่ะ**




"เชื่อว่ามีผู้รู้อีกหลายท่านรวมทั้งผู้เขียน มีความปรารถนาดีทีจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ พระสมเด็จวัดระฆัง  เพื่อเผยแพร่ใหแก่ผู้สนใจได้รับรู้รับทราบอย่างกว้างขวาง รวมถึงเพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาทางด้านรูปธรรมให้ทนถาวร "


** โปรดใช้ข้อมูลหลายๆ ด้าน วิเคราะห์และพิจารณา **



เพื่อเป็นธรรมทาน ถวายเป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระรัตนตรัย และสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ให้ผู้ศึกษาได้รู้แจ้งเห็นจริง และยกเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ อันเป็นเนื้อนาบุญกุศลใหญ่หลวง บังเกิดแก่คณะผู้จัดทำเว็ปไซต์พระสมเด็จวัดระฆังแห่งนี้ ตลอดกาลนาน








<font color=blue>พระสมเด็จวัดระฆัง วิธีดูพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระสมเด็จแท้ ประวัติพระสมเด็จ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ รูปพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ชี้จุดสำคัญของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ พิมพ์เดียวกับองค์ดังในอดีต ดูพระสมเด็จวัดระฆังตามแบบเซียนพระ ด้านหลังพระสมเด็จวัดระฆัง พระวัดพลับ การเก็บรักษาพระสมเด็จวัดระฆัง มวลสารพระสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จราคาแพง ราคาพระสมเด็จ เช่าบูชา เศษก้านธูปในพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ วิธีตรวจสอบพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ด้วยตนเอง ยุคของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง
New Comments
[Add wicca-wicca's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com