|
เครื่องปลูกกับระบบราก
การเลือกใช้เครื่องปลูกนั้น ต้องเลือกให้เหมาะสมกับระบบรากของกล้วยไม้ ดังนี้
๑. กล้วยไม้อากาศ ( Epiphytic Orchid ) เป็นต้นที่พบเกาะอยู่บนคบไม้ หรือบนแผ่นหิน มี ๒ ประเภท คือ
๑.๑ รากอากาศ - มีรากขนาดใหญ่ยาว อาจยาวได้มากกว่าเมตร รากออกจากข้อตามลำต้น ได้แก่ กล้วยไม้สกุลแวนด้า ช้าง เอื้องกุหลาบ เข็ม พบเกาะบนคบไม้สูง รากย้อยลงมากกลางอากาศมีเพียงบางรากที่เกาะกับต้นไม้เพื่อยึดต้นไม่ให้ร่วงลงมา การปลูกกล้วยไม้เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปลูก ปลูกต้นในกระเช้าไม้ หรือพลาสติก หรือผูกให้ห้อยอยู่กลางอากาศ รดน้ำ และปุ๋ยให้พอเหมาะ รากจะออกมาจำนวนมาก และต้นเจริญเติบโตได้ดี
๑.๒ รากกึ่งอากาศ - รากมีขนาดเล็กกว่ารากอากาศ รากออกจากเหง้าที่แนบชิดกิ่งไม้ หรือเครื่องปลูก ได้แก่ สกุลหวายออนซิเดียม แคทลียา รากจะเจริญลงไปในเครื่องปลูกเนื่องจากต้องการความชื้นมากกว่ารากอากาศ จึงต้องปลูกบนกาบมะพร้าว หรือ ถ่าน
กล้วยไม้ป่าสกุลหวาย ควรหุ้มรากด้วยกาบมะพร้าว ก่อนปลูกลงในกระถาง หรือเกาะบนท่อนไม้โดยรัดโคนต้นไม้ และรากให้ชิดกับท่อนไม้ เมื่อรากเกาะเครื่องปลูกดีแล้ว จึงเริ่มเจริญเติบโตและออกดอก
กล้วยไม้ดิน (Ground Orchid ) เจริญได้ดีในเครื่องปลูกที่ใช้ดิน รากของกล้วยไม้ดินคล้ายรากว่านสี่ทิศ บางชนิดมีรากขนอ่อนตามธรรมชาติพบกล้วยไม้ดินขึ้นบนกองใบไม้ผุ แผ่นหิน หรือซอกหิน หรือพบบนพื้นป่าที่มีใบไม้ผุผสมดินร่วนปนทรายบนแผ่นหินที่มีการระบายน้ำดีมาก นักกล้วยไม้บางคนได้จัดแบ่งให้รองเท้านารีเป็นพวกรากกึ่งดิน เพราะมีรากขนาดใหญ่กว่า และจัดพวกช้างผสมโขลง คาลันเธ ว่านน้ำทอง เป็นพวกรากดิน
กล้วยไม้ดินเหล่านี้ จะขึ้นอยู่บนแผ่นหิน หรือซอกหิน หลังฝนตกถึงน้ำไม่ขังแต่พวกอินทรีย์วัตถุจะช่วยเก็บความชื้นไว้ได้ การปลูกต้องเลือกเครื่องปลูกที่ระบายน้ำดีร่วนซุย เช่นทรายหยาบ ถ่านแกลบสำหรับรองเท้านารีที่มีแหล่งกำเนิดบนเขาหินปูน ควรใส่หินเกล็ด เศษหินปูนผสมลงไป ส่วนกระถางที่ใช้ต้องเก็บความชื้นได้ดี และระบายน้ำได้ดี การวางบนโต๊ะจึงเหมาะที่สุด
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2550 15:32:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 313 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|