มันมาอีกแล้ว ความเครียด
  มันมาอีกแล้ว
ความเครียดรุนแรง สะสม เต็มไปหมด
มาเป็นระลอก แบบไม่ไปไหน ไม่หาย ไม่น้อยลง
มันเป็นความกดดันสาหัสที่ทรมานมาก
ความรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ตลอดเวลา แต่น้ำตามันไม่ไหล
ซึ่งแม่งทรมานกว่าร้องไห้ออกมาอีก
ในใจมีตัวสีขาวกับตัวสีดำกำลังเคลื่อนไหว เหมือนในการ์ตูนน่ะ
ตัวสีขาวจะพูดเสมอว่า จงสมบูรณ์แบบ จงรับผิดชอบ จงถูกต้องเป็นระเบียบเสมอ จงไม่สาย จงไม่ช้า จงมีประสิทธิภาพ จงคิด จงคิดล่วงหน้า จงพร้อมเสมอ
ตัวสีดำ เมื่อก่อนมันอ่อนแอ มันบอกให้ขี้เกียจ แต่เสียงมันเบา มันบอกให้ออกนอกทาง แต่คำพูดของมันไม่มีน้ำหนัก
ปัญหาตอนนี้ 
ตัวสีขาวมันแข็งแกร่งมากขึ้น มันมีเยอะอย่างที่มันบอกและเคลื่อนไหวรอบๆตัวมากขึ้น มันบอกให้มีประสิทธิภาพ และจงสมบูรณ์แบบ 
ในขณะที่ตัวสีดำมันใหญ่ขึ้นมาก แถมเสียงดัง กักขฬะ และไม่รู้จักเลือกเวลาเลย มันบอกให้ออกนอกทาง มันบอกให้ละเลยความรับผิดชอบเสีย ยิ่งไม่ฟัง ก็เหมือนป้อนอาหารอะไรให้มันบางอย่างจนตัวมันใหญ่ขึ้นอีก
หลายๆวันมานี้ ตัวสีดำถ้าจะให้เปรียบเทียบ ก็เหมือนมันมีรูปร่าง มันขยับอยู่จากตัวเรา 
มันบอกว่า ถ้ามันมีปืน มันจะชักปืนมารัวยิงเข้าขมับแบบไม่ยั้ง
แถมด้วยจินตนภาพประกอบเสียอีก
มันช่างง่ายดายเพียงเท่านั้น
แล้วเจ้าจะหลุดพ้นจากวังวนนี้ มันบอก 
ตัวสีดำมีความคิดเลวทรามต่ำช้าเยอะแยะที่ส่งเข้ามา 
ในขณะที่ตัวสีขาวไม่ฟัง ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมใดๆทั้งสิ้น ตัวสีดำจะพูดอย่างไรก็ช่าง
ตัวสีขาวจะพูดว่า จงสมบูรณ์แบบเสมอ
จงสมบูรณ์แบบ
คำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นคำที่จัญไรที่สุดเท่าที่มนุษย์จะยึดเอามาเป็นกรอบการใช้ชีวิต ไม่มีพลาด ไม่มีพลั้ง ไม่ผิดเด็ดขาด
------
ผมกำลังหนี หนีจากตัวเอง
หนีจากตัวสีขาวตัวสีดำที่เริ่มมีตัวตนชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
อยากหนีไปจากชีวิตที่เป็น ชีวิตที่มี 
ไปมีชีวิตเพื่อตัวเอง ให้ตัวเองสักแป๊บก็ยังดี
------
พี่ขาวบอกว่าไม่ มึงทิ้งความรับผิดชอบไปไม่ได้
พี่ดำบอกว่าไป มึงไปโง่ๆอย่างนี้แหละ หนีออกไปเลย
------
ผมแค่อยากอยู่กับตัวเอง
ผมแค่อยากมีเวลาคิด เวลาไม่คิด
อยากพัก อยากมีหน้าที่พัก
------
ในขณะที่เข็มวินาทีเดินตลอดเวลา
หน้าที่ก็มีวิ่งเข้าหาทุกนาที
และชีวิตก็สั้นลงเรื่อยๆ
เมื่อปีที่แล้วก็ใกล้ความตาย ใกล้ความตายไปอย่างยิ่ง
แล้วที่เหลืออยู่จะเหลืออีกเท่าไหร่
เราจะผ่านปีนี้ไปไหม
------
ตัวดำมันชักแขนออกมา ไวมาก เอาปืนที่ไหนมาไม่รู้ ลั่นใส่ขมับ
ตัวขาวบอกว่า แม้แต่ตายมึงก็ผิด มึงมีความรับผิดชอบอยู่ และความตายไม่ใช่สิ่งสมบูรณ์แบบ
------
ในขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ ผมกำลังไล่ตามอะไรหรือเปล่า หรืออะไรกำลังไล่ตามผมมา
สิ่งยึดเหนี่ยวทางใจก็ไกลออกไปทุกที
ในขณะที่สำคัญ สำคัญอย่างยิ่ง
ก็เป็นผู้ชายที่ไร้ความสำคัญสิ้นดี
ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจสักนิด
ความรักมันเป็นความสุขจริงหรือ
ในเมื่อความอยากมันทำให้ทรมานขนาดนี้
มาก ก็ทุกข์
น้อย ก็ทุกข์






Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2559 16:45:05 น.
Counter : 521 Pageviews.

1 comment
หลังจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
คืนวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม หลังจากเหนื่อยอ่อนมาจากพิษไข้ที่ประทุมาตั้งแต่วันพฤหัส พยายามจะข่มตานอน ร้อนก็ไม่ร้อน หนาวก็ไม่หนาว
สามทุ่ม เริ่มมีอาการเจ็บเสียดหน้าอก เคยเกิดเหตุการณ์เจ็บอกนี้มาก่อนจากความเครียดที่สะสม แต่ปกติเป็นแล้วก็หายไป
คืนวันเสาร์ที่26 กรกฎาคม อาการเจ็บอกไม่หายไป แต่กลับเสียดรุนแรงขึ้น พร้อมกับอาการหายใจไม่สะดวกคิดแล้วอีกว่าจะไปโรงพยาบาล แต่ก็เปลี่ยนใจพยายามนอน จนผลอยหลับไปทั้งเจ็บในเวลาราวๆสองนาฬิกาของวันที่27
เช้าวันอาทิตย์ที่27 ตื่นมาสดชื่น อาการเจ็บทุเลา แต่พอทำกิจกรรมต่างๆสักสิบนาทีมันก็มาอีก และมากขึ้นด้วย จึงทานข้าวเช้าและตัดสินใจไปโรงพยาบาล
อาการแน่นอกคุณหมอคาดว่าอาจจะมาจากที่ไอมากเนื่องจากหวัด (ตรวจพบตอนหลังเป็นไข้หวัดใหญ่B) แต่เพื่อความรอบคอบจึงให้ทำ ekg
กราฟekg ถึงมือคุณหมออีกท่าน วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นอาการเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ให้เข้า icu และให้ยาสลายลิ่มเลือด จากนั้นก็ referมาเชียงใหม่ในรถพยายาล
วินาทีที่ฟังว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ความคิดผ่านเข้ามาว่าเรากำลังจะทิ้งทุกๆคนไปหรือ ครอบครัวเป็นทุกอย่าง งานและสิ่งอื่นๆกลับเป็นเพียงภาพมายา เรากำลังจะทำให้ทุกคนต้องลำบากหรือ
เดินทางไปเชียงใหม่ในรถพยาบาล คลื่นความวิตกกังวลเป็นที่สัมผัสได้ แต่ทุกๆคนยืนยันที่จะเข้มแข็ง
ไปโรงพยาบาลมหาราช ทำ echo scan หัวใจ พบว่ามันแปลกที่กราฟเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบชัดๆ แต่echoไม่เหมือน
คุณหมอตัดสินใจทำการฉีดสีเพื่อตรวจเส้นเลือดในเย็นนั้นทันที ผ่านการสอดท่อเข้าข้อมือไปถึงหัวใจ กระบวนการมันฟังดูน่ากลัว แต่เมื้อเวลามาถึง ความกลัวต้องอยู่ในที่ของมันเท่านั้น
ในขณะที่ทำ พยายามไม่สนใจความกลัวด้วยการแบ่งสมาธิจดจ่อกับการท่องสูตรคูณแม่หก นับไปได้ถึงห้าร้อยปลายๆก็เสร็จสิ้น
Coronary normal!
เส้นเลือดหัวใจตีบไม่ได้เป็น
วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ทำความรู้จักกับ myocarditis โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อ (ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออะไร)
หลังจากนั้นก็รักษาตามกระบวนการ นอนccu หนึ่งคืนและย้ายมาแยกเดี่ยวอีกจนถึงวันศุกร์ที่31
กลับมาบ้านพักรักษาตัวกับอาการแน่นอกที่ค่อยๆทุเลา ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ จนผ่านมาวันนี้ 1 เดือน สภาพ95% ได้
คนเราชอบลืมไปว่าชีวิตเรานั่นสั้นนัก
ลองคิดดูสิ หากเรามีชีวิตอีกสิบปีเราจะทำอะไร
อีกสิบวัน
อีกสิบชั่วโมง
หรืออีกสิบนาที
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวและหวงแหนยิ่ง กลับไม่ใช่สิ่งที่เราพยายาม ไขว่คว้า และค้นหาเลย
ความธรรมดาจึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุด
************
บันทึกไว้เพื่อเป็นความทรงจำ
27/8/58
*************
นั่นเป็นบันทึกความทรงจำสำหรับรอบที่ผ่านหนึ่งเดือน
หลังผ่านมานากว่านั้น
Myocarditis ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ ของชีวิต
ปรับปรุงตัวให้ใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น ปั่นจักรยานมากกว่าเดือนก่อนป่วยเสียอีก ด้วยการควบคุมความหนักของการเต้นหัวใจ หุ่นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ น้ำหนักค่อยๆลด 
แต่ยังมีความเครียด เจ้าภัยร้ายที่ไม่หายไปง่ายๆ
ด้วยความที่คิด คิดเยอะแยะ คิดตลอดเวลา อยากจะหยุดก็ทำไม่ได้ ก่อนนอนก็คิดนั่นคิดนี่
สงสัยนั่งสมาธิจะดี




Create Date : 09 ตุลาคม 2558
Last Update : 9 ตุลาคม 2558 9:42:20 น.
Counter : 562 Pageviews.

0 comment
เมื่อไหร่จะถึงคิวกู
หนึ่งเดือนมานี้
ทำงานหนักอย่างมาก ล่วงเวลา ในเวลา เดินทาง สะสมทั้งประสบการณ์ ความเครียด กำลังใจ และความสนุก
การทำงานหนักไม่ใช่ความทุกข์เสมอไป มันสนุกได้ถ้าเราชอบมัน
แต่บางครั้ง ความสุกกับความเครียดก็เดินทางร่วมกันได้ดีอย่างยิ่ง
หากการงานดี เงินเดินดี แล้วจะห่วงอาวรณ์อะไร มีคำถามถามไว้ เครียดไปทำไม มีอะไรให้เครียด
บางครั้ง การมีนิสัยต้องทำทุกอย่างให้ดี ให้เร็ว ให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้นตอของความเครียดทั้งมวล
นิสัยที่ดีต่องานเช่นนี้ควรจะแก้ไขหรือไม่ ยากรู้
...................
หลังจากชีวิตผ่านหลักกิโลเมตรที่สามมาอย่างสวยงาม
หนทานที่ผ่านมีทั้งลุ่มทั้งดอน ขรุขระบ้าง ราบบ้าง สบายบ้างลำบากบ้าง
แต่ก็ถือว่าหนทางดีกว่าผู้คนอีกมาก
แล้วจะเครียดไปเพื่ออะไร
...................
หลังจากอายุสามสิบปี
มีข่าวของพี่ชายคนนึงเส้นเลือดในสมองแตก
ทางการแพทย์ถือว่าลมหายใจที่ระรวยรินในตอนนี้
นั้นดับสูญไปแล้ว
ฟังแล้วเศร้า
เขียนตอนนี้ก็เศร้า
พลันเหมือนตื่นจากความฝันหอบหนึ่ง
นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
เรากำลังดิ้นรนอยู่ในวังวนแห่งทุกข์
สำเร็จก็ดี ล้มเหลวก็ดี
ชนะก็ดี พ่ายแพ้ก็ดี
ทุกข์ทั้งสิ้น
หาเงินมาบริโภค ตั้งมั่นไว้สำหรับความมั่นคงของครอบครัวและชีวิตอีกหลายชีวิตภายใต้ความรับผิดชอบ
หากคิดแค่นี้ เงินที่หามาได้ก็มากเกินพอ เกินจำเป็น 
แล้วเรากำลังสนุกอย่างเมามันส์ในการ "ทำให้ดีที่สุด และชนะทุกอุปสรรค" ในการงาน เพื่อแสวงหามาซึ่งสิ่งที่ไม่จำเป็นกระนั้นหรือ
.............................
หากคำสอนที่ได้ยินได้ฟังมาเสมอในทางโลก 
จงมุ่งมั่นกับงาน ขยันขันแข็ง 
จงใช้ปัญญาในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
จงมีผลกำไรอย่างยั่งยืน
ฯลฯ
จึงเป็นคำสอนที่ถูกหรือ
ในเมื่อมันพาเราไปไกลจากสุขทางธรรมทุกที
และทำให้เรา ไม่เตรียมพร้อมที่จะตาย
แม้ชีวิตที่เราเลือกนั้นจะพาความตายเข้ามาใกล้เรามากขึ้น
ข่าวพี่ชายที่เส้นเลือดสมองแตก
ประโยคแรกที่ดังขึ้นในหัวทันที
แล้วคราวของฉันล่ะเมื่อไหร่ คงอีกไม่นานดอก
ในเมื่อตอนนี้มีทั้งปวดหัว ความดันสูงเป็นบางครั้ง หงุดหงิดเมื่องานไม่เป็นไปดังหวัง แน่นอก หายใจไม่ออกเป็นบางที
.............................
เรากำลังเดินทางไปในทิศที่ถูก แต่วิธีการผิด
ใช่ไหม
เมื่อไหร่จะถึงคิวกู เสียงในหัวดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง



Create Date : 13 มกราคม 2558
Last Update : 13 มกราคม 2558 10:49:39 น.
Counter : 408 Pageviews.

0 comment
ชีวิตหลังอาน
หนึ่งปีที่แล้วพอดี มีคนชวนไปปั่นจักรยาน จากลำปาง ไปฟาร์มแกะฮักยู อำเภอเกาะคา ระยะทาง 24 กิโลเมตร ตอนนั้นไม่มีความสนใจในจักรยานเลย ไม่คิดด้วยว่าจะปั่นไป "ไกล" ขนาดนั้นได้ 
แต่ก็เอา คิดว่า เป็นอย่างไรก็เป็นกัน จักรยานญี่ปุ่นมือสองที่ตั้งอยู่ที่บ้านก็เอามาปัดฝุ่นเสียหน่อยก็คงใช้ได้ GIANT เชียวนะ เกียร์ก็ชิมาโน่ เจ๋งมากแล้ว (ตอนนั้นยังไม่มีความรู้เรื่องจักรยานเลย) แล้วก็วางแผนให้คนมารับ เอาน่า ขาไปขาเดียวก็สุดยอดละ ตอนนั้นคิดอย่างนั้น
และแล้ววันที่ต้องเดินทางก็มาถึง ตื่นตั้งแต่ตีห้า ทั้งๆที่เวลานัดนั้นหกโมงครึ่ง มาถึงก่อนเวลาและนั่งรอ พรอมกับคำถามในใจที่ว่า จะถึงไหมหนอ
ออกเดินทาง สามกิโลเมตรแรกเป็นเรื่องสนุกไป คุยไป ถุงมือไม่มี หมวกไม่มี เกียร์ไม่ดี แต่ก็สนุกกับการขี่ไปเรื่อย ๆ และอยู่ท้ายแถว หลังจากนั้น เป้นทะเลทุกข์แห่งความเจ็บปวดจากการขี่จักรยานผิดขนาด การปั่นที่ขางอตลอด และความเร็วระดับช้ามาก พร้อมกับความคิดในหัวตลอดเวลา เมื่อไหร่จะถึง เมื่อไหร่จะถึง อีกกี่กิโล เมื่อไหร่จะถึง
........
ความรู้สึกในวันนั้น คือโลกเดิมๆ ในรูปแบบสโลว์โมชั่น ทุกอย่างช้าลง การเวลาหยุดหมุน อะไรๆ ข้างทางก็สวยงามไปหมด สิ่งนี้ผ่านทุกวัน สิ่งนี้ไม่เคยเห็น ทั้งๆ ที่มองทุกวัน ไม่รีบร้อน ถึงเมื่อไหร่ก็ถึง ไม่เร็วไม่ช้าก็ไม่เป็นไร
ชีวิตบนอานในช่วงเวลาสั้นๆ มันเปลี่ยนอะไรในตัวฉันไปบ้างหนอ
........
จากวันนั้น จักรยานก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เสือภูเขามีโช้คคันแรกก็เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้าน กับเงินประมาณสองหมื่นบาท ขี่แล้วรู้สึกดีจัง เช็ดทุกวัน มองทุกวัน เห็นแล้วก็สวย มองมุมไหนก็ดูดี
ไมล์จักรยาน ชุดจักรยาน หมวก ถุงมือก็เข้ามาเป้นสมาชิก มีโอกาสก็ออกไปปั่น ทำระยะทางมากขึ้นเรื่อยๆ ปีนเขาลูกที่สูงชันขึ้นเรื่อยๆ ชนะตัวเองคนเก่าทุกครั้งที่ปั่น ทุกครั้งที่ปั่น ก็จะกลายเป็นคนใหม่
........
และแล้ว จักรยานก็มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หลังจากนั้นก็มีเสือหมอบท๊อปอลูมิเนียม ชุดเกียร์ 105 เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ที่บ้าน เนื่องเพราะอยากปั่นไกลขึ้นและเร็วขึ้น ระยะทางหลังจากเจ้าขาวมาก็มากขึ้น ขี่สนุกขึ้น ตอนนี้วิ่งได้ระยะทางราวแปดสิบกิโลเจ็บปวดแล้ว วันแรกที่เจ้าขาวมาเราไปเขื่อนกิ่วลม สนุก เจ็บปวดและทรมาน แต่สนุก
.........
เจ้าขาว MERIDA SCULTURA 904 size 50 อยู่ด้วยกันได้ราวๆ หกร้อยกิโลเมตรก็มีคนมาขอซื้อไป ขายทันทีเพราะขนาดมันคร่อมใหญ่ ชนเป้า ทุกวันนี้ยังคิดถึงรถคันนี้อยู่ รถสวย ขี่นุ่ม และเป็นเสือหมอบคันแรก
จนถึงจุดนี้ จักรยาน ได้กลายมาเป็นความชอบ กลายมาเป็นความรัก หลังจากเฝ้าถามตัวเองมาตั้งนาน ว่าเราชอบอะไรจริงๆ หนังสือ กีตาร์ ไม่เคยลึกกับอะไรมากๆ
จักรยาน กลายมาเป็นความรักไปเสียแล้ว
////
เวลาที่อยู่บนจักรยาน สมาธิจะมุ่งตรงไปที่ถนนข้างหน้า รอบขา ความเร็ว สิ่งต่างๆรอบตัว ปัญหาต่างๆ หายไป ลืมไป และเลือนไป สารแห่งความสุขหลั่งไหล ทรมานนะ เวลาเหนื่อย หัวใจเกินขีดจำกัด ขึ้นดอยชันๆ หายใจไม่ทัน แต่กลายเป็นความสุขเมื่อมันผ่านพ้น เสพย์ติดความทรมานไปซะงั้น
////
ตอนนี้ กำลังมีความสุขกับ BMC SLR02 ลูกรักคันใหม่ ระยะทางทำการตอนออกทริปราวๆร้อยกิโล
////
ผมตกหลุมรักแล้วล่ะสิ




Create Date : 03 ตุลาคม 2557
Last Update : 3 ตุลาคม 2557 14:59:43 น.
Counter : 1477 Pageviews.

0 comment
ชนะ เพื่ออะไร
บทความหลายที่
ประสบการณ์ชีวิตหลายครั้ง
สอนในสิ่งที่ไม่เคยจำได้
โทสะ โมหะ อารมณ์ ความไม่มีสติ กลับเป็นผู้บงการทุกครั้งไป
---------
เขาสอนว่า
บางครั้งบางครา การเอาชนะให้ได้ถึงที่สุด สุดท้ายผู้นั้นก็แพ้
ชัยชนะ ไม่ใช่การได้มาเสียเสมอไป
ชัยชนะบางครั้งก็เป็นการสูญเสีย
---------
ความยินยอมพ่ายแพ้บางครั้ง ก็ทำให้ผู้นั้นชนะทั้งกระดาน
---------

มีหลายครั้งที่ฉันต้องชนะ ต้องชนะเท่านั้น ผู้ที่ประทะคารมกันนั้นโง่เง่าเต่าตุ่นและทิฐิแรงเหมือนสิงโตหนุ่ม เถียงข้างๆ คูๆ แบบที่ไม่ได้รู้จักการใช้เหตุและผล สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจทำให้ฉันหงุดหงิด ความมืดบอดของตาปัญญาในผู้อื่นทำให้ฉันหงุดหงิด
และแล้ว
บางครั้งฉันก็เสียเพื่อนไป
บางครั้งฉันก็เสียคนรักไป
บางครั้งฉันก็เสียลูกค้าไป
และบางครั้งฉันถึงกับเสียตัวตนส่วนหนึ่งของฉันไป
---------
ฉันมีความต้องการชนะมากเกินไป มันฝังลึกลงไปในกมลสันดาน ชนะมามากครั้ง แต่เสียอะไรไปมากกว่านั้น

---------
สงสัยต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอด
ชนะศึกเล็กๆ ไม่ได้แปลว่าชนะสงคราม
แล้วในความเป็นจริง
ไม่มีสงครามห่าเหวอะไรทั้งนั้น
---------
ชนะแล้วได้อะไร
แพ้แล้วเสียอะไร
ไม่ชนะ ไม่แพ้ ไม่แสวงหา
ชีวิตดำเนินต่อไป
มันก็เป็นเช่นนี้



Create Date : 02 ตุลาคม 2557
Last Update : 2 ตุลาคม 2557 12:27:05 น.
Counter : 489 Pageviews.

1 comment
1  2  3  

Peerarak
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]