เที่ยวให้เต็มอิ่ม ณ กาญจนบุรี กันเถอะ ตอนที่ 3 "อุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่"
การเดินทางก็เข้า้สู่วันที่ 2 วันแรกนั้นเราพักกันที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่ ในวันนี้เป็นอีกวันที่สนุกมากๆ ตามไปดูกันเลยครับบ้านพักครับในอุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่ ค่าห้องคืนละ 800 มี 2 ห้องนอนห้องนอน...ห้องอาบน้ำห้องส้วมอีกมุมของบ้านพักไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวถ่ายคน ถ่ายบ้าน มาเยอะแล้วถ่ายรถบ้างดีกว่างานนี้ไม่พลาดมีแอบถ่ายอีกตามเคย 55ด้านหน้าบ้านพักเดินลงไปอีกนิดก็จะเป็นแม่น้ำแควนี่ไงแม่น้ำแคว มีแพจอดกันเรียงรายเพราะว่าตรงนี้เป็นจุดลงแพด้วยชมกันใกล้ ๆ ...ขอสักรูปเค้ากำลังลากแพกลับมาที่ท่าพอดีท่าสวยแต่ไม่กล้าลง 5555กำลังนั่งถกกันเรื่องนายก 555 ล้อเล่นรูปนี้สวยดีเนอะมีหมอกจาง ๆ ด้วยมุมนี้มองเห็นน้ำตกด้วยเอ้ย ขโมยจะเข้าห้องครับ 555 พอดีว่าเพื่อนเอากุญแจห้องไปแล้วบังเอิญข้าศึกโจมตีเข้ากระทันหันจะเข้าห้องแต่เข้าไม่ได้เลยต้องเป็นอย่างในรูปนั้นแหละระหว่างรออาบน้ำอีกสักรูปอาหารเช้า หลังจากที่กินอิ่มก็ได้เวลาเที่ยวแล้วที่แรกที่จะไปเป็นน้ำตกไทรโยคใหญ่ก่อนเข้าไปขอเดี่ยวจัดไปทางไหนก่อนดีเห็นน้ำตกแล้ว แต่ลงเล่นไม่ได้เซ็งสะพานแขวน อันนี้ก็น่ากลัวเดินต้องระวังกลัวตกลงไปแพบ้านพัก 2 ข้างริมแม่น้ำแคว น่าอยู่ดีเนอะเห็นกันชัด ๆ อีกที น้ำตกไทรโยคใหญ่และแล้วก็เหมือนเดิมต้องถ่ายคู่กับป้ายผ่านไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่
เที่ยวให้เต็มอิ่ม ณ กาญจนบุรี กันเถอะ ตอนที่ 2 "ถ้ำดาวดึงส์"
มาต่อกันอีกครั้งครับ ต่อจากครั้งที่แล้วนะ ที่ถัดไปก็จะเป็นถ้ำดาวดึงส์ อันนี้แนะนำว่าสวยมาก แต่กว่าจะหาถ้ำเจอเล่นเอาหลงทางอยู่นานพอสมควรจากถนนใหญ่ก็มีป้ายบอกอยู่เห็นได้ชัดเจนเลยแต่พอจะหาทางไปถ้ำนี้อะดิปรากฎว่าหาไม่เจอ จริง ๆ แล้วมันมีป้ายบอกแต่ว่าป้ายนั้นเล็กมาก ๆ เป็นทางเข้าไปวัดเราก็เลยไม่รู้ขับรถเลยไปซะไกลเลยเส้นทางระหว่างทางไปถ้ำทางนี้แหละที่หลง แล้วเลยถ้ำไปซะไกลเลย555เลยจอดรถถามคนข้างทางที่ขับผ่านไปมา ซึ่งก็นาน ๆ กว่าจะผ่านมาสักคัน และนี่ก็คือหน้าตาของชาวบ้านทเราี่ถาม "พี่ ๆ ถามทางหน่อยครับ ถ้ำดาวดึงส์ทางเข้ามันอยู่ตรงไหนหรอครับ"พี่เค้าก็ทำท่าคิดอยู่สักพักแล้วหันไปถามแฟนเค้าด้านหลัง(คิดเอาว่าเป็นแฟนพี่เค้า)แล้วเค้าก็ตอบมาว่า"พี่อยู่ที่นี่มาก็ตั้งนานยังไม่รู้เลยว่ามันมีถ้ำอยู่ด้วยหรอ"อึ้งอ่ะดิครับ อ้าวเวรละไง พวกผมก็งงกันใหญ่เลย ไม่รู้จะทำไงดีในเมื่อแม้แต่ชาวบ้านแถบนั้นเองยังไม่รู้จัก เลยคิดขึ้นมาได้ว่าแล้วก็โทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคดีกว่าจึงได้คำตอบมาว่าเราขับรถเลยมาซะไกลแล้ว จึง ๆ มันอยู่ตรงทางเข้าวัดดาวดึงส์ ก็เลยต้องขับรถย้อนกลับมาทางเดิมอีกครั้งหลายคนคงจะยังงงอยู่กับชาวบ้านแถบนั้นที่ไม่รู้จักสถานที่ใช่ป่ะ หลังจากที่ไปพบไกด์และได้สอบถามปรากฎว่าชาวบ้านที่เราไปถามนั้นเป็นพวกพม่า เท่านั้นแหละครับถึงบางอ้อเลยหลังจากที่ทราบทางเรียบร้อยก็ขับรถไปถึงจุดหมายปลายทาง แล้วก็ต้องเดินเท้ากันต่ออีกเกือบกิโลเดินกันเหนื่อยลิ้นห้อยเลยจริง ๆ แล้วทางไม่ได้ไกลมาก แต่ที่เหนื่อยเพราะว่าต้องเดินขึ้นเขาเนี่ยแหละเดินไปเรื่อยก็จะเจอป้ายบอกทาง บริเวณรอบ ๆ จะเต็มไปด้วยป่าไผ่ แต่มีใครบางคนคิดที่จะเก็บหน่อไม้ไปแกงซะงั้นเส้นทางเดินครับธรรมชาติสุด ๆ ช่วงที่เดินก็ไม่ร้อนด้วยเพราะว่าเป็นช่วงเย็นแล้วเลยเดินกันสบายแต่เหนื่อย55แผนที่ของถ้ำดาวดึงส์ศาลด้านหน้าถ้ำทางเข้าถ้ำจะเป็นช่องเล็ก พอที่จะลอดเข้าไปได้พอดีระหว่างนั่งรอไกด์ ซึ่งกำลังนำกรุ๊ปทัวร์อีกกรุ๊ปเข้าไปชมถ้ำ นั่งรออยู่นานมากและที่สำคัญยุงเยอะมากเกือบตัดสินใจกลับกันซะแล้ว ถ้าไม่ได้เข้าไปชมคงจะเสียดายมาก ๆ เลย โชคดีที่ฝืนทนให้ยุ่งกัดเล่น 5555 สถานที่แนะนำถ้าจะหลบยุงให้เข้าไปนั่งตรงปากทางเข้าถ้ำด้านในครับเพราะว่ายังคงมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้แต่ไม่สามารถลงไปในถ้ำด้านในได้เพราะว่ามันมืดไม่มีไฟต้องใช้ตะเกียงเข้าไป และอีกอย่างภายในถ้ำ่สามารถเข้าไปกันได้ประมาณไม่เกิน 10-15 คนเท่านั้นรูปนี้ถ่ายจากปากถ้ำ จริง ๆแล้วมองไม่เห็นหรอกว่าด้านในเป็นยังไง ถ่ายมั่ว ๆ ไปใช้แฟล๊ตยิงอย่างเดียว 555หลังจากที่กรุ๊ปทัวร์ที่เข้าไปก่อนหน้าออกมาก็ถึงคิวของพวกเราไกด์นำอุปกรณ์ในการเข้าถ้ำมาให้เราเตรียมตัวไปส่องกบกัน555เจ้าหน้าที่ส่องกบอีกหนึ่งท่านเส้นทางที่ต้องลงไปภายในถ้ำ มีถุงตั้งอยู่ด้วยเป็นถุงใส่ตะเกียงของไกด์ครับอิอิและแล้วก็เข้ามาถึงภายในถ้ำครับดูแล้วลองจินตนาการกันดูนะครับว่าเป็นรูปอะไรบ้างเพราะจำไม่ได้แล้วละไกด์จะคอยบอกว่าี่เป็นรูปโน้นรูปนี้เยอะแยะไปหมด ถ้าจำได้จะบอกแต่ถ้ามั่วก็อย่าว่ากัน555อันนี้คล้ายผ้าม่าน...กันนี้คล้าย ๆ แพะหรือหมาต่อไปก็ต้องมุดอุโมงค์นี้เข้าไปทีละคนอันนี้คล้ายช้างแมมมอท สวยมากเลยอันนี้อันนี้อะไรว้า...อันนี้เป็นที่ถกเถียงกันครับ ไกด์บอกว่าเป็นถ้วยฟุตบอลโลก อีกคนบอกว่าคล้าย ผักลูกบวบ(เขียนงี้เปล่าว้า)อีกคนบอกว่าตะบองเพ็ด ว่ากันไปอันนี้แหละต้นตะบองเพ็ดมีถ้ำก็ต้องมีค้างคาวอันนี้น่ากลัวดีเนอะว่าป่ะ...คนที่อยู่ด้านขวาคือไกด์ของเรานี่คือช้าง...อันนี้คือไข่ไดโนเสาร์อันนี้เป็นไฮไลด์ ตู้ถ่ายสติกเกอร์ เรียงแถวกันเข้ามาเลย555รูปรวมอีกสักรูประหว่างไกด์ของเรากับผนังถ้ำอันไหนจะน่ากลัวกว่ากัน 555 อ่ะล้อเล่นมุดถ้ำกลับออกมาอีกสักรูปและแล้วก็เดินทางกลับมาสู่โลกแห่งความจริง เค้าบอกว่ายังไหว สู้ตาย เข้าไปอีกรอบยังได้ 555ลงบันทึกแห่งความทรงจำอันน้อยนิดจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับออกมายังจุดจอดรถ คราวนี้สบายหน่อยเพราะว่าเดินลงจากเขา ถ้าใครจะมาที่ถ้ำดาวดึงส์มีคำแนะนำครับ1 ถ้าหาทางไปถ้ำไม่ถูกอย่าได้ถามทางคนแถวนั้นเป็นอันขาด เพราะว่ายิ่งถามจะยิ่งงงกว่าเดิม2 เตรียมยากันยุงไปด้วยเพราะว่าอาจจะต้องรอกว่าจะได้เข้าถ้ำ3 อดทนจนกว่าจะได้เข้าไปในถ้ำ แล้วความเหนื่อยจะหายเป็นปลดทิ้ง4 เตรียมน้ำไปให้เยอะ ๆ เพราะว่าในถ้ำแฉะมาก ออกมาแล้วทั้งรองเท้าทั้ง ขา แข้งจะแดง5 อย่าไปให้เย็นมานักเพราะจะเที่ยวไม่สนุกกลัวมืด ไกด์จะรีบกลับบ้านไปหาเมีย555(อันนี้ล้อเล่น)ปิดท้ายของการเดินทางในวันที่ 1 ด้วยการคว้าเหรียญทองของ สมจิตร จงจอหอ แอบไปนั่งดูอยู่ที่ร้านขายอาหารติดตามต่อสำหรับการเดินทางในวันที่ 2 นะครับรับรองสนุกแน่
เที่ยวให้เต็มอิ่ม ณ กาญจนบุรี กันเถอะ ตอนที่ 1 "ในเมืองและปราสาทเมืองสิงห์"
ทริปนี้ไปมาตั้งแต่วันที่ 23-24 สิงหาโน่น แต่เพิ่งจะมีเวลาเอามาลงครับ ทริปนี้ไปกันทั้งหมด 5 คนครับ จากเดิมที่นัดเอาไว้ 6 คน งานนี้มีเบี้ยวไปซะ 1 คน แต่ก็ยังไปกันได้แบบสนุก โดยทริปนี้วางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวหาข้อมูลอยู่นานพอสมควรเกี่ยวกับที่เที่ยวใน จ.กาญจนบุรี เลยเที่ยวกันได้หลายที่แล้วก็เต็มอิ่มทุกที่ โดยที่ทุกอย่างตรงตามโปรแกรมที่วางเอาไว้โดยทริปนี้เริ่มต้นกันที่ กทม. ตามกำหนดการวางไว้ 6.30 น. ก็คิดอยู่แล้วว่าคงต้องมาสายกว่าจะได้ออกเดินทางเล่นเอา 7.30น. งั้นไปชมกันเลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลานี้เป็นโปรแกรมสำหรับการท่องเที่ยวกาญ 2 วัน 1 คืน ครับใครสนใจสามารถนำไปใช้ได้นะครับไม่สงวนลิขสิทธิ์(กว่าจะคิดได้เนี่ยนานเอาการอยู่อิอิ)น้องออสพร้อมแล้วครับที่แรกตามกำหนดการ สุสานพันธมิตร ขอบอกว่าร้อนมากเพราะว่ากว่าไปถึงก็ช่วงสาย ๆ แดดร้อนสุด ๆเดินชมไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า แต่บรรยากาศรอบ ๆ ก็ OK ดีค่ำ ๆ คงจะวังเวงน่าดูอ่านไม่ทันเลยถ่ายเก็บมาอ่านต่อ 555ถ้าใครต้องการเดินดูรอบ ๆ หรือหาคนรู้จัก 555 อย่าลืมพกร่มไปด้วยนะครับ สำหรับที่สุสานนี้ก็ไม่มีไรให้เที่ยวแค่มาชมสุสานอยู่ได้ไม่นานก็ต้องรีบไปต่อละเพราะเดี๋ยวไม่ตรงตามกำหนดการ ที่ต่อไปเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว มาถึงแล้วสะพานข้ามแม่น้ำแควเข้ากล้องกันสักรูปเพื่อให้รู้ว่าได้มาถึงแล้วอีกสักรูปบนสะพานแม่น้ำแคว ถ่ายจากบนสะพานมีเรือวิ่งพอดี ได้บรรยากาศไปอีกแบบเดิน ๆ อยู่ดี ๆ รถไฟมาพอดีเลยต้องรีบหาที่หลบกันอากาศก็ร้อนนะ แต่ที่นี่คนเยอะมากเลย เวลาเดินบนสะพานก็น่ากลัวเพราะว่าไม้มันเก่ามากกลัวตกลงไป จึงต้องเดินต่อกันไปเป็นแถว ที่นี่ก็น่าเที่ยวดีคนเยอะแต่เสียอย่างเดียวอากาศร้อน ต่อไปเราก็จะไปกันต่อที่พิพิธภัณฑ์สงครามโลกพิพิธภัณฑ์จะอยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแควเดินออกมานิดเดียวก็ถึงปืนที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2ในนี้จะมีรูปถ่ายเกี่ยวกับสงครามเยอะแยะเลยเอามาลงได้ไม่หมด ถ้าอยากเห็นมากกว่านี้ก็ต้องไปดูเอาแล้วละอันนี้เอามาแบ่งให้ดูเป็นรูปบางส่วนที่น่าสนใจ อันนี้เป็น บิกินี่ สมัยก่อน ทางรถไฟสายมรณะ ไม่ได้ไปด้วยตัวเองในทริปนี้ แต่เอารูปนี้มาฝากด้านในมีเจ้าพ่อสงครามในกราบไหว้ด้วยก็เลยเซียมซีซะหน่อยได้ใบนี้มาด้านหน้ามีหุ่นด้วยก็เลยถ่ายรูปคู่กับ ฮิตเลอร์ ซะหน่อยรู้จักมานานแล้วเพิ่งเจอตัวเป็น ๆ แล้วก็ยังมีท่านอื่นหลาย ๆ ท่านจำชื่อไม่ได้ละได้เข้าไปนมัสการพระธาตุแควใหญ่ด้วยด้านในมีระฆังยักษ์ด้วย เคาะระฆังเพื่อเป็นสิริมงคลหัวรถจักรสมัยสงครามโลกครับ สังเกตุให้ัดีมีลิงห้อยอยู่ตัวนึงด้วยสถานที่ถัดไปก็เป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ รายละเอียดการเดินทางตามแผนครับภายในอาคารจัดแสดงศิลปโบราณเข้ากล้องกันหน่อยpresenter ขายพัดลมครับรอบ ๆ ตัวปราสาทเป็นที่ระลึกอีกสักรูปรูปนี้จำไม่ได้แล้วว่าเรียกว่าอะไร อยากรู้ลองอ่นดูด้านล่างนะอีกสักรูปก่อนกลับอีกสักรูปกับป้ายด้านหน้าอุทยานครับกว่าจะได้มาซึ่งรูปนี้ขอบอกว่าเหนื่อยรอติดตามต่อตอนหน้านะครับวันนี้พอก่อนเยอะแล้ว
เที่ยววัดหลวงพ่อโสธร+อุทยานแห่งชาติปางสีดา+แก่งหินเพิง ตอนที่ 2
ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว ที่นี่คนไม่ค่อยเยอะเนื่องจากบริเวณน้ำตกนั้นไม่ค่อยมีน้ำ เรียกว่าน้ำหยดดีกว่ามั้ง 555 พอดีก่อนมาไม่ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานก่อนว่ามีน้ำหรือเปล่า แต่เห็นว่ามาถึงกันแล้วยังไงก็เที่ยวที่นี่แหละเพราะว่ายังมีจุดชมวิวที่เป็นทะเลหมอกอีก ก็เลยสรุปกันว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่อเพราะไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อมากกว่า 555ก่อนเข้าไปข้างในอุทยานครับน้องออสครับ ตอนนั้นยังบริสุทธิ์ครับป้ายยังแดงอยู่เลยและก็เพิ่งล้างรถมาใหม่ ๆ ด้วยจัดแจงหาเสบียงเพื่อขึ้นไปทานข้างบนทางเข้าสู่อุทยานหลังจากที่ชำระเงินค่าธรรมเนียมของอุทยานเรียบร้อยแล้วก็ลุยกันเลย ที่แรกที่เจอเป็นน้ำตกปางสีดาครับเส้นทางเข้าไปยังน้ำตกครับเนี่ยครับสภาพน้ำตกครับ ดำปี๋เลย 5555ถ้ามีน้ำน่าจะสนุกนะยังมีเด็กลงไปเล่นได้ด้วยอ่ะ อิอิอันนี้เค้าขอโชว์ยกหินครับไปนั่งกินอะไรกันเพลินๆ สักพักก็ต้องถอยออกมาเพราะว่าไม่มีอะไรให้เล่นเลย 555จากนั้นก็ไปดูยังจุดชมผีเสื้อ กว่าถ่ายรูปมาได้สักตัวเนอะเหนื่อยหลังจากชมผีเสื้อเสร็จแล้วก็ไปต่อกันยังที่พักระยะทางก็หลายกิโลอยู่ และเส้นทางนั้นเป็นทางลูกรังดินแดงทั้งเส้นเลยและแล้วก็มาถึงยังจุดกางเต้นท์ ดูสภาพรถครับสุดยอดเลย เมื่อเทียบกับรูปตอนแรกจัดเตรียมกางเต้นท์กันครับมีเจ้าหน้าที่มาช่วยด้วยและแล้วก็สำเร็จเต้นท์เพื่อนบ้านครับ คนเยอะพอสมควรได้เวลาอาหารเย็นแล้ว กินเสร็จแล้วก็นั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกันจนมืด จากนั้นก็ดูหนังกัน 1 เรื่องเรื่องไชยา(ดูกับโน๊ตบุ๊ค) แล้วก็นอนขอบอกว่าตอนนอนอ่ะ นอนไม่หลับเลยอากาศหนาวมากและลมก็แรงมากด้วย เต้นท์นี่สั่นเหมือนผีหลอกเลย 5555 รุ่งเช้าของวันใหม่ตื่นขึ้นมาก็รีบไปที่จุดชมวิวเพื่อดูทะเลหมอกกันครับ หนาวสุด ๆจุดชมวิว...ขอเข้ากล้องสักรูปบรรยากาศรอบๆ ...เค้ากำลังถ่ายทำมิวสิคอยู่ 5555 หลังจากที่เก็บบรรยากาศกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับออกมา เก็บภาพกับป้ายด้านหน้าอุทยานกันสักหน่อยทิ้งทวนจากนั้นขากลับก่อนไปแวะกันอีกที่คือ แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรีที่นี่น้ำก็ไม่เยอะมาก ปกติถ้าน้ำเยอะ ๆ เค้าจะใช้ล่องแก่งกันแต่ก็ยังพอมีน้ำให้ลงเล่นสนุกกันใหญ่เลยอิอิเรียกว่างานนี้ได้ลงเล่นน้ำสนใจอยาก 555 เป็นการปิดท้ายทริปที่สนุกเอาการ
เที่ยววัดหลวงพ่อโสธร+อุทยานแห่งชาติปางสีดา+แก่งหินเพิง ตอนที่ 1
พอดีได้ไปเที่ยวตั้งแต่ต้นปีประมาณช่วงปีใหม่ แต่ยังไม่ได้มาใส่ลง blog วันนี้ว่าง ๆ ก็เลยเอาซะหน่อยทริปนี้ไปกัน 2 วัน 1 คืน ออกเดินทางตั้งแต่เช้าไปแวะนมัสการหลวงพ่อโสธรที่ฉะเชิงเทรากันก่อนเพื่อขอรับพร ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วเพราะว่าอยู่ไม่ไกลมากจัดแจงขนสัมภาระขึ้นรถครับรอบๆ วัดครับวันนั้นคนเยอะมากเพราะว่าเป็นช่วงวันหยุดด้วยหลวงพ่อโสธรต้องเข้าคิวกันยาวเลยครับกว่าจะได้เข้าไปข้างในภายในรอบๆถ่ายรูปเก็บไว้สักรูปรองเท้าต้องถอดไว้ข้างนอกเท่านั้นด้านนอกมีร้านขายวัตถุมงคลเยอะแยะเลยซื้อหลวงพ่อโสธรมาห้อยไว้ในรถชุดนึงด้วยแต่จำราคาไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่อันนี้เป็นโฉมหน้าผู้ร่วมเดินทาง หลังจากที่ไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยรับบุญกันทั่วหน้าแล้วเราก็เดินทางไปจุดมุ่งหมายอีกแห่งนั้นก็คืออุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว