All Blog
|
Review: แป้งไข่มุก&สเปย์น้ำแร่กุหลาบ KMA ผิวสวยมีออร่าพร้อมบำรุงแต่คุมมัน!
สวัสดีค่าา บล็อกนี้ส้มมีไอเท็มที่ช่วยให้ผิวเราดูมีออร่าพร้อมให้การบำรุง แต่ควบคุมความมันมารีวิวให้ชมกันค่ะ จะเป็นไอเท็มตัวไหนก็ไปชมกันเลย นี่เลยย แป้งไข่มุกกับสเปย์น้ำแร่กุหลาบ จาก KMA มาเริ่มกันที่น้ำแร่กุหลาบกันก่อนเลยค่ะ KMA Organic Rose Water Make Up Fix สเปรย์น้ำแร่กุหลาบออแกนิคบำรุงผิวหน้า มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ลดการอักเสบของผิวที่ไหม้และบวมจากรังสียูวี แล้วก็มีส่วนผสมจากไข่มุกสีชมพูช่วยให้ผิวผ่อนคลาย อิ่มน้ำ และกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แพคเกจ แพคเกจเป็นขวดพลาสติก ฝาปิดล็อคแน่นด้วย สามารถพกใส่กระเป๋าของเราได้ไม่ต้องกลัวว่าจะหกเลอะเทอะเลยค่ะ หัวสเปย์ฉีดแล้วฟุ้งกระจ่ายทั่วใบหน้า ใช้ได้ถึง 3 วิธี! 1.ใช้แทนโทนเนอร์เพื่อบำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เวลาพึ่งล้างหน้าเสร็จส้มจะชอบฉีดตัวนี้ให้ทั่วใบหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้น 2.ฉีดระหว่างวันจะช่วยให้ผิวผ่อนคลายจากอากาศร้อนๆ และเป็นการเติมความชุ่มชื้นด้วยค่ะ 3.ใช้ฉีดเชตเมคอัพของเราให้ติดทนนานตลอดทั้งวันตามชื่อ Makeup Fix น้ำแร่กุหลาบ 1 ขวด ปริมาณ 100 ml ราคา 220 บาท KMA Luminous Pearl Cake Powder แป้งไข่มุกตัวนี้เป็นแป้งเค้กเนื้อซิลิโคน มีspf 30 Pa+++ มีสารสกัดจากไข่มุกสีชมพูจากเกาหลี และ organic rose water หยดน้ำที่สกัดจากกลีบดอกกุหลาบ แพคเกจ แป้งจะมาในกล่องสีชมพูหน้าตาแบบนี้แล้วก็ดึงตรงโบว์ออกมาจะเจอแป้งไข่มุกของเรา คือเก๋มากก ตลับสีชมพูทองสวยหรูดูแพงสุดๆ ค่ะ เปิดมาด้านในก็จะมีกระจก แล้วก็พัฟที่ไม่ใช่พัฟฟองน้ำธรรมดาทั่วไป อันนี้เป็นพัฟที่เหมือนคุชชั่นเลย แต่ส้มว่าเนื้อเขาจะฟูกว่าแล้วก็มีประกายวิ้งๆ ด้วยน่ารักมากก แล้วก็ที่กั้นแป้งกับพัฟเป็นพลาสติกที่ติดกับตลับจ้า ดีงามมากนานๆ จะเห็นแป้งมีที่กั้นแบบนี้เราไม่ต้องมากังวลว่าแผ่นพลาสติกจะหายเลย ตรงเนื้อแป้งมีลายเปือกหอยสัญลักษณ์ของแป้งตัวนี้ น่ารักมากกกก แป้งตัวนี้มี 2 สีค่ะ C1 สำหรับผิวขาว C2 สำหรับผิวสองสี ราคาตลับละ 590 บาท
ส้มได้เป็นสี C1 มาค่ะ ใช้แล้วก็ไม่ได้หน้าลอยนะแต่รู้สึกตัวเองไม่ได้ขาวขนาดนั้น TT เขาบอกว่าให้ใช้สเปย์น้ำแร่กุหลาบคู่กับแป้งไข่มุกหน้าเราก็จะเนียนเด้งทุกองศาด้วยออร่าจากไข่มุก ก่อนแต่งหน้าก็ฉีดสเปย์น้ำแร่กุกลาบให้ทั่วใบหน้าเลยค่ะ จากนั้นก็ลงแป้งไข่มุกกันเลย ค่อยๆ ใช้พัฟกดแป้งให้ทั่วใบหน้าจุดไหนที่ต้องการ การปกปิดเพิ่มก็ค่อยกดเพิ่้มเป็นจุดๆไปค่ะ ส้มพึ่งไปกดสิวมาเลยมีรอยเยอะนิดนึง
ส้มว่าแป้งตัวนี้ปกปิดได้กลางๆ จะเห็นว่าจุดที่เป็นรอยเข้มๆ ยังคงเห็นอยู่ แต่ตรงอื่นๆเช่นใต้ตา จมูก หน้าผาก เนียนมากๆ ถ้าอยากปิดให้เนียนสนิทก็ต้องใช้คอนซิลเลอร์ลงก่อนนะคะ ลงแป้งทั่วทั้งใบหน้าเสร็จเรียบร้อยค่ะ เนียนมากถ้ามองข้ามรอยสิวที่เข้มๆไป ได้ลุคแมตแต่ไม่รู้สึกแห้ง เบาสบายผิวมากไม่หนักหน้าและไม่ดูหนาด้วยค่ะ จากนั้นก็แต่งหน้าส่วนอื่นๆ ได้เลย (ถ้าปกปิดมากๆ แบบที่ไม่ต้องทาคอนซิลเลอร์ก็คงจะดูหนาอ่ะเนอะ)
ปิดท้ายด้วยการฉีดสเปย์น้ำแร่กุหลาบเพื่อเชตเมคอัพของเราให้ติดทนนานตลอดทั้งวัน ปกติส้มเป็นคนที่หน้ามันมากกก อยู่ในห้องแอร์ไม่กี่ชั่วโมงก็มันแล้วค่ะ จะเห็นความมันชัดๆ ประมาณ 6 โมงเย็น แล้วก็ตอนเกือบ 1 ทุ่ม จะเห็นในภาพว่ามีความมันตรงหน้าผากและจมูกจะชัดมาก ถือว่าคุมมมันดีมากๆๆ เลยค่ะ ปกติหน้าส้มอยู่ไม่ถึงขนาดนี้แน่ๆ เวลาเหงื่อออกกับหน้ามัน หน้าไม่เป็นคราบแล้วก็ดูไม่เยิ้มๆ ด้วยค่ะ ส่วนตัวว่าติดทนนะคะ ไม่มีตรงไหนหลุด มีแต่ตรงที่ส้มเกา ก็หลุดไปนิดนึง ใครที่หน้ามันแบบส้มต้องเลิฟแน่นอน สรุปว่าให้คะแนนน้ำแร่กุหลาบ 9/10 ส่วนแป้งไข่มุกให้ 8/10 ไปเลย เลิฟฟ ขอหักแป้งเรื่องการปกปิดนิดนึงนะคะ สำหรับบล็อกนี้ส้มขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาชมกันนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์แล้วก็ถูกใจกัน แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าค่า บะบายยยย เยิฟฟ This content is sponsored by KMA Cosmetics All opinions are my own Review: Ashley Oals Cleansing Milk Shake
สวัสดีค่าาา บล็อกนี้ส้มมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าคลีนซิ่งมิลก์เชคมารีวิวให้ชมกันค่านี่เลย Oals Cleansing Milk Shake จากแบรนด์ Ashleyแพคเกจมีความน่ารักมุ้งมิ้งง มาดูตัวขวดกันใกล้ๆ เลยค่ะ ตัวขวดจะเป็นพลาสติกแข็ง ฝาสีน้ำตาลเป็นฝาหมุนๆ ขวดนี้ปริมาณ 150 ml เปิดมาด้านในจะมีจุกปิดกันหกมาให้ด้วย เพราะฉะนั้นใครจะพกไปเที่ยวไม่ต้องกังวลว่าจะหกเลอะเทอะแน่นอนค่า พอดึงจุกออกทุกคนจะต้องฟิน! มันหอมมากกก หอมนมๆ ขนมอ่ะ ละมุนมากกกก ส้มชอบเอามานั่งดม 5555555 ตัวนี้เขาเครมว่า คลีนซิ่งมิลค์ทำความสะอาดผิวหน้าที่สะอาดใสบริสุทธิ์อ่อนโยนแม้กับผิวรอบตา สามารถเช็ดเครื่องสำอางและฝุ่นละอองบนใบหน้าในขั้นตอนเดียว สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางแบบกันน้ำได้อย่างล้ำลึกและหมดจด ชำระล้างเมคอัพและสิ่งสกปรกบนใบหน้าและรอบดวงตาพร้อมเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวผ่อนคลาย เผยผิวสะอาดเหมือนใหม่ เมคอัพแน่นแค่ไหนก็ไม่กลัว สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม ช่วยขจัดคราบเมคอัพอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ทำให้ไม่แสบตาและช่วยถนอมผิวหนังรอบดวงตา เครมแรงมากก มาพิสูจน์กันว่าจะจริงรึป่าว ผลิตภัณฑ์จะแยกชั้น ก่อนใช้จึงต้องเขย่า (เลยเรียกว่ามิลก์เชค) เวลาใช้ส้มก็จะเทใส่สำลีให้ชุ่ม บนแขนส้มมีคุชชั่น ลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมต อายแชโดว์สติ๊กกลิตเตอร์ดาวล้านดวง อายไลน์เนอร์waterproof และบลัชออนเนื้อครีม ผลคือ!! ถูรอบแรกแบบเบาๆ ก็ออกไปเยอะตามภาพแรกเลยค่ะ ส่วนรอบที่ 2 ทุกอย่างไปหมดยกเว้นลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมตที่ติดทนหนักมาก555
ส่วนผิวหลังจากที่เช็ดไปบอกเลยว่านุ่มมากกกก นุ่มเหมือนเราลงครีมบำรุงมาเลยค่ะ สรุปส้มให้คะแนน 8/10สิ่งที่ส้มชอบคือ - เมคอัพแน่นแค่ไหนก็ลบได้จริง ไม่จำเป็นต้องถูแรงๆ - หลังใช้แล้วผิวนุ่ม ได้รับความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง - กลิ่นหอมนม ขนมหวานมาก ดีต่อใจ ส่วนที่หักคะแนนไปเพราะว่า ส้มลองใช้กับดวงตาแล้ว ส้มแอบแสบตา จบเรียบร้อยแล้วค่าาา ถ้าใครใช้อยู่แล้วชอบไม่ชอบบอกกันด้วยน้าาสำหรับบล็อกนี้ส้มต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะที่เข้ามาอ่านกัน
แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าค่าา บะบายย เยิฟฟThis content is sponsored by Ashley All opinions are my own Review แปรงแต่งหน้า some(โซมี) ฟรุ้งฟริ้งยูนิคอร์น
สวัสดีค่าา บล็อกนี้ส้มมีแปรงแต่งหน้าที่ฟรุ้งฟริ้งยูนิคอร์นมากๆ มารีวิวให้ชมกันค่า นี่เลยย แปรงแต่งหน้าจากแบรนด์Some(โซ-มี) แบรนด์โซมีเป็นแบรนด์ของพี่นุ้ก Ndmikkiholic นะคะ นอกจากส้มจะซื้อเพราะแปรงน่ารักแล้วส้มยังซื้อเพราะเป็นติ่งพี่นุ้กด้วย อิอิ แปรงจะมาในกล่องสีชมพูสามเหลี่ยมแบ๊วๆ แบบนี้น่ารักเวอร์ 1 เชตมีทั้งหมด 10 ชิ้น เขาไม่ขายแยกชิ้นนะ แบ่งเป็นแปรงสำหรับใบหน้า 5 และตา 5 ค่ะ มาดูแปรงใกล้ๆกันน ตัวด้ามจะเป็นสีม่วงมุกๆ ปลอกสีโรสโกลด์ ขนสีขาวเป็นขนสังเคราะห์นะคะ คือขนนิ่มมากกกก ละมุนสุดใช้แล้วฟินนน >< มาดูแต่ละตัวกันดีกว่าว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง เริ่มกันที่แปรงสำหรับใบหน้า ตัวแรก Powder Brush แปรงปัดแป้ง จะเป็นแปรงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แปรงปัดแปรงของโซมีจะแตกต่างจากแบรนด์ทั่วๆ ไปตรงที่ขนาดไม่ใช่พุ่มใหญ่ๆ ข้อดีของแปรงที่ไม่ใหญ่มากก็คือเวลาปัดแปรงมันจะไม่กระจายฟุ้ง สามารถลงเฉพาะจุดได้ ปกติแปรงปัดแปรงจะเป็นพุ่มใหญ่ๆ ลงแป้งทีกระจายเลอะเต็มเสื้อ 55555 Foundation Brush แปรงลงรองพื้น แปรงลงรองพื้นจะเห็นเลยว่าเป็นหัวตัดเวลาลงรองพื้นก็ลงได้ง่ายค่า Contour Brush แปรงคอนทัวร์หรือเฉดดิ้งนั่นเอง เป็นหัวตัดเหมือนกัน ทำให้สามารถคอนทัวร์ได้ง่าย เกลี่ยให้ชัดก็ได้ฟุ้งก็ได้ค่ะ แล้วก็ใช้ได้ทั้งเนื้อครีมและเนื้อฝุ่นเลย Blush Brush แปรงปัดแก้มม แปรงปัดแก้มหัวตัดก็ทำให้ปัดได้ง่าย สามารถใช้ปัดไฮไลท์หรือคอนทัวร์ก็ได้นะคะ ตัวสุดท้ายย Fan Brush แปรงรูปพัด ไว้ลงไฮไลท์ ปัดแปรงส่วนเกิน ปัดกลิตเตอร์ที่ร่วงลงมาอะไรแบบนี้ก็ได้ คือทำได้หลายอย่างมาก มาต่อกันที่แปรงสำหรับแต่งตา มาเริ่มกันที่ Eyeshadow Brush แปรงลงอายแชโดว์ หัวจะแบนๆ ไว้ลงสีที่เปลือกตาหรือจะเอามาใช้เกลี่ยคอนซีลเลอร์ก็ได้ค่ะ ถัดมาเป็นแปรงที่หน้าตาคล้ายตัวแรกมาก BaseShadow Brushแปรงลงอายแชโดว์เหมือนกัน แต่หัวแปรงจะไม่แบนสนิทเหมือนตัวแรกค่ะ จะมีความแบนไว้ลงสีและกลมๆ ไว้เกลี่ยสี เหมือนเป็น 2 in 1เลยพกแท่งเดียวทำได้ทั้งลงสีทั้งเกลี่ย Fluffy Eyeshadow Brush แปรงแต่งตาที่ขนาดใหญ่ที่สุด เอาไว้ลงสีทั่วเปลือกตาเกลี่ยสีก็ได้ หรือเอาไว้ลงไฮไลท์ก็เหมาะเลยค่ะ Crease Brush แปรงหัวพุ่มๆ เอาไว้คัดเบ้า เกลี่ยสี ตัวนี้ส้มเอามาไล้จมูกคือดีมากก ขนาดพอดีเลย ตัวสุดท้ายหน้าตาเหมือนตัวด้านบนเลย Blending Brush แปรงเบลนดิ้ง เอาไว้เกลี่ยสี คัดเบ้า ไล้จมูกก็ได้นะ คือต่างกับตัวบนแค่ขนยาวกว่าเวลาเบลนก็จะฟุ้งกว่าค่ะ EyeshadowBrush-BaseshadowBrush-BlendingBrush-CreaseBrush-FluffyEyeshadowBrush ครบเรียบร้อยทั้ง 10 ชิ้นค่าา บอกเลยว่าครอบคลุมการแต่งหน้า ใครกำลังมองหาแปรงดีๆ หรือมือใหม่ที่อยากได้แปรง ส้มก็แนะนำเชตนี้เลยน้า มันเริ่ดมากจริงๆ อ่ะ น่ารักแถมใช้งานได้จริงอีก คุณภาพก็ดีมากจริงๆ ขนนิ่มมากกกก เวลาจับขนก็ไม่ร่วงเลย ตั้งแต่ได้มาส้มยังไม่เจอขนร่วงเลยอ่ะ ขนาดเอามาจับๆ บ่อยมาก อยากได้กันแล้วใช่ม้าา เห็นน่าตาน่ารักคุณภาพดีแบบนี้แต่ราคาถูกมากก 1 ชุด ราคา 990 บาท! ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปดูที่เพจหรือไอจีของแบรนด์นะคะ facebook : somecosmetic / Ig: @some.official ร้านตัวแทนที่ส้มซื้อมา IG : @some.thing.perfect ร้านเพื่อนส้ม Twitter : @wishteuk / facebook : เนสสึ'store โอเคค่า เดี๋ยวส้มขอตัวไปเล่นกับแปรงโซมีต่อดีกว่า ขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะแล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าค่า บะบายยย เยิฟฟฟ Review : Pony Effect Cushion/Eyeshadow/Lipstick
อันยองงง สวัสดีค่าา บล็อกนี้มารีวิวตามคำเรียกร้องของใครหลายๆ คนที่ตอนส้มโพสบล็อกเห่อของจากเกาหลีไปก็ได้รับเสียงรีเควสเยอะมากก ขอรีวิวๆ นั่นก็คือเครื่องสำอางจาก Pony Effect !! ซึ่งส้มต้องขออภัยเป็นอย่างสูง TT เก๊าขอโทษจริงๆ ที่พึ่งมารีวิวให้ ส้มมีแค่ 3 ชิ้นเท่านั้นนะคะก็คือตามที่ส้มซื้อมาจากเกาหลีรอบที่แล้วเลย ยังไม่ได้ซื้อเพิ่มเพราะกำลังจะไปอีกแล้ว >< (เตรียมรออ่านเปิดถุงรอบ 2 กันได้เลยย) แต่ๆๆ ข่าวดีคือตอนนี้ pony effect กำลังจะเข้าไทยแล้วว เย้ๆๆ ที่ Eveandboy นะคะ ก่อนจะไปตำกันก็มาดูรีวิวของส้มกันเลยย มาเริ่มกันที่ Cushion Pony Effect Everlasting Cushion Foundation spf50+ pa+++ #nude beige คุชชั่นของโพนี่ตลับสวยหรูดูแพงมากก สีดำ(ไม่ดำมากประมาณสีกรม) ตัดกับขอบสีทองโรสโกลด์ ใน 1 กล่องมีรีฟิวมาให้เพิ่ม 1 ตลับ เท่ากับว่าเราได้คุชชั่นมา 2 ชิ้นค่ะ พัฟสีกรมนุ่มมากก ขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปค่ะ เฉดสีของคุชชั่นมีให้เลือกหลายสีเลย ทั้งโทนเหลืองและชมพู ส้มเลือกสี nude biege มาเป็นโทนเหลือง ไม่แน่ใจว่าเข้มที่สุดหรือมีอีกเบอร์ที่เข้มกว่าสีนี้ค่ะ วิธีใช้ก็เหมือนคุชชั่นทั่วไป กดๆให้ทั่วหน้าเลยย มาดูผิวใกล้ๆกัน สี nude beige ขาวกว่าผิวส้มไปนิดนึง คือถ้าลงแป้ง ลงเฉดดิ้งแล้วก็จะโอเคไม่ลอยจนน่ากลัวค่ะ การปกปิดกลางๆ ถ้าต้องการปกปิดรอยทั้งหมดให้หายไปเลยก็ใช้คอนซีลเลอร์ร่วมด้วย (ในภาพลง 1 รอบ) ส่วนความฉ่ำ ตัวนี้ส้มว่าฉ่ำกำลังดี ไม่ฉ่ำเหมือนคุชชั่นเกาหลีทั่วไปที่น่ากลัวใช้ที่ไทยไม่ได้อะไรพวกนั้น ถ้าเป็นคนหน้ามันก็เช็ตด้วยแป้งต่อเลยจ้า ภาพด้านซ้าย - หลังลงคุชชั่นเสร็จ ภาพด้านขวา - เช็ตด้วยแป้ง เขียนคิ้วและเฉดจมูกเพิ่มมาจ้า จะเห็นว่าไม่ลอยมากเท่าด้านซ้าย ส่วนตัวส้มชอบคุชชั่นตัวนี้นะ ได้ความฉ่ำกำลังดี ผิวสวยเนื้อไม่หนา แพคเกจดูแพงมาก >< ตัวต่อมา Eyeshadow Pony Effect Conceptual Eyes Quad #Innocent สี innocent สวยมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ควรตำ! เป็นโทนสีชมพูน้ำตาลที่ใช้ง่ายใช้ได้ทุกวัน ตัวตลับไม่หนามาก พกพาง่าย เป็นแม่เหล็กอีกแล้ว สีกรมตัดกับโรสโกลด์ สวยหรูดูแพงเหมือนเดิม ด้านในมีแผ่นพลาสติกชื่อสีมาให้ --- ตรงนี้ส้มไม่ชอบ น่าจะทำชื่อให้ติดกับพาเลตเพราะเวลาใช้ต้องคอยหยิบเข้าหยิบออก ระวังว่าจะปลิวหายไป เนื้อสีดีมากก นุ่ม เกลี่ยง่าย ชัด >> ชัดในที่นี้ส้มเทียบกับแบรนด์เกาหลีด้วยกันเองนะคะ ของโพนี่ทำได้ดีมาก สีสวยมาก เวลาปาดออกมาก็ได้สีเหมือนที่เห็น เนื้อแน่น คือถ้าเทียบกับแบรนด์ฝรั่งแน่นอนว่าสีไม่แน่นเท่าค่ะ ใน 1 พาเลต 4 ช่องก็จะประกอบไปด้วยเนื้อที่ค่อนข้างแมต(มีชิมเมอร์นิดๆ แบบนิดเดียวแทบมองไม่เห็น) เนื้อชิมเมอร์ และเนื้อที่มีชิมเมอร์ผสมกับกลิตเตอร์ค่ะ แถมการแต่งตาง่ายๆ ด้วยพาเลตนี้ให้ชมค่ะ 1.ลงสี playful ให้ทั่วเปลือกตา 2.แตะสี kindly บริเวณหางตาเหมือนคัดเบ้า(บริเวณที่วงกลมไว้) 3.ใช้สีที่เข้มที่สุด harmless เขียนเป็นเส้นไลน์เนอร์ด้านบนเปลือกตาและตาล่างเขียนแค่กลางตาถึงหางตา 4.ใช้สี naive ไฮไลท์โหนกคิ้ว ตัวสุดท้ายคือลิปสติกก Pony Effect Outfit Velvet Lipstick #No makeup ตัวลิปสติกก็สวยหรูดูแพงเช่นกัน ที่สำคัญคือปลอกลิปเป็นแม่เหล็กด้วยจ้า ชอบเล่นมาก >< สี no makeup จะเป็นสีชมพูนู้ด ทาได้ง่ายๆทุกวันเลย สวยมากกกก เนื้อครีมทาแล้วปากไม่แห้ง ติดทนกลางๆ สีชัด เนื้อนุ่ม ทาง่าย ครบเรียบร้อยทั้ง 3 ตัวแล้วค่าาา ส่วนราคาตามนี้เลย คุชชั่น 39000 วอน อายแชโดว์ 32000 วอน และลิปสติก 23000 วอน เป็นราคาเต็มไม่ได้หักภาษีออกนะคะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ากำลังจะเข้าไทยแล้ววว เย้ๆๆ ยังไงก็รอดูราคาในไทยได้เลยน้า สำหรับแบรนด์นี้พูดเลยว่าชอบมาก ส้มตามโพนี่อยู่แล้วพอมีแบรนด์ของตัวเองก็สอยมาลอง ซึ่งก็ดีมากๆ ดีทุกตัวจริงๆ (ไม่ได้อวยนะ) ไปเกาหลีรอบหน้าจะไปสอยตัวอื่นๆมาเพิ่ม >< ถามว่าควรมีไหม? ควรค่ะ! 5555 คุณภาพดีจริง ราคาไม่โหดจนเกินไป สำหรับบล็อกนี้ส้มต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านมากๆ นะคะ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าน้าา บะบายย เยิฟฟฟ Review etudehouse twin shot lips tint + แชร์เทคนิคทาลิปทิ้นท์ 8 สไตล์
สวัสดีค่าา บล็อกนี้ส้มมีลิปสติกที่พกแท่งเดียวก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์มารีวิวให้ชมกันค่ะ เชื่อว่าทุกคนต้องพกลิปอย่างน้อย 1 แท่งติดกระเป๋าแน่นอน ไม่ว่าจะไว้เติมระหว่างวันหรือเปลี่ยนลุคก็ตามแต่ถ้าใครเป็นเหมือนส้มที่พกมากกว่า 1 แท่งจะเกิดปัญหาลิปกินพื้นที่ในกระเป๋า! บางทีทำให้กระเป๋าหนักบ้างล่ะเปลืองพื้นที่บ้าง TT ส้มเลยจะมารีวิวลิปที่พกแท่งเดียวก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์จะเป็นตัวไหนไปชมกันเลย ลิปสติกที่จะรีวิวในบล็อกนี้ก็คือตัวนี้ค่ะ Etude House Twin Shot lips tint ลิปสติกที่มี2เฉดสีในแท่งเดียวทั้ง2สีจะเป็นลิปทิ้นท์ค่ะ ทิ้นท์ฝั่งหนึ่งจะเป็นเนื้อมูส เรียกว่า มูสทิ้นท์ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นลิปทิ้นท์ปกติ เรียกว่า ทิ้นท์ชอต หัวแปรงของด้านเนื้อมูสจะมีลักษณะแบนๆ ทำให้เกลี่ยสีได้เรียบเนียน ส่วนหัวแปรงด้านเนื้อทิ้นท์จะมีลักษณะกลมๆ เพื่อใช้สำหรับแตะตรงกลางปาก เนื้อของมูสทิ้นท์จะเป็นโทนสีนู้ดเนื้อมันวาวให้ความชุ่มชื้นส่วนด้านทิ้นท์จะมีประกายแวววาวสีสันสดใสและติดทนนาน ทั้งสองด้านพิคเม้นชัดมากเนื้อลื่นเกลี่ยเกลี่ยง่ายมากเวลาทาจะรู้สึกว่าเนื้อจะเนียนไปกับปากไม่ทำให้ปากแห้งแตกเป็นแผ่นค่ะ Etude House twin shot lips tint มีทั้งหมด9เฉดสีส่วนตัวส้มมี3สีนะคะเดี๋ยวส้มจะสวอซให้ดูส่วนสีที่ส้มไม่มีขออนุญาตแปะภาพจาก Etude House นะคะ อย่างที่ส้มบอกไว้ข้างต้นว่าเป็นลิปทิ้นท์ทำให้ติดทนมากต้องใช้eye&lipremoverเช็ดออก(หลายๆรอบ) ในภาพส้มเช็ดไปประมาณ2-3รอบ มาดูเทคนิคการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มกับ Etude House Twin Shot lips tint กันดีกว่าค่ะ 1.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปาก : ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากก็จะได้ลิปสีสุภาพค่ะ ตอนนี้เนื้อแมตมาแรงมากๆเราก็ใช้นิ้วแตะๆบนริมฝีปากเพื่อลดความแวววาวก็จะได้ลิปแมตสีสุภาพไม่ทำให้ปากแห้งแล้วค่ะ 2.ทาทิ้นท์ชอตทั่วทั้งปาก สำหรับสาวสายแซ่บเนี่ยก็ทาทั่วทั้งปากแบบปกติได้เลยแต่ถ้าใครเป็นสายหวานแบบส้มแต่อยากทาลิปสีแดงส้มก็แนะนำว่าไม่ต้องทาเต็มขอบปากตรงขอบปากเราจะใช้นิ้วเกลี่ยให้ฟุ้งๆไม่ดูแซ่บจนเกินไป 3.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากและแตะทิ้นท์ชอตตรงกลางริมฝีปาก วิธีนี้ก็จะได้ลิป3เฉดสีในครั้งเดียวเลยเป็นการทาปากแบบombreเหมือนสาวเกาหลีและเป็นวิธีหลักของลิปตัวนี้เลยค่ะ 4.ทาทิ้นชอตบริเวณด้านในริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยออกมาให้ฟุ้งละมุนค่ะ วิธีนี้ก็เป็นการไล่สีโดยใช้ลิปสีเดียวค่ะ 5.ทาทิ้นชอตทั่วทั้งปากแล้วทาทับด้วยมูสทิ้นท์วิธีนี้จะให้ลุคเหมือนเราทาลิปสติก *3วิธีสุดท้ายเอาใจสาวๆที่ยังชอบใช้ลิปสติกอยู่ค่ะแต่เราสามารถนำทิ้นท์มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้นะ* 6.ทามูสทิ้นท์ทั่วริมฝีปากแล้วทาทับด้วยลิปสติกสีที่ชอบ สำหรับใครที่ยังชอบทาลิปสติกอยู่วิธีนี้จะช่วยให้ลิปสติกติดทนมากยิ่งขึ้นแถมได้สีลิปสวยๆด้วยค่ะ 7.ทาทิ้นชอตกลางริมฝีปากแล้วใช้ลิปสติกสีนู้ดทาขอบปาก เป็นอีกวิธีในการไล่สีแบบสาวเกาหลีโดยใช้ลิปสติกกับลิปทิ้นค่ะ 8.ทาลิปสติกสีที่ชอบแล้วแตะทิ้นชอตตรงกลางปากเป็นกลอส ลิปทิ้นก็สามารถนำมาใช้เป็นลิปกลอสได้นะคะขั้นตอนแรกก็ทาลิปสีที่ชอบก่อนจากนั้นใช้ทิ้นแตกบริเวณกลางริมฝีปากเล็กน้อยก็จะได้ลิปที่มีประกายแวววาวแล้วค่ะ ครบแล้วค่ะสำหรับการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มชอบกันไหมคะ? แค่เรามีลิป1 แท่งก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์แล้วค่ะ Etude House twin shot lips tint ทำให้เราสามารถสร้างสีสันได้บนริมฝีปากหลากหลายเฉดสีการทาลิปสติกของเราก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วค่ะ ราคาแท่งละ 570 บาท หาซื้อที่ได้ร้านค้าอีทูดี้เฮ้าท์ ประเทศไทย ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ออฟสยามสแควร์ ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชมนะค่ะหวังว่าจะถูกใจและเป็นประโยชน์ค่ะ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าค่าบะบายยย เยิฟฟฟ This content is sponsored by EtudeHouse Thailand All opinions are my own |
Sommikan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Facebook : Mikanbeauty instagram : ssommikan twitter : Ssommmikan Youtube : Mikan beauty สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน mikanbeauty.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด |