Group Blog
 
All blogs
 
ประสบการณ์การสั่งซื้อและใช้งาน iPad

หลังจากมี iPad mini แล้ว
ตั้งแต่นั้นมาคำว่า iPad ก็ไม่ได้อยู่ในความต้องการของผมอีกเลย
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้มีโอกาสดูรีวิวเกี่ยวกับคุณสมบัติของ iPad รุ่นใหม่ๆ
เห็นพัฒนาการความสามารถที่มีการเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพของเจ้า Apple Pencil ที่ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญ
สามารถเขียนและวาดได้เหมือนปากกาจริง
จนเป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษาและคนทำงาน
เมื่อได้ยินได้ฟังแล้วก็ยิ่งตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองอย่างมาก
เนื่องจากขณะนี้ หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19
หน่วยงานก็ปรับระบบงานต่างๆ มาอยู่ในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการประชุม ระบบเอกสารรับ-เข้าออกในหน่วยงาน รวมถึงระบบอนุมัติต่างๆ
หากจะใช้มือถือก็คงได้อยู่
แต่ในวัยที่สายตาไม่เอื้ออำนวยให้อ่านข้อความตัวเล็กๆ บนหน้าจอมือถือ
ผมก็เลยผุดความคิดที่ว่า...หากมี iPad สักเครื่องก็คงจะดีไม่น้อย
นอกจากใช้เรื่องงานแล้ว คงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผมที่ชอบวาดรูปเป็นงานอดิเรกได้ดี

iPad เครื่องแรกในชีวิตของผมคือ iPad mini
หากจะย้อนนับเวลาที่ใช้มาถึงตอนนี้รวมแล้วก็เกินกว่า 10 ปี
แม้ตอนนี้ iPad mini เครื่องเก่านี้จะตกรุ่นไปตามกาลเวลา
และบริษัท Apple ไม่เหลียวแลให้สามารถอัพ ios ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่คุณภาพโดยรวมก็ยังดีอยู่ ยังคงใช้งานได้ตามสภาพ
เมื่ออยากได้สิ่งใดแล้ว ผมก็ทุ่มเทเวลาให้กับการศึกษาหาข้อมูล
ดูรีวิวผ่าน YouTube เปรียบเทียบสเปคของ iPad รุ่นต่างๆ
พยายามคำนึ่งถึงความคุ้มค่าให้มากที่สุด
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว...
ผมก็เข้าเว็บ Apple สั่งซื้อออนไลน์ในกลางดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2563
เป็น iPad Pro รุ่นปี 2020 ขนาด 11 นิ้ว แบบ Wi-Fi + Cellular
ความจุ 256GB สีเทาสเปซเกรย์ ราคา 34,700 บาท
และก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่า...เมื่อซื้อแล้วก็ไม่ได้จบที่ iPad
สิ่งสำคัญที่ต้องมีคู่กันคือ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ราคา 4,190 บาท นอกจากนี้
ช่วงที่ผมสั่งซื้อมีโปรโมชั่นส่งเสริมการศึกษาสำหรับนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา
มาพร้อมกับของแถมเป็น AirPods ราคา 5,990 บาท
แต่ผมอัพเกรดเป็น AirPods Pro ราคา 9,490 บาท
นั่นก็หมายความว่าผมต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มอีก 3,500 บาท
สรุปรวมราคาสินค้าทุกอย่างและหักส่วนลดแล้ว ผมต้องจ่ายทั้งหมด 42,390 บาท
การซื้อ iPad หากจะเปรียบเปรยก็คงไม่ต่างจากการซื้อกล้องถ่ายรูป
เพราะเมื่อซื้อแล้ว...แน่นอนว่าต้องมีเลนส์และสารพัด Assessories ทยอยตามมา
วิถีของ iPad ก็เช่นเดียวกัน หนึ่งในของมันต้องมีก็คือ Case กันกระแทก
คงไม่มีใครอยากให้ iPad ราคาแพง เสี่ยงต่อการตกหล่นเสียหาย
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็ควร “ลงทุน” เพื่อซื้อเคสคุณภาพดีมาใช้
ผมตัดสินใจสั่งซื้อยี่ห้อ STM DUX PLUS CASE เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563
เป็นเคสหนังสีดำ ซื้อตอนลดราคา คงเหลือ 1,352 บาท
ถือว่าเป็นการสั่งซื้อเคสไว้รอ ทั้งๆ ที่ iPad ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ
ของมันต้องมีชิ้นถัดไปสำหรับคนชอบวาดรูปและชอบขีดเขียนคือ ฟิล์มกระดาษ
ผมซื้อฟิล์มถนอมสายตายี่ห้อ PaperLike Genius edition
สั่งซื้อเมื่อวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563 ในราคา 408 บาท

หลังจากที่สั่งซื้อไปแล้ว...ของต่างๆ ก็ทยอยส่งกันมาคนละหนคนละที
ช่างเป็นอะไรที่น่าขัน...
ชิ้นแรกที่ได้รับคือ Apple Pencil มาถึงมือวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563
ชิ้นที่สองคือ AirPods Pro ถึงมือเมื่อวันอังคารที่ 29 กันยายน 2563
ชิ้นที่สามคือ STM DUX PLUS CASE ถึงมือเมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2563
และชิ้นที่สี่คือ ฟิล์มกระดาษ ถึงมือเมื่อวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2563
ส่วนพระเอกของงาน คือ iPad Pro 2020 มาถึงช้าสุดในวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563
นับระยะเวลาตั้งแต่สั่งซื้อจนได้รับของรวมแล้วก็ครบเดือนพอดี แต่รักแล้วก็อดทนรอได้ อิอิ
ความสุขอย่างหนึ่งของคนที่สั่งของออนไลน์...
มักอยู่ตรงที่การได้รับของและทำการ Unbox
ผมจัดการแกะกล่องด้วยความตื่นเต้นดีใจเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563
สิ่งแรกที่ต้องทำเป็น A must คือการตรวจเช็คความเรียบร้อยส่วนต่างๆ ของ iPad
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น เมื่อตรวจสอบคุณภาพอย่างดีแล้ว
สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือลงแอพลิเคชั่นเพิ่ม แอพส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่ายสามารถติดตั้งฟรี
แต่แอพบางตัวที่มีความเฉพาะก็ต้องยอมลงทุนจ่ายเพิ่ม
แอพที่ต้องมีสำหรับผม ก็คือ แอพวาดรูปและจดบันทึก
ผมตัดสินใจซื้อเพิ่มอีก 3 รายการ คือ 1. Procreate ราคา 299 บาท
2. Good Note ราคา 249 บาท และ 3. Notability ราคา 279 บาท
ทั้งหมดนี้ ซื้อครั้งเดียวแต่สามารถใช้งานกันไปยาวๆ ได้เลย
สรุป ณ ตอนนี้ ผมลงทุนจ่ายเงินกับ iPad รวมถึงบรรดา Assessories  
และแอพลิเคชั่นต่างๆ
รวมทั้งหมด 44,977 บาท
นับเป็นราคาสูงจนน่าใจหาย
แต่หากจะคิดกลับกันอีกมุมเพื่อให้สบายใจขึ้น
ผมคิดว่าด้วยราคานี้ คุณภาพแบบนี้
กับประโยชน์ที่จะได้รับกับการใช้งานไปอีกหลายปีข้างหน้า
ผมก็ยังเชื่อว่าราคานี้ก็คงจะทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก


วันนี้...วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ขณะที่ผมกำลังพิมพ์บันทึก
ผมได้ใช้งาน iPad มาแล้วทั้งหมด 16 วัน งานที่ใช้ส่วนใหญ่คือการวาดรูป
และรูปทั้งหมดที่ผมโพสต์ในเอ็นทรี่นี้ก็คือรูปที่เริ่มต้นหัดวาดด้วยแอพ Procreate
เป็นการลองผิดลองถูก
ยังแอบหวังว่าสักวันหนึ่งผมคงจะพัฒนาฝีมือการวาดด้วยแอพ Procreate ได้ดีกว่านี้
นอกจากนี้ ผมยังใช้ iPad ในการฝึกตัดต่อวิดีโอ เล่นโซเชี่ยล
กลางวันก็ได้พกพาติดตัวมาที่ทำงาน
เพื่อใช้ในการประชุมออนไลน์ เช็คอีเมล และอ่าน/แก้ไขเอกสารรายงานการประชุม
วันหยุดออกไปเที่ยวก็พกพาไปด้วย
นั่งร้านกาแฟก็หยิบ iPad ขึ้นมาวาดรูปและจดบันทึก
ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาให้มีประโยชน์ได้ดีเหมือนกัน
..........................................
บันทึกโดยนายหมูอวย
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00 น.



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2563 11:43:51 น. 0 comments
Counter : 763 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมูอวย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ชีวิตในแต่ละวัน เต็มไปด้วยสาระเรื่องงาน และเครียดมามากพอแล้ว จึงขอใช้พื้นที่เล็กๆ ตรงนี้เหลือไว้ซึ่งพื้นที่แห่งความสุข ไร้สาระไปเรื่อยๆ ผ่อนคลายไปกับการสร้างสรรค์ และแต่งแต้มสีสันให้ชีวิต
Friends' blogs
[Add หมูอวย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.