ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า! หนังคนละม้วน “มาดามเกต” รับช็อก! “ยุ้ย รจนา” แทงข้างหลังใส่ร้ายจนโดนสังคมประณาม ประกาศลั่นชีวิตต่อจากนี้ขอตัดขาด ลบทุกความทรงจำ พ้อนำตัวมาเลี้ยงดูเพราะมนุษยธรรม แต่กลายเป็นงูเห่าฉกกัดไม่ปล่อย ทำดีแต่ไม่ได้อะไร เสียทั้งเงิน - ชื่อเสียง - สุขภาพจิต

จากกรณีที่อดีตนางแบบโลก “ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา” ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ระบุว่าได้หนีออกมาจากบ้านของ “มาดามเกต พิมพ์ลดา ยอดไชยเกียรติ” แฟนคลับที่พาไปเลี้ยงดู เพราะรู้สึกอึดอัดเหตุอีกฝ่ายมีพฤติกรรมเหมือนไล่ตนทางอ้อม อีกทั้งตนยังไม่มีงาน ไม่มีเงิน จนทำให้ต้องระเห็จออกมาจากบ้านพร้อมกับคุณแม่ เร่ร่อนนอนวัดจนเป็นที่น่าเวทนา

ล่าสุดคู่กรณีอย่าง “มาดามเกต” ก็ขอโอกาสเคลียร์ผ่านรายการ A-POP เที่ยงบันเทิง ณ สถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี เอชดี ซอยอรุณอมรินทร์ 39 ยืนยันยุ้ยขาดการรักษาทำให้อาการกำเริบ พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง พ้ออุตส่าห์นำตัวมาเลี้ยงดูแต่กลับโดนแทงข้างหลัง ประกาศลั่นขอตัดขาดจากกันนับแต่วันนี้

“ความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้ ก็ยังรักยุ้ยดีอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยทะเลาะกันค่ะ แต่ ณ วันนี้ออฟฟิศของเรา ที่ให้ยุ้ยกับแม่อยู่เราไม่ได้อยู่ด้วย แต่จะเข้าไปดูบิลน้ำไฟเข้าไปเคลียร์บิลดูจดหมายดูเอกสารสักครั้งหนึ่ง แต่ทุกวันจะโทร. หายุ้ย ถ้าไม่ได้เข้าไป ก็จะต้องพูดคุยด้วยในฐานะคนดูแลใกล้ชิดว่าพัฒนาการของยุ้ยเป็นยังไงบ้าง แต่สองเดือนมาแล้ว สองนัดมาแล้วไม่ได้ไปกับยุ้ย ก็คิดว่ายุ้ยไม่ได้ไปหาหมอไงคะ มันเลยเกิดอาการพูดจาวกวนแบบนี้ ยุ้ยอาจจะไม่ได้รับยา เพราะเรามีข้อมูลว่ายุ้ยไม่ได้ไป ยืนยันว่าไม่เคยทะเลาะกันไม่มีการตบตี จะตบตียังไงเราสูง 159 ยุ้ยสูง173 ไปสู้กับยุ้ยเราก็ตายสถานเดียวสิ ยุ้ยตัวใหญ่มากนะ ถามว่าไล่ไหม ไม่เคยปริปากไล่สักคำ ไม่เคยคิด ตั้งแต่วันแรกเมื่อออกจากโรงพยาบาล ไปรับยุ้ยกับญาติแล้วก็สามี คุยกับคุณหมอวันนั้นได้ซื้อพวงมาลัยสดให้ยุ้ยไหว้เจ้าที่ของโรงพยาบาลว่ายุ้ยตั้งสติให้ดีนะ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเข้ามาแอดมิดกับโรงพยาบาลนี้ จากนี้ไปให้ยุ้ยหายขาด ให้ทำมาหากิน ทำอาชีพเลี้ยงตัวเองซะอย่าเข้ามาอีก เพราะ 15 ปีแล้วที่วนเวียนเข้าๆ ออกๆ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”

“จุดแตกหักคือเราเข้าไปที่ออฟฟิตคืนวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมาประมาณ 1ทุ่มเข้าไปทำธุระ 5 นาทีแล้วก็กดออดประตูยุ้ยก็วิ่งมาเปิดให้ ครั้งแรกเลยที่เราเห็นเขา คือเขาอาการไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่ากำลังทำธุระข้างบน แล้ววิ่งมาข้างล่างเลยลนลานรึเปล่าก็คิดอย่างนี้ ลักษณะเหมือนนอาการไบโพล่าร์ เป็นแบบลุกลี้ลุกลน ไม่สบสายตา เราก็เฉยๆ เพราะว่าสามีจอดรถอยู่หน้าบ้าน เสร็จปุ๊บ ยุ้ยก็มาบอกเราว่าจะโท.รหามาดามอยู่พอดีเลย ก็พูดปากคอสั่น เขาบอกว่าเขาจะไปต่างจังหวัดจะไปวิปัสสนา ไปอยู่ในป่าสัก 2 อาทิตย์”

“ปกติเราไม่เคยเห็นเขาไปนะ เขาบอกว่าจะไปต่างจังหวัดสัก 2 อาทิตย์ จะเอากุญแจบ้านไว้ที่ไหน เราก็ถามว่าจะไปวันไหนละ ทำไมถึงร้อนรนขนาดนี้ เขาบอกอีก 3 วันถึงจะไป เราก็บอกว่าถ้า 3 วันไปเวลาไหนก็โทร.บอกจะได้บอกได้ว่าให้เอากุญแจบ้านไปไว้ที่ไหน เขาก็บอกว่าอีก 3 วันเพื่อนจะมารับ พอคำว่าเพื่อนจะมารับ เราก็เริ่มสงสัยทันที เราซักถามเขายาวว่าเพื่อนยุ้ยชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ยังไงถามหมด”

เผยกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ายุ้ยพาผู้ชายร่างใหญ่มาขนของตอนตี 4 ก่อนหนีออกจากบ้าน รับตกใจเพราะที่บ้านมีสินค้ามูลค่าหลายล้าน
“เราถามเพราะเป็นห่วง แล้วเขาก็บอกว่าเพื่อนเจอกันในโรงพยาบาลสมเด็จ ยุ้ยไม่อยากจะพาดพิงพูดเรื่องราวของเขาเยอะไม่อยากจะให้มาดามรู้ เราก็ถามว่ายุ้ยจำได้ไหมครั้งที่แล้วยุ้ยอยู่กับเราก็โดนข้อหาจากสังคมมากมาย ครั้งนี้ถ้ายุ้ยจะไปไหนยุ้ยควรบอกกับเรานะเพราะยุ้ยอยู่ในการดูแลของเรา อย่าทำให้มีปัญหามีข่าวเสียอีก ยุ้ยต้องบอกว่ายุ้ยอยู่ไหน ปลอดภัยดีไหม ไปกับใครวันไหน สุดท้ายแล้วเราคุยกับเขาประมาณ 1 ทุ่ม ตอนตี 4 มีกล้องวงจรปิดในบ้านจับภาพได้ว่ายุ้ยพาผู้ชายร่างกายกำยำเข้าบ้านช่วงระยะเวลาตี 3-4 มาขนของในบ้านไปใส่รถที่จอดเทียบอยู่หน้าบ้าน คือขนของยุ้ยนั่นแหละค่ะ แต่ว่าบ้านเราตรงนั้นเป็นสต็อกสินค้ามูลค่าหลายล้านบาททุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดแล้วไม่มีคนอยู่ มีแม่กับยุ้ยแค่สองคนที่อาศัยอยู่ช่วงนั้นนะเขาเอาคนอื่นคนนอกเข้ามาขนแล้วเอากุญแจบ้านไปทิ้งไว้กับเด็กปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บ้าน เราไปซื้อของที่ปั๊มนี้ทุกวันก็ไปเจอเด็กปั๊ม เขาก็วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าพี่มาดามครับพี่ยุ้ยเอากุญแจมาฝากไว้กับกะกลางคืนตอนตี 4 เราก็ตกใจว่าทำไมคุณไปกลางคืนไหนบอกอีก 3 วันมีเพื่อนมารับ ทำไมพูดแล้วไปเลย ตอนนั้นมือสั่นไปหมดเลย ตกใจว่ายุ้ยไปไหนยังไง เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จับกุญแจวิ่งไปที่ออฟฟิต พอขึ้นไปข้างบนปรากฏว่าของก็ไม่มี เหลือแต่ซากที่นอนของแม่เขา เราก็เลย โทร.หาสามีว่าขึ้นมาข้างบนหน่อยยุ้ยเก็บของไปหมดแล้ว แฟนพี่ก็บอกใจเย็นๆ”

“ถ้ายุ้ยคิดได้เองทำไมยุ้ยไม่คิดตั้งแต่วันแรกเดือนแรกหกเดือนแรกที่อยู่กับเรา ณ ปัจจุบันนี้ยุ้ยอยู่กับเราร่วมปีแล้วนะคะ ก่อนหน้านั้นทำไมยุ้ยคิดไม่ได้ว่าเราร้าย ทำไมคิดไม่ได้ละว่าเราดุเรากักขังเขาเพราะสถานที่นี้ยุ้ยอยู่มาตั้งแต่ต้น สภาพเดิม บรรยากาศเหมือนเดิม ทุกไมยุ้ยคิดไม่ได้ว่าเราร้ายหรือไล่หรือแววตาดุดันกรี๊ดกร๊าดใส่เขาอย่างที่ข่าวออกมา”

ยันไม่เคยใช้ชื่อเสียงยุ้ยหากิน เพราะอีกฝ่ายไม่เคยทำอะไร
“ทุกวันนี้เราทำมาหากินเลี้ยงยุ้ยค่ะ ยุ้ยไม่เคยทำมาหากินอะไรช่วยเราเลย ค่าใช้จ่ายอย่างบ้านที่เขาอยู่ ค่าน้ำคาไฟเดือนประมาณ 3 พัน เราออกค่าน้ำเดือนละ 3 พัน ดูแลเรื่องอาหารการกิน ไข่ ปลากระป๋อง มาม่า น้ำ ข้าวสาร ทุกอย่างมีสำรองไว้ให้ กระติกน้ำร้อนหม้อหุงข้าวมีให้ถ้ายุ้ยอยากกินอะไรนอกเหนือจากนี้ ข้างๆ บ้านเป็นร้านอาหาร เป็นร้านส้มตำยุ้ยลงบิลได้เลยเดี๋ยวเรามาเคลียร์เองทุกเดือนเพราะหน้าบ้านเราให้ร้านส้มตำเขาวางขายของ แต่ยุ้ยไม่ค่อยกินหรอกอาหารพวกนี้นานๆ ครั้งเพราะเขาเป็นนางแบบอินเตอร์”

เผยสาเหตุเป็นเพราะยุ้ยกลับมาใช้โทรศัพท์ อีกทั้งมีคนยุยงอยู่เบื้องหลัง วางพล็อตเรื่องให้ตนเป็นนางมารร้าย
“เราก็ยังมึนๆ อยู่นะว่าทำไมยุ้ยถึงเปลี่ยนถึงดื้อในระยะเวลากระชั้นชิดเพราะว่าตอนที่ไปรับยุ้ยออกมาจากโรงพยาบาลยุ้ยก็มีสติสัมปชัญญะดีนะคุณหมอบอกว่ายุ้ย คุณเป็นโรคประสาทเกี่ยวกับสมองคุณห้ามใช้โทรศัพท์ เพราะถ้าสัญญาณโทรศัพท์จะทำให้สมองคุณยิ่งเบลอยิ่งเพี้ยนจัด ห้ามใช้ แล้วยุ้ยก็บอกผู้สื่อข่าวบอกทุกรายการว่ามีอะไรให้ติดต่อมาดามเกต ยุ้ยใช้โทรศัพท์ไม่ได้ แต่ว่าวันนี้ยุ้ยไปออกข่าวว่าเรากีดกันไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ตรงกัน หนังคนละม้วน ณ วันนี้ทำไมเหตุการณ์ถึงเกิดขึ้นพัลวันกลับตาลปัตรไปหมด เพราะยุ้ยมีโทรศัพท์ใช้แต่ไม่ใช่ของเขาเพราะพี่ชายเขากับเราไม่ให้ใช้เพราะปัญหาเกิดจากการใช้โทรศัพท์ ถามว่ายุ้ยเอาโทรศัพท์ที่ไหนมาใช้ ตอนนี้ยุ้ยมีแม่มาอยู่ด้วย แม่มีมือถือใช้ ยุ้ยเอามือถือแม่ โทร.หาคนโน้นคนนี้ก็เลยเป็นเรื่อง

“ข่าวที่บอกว่ากักขัง หน่วงเหนี่ยวเขา ทำให้เราดูเป็นนางมารร้ายมาเลยนะ เราไม่เคยกักขังค่ะ ยุ้ยอยู่อิสระ เข้าออกได้ 24 ชม.บ้านทั้งบ้านเราให้ยุ้ยกับคุณแม่อยู่ โยนกุญแจให้เลยค่ะ ยุ้ยสามารถเดินได้ตั้งแต่ 7 โมงเช้ายัน 4 ทุ่มหรือบางคืนเดินทั้งคืนด้วยซ้ำค่ะ ช่วงนี้ขาดยาแล้ว ชนวนเหตุที่ทำให้เขาออกจากบ้าน เราคิดว่าเป็นบุคคลที่ 3 4 5 ที่ยุ้ยคบอยู่ซึ่งเป็นนักข่าวกลุ่มเก่าที่กำลังมีข้อพิพาทกับเราเรื่องคดีอยู่ นอกจากเป่าหู คงต้องขายไอเดีย ยืมมือยุ้ยมาทำลายเราเรื่องของคดี ซึ่งมันเกี่ยวโยงกัน แต่ถ้าจะให้เท้าความ คือวันที่ 16 ธันวาคม ยุ้ยมีรายการรายการหนึ่งที่โมโน 19 เราไม่ว่างก็เลยติดต่อน้องประสานงานให้ลงมารับยุ้ยกับแม่ข้างล่างตึก แล้วพอขึ้นไปกับแม่อัดรายการประมาณ 10 นาทีก็มีการพูดคุยกับนักข่าวคนนี้ แล้วเขาก็มีการแลกเบอร์กัน หลังจากนั้นกลับมายุ้ยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เราคิดว่ายุ้ยคงไม่ได้ปรึกษาว่าจะเอายังไง แต่ทางโน้นคงวางพล็อตเรื่องให้ ทำให้ยุ้ยต้องทำแบบนี้

“หลังจากเจอรายการวันนั้น ยุ้ยหลบหน้าเราไม่ค่อยเจอเรา แล้วพอเราบอกซ้ายยุ้ยจะไปขวาเพราะยุ้ยเข้าใจว่าไม่ซบบ้านเราแล้ว มีที่ซบใหม่แล้ว ความคิดของเขาเรารู้ดีมาตลอดว่าอยู่กับเรา เราพยายามจะสร้างให้เขามีธุรกิจ มีรายได้ มีกิจกรรมชีวิตจะได้ไม่เหงาไม่เบื่อ ก็เลยสร้างแบรนด์หมวกให้เขาขาย ให้รู้จักค้าขายแต่เขาไม่ชอบ เราก็เลยรู้ว่าเหมือนยัดเยียดให้น้อง แต่เรามองถึงอนาคตข้างหน้าเรามองว่าการมีธุรกิจมีโอกาสเป็นสิ่งที่ดีกับเขาเพราะว่าการเป็นนางแบบไม่สามารถจะหากินได้ตลอดชีพ ก็อยากจะสร้างโน่นสร้างนี่ให้เป็นที่ติดตาแฟนคลับ แต่คนพวกนั้นกลับมาออกข่าวว่าเราเอายุ้ยมาหากิน แต่จริงๆ ไม่ได้เอายุ้ยมาหากินเพราะเราลงทุน 100%”

รับสุดช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ขอลบความทรงจำเกี่ยวกับยุ้ยออกจากชีวิตทั้งหมด พ้อกลายเป็นงูเห่าฉกกัดไม่ปล่อย
“อาการของโรคนี้ก็คือเดินทั้งวัน ดื้อ ตาขวางพูดไม่รู้เรื่อง วกวน ทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจอยากทำ โดยที่ไม่แคร์ใครและก็ระแวงคนใกล้ตัวซึ่งเรารับแรงปะทะเกี่ยวกับการระแวงของเขาบ่อย เขาก็จะมีดีๆ ร้ายๆ นะแต่ว่าตอนที่ออกมาจากโรงพยาบาลก็มา 2-3 เดือน แต่ช่วงหลังตั้งแต่มีคุณแม่มาอยู่ด้วยเราก็ไม่ได้ตามตูด 24 ชม.ก็คือยกภาระหน้าที่ตรงนี้ให้แม่ลูกเขาดูแลกัน ใกล้ชิดกันอย่าลืมว่าถ้าสื่อมองย้อนกลับไปหลายปีที่แล้วต้องจำได้ว่ายุ้ยไม่เคยเจอแม่เขามานานแสนนาน แม่เขากับเขาไม่ถูกกันแต่ไหนแต่ไร”

“ถามว่าเสียใจไหม เสียใจมาก คือช็อก ไม่เคยคิดว่าการเลี้ยงดูคนๆ หนึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นงูเห่าที่ฉกกัดเราไม่ปล่อย แล้วเราก็มองว่าสุดท้ายแล้วเราทำแต่เสียชื่อเสียเสียง เสียเงินเสียสุขภาพจิตทุกอย่างเพื่ออะไร วันหนึ่งเราก็ไม่ได้อะไรจากยุ้ย แถมยุ้ยมาทิ่มแทงข้างหลังเที่ยวป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าเราเลว ชั่ว กักขัง เรามองว่ายุ้ยทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ”

“พูดได้เลยว่าเราเลี้ยงยุ้ยตอนแรกเพราะสงสาร เขาไม่มีใครจริงๆ เลี้ยงเพราะมนุษยธรรม แม้กระทั่งสัตว์สี่เท้าหลงเข้าบ้านเรายังเลี้ยงถูกไกม แล้วนี่คือคน ก็สงสารเขาแต่ความสงสารวันนั้นมาทิ่มแทงเรา ให้สังคมประณามว่าเรารังแก แต่บอกได้เลยเราไม่เคยรังแก เรารักเขาโอบกอดเขา ให้ทุกอย่างที่ชีวิตเขาขาดแม้กระทั่งความอบอุ่น แต่เรารู้มาตลอดว่าเขาพยายามที่จะตั้งเกราะกำบังไม่อินกับเรา เขาอยากจะมีแค่ที่พักอาศัยที่ซุกหัวนอนเท่านั้นเอง”

“หลังจากนี้ตัดขาดเลยค่ะ ลบทุกสิ่งทุกอย่างที่ชื่อรจนา เพชรกัณหา ออกจากชีวิต ออกจากครอบครัวรวมไปถึงพยามยามดีลีตจากความทรงจำด้วย เพราะเรามองว่าเราให้เขาเกินร้อยแต่เขาให้เราแค่ 10 %เพราะก่อนหน้านี้ที่เราดูแลแล้วเขามีปัญหา คือตัวเรามีปัญหากับพวกนักข่าวกลุ่มเก่า เราก็บอกให้ยุ้ยช่วยโทรศัพท์ไปหานักข่าวแล้วบอกว่าอย่ามายุ่งกับเราได้ไหม เพราะเขาทำลายเรา อยากให้ยุ้ยอยู่ตรงกลาง แต่ยุ้ยบอกว่าเขาไม่โทร. เพราะเขาไม่ได้มีปัญหากับเขา มาดามมีปัญหาก็ต้องเคลียร์เอง ผ่านมาไม่กี่เดือนก็เจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งวันนี้มันเป็นเรื่องจริงที่ยุ้ยกลับไปหาเขา แล้วเขาก็บอกสอนพล็อตเรื่องให้ทุกอย่างให้ยุ้ยพูดว่าเราร้าย เรายังงงเลยว่าสายชาร์จแบตเขามาอยู่กับเราได้ยังไง เพราะเราไม่เคยขึ้นไปข้างบนบ้าน เราปล่อยให้เขาอยู่อิสระกับแม่ อยู่แบบส่วนตัว”

“แล้วที่บอกว่าไปบีบบังคับอยากรู้ว่าบีบตอนไหน เพราะว่าอาทิตย์หนึ่งเราไม่เคยเข้า บางทีเข้าไปตอน 2 ทุ่มซึ่งเขาขึ้นข้างบนแล้วเราไม่มีโอกาสได้เจอเขาเลย แล้วตัวเรารักษาสัจจะเพราะเราไม่เบลอ เพราะเราไม่เคยเทกยา เราบอกทุกคนว่ายุ้ยอยู่ในการดูแลของเรา และเราจะทำให้ดีที่สุด อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย อะไรที่สนับสนุนได้ก็จะ แล้วกลายมาเป็นว่าเราไล่เขาออก ที่ตรงนั้นมันเป็นที่ว่างทั้งตึกไม่มีคนอยู่แล้ว มันจะเปลืองอะไร น้ำไฟเราก็จ่ายอยู่แล้ว ก็ให้เขาอยู่เอาบุญก็แค่นั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไปไล่เขา”

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!





Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2558 22:29:55 น. 0 comments
Counter : 1556 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]