Group Blog
 
All Blogs
 
บันทึกหลวงพี่:ขั้นตอนการเป็นพระ ทั้งเครียด ทั้งขำ ทั้งอิน


ส่วนที่ยากของการบวชคือ ขอบรรพชาอุปสมบท

นอกจากคำสวดภาษาบาลีที่จำยาก เหล่าญาติโยมด้านหลังมานั่งกดดัน
เหล่าพระสงฆ์จำนวน 10 กว่ารูป ถือเป็นความกดดันที่ไม่ค่อยจะได้เจอบ่อยๆ
โดยผมมีพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาสวัด โอ้ววว กดดันคูณสองง


(พระอุปัชฌาย์ (/อุ-ปัด-ชา/ หรือ /อุบ-ปัด-ชา/)
คือพระรุ่นใหญ่ที่มีสิทธิรับรองการบวช ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องได้รับจากแต่งตั้ง
มีเงื่อนไขเช่น ต้องอยู่เกิน 10 พรรษา เป็นต้น)




การสวดก็เริ่มขึ้น!!...

โดยสองบทแรกที่สวด จะเป็นการแจ้งขอบวช เพื่อสลัดความทุกข์
มีกล่าวถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยระหว่างนั้นเราจะถือผ้าที่จะบวช
และทำให้ผมได้รู้ว่า "ทุติ" แปลว่า ครั้งที่สอง , "ตติ" แปลว่า ครั้งที่สาม 


ระหว่างที่ท่องก็มีลืมบ้าง ผิดบ้าง พระท่านก็ช่วยบอก และแก้ไขให้ถูกเป็นระยะ
(แต่ในใจนี้ วิ่งปั่นป่วนไปหมด นึกว่าออดิชั่นเข้าค่ายเพลง)

หลังจากผ่านจุดนั้นมา พระอุปัชฌาย์จะรับผ้าไตร
(ผ้าสามชิ้นที่สำคัญที่สุดของการเป็นพระ)
แล้วท่านจะให้โอวาทถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์



และส่วนที่ผมชอบที่สุดคือ 
"เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ " 
คำแปลคือ "ผม, ขน, เล็บ, ฟัน, หนัง"

ท่านเล่าว่า "มันเป็นสิ่งไม่จริง สักวันมันก็เน่าเหม็น"
ซึ่งผมค่อนข้างเห็นด้วย 
เพราะว่าคนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากจนเกินไป
ดูจากได้จากธุรกิจความงามที่ขึ้นเต็มไปหมด ตรงกับห้าสิ่งนี้เต็มๆ 
คำสอนในพุทธ บอกให้ไปอย่าสนใจมันมาก.....

  อืม...  เห็นด้วยครับ...



ต่อมา เราก็จะกล่าวขอพร ขอศีลไปอีกช่วงนึง 
โดยช่วงกล่าวศีล 10 ข้อนี้ ผมเครียดเหงื่อตกเลยทีเดียว

"ปาณาติปาตา เวระมะณี"  

ครับ 
ส่วนใหญ่คงจำกันได้ "หนึ่ง ห้ามฆ่าสัตว์  ถ้ายุงกัดเราก็ตบ  ทุ้ยยย!"
ไม่ใช่เพราะมันมีสิบข้อนะครับ เพราะพระท่านจะกล่าวนำก่อนรอบนึง แล้วเราจึงว่าตาม


ตรง "เวระมะณี" ครับ  

??  ?? ??



เพราะว่าถ้าให้ถูกต้องตาม ภาษาบาลี สำเนียงมคธ ต้องออกเสียงว่า



"เว ระ มะ นอยยย "  

..
...

สำหรับท่านผู้ที่ไม่เคยบวช มันจะฮามาก (ผมเคยขำตอนงานบวชเพื่อนเช่นกัน)
ขนาดแม่ของผม ซึ่งสมควรจะต้องปลาบปลื้ม ขณะที่ลูกชายกำลังบวชอยู่นั้น
ยังต้องนั่งกลั้นขำแทบตายอยู่ด้านหลัง (มาสารภาพตอนสึก)


คำว่า "นอยยย" ตอนหางเสียง ต้องดึงกลับมาให้ออกเสียง "นี"

ลองทำดูครับ "นอยยยยยนี"



(สำเนียงมคธ คืออะไร??
มคธคือชื่อแคว้นสมัยที่พระพุทธเจ้าประสูติ
ปัจจุบันอยู่แถว อินเดียตอนเหนือ บังคลาเทศ เนปาล
คงคล้ายๆกับศาสนาคริสต์ที่ใช้ภาษาละตินกระมัง?)



หลังจากนั้นเราจะกล่าวขอนิสัย ว่าเป็นผู้เชื่อฟังในโอวาทท่าน

ต่อมาก็มาถึงช่วงที่ทุกคนเคยได้ยิน

"นัตถิ ภันเต" , "อามะ ภันเต"
ซึ่งแปลว่า "ไม่เป็น ขอรับ" , "ใช่ ขอรับ"

โดยจะถามเกี่ยวกับ เจ้าเป็นโรคนู้นไม๊?, เจ้าเป็นมนุษย์รึเปล่า? (มะนุสโสสิ๊), 
ขอพ่อแม่หรือยัง?, อายุยี่สิบหรือยัง? เป็นต้น


พอเสร็จจากช่วงนี้ ก็มาถึงบทสุดท้ายจะได้ใจความว่า
"กระผม ขอการอุปสมบทต่อสงฆ์ ขอสงฆ์โปรดอนุเคราะห์ 
ยกกระผมขึ้นสู่ความเป็นภิกษุด้วยเถิดขอรับ"
กล่าวทั้งหมดสามครั้ง  วิธีการบวชคร่าวๆก็จะจบลง....



พอเสร็จพิธีญาติโยม ก็จะมาถวายนู้นนี้ ถ่ายรูปกับพระใหม่
แต่คุณเชื่อไหม? พอห่มผ้าเหลืองแล้วผ่านพิธีนี้ 
เหมือนผมถูกตัดออกจากโลกปัจจุบันไปเลย
(แน่นอนหลังจากไม่พกมือถือ ชีวิตก็เหมือนถูกตัดไปครึ่งนึงแล้ว)

เดินไปกอดแม่ก็ไม่ได้ ท่าทางต้องสำรวม หนังหัวยังแสบๆ 
คุณที่สูงอายุกว่าในทางโลก ยังยกมือไหว้เรา  (พระห้ามยกมือรับไหว้ชาวบ้าน)

นี่คงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตผมแน่นอน....





Create Date : 05 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 6:04:22 น. 0 comments
Counter : 774 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกนายตอ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาคุยกันได้ที่นี้

https://www.facebook.com/CapybaraRat
Friends' blogs
[Add ลูกนายตอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.