BlogGang.com : : ปิ่นโต2554 - ประสบการณ์ผ่าตัด RF รักษาอาการนอนกรณ ที่โพรงจมูก

ทุกอย่างทุกปัญหาย่อมมีทางออก

ประสบการณ์ผ่าตัด RF รักษาอาการนอนกรณ ที่โพรงจมูก

เรื่องของเรื่องคือ ภรรยาบ่นมาหลายๆครั้งแล้ว ผมกรนเสียงดังมากๆ พลิกท่าไหนก็ ไม่ได้ช่วย จนบางครั้งก็ มีอารมณ์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ที่ผมมีน้ำโห เพราะตัวเราเองตอนนอนมันไม่รู้ตัวจริงๆนี้ครับ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็บอกแฟนว่าถ้า รำคาญก็ช่วยพลิกตัวหน่อย จะได้หยุดกรน สุดท้ายผมก็แก้ปัญหาโดยแยกมานอนอีกห้องนึง ให้มันหมดเรื่องหมดราวไป

แต่ว่าจริงๆแล้วมันไม่จบครับ เพราะอาการนอนกรนของผมไม่ได้ถูกแก้ มันยังติดตามตัวผมอยู่ ซึ่งผมก็เลยไปหาข้อมูลว่าที่ไหน ที่รักษาบ้างแล้วมันมีสาเหตุของปัญหาเกิดจากอะไรได้บ้าง

จากการไปหาข้อมูลใน Web Google เรื่อง นอนกรน ผมก็เลยตัดสินใจ ไปปรึกษา หมอที่จุฬา คลินิคพิเศษนอกเวลา แผนกหู คอ จมูก

อันดับแรกคุณหมอ ก็ตรวจดูในจมูก และดูคอ ซึ่ง คุณหมอก็บอกผมว่า เนื้อเยื่อโพรงจมูกผมบวม ทำให้อากาศไหลผ่านจมูก ไม่ดี และต่อมทอลซินที่คอ โต ( โตมาตั้งแต่เด็กแล้ว)

ทีนี้หมอก็ถามอาการ อื่นๆเพิ่ม เช่น ตอนตื่นนอนคอแห้งไหม ,กลางวันง่วงนอนไหม หรือ ตื่นตอนเช้าแล้วมึนหัว ไม่สดใสถึงแม้นอนเยอะ

อาการข้างต้นที่ว่ามา มันเกิดกับผมหมดเลยครับ แต่ที่เกิดบ่อยๆคือเรื่องมึนหัว ตอนเช้า ซึ่งเป็นถี่ๆขึ้น

หมอก็เลยในไปทดสอบการนอนหลับ (Sleep Test) ที่ศูนย์ของโรงบาลจุฬา เอง

แต่ผมโทรไปนัดแล้วคิวยาวไม่ว่างไป 10 เดือนเลย ราคาในการทดสอบอยู่ที่ 8000 บาท/คืน

รอไม่ไหวนานเกินไป ผมเลยติดต่อไปที่ โรงพยาบาลเอกชน (เลือกที่ โรงพยาบาลเซ็นหลุย์ เพราะคุณหมอ ทำงานที่นี้ด้วย)

ผลจากการไปตรวจออกมาก็พบว่า ผมมีการกรน และหยุดหายใจ ระหว่างนอนหลับ เฉลี่ยประมาณ 15 คร้ง/ชั้วโมง ในขณะที่คนปกติ จะมีการหยุดหายใจไม่เกิน 5 ครั้ง/ชั่วโมง แถมมี ความเข้มข้นของ อ๊อกซิเจนในเลือดมีการลดต่ำลง จากปกติที่ 99-98% ลดลงเหลือ 90%

คุณหมอก็เลยแนะนำ ให้ผ่าตัดขยายโพรงจมูกด้านในที่บวมโดยใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งผมขอให้คุณหมอมาผ่าให้ทีโรงพยาบาลพญาไท2 แทนเพราะจะได้สะดวกผมเพราะใก้ลบ้านกว่าที่โรงพยาบาลจุฬา และไม่ต้องรอนานด้วย คุณหมอนัด และทำใบส่งตัวไปยังโรงบาลพญาไท2 อาทิตย์ถัดไปเลย

เนื่องจาก เป็นการผ่าตัดครั้งแรก และผมเป็นคนกลัวเข็ม กลัวเจ็บเอามากๆ พอกลับมาบ้าน รีบหา ข้อมูล เรื่องการผ่าตัด แบบ RF เลยว่ามันคืออะไร เลยรู้ว่ามันก็คือการปล่อยคลื่นวิทยุผ่านเข็ม ที่จิ้มผ่านเนื้อเยื่อที่ต้องการให้มันยุบ พอคลืนไปกระทบเนื้อเยื่อมันจะเปลี่ยนเป็นความร้อน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวยุบตัวลง ไม่ได้ลงมีดผ่าตัดจริงๆ แต่มันก็น่ากลัวอยู่ดีเพราะมันคือการเอาเข็มจิ้มลงที่รูจมูก

ความกังวลมันยังไม่หมด เลยไปหาดูเพิ่มว่า คนที่ไปผ่าตัดมีใครมาเขียนเล่าประสบการณ์ว่าเป็นยังไงบ้าง ไปไล่อ่านดูแต่ล่ะคนที่เขียน จะเป็นปัญหาเนื้อเยื่อบวมและจมูกคดด้วย แต่ล่ะคนที่มาเล่าก็จะบอกเหมือนๆกันว่า จะเจ็บต้องฉีดยาชานี้แหละ เข็มแรก เจ็บน้ำตาไหล เลย ผมยิ่งอ่าน ยิ่งจิตตก เราจะทนเจ็บไหวไหมเนี้ย คิดไม่ตก จนกระทั่ง เช้าวันอาทิตย์ ต้องไปที่โรงพยาบาลตอนเช้า เพื่อที่จะผ่าตอนบ่าย ตามนัด

เริ่มแรก ก็มาให้หมอดูอีกรอบ พร้อมบอกหมอว่า ขอเบิกประกัน ซึ่งต้อง Admit หมอก็ให้ไปตรวจเลือด เพื่อตรวจการแข็งตัวของเลือดว่าปกติไหม จากนั้นก็พาไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนชุดเป็นชุดผ่าตัด ผ่าจมูกแต่ต้องถอดออกหมดทุกชิ้นเลย ไม่เหลือแม้ กกน ใส่ชุดผ่าตัดที่ผูกเชือกด้านหลังแทน ตอนไปก็จะมีรถเข็นมารับ ไปส่งห้องผ่าตัด พยาบาลไม่ให้เท้าแตะพื้นเลยจนถึงเตียงผ่าตัด

ในระหว่างที่นอนรอ พยาบาลก็จะเอาที่วัดความดันมาติดที่แขน เอาเครื่องวัด Oxygen มานีบที่นิ้ว เอาเครื่องวัดชีพจรมาแปะที่น่อง ระหว่างนั้นไม่ค่อยคิดอะไรมากเพราะก่อนเข้าทำใจสู้ว่า เจ็บเป็นเจ็บ ลูกผู้ชาย ทนได้อยู่แล้ว... ระหว่างที่ นอนรอ มีเสียงแว่ว มาว่า หมดดมยาทำไมยังไม่มา อ่าว นี้ กรูต้องโดนวางยาสลบด้วยเหรอ.. แต่หลังจากนั้นก็มีการ check กันอีกทีว่า เป็นการผ่า RF แบบฉีดยาชาเฉพาะที่แทน

จนกระทั่ง หมอมาถึง แกก็สั่งผสมยาชา กับพยาบาลผมแว่วๆ ว่ามีโคแคนด้วย 2% พอเตรียมยาชาเรียบร้อย หมอก็มาถามผมว่า กลัวไหม ผมรีบตอบสวนไปเลยว่า ทั้งกลัวและตื่นเต้น ครับ หมอหัวเราะเลยครับ

ที่นี้มาเข้า ขั้นตอนการผ่าตัด เลย

เริ่มด้วย การเอาผ้าก๊อกชุมยาชาและยาลดบวมใส่ไปในรูจมูก ตอนที่ใส่ไปไม่เจ็บ พอยาออกฤิทธิ์ประมาณ 1 นาทีได้มังครับ หลังจากนั้นก็เป็นการฉีดยาชาในโพรงจมูกซึ่งจะฉีดจากด้านในรูจมูกเรา ก่อนที่หมอเริ่มฉีดผมก็เตรียมใจไว้แล้วว่า ไอ้เข็มแรกนี้แหละ มันจะเจ็บมากๆเลย แต่พอหมอเริ่มฉีดจะมียาไหลลงไปในคอ ผมมีสำรักออกมาขมๆนิดหน่อย แต่ที่ดีใจมากคือมันไม่เจ็บเลยซักกะนิดเดียว ซึ่งหมอก็จะคอยบอกว่า ถ้าเจ็บก็บอกหมอด้วยนะ พอหมอเริ่มเอาเข็ม RF จิ้มเราก็จะมีเสียวๆนิดๆ ไม่ได้เจ็บนะครับแค่เสียวๆ บวกกับมีร้อนนิดๆ ทำ RF ประมาณ 10 นาทีเองมังครับ ระหว่างทำก็มีดูดเสร็ด ซึ่งจะดูผ่านรูจมูก ผ่านไปถึงคอซึ่งจะมีเสียวๆหน่อยแต่ไม่เจ็บ พอเสร็จ หมอก็จะลองให้หายใจผ่านรูจมูก ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกว่า ทำไมมันหายใจโล่งจังว่ะ เป็นอันว่าทุกอย่างก็เสร็จ หลังจากนั้นก็จะถูกนำมาห้องพักฟื้น ซัก 1/2 ชั่วโมง ได้

บรุษพยาบาลก็พากลับมา ห้องพักผู้ป่วย ตอนกลับมายังโดน พยาบาลแซวเลยว่า ทำไมไวจัง รวมเวลาทั้งหมดก็ 2 ชั่วโมง แต่ผ่าจริงๆ 15 นาทีเอง

หลังจาก ผ่าตัด มีเลือดไหลออกน้อยมากมีซึมๆนิดหน่อย แต่หมอให้ยา แก้แพ้ แก้คัดจมูก และให้เลี่ยงการขยี้จมูก หรือการไอจามผ่านรูจมูก ให้ไอทางปากเต็มๆเลยไม่ต้องปิดปาก

ณ วันที่เขียน พึ่งผ่านมาได้ 1 วัน ยังไม่มีอาการปวดเจ็บ หลังผ่าตัดมีตึงๆที่จมูกนิดหน่อย และมาทำงานได้ปกติ

สุดท้ายมาเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง

- ตรวจที่ 2 ครั้ง ที่ ร.พ จุฬา ค่าหมอกับค่ายา ประมาณ 600 บาท ครั้งที่ สองเป็นการเอาผล Sleep test มาให้หมออ่านผล
- ค่า Sleep Test ที่ ร.พ เซ็นต์หลุย 8500 บาท
- ค่าผ่าตัดที่ ร.พ พญาไท2 70,000 บาท แพงมากๆ ในราคานี้ โดนค่าหมอไป 45,000 บาท รู้งี้ผมรอผ่าที่ ร.พ จุฬา ก็ได้

จบแล้ว ครับ

Create Date : 27 มกราคม 2557

Last Update : 28 มกราคม 2557 8:49:31 น.

2 comments

Counter : 4182 Pageviews.