All Blog
Taipei Facts
Taipei Facts

บล็อกนี้เป็นการ recap สิ่งต่างๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับไทเป (เพราะเราเที่ยวแค่ในไทเป)

นึกอะไรออกจะมา edit เพิ่มเรื่อยๆนะจ๊ะ


MRT
  • เราพักในย่านซีเหมิน เจอคนที่นั่งรถเข็นไฟฟ้าเยอะมาก เป็นรถเข็นแบบที่คนนั่งสามารถควบคุมรถได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีคนเข็น ซึ่งสาเหตุนี่้เราว่าทำให้นำไปสู่factข้อถัดไป
  • แต่ละทางออกMRT จะมีบอกว่า แต่ละทางออกมีบันได / บันไดเลื่อน / ลิฟท์หรือไม่ เช่น ทางออก1 มีแต่บันได ก็จะมีแต่รูปบันได ทางออก2 มีทั้งบันไดและบันไดเลื่อน ก็จะมีรูปของทั้ง2อย่าง 
  • หากคุณลงMRT ทางออก1 แล้วค้นพบว่าออกทางออกผิด ให้บอกเจ้าหน้าที่ว่าจะไปออกอีกทางออกหนึ่ง เขาจะให้บัตรผ่านเพื่อที่เราจะไม่ต้องเสียเงินแตะบัตรเข้ามาใหม่ (อันนี้รู้เพราะลง MRT CKS ทางออก.. เพื่อไปกินข้าว แล้วจะไป CKS ต่อ เลยถามที่ info MRT ว่าต้องไปทางไหน เขาเลยให้บัตรผ่านมา แล้วไปออกทางออกที่ออกไปแล้วเจอ CKS เลย)
  • waiting line MRT มีเส้นบอกดีมาก คือปกติมันต้องต่อคิวเป็นแถวตอนยาว แต่ถ้าตรงไหนมันไม่มีพื้นที่ให้ต่อแถว มันจะมีเส้นขาวกั้นให้ต่อแถวแนวนอนแทน
  • MRT ของที่นี่ไม่ใช่รถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะมันวิ่งบนดินด้วย
  • Priority seat ที่นี่ คนไม่นั่งซี้ซั้วจริงๆ ส่วนมากถ้าไม่เข้าข่าย สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงวัย ก็ไม่มีใครไปนั่งเลยนะ
  • ตู้เติมเงินบัตรeasycard หรือซื้อตั๋วรถไฟฟ้า มีเมนูภาษาไทยจ้าาาา

  • มักจะเห็นคนคุ้ยถังขยะตลอด เดาว่าเขาคุ้ยหาใบเสร็จ ซึ่งท้ายใบเสร็จสามารถลุ้นลอตตอรี่ต่อได้ (ตอนเราอยู่CKSเจอคนเข้ามาขอใบเสร็จด้วย เพราะเขาเห็นใบเสร็จในมือเรา ดีว่าพนักงานร้านชาไข่มุกมาช่วยไล่ไป)
  • คนที่นี่บางคนถึงแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่สำเนียงดีมากกก accent ชนะเลิศ + คนที่เรามองแล้วเดาว่าน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ กลับสื่อสารไม่ได้ แต่คนที่เราไม่ได้คาดหวังว่าจะสื่อสารได้ กลับคล่องปร๋อเลยจ้าาาา เช่น แม่ค้าขายปลาหมึกทอด



Create Date : 30 มีนาคม 2562
Last Update : 30 มีนาคม 2562 20:00:39 น.
Counter : 433 Pageviews.

0 comment
[Hongkong Diary] : Day4 ♤ 25Dec15 ♧ the coldest day ...


Day4

วันนี้เราคิดไว้ว่าจะใส่เดรสไปเที่ยว แต่พอใส่ออกไปกินข้าวเช้าเท่านั้นแหละ รู้เลยว่าไม่ไหวววว มันหนาวเกิน

ลมก็แรง ต้องกลับมาเปลี่ยนชุด แล้วยิ่งเราจะขึ้นเขาด้วย มันก็ต้องยิ่งหนาวกว่าเดิม 
วันนี้เราวางแผนไว้ว่าจะไปขึ้นกระเช้านองปิงและเดิน City Gate outlet





ไปถึงแล้วแถวรอซื้อตั๋วยาวมากกก (ตอนกลับลงมา แถวยาวยิ่งกว่า) ดีที่เราซื้อตั๋วล่วงหน้ามา
รอไม่นานเท่าไร เจอคนไทยเยอะอยู่เหมือนกัน 

เชื่อแล้วจริงๆว่าที่นี่สะอาดมาก เพราะก่อนเราขึ้นกระเช้าแต่ละตู้ พนักงานจะมาเช็คข้างในตู้ และถูพื้นทุกครั้ง ! 







วิวจากในกระเช้า เราขึ้นกระเช้าแบบธรรมดา ก่อนไปก็คิดตลอดว่าจะน่ากลัวมั้ย 
เพราะเรากลัวความสูง และมันต้องข้ามเขาตั้งหลายลูกกว่าจะถึงพระใหญ่
แต่พอขึ้นแล้วไม่รู้สึกกลัวเลย กระเช้าก็ไม่โคลงเคลง 
นั่งกระเช้าไปประมาณ 20-30 นาทีก็ถึง
แต่รู้สึกว่านั่งไม่นานเลบ เพราะนั่งชมวิวไปเรื่อยๆ









พอขึ้นมาถึงแล้วอากาศค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว น่าจะเป็นเพราะขึ้นที่สูง
เห็นนักท่องเทียวใส่เสื้อโค้ทขนเป็ดเลยทีเดียว



เราไม่ได้ขึ้นไปไหว้พระใหญ่ ไหว้อยู่ข้างล่าง
แล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ



เดินจนเจอวัดหรือศาลเจ้าไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร
ก็เลยเข้าไปไหว้พระ ขอพร



ช่วงที่เราไปเป็นตีมคิตตี้ บางกระเช้าจะเป็นลายคิตตี้ด้วย
(ตั๋วขึ้นกระเช้าก็ลายคิตตี้)



หลังจากเดินเล่นเสร็จแล้วก็นั่งกระเช้าลงกลับ
ขาลงคนน้อยมาก แทบจะไม่ต้องรอคิว

แล้วก็มาเดินที่ City Gate Outlet ต่อ คนเยอะมากๆ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล
เราไม่ได้ซื้ออะไร 

แล้วก็กลับมาจิมซาจุ่ย กินข้าวและเดินเล่นช้อปปิ้งต่อ


มื้อสุดท้ายที่ฮ่องกง เป็นร้านในจิมซาจุ่ย 



ถ้าจำราคาไม่ผิด จานละประมาณ 26-28 HKD
อร่อยดี แต่อยากให้เขาราดน้ำราดมาเยอะๆกว่านี้

ข้าวหมูกรอบ



ข้าวหน้าเป็ดย่าง



กินเสร็จก็แวะไปกินน้ำมะม่วงร้านโปรดทิ้งท้ายก่อนกลับไทย





แก้วละ 9 HKD



หลังจากนั้นก็กลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วนั่งรถบัสไปสนามบิน
ค่ารถคนละ 33 HKD รถจอดหน้าสนามบินเลย

ระหว่างรอขึ้นเครืองเราก็เดินซื้อขนมในสนามบิน


สรุปกับการไปฮ่องกงครั้งนี้

เราหนุกและเอนจอยกับฮ่องกงน้อยกว่าที่คาดไว้มาก อาหารไม่ค่อยถูกปาก แถมแพงมากกกก

แต่ชอบที่อากาศดี เย็นกว่าไทย

ที่ชอบสุดคงเป็นมะม่วงปั่น กับน้ำมะม่วงนั่นแหละ กลับไทยมาแล้วคิดถึงนี่สุด

บ้านเมืองสะอาดจริง มีคนคอยกวาดอยู่ตล๊อดตลอด

คนจีนชอบเบียดและดัน (คิดว่าคนฮ่องไม่เป็นนะ)

ร้านอาหารส่วนมาก มีเมนูภาษาอังกฤษ ร้านไหนดังๆก็มีเมนูไทยด้วย พูดไทยก็พอรู้เรื่องด้วย (ขากลับ พนง เค้าเต้อเชคอิน ก็พูดคำว่า กระเป๋า หมายถึงให้เรายกกระเป๋าโหลดเข้าเครื่อง)

รถ MTR สะดวกสุดๆ เดินทางง่าย แถมมีหลายทางออก สถานีรถไฟใต้ดินนี่ อย่างกับเป็น community mall


สรุปกับการไปมาเก๊า

มาเก๊าไม่มีอะไรเลยยยยยย มันเหมือนเมืองที่ยังสร้างไม่เสร็จนะ แต่บรรยากาศจะดูแบบ เหมือนเป็นเมืองยุคใหม่ รวยๆ 

การเดินทางในมาเก๊า เราใช้ shuttle bus ฟรีของพวกโรงแรม

สำหรับตอนนี้คิดว่าคงไม่ไปอีกเร็วๆนี้  ในอนาคตถ้ามีอะไรใหม่ๆก็อาจได้ไปอีกก็ได้



Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 21:08:11 น.
Counter : 828 Pageviews.

0 comment
[Hongkong Diary] : Day3 ♤ 24Dec15 ♧ 22nd BD in MACAU



Day3


ตอนเช้าไปขึ้นเรือข้ามฟากเพื่อไปมาเก๊า
ซื้อตั๋วที่นั่นเลย
ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ประมาณ1ชั่วโมงกว่าๆ
ที่มาเก๊าสามารถใช้เงินได้ 2 สกุลคือ HKD กับ MOP
แต่เราใช้เงิน HKD เพราะไปแค่วันเดียวและค่าเงินไม่ต่างกันมาก

พอถึงมาเก๊าก็นั่งรถบัสฟรีของโรงแรมมาลงเวเนเชี่ยน
เดินเล่นถ่ายรูปสักพัก









หลังจากนั้นก็ไปเชนาโด้สแควร์ต่อ






ระหว่างทางเดินหลงไปตรงสวนฟรานซิสจนเดินมาถึงเชนาโด้สแควร์ 
แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงซากโบสถ์เซนต์พอล
แลนด์มาร์กดังของมาเก๊า คนเยอะมากๆแล้วก็แดดแรง อากาศร้อน 



ถ่ายรูปเสร็จก็เดินมาดูโบสถ์ St.Dominics



วันที่ไปเป็นวันคริสมาสต์อีฟ เลยเจอกลุ่มคนร้องเพลงคริสมาสต์อยู่
มีการตกแต่งตามเทศกาลด้วย 





หลังจากนั้นก็เดินหาของกิน เข้าร้านไปมั่วๆ
สั่งบะหมี่น้ำมากิน ชามละ 28 HKD
รสชาติก็โอเค รสออกไปทางจืดๆ





แล้วก็แวะชิมทาร์ตไข่ ร้าน Koi kei bakery ชิ้นละ 9 HKD
รสชาติก็อร่อยปกติทั่วไป

ร้านนี้มีขนม ของกินให้เลือกซื้อเป็นของฝากมากมาย
แต่เราไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา เพราะลองชิมแล้วรู้สึกเฉยๆ





เดินเล่นอีกสักพักก็กลับเพราะไม่อยากกลับถึงฝั่งฮ่องกงดึกเกินไป



แต่ก็เจอเที่ยวเรือดีเลย์เพราะหมอกลงจัด
ทำให้กลับไปดูซิมโฟนีออฟไลท์ที่ฝั่งฮ่องกงตอน2ทุ่ม ตามที่วางแผนไว้ไม่ทัน

พอกลับมาฝั่งฮ่องกงก็ไปกินติ่มซำร้าน Man Hau ในย่านมงก๊ก
2 อย่างราคารวม 32 HKD
รสชาติเฉยๆ ออกเค็ม





แล้วก็แวะไปกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ร้านโจ๊ก seaview ชื่อดัง
น้ำเต้าหู้แก้วละ 12  HKD
ปาท่องโก๋จานละ 11 HKD





เราเลือกกินน้ำเต้าหู้เย็น รสชาติอร่อยดี เข้มข้น 
กินคู่กับปาท่องโก๋ รสชาติเข้ากันมากๆ

เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นดูวิวก่อนกลับโรงแรม






Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 21:06:35 น.
Counter : 364 Pageviews.

0 comment
[Hongkong Diary] : Day2 ♤ 23Dec15 ♧ DISNEY dream came true







[Hongkong Diary] : Day2 ♤ 23Dec15 ♧ DISNEY dream came true 


Hung Lee Restaurant > DISNEYLAND > Cater King Restaurant > มะม่วงปั่น


หนึ่งในความฝันในชีวิตเรา คือ... "ต้องไปดิสนี่แลนด์ให้ได้สักครั้งในชีวิต"

และวันนี้ ... ความฝันเราก็เป็นจริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เราตื่นเต้นมากกกกก ตอนแรกคิดไว้ว่าจะมาวันที่ 24 ซึ่งเป็นวันเกิดเราและตรงกับคริสมาสต์อีฟ

แต่คาดว่าคนน่าจะเยอะกว่าปกติ เลยมาวันนี้กันแทน

ฝันครั้งนี้ดูลงตัวมากกกก "ดิสนี่แลนด์ครั้งแรกในชีวิต ในเดือนที่ชอบที่สุด ในอากาศเย็นๆ และก่อนวันเกิดพอดี"

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการทานมื้อเช้ากันที่ Hung Lee ร้านดังซึ่งอยู่ใกล้ๆโรงแรมเรา ร้านนี้มีเมนูภาษาไทยให้ด้วย

เราสั่งมา สองอย่างคือ ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ (อร่อยมากกก เราชอบบบบ น้ำจิ้มที่ราดมากคือดีมาก ตัวก๋วยเตี๋ยวหลอดมันจะจืด พอกินกับน้ำที่ราดมาจะลงตัวมาก ต้องรีบกินตอนร้อนๆดีสุด ถ้าปาท่องโก๋ปล่อยไว้นานจะเริ่มเหนียว) และโจ๊กธรรมดาใส่หมู (เนื้อโจ๊กละเอียดมาก)


















ทีแรกกะว่าจะออกจาก รร.เร็วๆ จะได้ใช้เวลาที่ดิสนี่นานๆ แต่สุดท้ายก็ถึงประมาณ 11 โมง ซึ่งเราก็โอเคนะ เพราะต้องอยู่ถึง 3 ทุ่ม ถ้ามาเช้าไป เดี๋ยวพลังหมด

รถไฟคนไม่ได้แน่นมาก แต่ก็ไม่ได้นั่ง เด็กพร้อมรถเข็นเยอะมาก





















































































หลังจากพลุจบแล้ว เราก็ไปเล่นตรงจุดที่ปล่อยหิมะปลอมกันแปปนึง แล้วก็รอให้คนทยอยออกไปก่อน

คนแน่นมากกก ยิ่งมีรถเข็นเด็กเยอะๆด้วย ยิ่งเดินลำบาก

ก่อนเข้าโรงแรม แวะทานร้าน caterking แถวที่พัก

อาหารร้านนี้ประทับใจมาก อร่อยทุกอย่างที่สั่ง 

ทางร้านให้กาน้ำชามากับจานชาม เราก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง โชคดีที่พี่สาวที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย เขาสอนและทำให้











แล้วก็แวะลองน้ำมะม่วงปั่นอันโด่งดัง ไหนๆก็มาแล้วต้องลอง ถึงแม้จะแพงมากถึง 39 เหรียญ

แต่กินแล้วประทับใจจริงๆๆๆๆ มันอร่อยสดชื่น ไม่หวานปรี้ด





แล้วก็ซื้อชาจาก hung lee กลับมากินที่โรงแรม






Create Date : 06 สิงหาคม 2559
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 14:23:44 น.
Counter : 547 Pageviews.

1 comment
[Hongkong Diary] : Day1 ♤ 22Dec15 ♧ Hongkong for the first time





[Hongkong Diary] : Day1 ♤ 22Dec15 ♧ Hongkong for the first time 



Day 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ > สนามบินฮ่องกง > ฝากเป๋า รร. > วัด Wong Tai Sin > สวน Nan  Lian & Chi Lin Nunnery > วัด Che Kung > The Peak 



เราอยากไปฮ่องกงมานานแล้ว บินไม่ไกล ตั๋วโปรก็มีเยอะ แถมอากาศดีกว่าที่ไทยด้วย

ช่วงธันวา คือช่วงปิดเทอมของเรา ทริปนี้จองตั๋วกันเมื่อ 6 พ.ย. เลือกช่วงเวลาที่ไปคือ 22-25 ธันวา

กะจะอยู่ฉลองคริสมาสต์และวันเกิดที่นั่น และก็กลับไทยกันก่อนที่จะเป็นช่วงหยุดยาว

เราไปกันโดยสายการบิน Hongkong Airlines ไฟลท์ไป HX774 02:20

ตื่นเต้นมากกกกกกกกที่ได้ไปเที่ยว 

คาดหวังไว้ว่าจะชอบฮ่องกง และอาจจะอยากกลับไปอีก ... หลังจบทริปมาดูกันว่าเป็นไปตามที่คาดไว้ไหม


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -



วันเดินทาง  ตื่นตั้งแต่เกือบ 8 โมง แล้วก็หลับต่อไม่ได้ เซงมาก ระหว่างวันก็ไม่ง่วง พยายามนอนตอนเย็นก็ไม่หลับ

ช่วงประมาณ 2 ทุ่มเลย ลองนอนอีกรอบแบบจริงจัง เปิดแอร์ห่มผ้า สรุปหลับไปได้ 1 ชม. ก็ยังดีกว่าไม่หลับเลย

อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปแอร์พอร์ต ไปถึงก็รอเชคอิน เริ่มหิว แต่เค้าเต้อก็ยังไม่เปิดสักที 

พอเชคอินเสร็จเราก็ไปหาอะไรกินกันข้างใน .... เป็นธรรมดาเนอะที่ของในสนามบินจะแพงกว่าข้างนอกเยอะ โชคดีมากกกกกกกก ที่ใช้สิทธิของทรูแลกเซทฮอทดอกกับโค้กของแดรี่ควีนได้ฟรี ได้2 เซทด้วย เพราะใช้ได้ 2 สิทธิต่อเดือน ( เซทนี้ขายอยู่เซทละ 150 นะครัช)






เราเดินเล่นรอเวลาขึ้นเครื่องไปเรื่อย เดินดูของ Duty free อย่างเพลิดเพลิน

พอขึ้นเครื่องแล้ว แอร์ก็แจกผ้าเย็นและผ้าห่ม แล้วเราก็ขอหมอนเพิ่ม หลังจากเครื่อง take off แล้วก็แจกขนมปัง และเครื่องดื่ม 

เราเลือกน้ำแอปเปิ้ลกัน ขนมปังที่แจก เราชอบมากกกก อุ่นร้อนมากำลังดี ขนมปังก็ไม่บี้แบน

ที่สำคัญคือ ชีสสสส มันยืดมากกก  (ดูรูปประกอบสิๆ) อร่อยมากกก ตัวขนมปังจะหวานๆนิดนึง 

พอกินเสร็จเราก็พยายามนอน แต่ก็หลับๆตื่นๆตลอดทาง แปปๆก็ถึงฮ่องกงแล้ว

เป็นการนั่ง Hongkong Airline ครั้งแรก และประทับใจมาก 














ถึงสนามบิน รับกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็เพิ่งจะ 6 โมงเช้า เราต้องรอเวลาเค้าเต้อแลกตั๋วดิสนี่เปิด เลยถ่ายรูปเล่นรอ 

เราซื้อซิมมาจากไทยแล้ว เลยสะดวกขึ้นมาหน่อย พอแลกตั๋วดิสนี่เสร็จก็ไปซื้อ Airport express 

6:50 เราก็มาถึง kowloon station กัน ถือว่าเช้ามากกก 

จากนั้นก็นั่ง shuttle bus สาย K4 ไปลงโรงแรม 


















ฝากกระเป๋าเรียบร้อยก็เริ่มเที่ยวกันเลยค่ะ

8 โมงเช้า เราอยู่ใน MTR กันแล้ว ที่แรกที่ไปคือ วัด Wong Tai Sin 






พอมาถึงที่วัดก็เจอคนเยอะมาก มีกรุ๊ปทัวร์มาลงเยอะ ก็เพราะเป็นวัดดังนี่เนอะ
เราก็เดินวนไหว้ตามที่ลูกศรที่ทางวัดชี้ไว้แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ได้เดินเข้าไปดูตรงสระน้ำ แต่กำลังปิดปรับปรุงอยู่ เสียดายเลยไม่ได้เดินชมวิวสวยๆ

เราลองเดินหาเทพเจ้าที่โด่งดังเรื่องความรักไม่เจอ สงสัยจะอับโชคตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว555
แต่ก็ไม่ซีเรียส ไม่เจอก็ไม่เป็นไร

จนเดินจะออกจากวัด เห็นคนในกรุ๊ปทัวร์ลูบเท้ามังกรตรงหน้าวัดกันเยอะมาก เราก็ไม่รู้ว่าลูบเพื่ออะไร แต่เดาว่าต้องเป็นเรื่องที่ดีแน่ ไม่งั้นคงไม่ลูบกัน
เราเลยลูบตามเขาค่ะ5555

นี่คงเป็นข้อดีถ้าเดินทางไปกับทัวร์ เพราะเราจะได้ทราบประวัติ แล้วก็ข้อปฏิบัติในสถานที่ต่างๆ
เพราะอย่างเราถือหนังสือนำเที่ยวไปด้วย ก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ไว้ค่ะ
















หลังจากก็ไป  สวน Nan  Lian & Chi Lin Nunnery (สำนักนางชี) ต่อค่ะ สองที่นี้จะอยู่ติดกันเหมือนเป็นสถานที่เดียวกันเลยค่ะ
เราชอบสวน Nan Lian มากกก ประทับใจในความร่มรื่น บรรยากาศ วิวทิวทัศน์ต่างๆ
และตอนเราไปคนน้อยมากค่ะ ทำให้สามารถเดินชิวๆได้อย่างสบาย 
มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ถึงแม้จะเจอฝนตกปรอยๆ
แต่ก็ยังเดินได้สบายดีค่ะ





















เสร็จแล้วเราก็หาอะไรรองท้องนิดหน่อยแล้วไป วัด Che Kung หรือวัดกังหัน ต่อค่ะ
ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวัดดัง 
และมีของให้เลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึก หรือ ของฝาก อย่างเช่น พวงกุญแจ แต่พวกแหวน สร้อยคอจี้กังหันต้องไปซือที่โรงงาน

















จบจากวัดกังหัน เราลง MTR mongkok แวะทานข้าวกัน

ราคาต่อจานแรงมาก และรสชาติไม่ค่อยถูกปากเรา

คือรสอ่อนไป และเนื้อแห้งไป แต่ก็พยายามทานเนื้อให้หมด เพราะมันแพงมาก











แล้วเราก็กลับเข้าโรงแรม พักผ่อนกันสักแปป แล้วก็ออกไป The Peak

ดีที่เราซื้อตั๋วมาก่อนตั้งแต่อยู่ที่ไทย แต่ก็ต้องต่อแถวขึ้นนานอยู่ดี รอประมาณหนึ่งชม.

แนะนำว่าขึ้น Peak Tram แล้วควรจะนั่งค่ะ ถ้ายืนแล้วเกาะลำบากแน่นอน ทางขึ้นชันใช้ได้เลย

พอขึ้นไปถึงมันจะเจอห้างก่อน จะขึ้นไป The Peak ต้องขึ้นบันไดเลื่อนต่ออีกเยอะเลย

รู้สึกได้ถึงความสูงจนมือเท้าเย็นและเหงื่อออกเลย พอถึงแล้วอากาศดีมากเลยค่ะ

เย็นๆกำลังดี ถือว่าคนไม่ค่อยแน่นมาก เราถ่ายรูปเล่นได้สักพักก็ลง

จุดที่ต่อแถวรอขึ้นพีคแทรมกลับ ต้องรอนอกห้าง ซึ่งอากาศเย็นขึ้นจนต้องเอาผ้าพันคอออกมาใช้ รอประมาณหนึ่งชม.
















ก่อนเข้าโรงแรมเราแวะร้าน Pie & Tart ที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมและแวะเซเว่น

Milk Tart 7 HKD รสชาติเฉยๆ ตัวทาร์ตเป็นแบบฐานแป้งพายเเน่นๆ , Apple Pie ตัวแอปเปิ้ลอร่อยดี , นมเกาลูน , ชาพีช 

และก็แวะกินลูกชิ้นร้านที่อยู่ติดกับโรงแรม 10HKD เป็น street food อีกอย่างที่ขึ้นชื่อของฮ่องกง

ยืนกินกันหน้าร้านเลยทีเดียว เราว่ามัน texture คล้ายๆเต้าหู้ปลา หวานนิดๆ

















Create Date : 03 กรกฎาคม 2559
Last Update : 3 กรกฎาคม 2559 20:42:44 น.
Counter : 768 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  

แมมโม่
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



Welcome to http://www.paanporstyle.bloggang.com

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

Twins girl who love makeup

and enjoy eating

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

Thank you so much for visit our blog

✿ ❀ ✿ ❀ ✿ ❀ ✿ ❀ ✿