Trip นี้ต้องเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนที่นอนอย่างแท้จริง เพราะหมกตัวอยู่ในที่พักเกือบตลอดเวลา ด้วยเหตุผลคือ

1. เคยเที่ยวราชบุรีมาแล้ว และที่พักอยู่ไกลจากสถานที่เที่ยวพอสมควรจึงไม่อยากขับรถย้อนไปย้อนมา
2. เป็นหวัดตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง มีแรงบ้าง หมดแรงบ้าง เลยไม่อยากออกไปไหน

เริ่มจากมื้อแรกเมื่อไปถึงราชบุรีก่อน อยากลองตั้งแต่ไปราชบุรีคราวที่แล้ว แต่พลาดไป คราวนี้เลยไม่พลาดอีก

ก๋วยเต๋ยวไข่เจ๊แหม่ม

มาดูเมนูกัน

กินเสร็จสะดุดตาแผงนี้ อะไรหว่า

อิ่มแล้วไปหาเครื่องดื่มเย็นๆที่ร้านไร่คุณหญิง

ร้านเล็กๆที่มีต้นไม้เยอะ แทบจะคลุมร้านเลย ไม่มีเครื่องปรับอากาศนะคะ

กาแฟเราว่ารสชาติธรรมดานะ แต่อัธยาศัยของเจ้าของร้านดีมาก ต้อนรับดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างดี

อิ่มแล้วก็ตรงไปที่พักกันเลย ซึ่งไกลกว่าที่คิดไว้มาก ค่อนข้างห่างจากพวกที่พักฮิตๆที่กระจุกตัวอยู่แถบๆเดียวกันพอสมควร

ชมบรรยากาศภายนอกกันก่อน

ไปถึงก็ฝนลงเลย แต่แค่ละอองๆเท่านั้น ทำให้โชคดีได้เห็นรุ้งกินน้ำตัวมหึมา

ทางเดินภายใน resort ซึ่งจะเป็นเส้นเดียวกันตลอดตั้งแต่ lobby&restuarant และบ้านพักทุกๆหลัง

มีรถกอล์ฟรับส่งอยู่ 1 คัน สามารถเรียกมาบริการได้ แต่เราชอบเดินเองมากกว่าจะได้สูดอากาศสดชื่นพร้อมออกกำลังกายในตัว

บรรยากาศดีมากๆ ชื่นตาชื่นใจ ปนอาการเพลียจากหวัด ที่เห็นลิบๆนั่นคือ lobby และห้องอาหารค่ะ

มีตุ๊กตาน้องแกะวางประดับอยู่ น่ารักมากๆ 

และก็มีตัวจริงด้วย

 ที่นี่ปล่อยแกะออกมากินหญ้าวันละ 2 รอบ แต่ละรอบปล่อยนานมาก และคิดว่าจะนานขึ้นไปอีกถ้าแขกยังอยากเล่นหรือให้อาหารมันอยู่

 แกะที่นี่ชอบกินอาหารเม็ดมาก สามารถซื้อได้ในราคาชามละ 40 บาท หน้าตาอาหารเป็นเยี่ยงนี้

 โชคดีของเราอีกอย่างคือมีลูกแกะเพิ่งเกิดได้ 10 วัน 2 ตัว น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวนี้ค่อนข้างกลัวคน วิ่งหนีอย่างเดียวเลย ที่เห็นนอนก็เพราะลูกแกะจะเหนื่อยง่าย วิ่งๆไปก็จะหมดแรง ต้องนอนพักไปตามทาง

 ชมบ้านพักกันบ้าง

โรโตรัว เป็นหลังแรกอยู่หน้าสุด เดินจากห้องอาหารมาก็เจอก่อนเลย

 วานากา

แฮมิลตัน

 ไคคูร่า เป็นหลังที่ฮิตที่สุด เนื่องจากตัวบ้านยื่นออกไปตรงทุ่งหญ้า ทำให้เห็นทิวทัศน์เต็มๆ ไม่มีอะไรมาบดบัง เราได้พักหลังนี้ในคืนที่ 2

สโตนเฮนจ์ เป็นหลังใหญ่ พักได้ 4 คน มีหลังใหญ่แบบนี้แค่หลังเดียวนะคะ

ไครสต์เชิร์ช เป็นหลังที่เราพักในคืนแรก

มีชั้นบนไว้ชมวิว แต่ไม่ค่อยได้ขึ้นไปเท่าไหร่ เพราะถ้าฝนไม่ตกก็แดดร้อน ถ้าเป็นหน้าหนาวคงสุดยอด

เวลลิงตัน เป็นหลังสุดท้ายอยู่ไกลที่สุด

บันไดขึ้นชั้นบน หวาดเสียวดี

ไปดูข้างในห้องกัน

เตียงนอนกว้างขวาง

โต๊ะเครื่องแป้ง และประตูสู่ห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ

อ่างอาบน้ำใหญ่มาก เปิดน้ำชั่วโมงกว่าๆถึงจะได้แช่

มีบันไดเพื่อไปลงอ่าง แต่เราว่าก้าวเข้าไปเลยจะปลอดภัยกว่านะคะ ใช้บันไดมันหวาดเสียวกลัวลื่นล้มหัวแตกไงไม่รู้

 ใหญ่จริง กล้องแทบจะเก็บไม่พอ

 อ่างล้างมือและกระจก

 ของตกแต่งผนังห้อง

 การตกแต่งผนังตรงหัวเตียง

น่ารัก

ชากาแฟฟรี แต่ขนมเสียเงินนะคะ

มีกาน้ำร้อนให้พร้อม

ถ้วยกาแฟก็น่ารัก

 ทีวีและตู้เสื้อผ้า เราเอาเครื่องเล่น DVD ไปเอง เพราะที่นี่ไม่มีให้

ของกินในตู้เย็น น้ำเปล่าฟรี 4 ขวด นอกนั้นเสียตัง ในภาพมีขนมกับน้ำผลไม้ที่เราเอาไปเองด้วยนะคะ

 โคมไฟสีสวย

 ปิดม่าน ห้องนี้ม่านสีฟ้า

ย้ายไปไคคูร่าในคืนที่ 2 ห้องนี้ผ้าม่านสีม่วง

 การตกแต่งที่หัวเตียง

ของตกแต่งผนัง

ห้องน้ำ มีพื้นที่กว้างกว่าห้องน้ำของไครสต์เชิร์ช

มีโต๊ะให้นั่งเล่นข้างๆบ้าน แต่ไม่ค่อยได้นั่งอีกเช่นกัน เพราะฝนตก โต๊ะเปียกนั่งไม่ได้ ไม่งั้นก็ร้อนเกินกว่าจะนั่งไหว

 บันไดขึ้นชั้นบน

บรรยากาศยามค่ำคืน

เมนูอาหารและราคาเครื่องดื่ม&ของกินต่างๆในห้องนะคะ

 บรรยากาศห้องอาหาร

อาหารที่ทานรวมๆทุกมื้อ ซึ่งเช้าฟรีอยู่แล้ว และทานอาหารเย็นอีก 2 มื้อ

ข้าวต้มหมู

ยำหมูยอ

กะเพราหมู ไข่ดาว

สปาเกตตี้ขี้เมา หมู+กุ้ง กุ้งสดใช้ได้ค่ะ

 ข้าวผัดหมู พร้อมไข่ดาวอีก 2 ฟอง

อาหารเช้า ให้เลือกว่าจะเป็น ABF หรือข้าวต้ม เราเลือก ABF มีน้ำส้มอีกแก้วด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายติดมา
แถมวันที่ 2 พนักงานเดินมาถามด้วยว่ารับ ชา กาแฟ โอวัลติน หรือข้างต้มเพิ่มมั้ย เราขอกาแฟ เพื่อนขอโอวัลติน
แต่ข้าวต้มกินไม่ไหวละเลยไม่เอา ซึ่งไม่ได้คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใดนะคะ แต่เราก็สงสัยว่าทำไมวันแรกไม่มาถามหว่า
หรือว่าพิเศษให้เพราะจะ checkout แล้ว

อาหารรสชาติธรรมดานะคะ ราคาไม่แพง รับได้

สรุปความเห็นของเรากับที่นี่

ห้องพักและห้องน้ำกว้างขวางสะดวกสบาย ทุกห้องตกแต่งคล้ายกันมาก มีห้องอยู่ 2 แบบ
คือทรงเหลี่ยมกับกลม ตามความเห็นของเราห้องแบบกลมจะกว้างกว่าและชมวิวได้สวยกว่า
แต่อยากให้เพิ่มโต๊ะนั่งเล่นในห้อง เพราะไม่มีที่ให้นั่งจิบเครื่องดื่ม กินขนม อ่านหนังสือ
จะนั่งบนเตียงก็กลัวทำขนมหก จะไปนั่งข้างนอกก็เจอฝนตก หรือแดดร้อนจัด
ห้องกว้างอยู่แล้ว เพิ่มโต๊ะเล็กๆ และเก้าอี้ ซัก 2 ตัวจะดีมากๆ

ห้องไคคูร่าคนแย่งพักกันเยอะทำให้สภาพเก่ากว่าห้องอื่น เทียบกันแล้วเราชอบไครสต์เชิร์ชมากกว่า
เพราะห้องใหม่กว่า และเราชอบห้องโทนฟ้ามากกว่าโทนม่วง ดังนั้นลองพิจารณาพักห้องอื่นกันบ้างก็ได้ค่ะ
แต่ website ของ resort ไม่ช่วยการตัดสินใจเลือกห้องเลย เพราะเปิดไปดูรูปห้องไหนก็เจอแต่รูปเดิม
ต้องปรับปรุง website ด่วนค่ะ

ห้องน้ำไม่ชอบตรงที่ที่อาบน้ำไม่แยกกับอ่าง ทำให้เปิดน้ำรอระหว่างอาบน้ำไม่ได้
แต่ตรงนี้เค้าคงปรับอะไรไม่ได้ เพราะไม่งั้นคงต้องรื้อห้องน้ำสร้างใหม่กันเลยทีเดียว

การบริการดีมากๆ พนักงานใส่ใจดูแลเป็นอย่างดีในทุกๆเรื่อง
ตอนย้ายไปพักห้องไคคูร่า มีปัญหาอ่างอาบน้ำระบายน้ำช้า เราโทรไปแจ้ง พนักงานก็มาแก้ไขให้ทันที
ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย ตรงนี้ประทับใจมาก

ห้องอาหารเวลากลางคืนไฟสว่างไม่พอ มองอาหารแทบไม่เห็น และยุงเยอะมากถึงมากที่สุด
แม้พนักงานจะเอายากันยุงขดมาวางให้แล้ว ก็รู้สึกว่ายุงมันไม่สะทกสะท้านเลย
ต้องรีบกินแบบเทอร์โบแล้วเผ่นออกไปแทบไม่ทัน

บรรยากาศภายนอกสงบ ลมพัดเย็นสบาย มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวสบายตา
แต่เนื่องจากความเป็นธรรมชาติทำให้มีแมลงต่างๆนับสิบสายพันธุ์
เวลากลางคืนจะขึ้นไปชมวิวชั้นบน เจอกองทัพแมลงเข้าอย่างจัง เลยชมได้แป๊บเดียวก็ต้องถอยกลับห้อง

สัญญาณโทรศัพท์แทบไม่มี ขนาดเราใช้ AIS แล้วก็ตาม ที่รู้มาเครือข่ายอื่นยังไม่มีสัญญาณ

สิ่งที่ชอบมากคือได้เล่นกับน้องแกะอย่างจุใจเพราะทาง resort ปล่อยแกะกินหญ้านานมากๆๆ
เรามีความหลังฝังใจกับ Swiss Valley Hip Resort เพราะอุตส่าห์ทุ่มจ่ายค่าห้องอย่างแพง
แต่ไม่ได้แม้แต่เห็นแกะเลยด้วยซ้ำ โทรไปก็บอกว่าเดี๋ยวส่งรถมารับ แล้วก็ไม่มาจนหมดเวลาปล่อยแกะ
อีกวันก็บอกว่าวันนี้แกะต้องอาบน้ำ ไม่ปล่อยมาให้เล่น เราแค้นมาก ดังนั้นมาที่นี่จึงถูกใจสุดๆ

ทุกสิ่งที่กล่าวมา บวกกับราคา promotion คุ้มสุดคุ้ม แต่ราคาไม่ pro ก็ไม่แพงนะคะ
ตกคืนละสองพันกว่ามั้ง เทียบกับ resort หรูอื่นๆในสวนผึ้งแล้วถูกกว่ามาก

แต่ถ้าใครอยากไปเที่ยวที่อื่นในสวนผึ้งเยอะๆคงไม่ค่อยเหมาะ เพราะต้องขับรถย้อนไปไกลพอสมควร
ใกล้ๆ resort เราเห็นแต่ฟาร์มกล้วยไม้อย่างเดียว นอกนั้นไม่เห็นที่เที่ยวอื่น

Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 23:17:06 น.		5 comments
Counter : 11415 Pageviews.
Share Tweet