Group Blog
 
All Blogs
 

หลังปีใหม่ เหนื่อยกันมากมายกับบ้านหลังแรกในชีวิต

เริ่มจากมาทำงานกันได้วันเดียว วันที่ 5 ขอลางานกันเลยคร๊าบบบบ

เนื่องจากทั้งช่างมุ้งลวด ช่างม่านผ้า นัดหมายกันจะมาติดตั้งให้ได้ และด้วยเกรงว่าถ้าให้มาติดตั้งกันวันหยุด จะส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน เลยอ่ะ ลาก็ลา

ช่างมุ้งลวดมาติดตั้งช่วงเช้า โอเค ผ่านไปด้วยดี งานใช้ได้ถือว่าดีสำหรับราคานี้

ช่วงบ่ายช่างติดผ้าม่านมาติดตั้ง เนื่องจากผนังบ้านแลนด์จะใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปหรืออะไรสักอย่าง ซึ่งช่างผ้าม่านบอกว่า จะผสมหินอยู่ข้างใน เวลาเจาะก็ต้องลุ้นดวงเอา ถ้าเจอหิน ผนังก็จะกระเทาะเป็นรูใหญ่ แต่พี่ช่างผ้าม่านของ pasaya ก็นิสัยดีนะคะ รับผิดชอบงานดี มีขับรถออกไปซื้อปูนโป้วมายาแผลที่กระเทาะให้ด้วย (ถึงแม้ว่าทำแล้ว รอยแผลมันจะเห็นก็เถอะ แต่เดี๋ยวหาสีเบอร์เดียวกับบ้าน มาทาทับก็น่าจะโอ)

แถมขอคำปรึกษาเรื่องผ้าม่าน ก็แนะนำให้อย่างดี เนื่องด้วยงบน้อย พอซื้อม่านสำเร็จรูปมา เลยทำให้บางบานผ้าจะไม่พอดีกับหน้าต่าง พี่ช่างก็วัดหน้างานให้ พร้อมคำอธิบายว่า เวลาวัดต้องวัดอะไรยังไง เพื่อให้เราเอาไปหาร้านรับตัดผ้าม่านมาติดเพิ่ม (เมื่อมีตังค์)

มายลโฉมผ้าม่าน (งบน้อย) กันเลยดีกว่า

หน้าต่างหน้าบ้าน สังเกตมุมขวามือจะมีกระจกเหลืออยู่นิดนึง ซึ่งหาแบบปิดให้พอดีไม่ได้ เลยอยู่นิดนึง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ปล.1 เป็นม่านพับ ขนาด 100*160 cm ผืนละ 495 * 5 = 2,475 แต่มีบัตรส่วนลดโฮมโปร 5% ลดไปอีก 123.75 เลยเหลือ 2,351.25
ปล.2 ตอนซื้อถามพนักงานขาย เค้าบอกว่า หรือจะสั่งตัด เค้าลองคำนวนให้คร่าว ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 2,800 เจี๊ยก ถ้าชั้นติดแบบสำเร็จรูป ใช้ 2 ผืน 990 บาท บวกค่าแรงจุดละ 100 รวมแล้ว 1,090 บาทเอง โอ้วต่างกันเยอะ รอก่อนแล้วกัน



ต่อไป ประตูหลังบ้าน ใช้เป็นม่านห่วง จะได้ดูสบาย ๆ ติดออกมา อืมม สวยใช้ได้
ปล. ขนาด 160*225 cm อันนี้ไม่มีส่วนลดแล้ว ตกอยู่ 2,254.35 บาท



ต่อไปเป็นบานกระจกตาย เลื่อนหรือเปิดไม่ได้ อยู่ตรงบันได เลยใช้ม่านพับ แบบเดียวกับหน้าบ้าน



ตามมาที่ชั้น 2
ห้องหน้าบ้านใช้แบบเดียวกับ หน้าบ้านชั้น 1 แต่ปัญหามีอยู่ว่า ตรงกระจกบานเลื่อนขนาดจะพอดีกับม่านพับที่ซื้อมาพอดี 2 ผืน แต่ดันมีกระจกบานตายอยู่ 2 บาน ซึ่งจะคล้าย ๆ กับชั้น1 แต่มันมีขนาดกว้างกว่าพอสมควรประมาณ 1 ฟุตได้ พี่ช่างเลยแนะนำว่าในส่วนนี้ต้องสั่งตัดอย่างเดียว ม่านสำเร็จไม่มีขนาดเท่านี้ พี่เค้าเลยวัดขนาดให้ (ตามที่เล่าไปข้างบน)

ส่วนห้องนอนด้านหลัง อันนี้โอเคไม่มีปัญหาอะไร ขนาดหน้าต่างพอดีกับผ้าม่านที่ซื้อมา ห้องนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาอ่ะ แต่จะเป็นม่านม้วน แบบเดียวกับกระจกหน้าห้องน้ำชั้น 3 (ตามชมรูปได้จากด้านล่าง)

ขึ้นมาที่ชั้น 3 Master Bedroom
ห้องนี้ใช้ม่านจีบของ pasaya เช่นกัน ราคาโปรโมชั่น ลดเหลือ 1,995 บาท ขนาด 160*225 ซึ่งใหญ่สุดแล้ว สังเกตจากรูปจะเห็นได้ว่า ชายผ้าจะลอยสูงไปนิดนึง แต่ยังรับได้ ไว้มีเงินค่อยเปลี่ยนใหม่ แต่ใจจริงอยากติดม่านโปร่งด้วยอีกชั้น แต่คุณแฟน ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องการตกแต่งและอะไรนอกจากเรื่องของเทคโนโลยี อาทิ คอม มือถือ เครื่องเสียง ฯลฯ ย้อนถามเราว่า "เพื่ออะไร????" โอ้ววว จะอธิบายยังไงดี คิดอยู่ในใจ "ชิส์ เทอไม่เค๊ย ไม่เคยจะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงอ่อนไหวซะมั้งเรยยยย" ก็เลยไม่ซื้อก็ได้ ติดแค่ชั้นเดียว

แต่ตอนช่างมาติดตั้ง เราก็แกล้งบ่น ๆ ว่าอยากได้ม่านโปร่งอีกชั้นนึง ถ้าจะติดเพิ่มทีหลังได้หรือป่าว ช่างบอกว่า "ติดม่านโปร่งอีกชั้นจะสวยขึ้นเยอะเลย ถ้าวันหลังจะติดเพิ่มก็ไปซื้อมาติดได้ แต่ต้องซื้อขาจับราวใหม่เป็น 2 รางแค่นั้นเอง เพิ่มไม่กี่บาท"
เท่านั้นแหละ คุณแฟนทำท่าสนใจขึ้นมาทันที แหม๋...ทีชั้นพูดให้ตายไม่สนใจ



ต่อมาบานหน้าห้องน้ำชั้น3
ใช้ม่านม้วน ซึ่งตอนยังไม่ติด ดูแล้วคล้าย ๆ กันสาด แต่พอติดแล้วดูโอเคใช้ได้ผ่าน ถูกดีมีติดสารเคลือบรังสี (เรียกไม่ถูกอ่ะ) ที่สีเงิน ๆ เหมือนร่มกันแดดด้วยอ่ะ ราคาอยู่ที่ 459 บาท ซื้อมา 3 ผืน หน้าห้องน้ำ 1 ห้องนอนชั้น2 ด้านหลัง 2 รวมแล้ว 1,377 บาท อ่อขนาดอยู่ที่ 100*160 cm



สุดท้ายท้ายสุด
ตอนแรกตั้งใจจะไม่ติด เพราะเป็นกระจกบานตาย ตรงบันได้ชั้น 3 มองแล้วคิดว่าช่างคงจะติดตั้งลำบาก แต่พอไปแอบมองบ้านเพื่อนบ้าน เค้าก็ติดบานนี้กันทุกหลัง แปลว่าช่างก็ต้องสามารถติดตั้งได้ เลยไปซื้อเพิ่มมาอีก 1 ผืน ขนาด 100*160 cm 545 บาท ทำไมถึงแพงกว่าลายดอกไม้ก็ไม่รู้

ตอนติดตั้งช่างมีแอบบ่นกันว่า "โอ้วว งานเสี่ยงตายนะเนี้ยะ" แต่พี่เค้ามีความสามารถมาก เอาผ้ามารองคานแล้วเหยียบขึ้นไป เอี่ยวตัวไปเจาะ ลุ้นกันน่าดู แต่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี งานนี้เลยทิปพี่เค้าไปคนละร้อย



จบแล้ว ติดม่านเสร็จ ออกมายืนดูผลงานกันนอกบ้าน ไปยืนฝั่งตรงข้ามแล้วมองเข้ามา ยืนชมบ้านตัวเองกัน 2 คนกับแฟน (ไม่มีใครชม ก็ชมกันเอง 55+) "อืมติดม่านแล้วดูไฮขึ้นมาเลยเน้อ ดูดีนะเนี้ยะ ขนาดใช้ม่านสำเร็จรูปยังสวยขนาดนี้ ถ้าสั่งตัดจะหรูเริ่ดขนาดไหนเนี้ยะ" (ฮ่า ๆ ๆ พูดกันได้ไม่อายฟ้าดิน)

วันนั้นกลับบ้านแบบเหนื่อยมาก ขนาดแค่ยืนดูเฉย ๆ มีบ้านกับเค้าสักหลัง ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้ แต่มีความสุขค่ะ

เดี๋ยวช่วงบ่ายจะกลับมาอัพใหม่นะคะ ว่ามีอะไรคืบหน้าไปอีกมั้ง อ่านแล้วจะตกใจ




 

Create Date : 14 มกราคม 2553    
Last Update : 14 มกราคม 2553 11:12:36 น.
Counter : 6082 Pageviews.  

เย้ ๆ กู้ผ่านแล้ว ลุยกันต่อเลย

หลังจากทราบผลจากแบงค์ว่ากู้ผ่านในวันที่ 11 ธันวา

12 ธันวา ทำสัญญาจอง จ่ายค่าจอง 51,000 บาท (รูดการ์ด 50,000 + เงินสด 1,000 บาท) แต่กู้ได้ 100% ก็เท่ากับ 51,000 ก็ได้คืนทีหลัง

19 ธันวา นัดเข้าตรวจบ้าน งานยังไม่เรียบเท่าที่ควร พบบางจุดยังแก้ไม่เสร็จ บางจุดแก้แล้วแต่ไม่เรียบร้อย วิศวกรก็โอเค ช่วยตรวจอย่างดี เพราะบางจุดเราไม่เห็น แต่เค้าดันรีบชี้ให้เราดู และบอกว่า "ขออนุญาตใช้ดินสอวงไว้ได้ไหม ถ้าติดสติ๊กเกอร์ โฟร์แมนจะทำให้แค่เท่าที่ติด ขอวงด้วยดินสอเลยดีกว่า" อืมมม..สมกับเป็นบ้านแลนด์จริง ๆ

และวันนี้ก็เสียเงินอีกแล้ว ทางเซลล์ขอเก็บค่าธรรมเนียมการโอน + ค่าจดจำนอง 1,300 บาท (แต่จ่ายจริงไม่ถึง เดี๋ยวเหลือเท่าไหร่ โครงการจะคืนให้ทีหลัง)

23 ธันวา นัดกับทางแบงค์เซ็นต์สัญญา เสียเงินอีกแล้วววว ค่าอากร 1,435 ค่าคู่ฉบับ 5 ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปี 4,558 ค่าเปิดบัญชี 500 รวมเบ็ดเสร็จ 6,498 บาท

ได้ของแถมมา 1 เซ็ต เป็นชุดทำสวน จะมีถุงมือ หมวก และผ้ากันเปื้อน (แหะ ๆ ลืมถ่ายรูปมา เดี๋ยวเอามาอวดวันหลัง)

25 ธันวา ทางเซลล์บอกว่าจะทำเรื่องโอนให้วันนี้ ซื้อบ้านแลนด์ก็ดีอย่าง ไม่ต้องไปโอนเอง มีเจ้าหน้าที่จัดการให้สบายไปไม่ต้องลางาน เพราะยังต้องลากันอีกเยอะ

แต่เช้าวันที่ 26 เซลล์โทรมาบอกว่า "ขอโทษทีค่ะ เมื่อวานเราทำเรื่องโอนให้ไม่ได้ เนื่องจากมีข้อผิดพลาดทางด้านเอกสารกันนิดหน่อย ทางแบงค์ระบุไปว่าจะโอนวันที่ 28 ทำให้ทางกรมที่ดินไม่สามารถรับเรื่องโอนได้ เลยต้องรอโอนวันจันทร์ค่ะ แต่รับรองว่าไม่มีปัญหาค่ะ"

ใจเสียนิดหน่อย กลัวโอนไม่ทันสิ้นปี จะเสียสิทธิ์ลดหย่อยภาษี แต่อีกใจก็ได้เสียว ๆ เห็นหลายคนบอกว่าบ้านยังไม่เรียบร้อยอย่าเพิ่งโอน แต่ด้วยความที่เราไว้ใจชื่อเสียงของโครงการ เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา หลังโอนเค้าก็น่าจะมาซ่อม / เก็บงานให้อยู่ (ล่ะมั้ง) แต่ถ้ารอให้เก็บงานเสร็จหมดคงไม่ทันสิ้นปี เพราะนี้ก็ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกวัน คนงานเริ่มหยุดกันแล้ว เอ๊า โอนก็โอน

27 ธันวา นัดช่างมุ้งลวด มาวัดหน้างาน ตกลงราคากันไว้ ติดทั้งหลัง ประมาณ 10 บาน 6,500 บาท ตอนบ่ายก็เลยไปดูผ้าม่านสำเร็จรูปกันที่โฮมโปร เนื่องจากงบประมาณมีค่อนข้างจำกัด เลยต้องใช้แบบนี้ไปก่อน ไว้มีเงินค่อยใช้ผ้าม่านสั่งตัดแล้วกัน

หมดค่าผ้าม่าน + ค่าราง + อุปกรณ์ + ค่าแรงติดตั้ง ไปทั้งหมด 10,633 บาท เบี้ยน้อยหอยน้อยเอาเท่าที่มีไปก่อนแล้วกัน

เสร็จจากผ้าม่าน ก็ไปต่อกันที่ SB เพื่อซื้อชุดห้องนอน หลังจากมาดู ๆ 3 รอบ และชุดที่เราเล็งไว้ก็หมดโปรฯสิ้นเดือน ยังไงก็ต้องถอยวันนี้แหละ

หมดค่าเฟอร์ฯ ไป ชุดห้องนอน (โปรโมชั่น) 25,900 ซื้อฟูก 6 ฟุต 9,900 จะแถมตู้ไซด์บอร์ดราคา 6,900 ฟรี เอ่า ยังไงก็ต้องซื้อฟูกอยู่ดี ก็ซื้อไปเลยทีเดียว จะได้ของแถมเป็นตู้ ไว้วางทีวีชั้นล่าง ประหยัดงบไปอีก 1 ชิ้น
กำหนดส่งสินค้าวันอังคารที่ 19 มกราโน้นเลย

1 มกรา คุณแฟนพาแม่กลับไปบ้านต่างจังหวัด ส่วนเราและครอบครัว เลยแวะมาดู ๆ บ้านใหม่กันสักหน่อย และจะไปปาร์ตี้ปีใหม่ที่บ้านน้องเขย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน เรากะน้อง ๆ เลยชะแว๊บมาใช้บริการสระว่ายน้ำสักหน่อย เพราะเท่าที่ถ่ายรูปไป มันเหมือนบ่อน้ำมากกว่าสระว่ายน้ำนะ แต่พอลองลงว่ายดู เอ้าแอร๊ยยย...ไม่เล็กอย่างที่คิด ขนาดกำลังโอเค แถมลูกบ้านยังไม่ค่อยมาใช้ด้วย มากี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เคยเจอใครมาว่ายเลย





 

Create Date : 14 มกราคม 2553    
Last Update : 14 มกราคม 2553 11:53:00 น.
Counter : 1492 Pageviews.  

ลุ้น ๆ ๆ จะกู้ผ่านม่ะนะ

จำได้ว่าไปดูบ้านครั้งแรก วันที่ 5 ธันวา

เซลล์บอกให้เตรียมเอกสารยื่น pre-approve ซึ่งนัดเจ้าหน้ามารับเอกสารที่ออฟฟิตในวันอังคารที่ 8 ธันวา

วันศุกร์ที่ 11 ธันวา เจ้าหน้าที่แบงค์โทรมาบอกว่า "เอ่อ คุณ...เราจะโทรมาแจ้งว่าสะดวกเข้าไปจองบ้านวันไหนครับ"

อึ้งไป 5 วิ "เอ่อ สรุปกู้ผ่านเหรอคะ"

"ครับ ผ่าน 100 เปอร์เซนต์เลยครับ เข้ามาทำสัญญาจองวันเสาร์นี้เลยไหมครับ"

เออ เอ่อ ... ทำตัวไม่ถูก ชีวิตนี้ยังไม่เคยเป็นหนี้ แถมเป็นหนี้ก้อนใหญ่ซะด้วย

และแล้ววันเสาร์ที่ 12 เรากับแฟนก็ได้เข้าไปดูบ้านกันอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้พาคุณแม่แฟนและแม่เราไปด้วย พอคุณแม่แฟนเห็นบ้านปุ๊บ อุทานออกมาเลยว่า "อุ๊ย สวย ๆ ซื้อเลย ๆ "

เอ้ยยย!! บอกแล้วนะ ว่า "บ้าน" นะ ไม่ใช่ "ปลาทู"

ระหว่างที่เดินดูบ้านกัน แม่เราก็เข้าไปเจรจาคุยต่อรองกับเซลล์เรื่องของราคาบ้าน โอเค้ เราเข้าใจว่าบ้านแลนด์มันขายได้ ต่อราคาลำบาก แต่คิดว่าถ้าตื้อกว่านี้อีกนิด ก็น่าจะได้อะไรมากกว่า Gift Voucher 20,000 บาท

แต่ด้วยคุณแม่แฟนออกอาการอยากได้ม๊ากกกกมาก เซลล์เลยไม่ยอมคุยกับแม่เราเลย มุ่งหน้าตรงดิ่งไปคุยกะคุณแม่แฟนทันที

ปรากฏว่า จู่ ๆ คุณแม่แฟนก็ควักบัตร KTC ให้รูดไป 50,000 บาท อย่างง่ายดาย ตอนแรกก็นึกว่าคุณแม่แฟนจะช่วยจ่ายค่าจองให้ ที่ไหนได้ให้ยืมบัตรไปรูดเฉย ๆ

และวันนั้นเซลล์ก็ให้เราตรวจบ้านเลย จะได้ทันโอนก่อนสิ้นปี เพื่อได้สิทธิ์ลดหย่อยภาษี 300,000 บาท ก็ไปตรวจบ้านกัน พบจุดแก้ไขเยอะมากกกก แต่เป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้เป็นงานแก้ใหญ่ ๆ


สุดท้ายงานนี้ ด้วย 4 มือ 2 แรงของเราทั้ง 2 คนล้วน ๆ เอ๊า...สู้ ๆ เพื่อเรือนหอของเรา




 

Create Date : 13 มกราคม 2553    
Last Update : 14 มกราคม 2553 8:39:33 น.
Counter : 478 Pageviews.  

ซื้อบ้านนะ ไม่ใช่ซื้อปลาทู ทำไมเร็วจัง???

หลังจากชวนแฟนเข้าไปชมโครงการ BaanMai พระราม2 แล้วคุณแฟนเห็นดีเห็นงามด้วย เลยไปกันเลยดีกว่า.........

วันที่ 5 ธันวา เข้าไปเยี่ยมชมโครงการ เซลล์ก็พาไปดู พร้อมทั้งเสนอโปรโมชั่นของบ้านแต่ละหลัง

เริ่มด้วยหน้าบ้านทิศเหนือ หลังบ้านโล่ง ไม่ชนกับใคร ราคา 2.99

ดูชั้นล่างก็โอเค แดดส่องหลังบ้าน หน้าบ้านร่มสบาย แต่พอขึ้นไปชั้น 2

มองที่หน้าต่างออกมา ว๊ากกก...แคมป์คนงานก่อสร้างของโครงการ ซึ่งเซลล์แจ้งว่า เป็นพื้นที่ของคนอื่น ซึ่งกั้นกลางระหว่างโครงการ 1 กับ 2 แต่เจ้าของที่ไม่ยอมขายให้โครงการ ซึ่งบ้านของเจ้าของที่ก็อยู่ในสุดต่อจากแคมป์คนงาน

แต่แคมป์คนงานที่ว่านี้เซลล์บอกว่าโครงการได้ขอเช่ากับเจ้าของที่ หลังจากสร้างบ้านครบ ก็จะถอนแคมป์ไป คราวนี้ก็ต้องรอลุ้นว่าในอนาคตเจ้าของที่จะเอาที่ดินตรงนี้ไปทำอะไร

เอ๊...เอาไงดี คิดหนัก ๆ

จากนั้นเซลล์ก็พาไปดูบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเหลืออยู่ 2 หลังสุดท้ายที่จะยืนราคาที่ 2.89

หน้าบ้านหันไปทางทิศใต้ แดดส่องเข้าบ้านเต็ม ๆ หลังบ้านร่มเย็นสบาย แต่เซลล์ก็บอกว่า นี่หน้าหนาว ทิศใต้เลยได้รับแดดจัง ๆ เดี๋ยวพ้นหน้าหนาวไป แดดก็เปลี่ยนทิศ (ไม่รู้จริงแค่ไหน)

พอกลับมาคุยกับเซลล์ที่ออฟฟิต เซลล์บอกว่าลองกรอกเอกสารยื่น pre-approve ก่อนไหม ซึ่งจะทราบผลไม่เกินวันศุกร์หน้านี้

ก็เลยลองยื่นดู และระหว่างนี้ก็กลับไปปรึกษาแม่ดู แม่ก็บอกว่า หลังบ้านโล่งก็ดี แต่เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเจ้าของที่ดินจะเอาที่ดินไปสร้างอะไร ถ้าสร้างคอนโดหรืออพาร์เมนต์ขึ้นมา เราจะแย่ ทำให้นึกถึงเรื่องที่พี่โน้ต อุดม พูดในเดี่ยว7 เลย

โอ้ววว...แม่เจ้า แรก ๆ ที่ซื้อบ้าน หลังบ้านเป็นทุ่งหญ้า ตื่นเช้ามายืนจิบกาแฟหลังบ้าน สูดกลิ่นหญ้าอ่อน ๆ สมองปลอดโปร่ง

ผ่านไป 5 ปี จากทุ่งหญ้ากลายมาเป็นหอพักนักศึกษา เช้ามาเปิดประตูหลังบ้านจะจิบกาแฟ สูดอากาศ เจอคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นร้อย ๆ เครื่อง พร้อมกับกลิ่น กกน. + ถุงเท้า

นึกแล้วสยอง

ส่วนฝั่งหน้าบ้านทิศใต้ล่ะ แดดส่องเข้าหน้าบ้าน ข้อเสียก็มี หนึ่งเสียเงินทำกันสาดแน่ ๆ ข้อสองนอนตื่นสายไม่ได้ แดดส่องเต็ม ๆ ข้อสามตากผ้า ก็ต้องเอามาตากหน้าบ้าน (อายเค้าอ่ะ ) ข้อสี่หลังบ้านชนกับเพื่อนบ้าน ถ้าได้เพื่อนบ้านโอเคก็โชคดีไป ก็ต้องเสี่ยงดวงกันคร๊าบบบบ

แต่ที่แน่ ๆ ยังไงซะอนาคตหลังบ้านเราก็ต้องเป็นบ้านหลังนี้ที่ไม่มีโอกาสสูงไปกว่าบ้านเราแน่ ๆ

สรุปเลือกได้แระ เอาหลังนี้แหละ หันหน้าทิศใต้ 2.89 ถูกกว่า 1 แสน




ระหว่างนี้ก็รอลุ้นว่าจะกู้ผ่านไหม???





 

Create Date : 13 มกราคม 2553    
Last Update : 13 มกราคม 2553 15:43:07 น.
Counter : 529 Pageviews.  


ครอบครัวตัวหมี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ครอบครัวตัวหมี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.