Qua'Os 's Archives
Group Blog
 
All Blogs
 

RE: วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง

กระทู้อ้างอิง:

บทความ : วันที่ผู้ถูกลืมปลดปล่อยความเกลียดชัง
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5364305/X5364305.html

-----------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 35

เอาง่ายๆ เลย

ปัญหาเฉพาะของคุณคือ กำลังยึดติดอยู่ในวงจรของความเป็นเหยื่อ-ความเป็นผู้ล่า
อยู่ในความขัดแย้งระหว่างการเป็นตัวของตัวเอง-การเปรียบเทียบ
ความขัดแย้งของอุดมคติ-ความเป็นจริง

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันก็มีอยู่จริงทั้งสองขั้ว! แต่มันเป็นแค่ส่วนนึงของโลกก็เท่านั้น โลกนี้ ดาวเคราะห์ดวงนี้ หรือแม้แต่สังคมมนุษย์ หรือแม้แต่สังคมไทยของเรานี้ก็ตาม ก็ไม่ได้ไร้เหตุผลหรือโหดเหี้ยมเย็นชาขนาดนั้น

ธรรมชาติและโลกนี้ ยังมีที่ยืนให้สิ่งต่างๆ ที่แตกต่างหลากหลายกันออกไป อย่างกว้างขวางมากกว่าที่เราคิด ยังสามารถรองรับและยอมรับอะไรๆ ตั้งแต่ที่เราเองคิดว่าชั่วสุดๆ จนไม่สมควรมีอยู่ ไปจนถึงดีสุดๆ จนเหมือนเป็นไปไม่ได้

ทั้งหมดนี้มันเริ่มมาจากใจเรานั่นแหละ จะแก้ได้ก็ต้องเริ่มที่ใจเราก่อน

ซึ่งมันยังไม่จำเป็นต้องไปฝึกอัพเกรดตัวเองให้ร่างกายแข็งแกร่ง เท่ ฉลาด ฯลฯ หรืออะไรด้วยซ้ำ

แต่ขอให้เข้าใจว่าเราจะทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร

จากคุณ : QuaOs - [ 30 เม.ย. 50 21:01:29 ]

-----------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 55

เอาล่ะ สหาย

สุดท้ายของวันนี้ ขอฝากให้ไปคิดกันเป็นการบ้าน (เผื่อคนอื่นๆ ด้วย)
ในฐานะที่นี่เป็นถิ่นนักวิทยาศาสตร์ อยากให้คิดพิจารณาด้วยเหตุผล ไปตามลำดับ:

(1) คิดว่าประชากรส่วนใหญ่ในโลก ระหว่างเป็น "คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย" กับ "คนที่มีความสามารถ ต่อสู้เก่ง มีความเข้มแข็ง เป็นผู้นำ เท่ เอาตัวรอดได้ ฯลฯ" พวกไหนมีมากกว่ากัน? มากกว่ากันแค่ไหน?

(2) คนทั่วๆ ไป มีโอกาสแค่ไหนที่ตั้งแต่เช้าเขาออกมาใช้ชีวิตประจำวัน (ไปเรียน/ไปเที่ยว/ไปทำงาน ฯลฯ) กันด้วยอาการหวาดวิตก ว่าวันนี้จะโดนทำร้ายหรือเหยียบย่ำแบบไหนบ้าง?
มีโอกาสแค่ไหนที่คนเราอยู่ดีๆ เดินออกมาในที่สาธารณะหรือตามถนนหนทาง ตรอกซอย ที่ไม่ได้เสี่ยงภัยเป็นพิเศษ จะถูกอันธพาลเดินเข้ามาหาเรื่อง เข้ามาตบหัวหรือรีดไถ?
จะมีโอกาสแค่ไหนที่คนเราจะใช้ชีวิตโดยการไม่มีปากไม่มีเสียง ไม่กล้าเถียงแย้งใครๆ เพราะกลัวว่าถึงเถียงชนะก็จะถูกอีกฝ่ายเย้ยหยันด้วยการใช้กำลังตอบ?

(3) ถ้าเรารู้สึกว่าต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หรือวังวน วงจรอุบาทว์อะไรบางอย่างซ้ำๆ เหมือนถูกกลั่นแกล้งจากชะตากรรม (เช่น ต้องเจอแต่พวกใช้กำลังตัดสินปัญหา โดยที่ตัวเองรังเกียจและไม่มีความสามารถในการใช้กำลัง) โดยที่คนอื่นทั่วๆ ไปเขาแทบไม่ได้เจอ ไม่ได้รับรู้อะไรอย่างคุณเลย (แต่ความจริงแล้วเขาก็อาจจะเจอวังวนซ้ำๆ ที่แตกต่างรูปแบบออกไป ที่เป็นปัญหาของเขาอยู่นั่นแหละ)
มันมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่กำหนด "โลก" หรือ "มิติ" ของเราให้แตกต่างไปจาก "ค่าเฉลี่ย" ของคนทั่วๆ ไป??

ถ้ามันไม่มีต้นสายปลายเหตุอะไร หรือเป็นเหตุผลที่เราไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลง ได้แต่ยอมจำนนเท่านั้น
มันก็คง "เปล่าประโยชน์" จริงอย่างที่คุณว่า แต่มันก็ "เปล่าประโยชน์" พอกัน ที่จะไปเรียกร้องทวงถามความยุติธรรมจากคนเดินดินคนอื่นๆ ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้เหมือนกัน

ผมไม่ได้พูดถึงความถูกความผิดอะไร ผมพูดถึงแต่ความ "เปล่าประโยชน์" เท่านั้น

นอกจากคุณจะคิดว่า คนอื่นๆ ทั้งโลกเป็นผู้มีอิสระ ได้รวมหัวกับ "ชะตากรรม" เพื่อกลั่นแกล้งคุณที่เป็นทาสของ "ชะตากรรม" เพียงคนเดียวเท่านั้น ... ซึ่งถ้าแบบนั้นก็ลองคิดสักนิดว่า เรามีความสำคัญอะไรขนาดไหนที่มันจะต้องเป็นยังงั้น? ถ้าเราสำคัญขนาดนั้น เราก็ไม่ใช่ "ผู้ถูกลืม" หรือ "ผู้ไร้ความสำคัญ" แล้วไม่ใช่หรือ??

แต่...เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่มีเหตุผล? และจะรู้ได้ยังไงว่าเหตุผลนั้นเราไม่สามารถไปเปลี่ยนทิศทางของมันได้? และทำไมถึงคิดว่าเราไม่มีกำลังที่จะสร้างความแตกต่างอะไรได้เลย??

ผมไม่ได้พูดถึงความพยายามที่จะอัพเกรดตัวเองให้เท่ เก่งฉกาจ แข็งแกร่ง ฯลฯ อะไรทั้งนั้น ผมพูดถึงความพยายามที่จะทำความเข้าใจกับกลไกของโลก ความเป็นไปของโลกกับชีวิต ต้นสายปลายเหตุของสิ่งต่างๆ ซึ่งกับเรื่องการ "คิด" คุณก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว

แล้วคุณได้ทำไปให้ถึงที่สุดหรือยัง? หรือพอใจแค่กับเหตุผล ข้อมูล ความรู้เห็นเท่าที่หามาได้ แล้วมันลงล็อคกันกับความเชื่อที่คุณอยากจะเชื่อ ความติดอยู่กับวงจรของการเป็นเหยื่อสังเวยผู้เสียสละของคุณเท่านั้น??

แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 50 01:59:56

จากคุณ : QuaOs - [ วันแรงงาน 01:57:57 ]




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 2:11:23 น.
Counter : 152 Pageviews.  

RE: ถ้าคนไทยแลกดินแดนกันอยู่กับต่างชาติ?

กระทู้อ้างอิง:

ลองเปลี่ยนดินแดนกัน ไทยอยู่เขตหนาว ฝรั่งอยู่เขตร้อน..จะเป็นยังไงครับ
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5274973/X5274973.html

-----------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 9

ผมเห็นว่าเวลามีประเด็นพวกนี้ จะชอบมีคนด่วนตั้งสมมติฐานแบบรวบรัด คิดเองเออเองอย่างประชดประชันว่า "ต่อให้สลับดินแดนกันอยู่ตั้งแต่แรก แต่คนไทยก็คือคนไทย คงหวังให้เจริญได้ยาก" ฯลฯ

ซึ่งที่จริงแล้ว เรารู้ได้ยังไงว่าต้องเป็นยังงั้น?

อะไรล่ะ ทำให้คนไทยเป็นคนไทย ฝรั่งเป็นฝรั่ง อย่างที่เป็นอยู่?

เราจะนิยามให้ชัดได้มั๊ย?

เพราะสายพันธุกรรม? หรือจะคิดว่ามีชุดของ "ดวงวิญญาณ" หรือ "บุคคล" เป็นกลุ่มๆ ฝูงๆ ที่ถูกตีตราก่อนมาเกิดแล้วว่า "สูเจ้าต้องไปเกิดเป็นชนชาติที่เรียกว่า คนไทย ซึ่งถูกกำหนดมาแล้ว (จากใคร??) ให้เป็นชนชาติที่รักสบาย ขี้เกียจ และไม่มีทางเจริญ ไม่ว่าจะไปอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม"


โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า "การศึกษาประวัติศาสตร์เชิงวิทยาศาสตร์" ที่มีคนเอามาลงในกระทู้นี้ น่าสนใจและสมเหตุสมผลกว่าวิธีคิดแบบเหมาเอาง่ายๆ แบบนั้นอยู่มาก:
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5268336/X5268336.html

จากคุณ : QuaOs - [ 31 มี.ค. 50 11:30:10 ]





 

Create Date : 31 มีนาคม 2550    
Last Update : 31 มีนาคม 2550 11:38:08 น.
Counter : 136 Pageviews.  

RE: ว่าด้วย "คำหยาบ"

กระทู้อ้างอิง:

คำหยาบ เกิดขึ้นจากอะไรครับ
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5261921/X5261921.html

ถ้าคำหยาบกับคำสุภาพในปัจจุบัน ถูกนำมาสลับกัน
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5270305/X5270305.html

-----------------------------

ความคิดเห็นที่ 19

ตามความเข้าใจของผม

- คำแต่ละคำ เสียงแต่ละเสียง มีคุณสมบัติพื้นฐานที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ต่างกัน
- การสมมติให้คำไหนเป็นคำหยาบ มักจะเกิดจากการเชื่อมโยงเปรียบเทียบความหมายของคำนั้นๆ ในค่านิยมของสังคมขณะหนึ่งๆ เป็นปัจจัยหลัก รวมกับการที่คำนั้นสามารถใช้ถ่ายทอดอารมณ์ในลักษณะ "กระแทก" ได้เป็นปัจจัยเสริม
- เมื่อบรรดา "ผู้ดี" พากันบัญญัติ "ภาษาสุภาพ" ขึ้นมา ก็มักจะเลือกเสียงที่ฟังดูนุ่มนวล คือเอาไปใช้ด่าแล้วสื่ออารมณ์ได้ไม่ถึงหรือไม่เต็มที่
- แต่ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า พอบัญญัติภาษาระดับ "สุภาพ" ขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็ดันไปเปรียบเทียบให้ภาษาที่ชาวบ้านเขาเคยใช้พูดกันทั่วไป ให้กลายเป็น "หยาบ" ไปซะงั้น (เป็นนัยยะแฝงของการเหยียดชนชั้นนั่นแหละ)
- พอเกิดการเปรียบเทียบ การแบ่งแยกขั้วขึ้นแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นค่านิยมที่ต่อต้านกันอีกทีว่า "การใช้ภาษาสุภาพแสดงถึงความดัดจริต ไม่จริงใจ" อะไรต่างๆ นานา
- นานไป สังคมยอมรับการบัญญัติ แบ่งแยกชั้นเหล่านี้ มีการบันทึกโปรแกรมทับเข้าไปใน Collective Consciousness&Unconsciousness ก็เลยเกิดเป็นความรู้สึกที่ "เหมือนจะเป็นธรรมชาติ" ว่าคำนี้ "หยาบ เลว" โดยพื้นฐาน คำนั้น "สุภาพ สูง" โดยพื้นฐาน
- ความจริงแล้ว คำที่สมมติกันว่าหยาบ ถ้าพูดในบริบทและเจตนาที่อ่อนโยน มันก็สูงได้ คำที่สมมติกันว่าหรูเลิศ ถ้าพูดในบริบทและเจตนาที่มุ่งร้าย มันก็เลวได้ทั้งนั้น

เหตุเป็นเช่นไร ผลย่อมเป็นเช่นนั้น ฯ

แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 50 12:29:02

แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 50 12:27:39

จากคุณ : QuaOs - [ 30 มี.ค. 50 12:23:35 ]





 

Create Date : 31 มีนาคม 2550    
Last Update : 31 มีนาคม 2550 11:14:55 น.
Counter : 138 Pageviews.  


QuaOs
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add QuaOs's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.