|
|
|
ฝึกออกคำสั่งจาก"ท่านั่งสู่ท่าหมอบ"
ที่จริงการฝึกสุนัขให้นั่งค่อนข้างง่าย โดยให้มันยืนอยู่ข้างซ้ายมือแล้วถือตัวนำสั้นๆ ค่อยออกคำสั่งว่า "นั่ง" ขณะออกคำสั่งให้ดึงตัวนำขึ้นพร้อมกับกดช่วงหลังของสุนัขลง แต่อย่าให้มันลงไปหมอบหรือยืนขึ้น ถ้ามันลงหมอบให้กระตุกตัวนำขึ้นจนกระทั่งมันลุกขึ้นแล้วนั่ง
หากมันทำตามคำสั่งช้าๆ ก็ให้ดึงมันอย่างแรง จนกระทั่งมันทำตามความต้องการของเรา โดยอยู่ในท่านั่งสักชั่วขณะหนึ่ง แล้วค่อยผ่อนความตึงของตัวนำพร้อมกับคำชม จากนั้นให้ทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นในขณะที่คุณจูงมันในท่านั่ง ย้ำเพื่อให้มันจำคำสั่งได้ขึ้นใจ
แต่ถ้ามันเคลื่อนที่ก็ให้ทวนคำสั่งอีกครั้งแล้วให้มันนั่งลง หลังจากนี้มันก็จะนึกรู้และนั่งลงไปเอง โดยไม่ต้องกดหลังมันอีก เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วแสดงว่ามันจะนั่งเองได้ แล้วก็ชมเชยมันบ่อยๆ ด้วยคำพูดที่นุ่มนวล ให้รางวัลโดยการกระทำกับมันอย่างอ่อนโยน
จากนั้นก็มาถึงท่าหมอบ จุดประสงค์ขั้นตอนนี้ก็คือ ทำให้สุนัขหมอบลงกับคำสั่ง "หมอบ" หรือเมื่อออกคำสั่งด้วยมือ ให้คุณยกมือมาข้างหน้าพลิกโบกฝ่ามือลง แต่คุณต้องทำไปจนกว่าสุนัขจะเข้าใจความหมายของคำสั่ง จากนั้นมันจะทำเองได้โดยไม่มีปฏิกิริยากึ่งบังคับจากคุณ
ส่วนสัญญาณมือควรจะทำควบคู่ไปกับการออกคำสั่ง ซึ่งคำสั่งนี้อาจจะยากในช่วงแรก เพราะมันรู้สึกเหมือนคุณยกมือเพื่อจะทำร้ายมัน อาจทำให้มันวิ่งเตลิดไปก็ได้ แต่แก้ไขได้ด้วยการเอาใจมันด้วยคำชมหรือทำกับมันดีๆ เมื่อมันทำตามคำสั่งแล้วมันจะเรียนรู้ไปเองว่าไม่มีอะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้น ในทางกลับกันมันจะรู้จักคำสั่งว่า "หมอบ" ตามที่คุณให้มันทำ
สิ่งที่พึงระวังคืออย่าเริ่มฝึกท่าหมอบจนกว่ามันจะเข้าใจคำสั่งนั่งได้ดีเสียก่อน โดยให้สุนัขอยู่ในท่านั่งและคุณคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ยกขาหน้าของมันด้วยมือแต่ละข้างของคุณ จับตรงเหนือข้อศอก ยกขามันขึ้นแล้วดึงลงมาที่พื้นข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็ออกคำสั่งว่า "หมอบ" แล้วดึงขาหน้ามันลงมาติดพื้น
จากนั้นดึงมันลงมาที่พื้นและทำให้มันรู้ว่าท่านี้เป็นท่าที่ต้องการให้มันทำ วิธีนี้ดีกว่าจะไปบังคับให้มันทำ มิฉะนั้นจะทำให้มันรู้สึกตกใจและเริ่มจะไม่ชอบการฝึกใดๆ เลย หมั่นพูดคุยกันมัน บอกมันให้รู้ว่าคุณดีใจ พอใจ เวลาที่มันทำตามคำสั่ง แล้วคุณจะพบว่าคุณมีความสุขกับการฝึกสุนัข
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
| Create Date : 19 ธันวาคม 2548 | | |
| Last Update : 19 ธันวาคม 2548 17:37:06 น. |
| Counter : 443 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
"เชือก" ตัวนำดีที่สุดใช้ฝึกสุนัข
วิธีออก "คำสั่ง" กับสุนัข แม้จะป็นหลักการฝึกเบื้องต้น แต่ก็ถือเป็นเทคนิคที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่อสุนัขเริ่มรู้จักการใช้คำสั่งแล้ว จากนั้นก็สามารถใช้เทคนิคอย่างอื่นเข้ามาเป็นส่วนประกอบได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเชือกที่ใช้จูงสุนัข หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า "ตัวนำ" ดังนั้นเราจะใช้คำนี้แทน ตัวนำ ที่ดีที่สุดสำหรับฝึกนั้นเป็นผ้าทอ หรือสาน ยาว 6 ฟุต ส่วนใหญ่ใช้สีทึมๆ มอๆ หรือจะใช้เป็นหนังขนาดเท่ากัน หรือจะใช้แบบเป็นสีสันก็มีใช้กันอยู่บ้าง แล้วแต่จะเลือก
ขณะเดียวกันก็ต้องใช้ปลอกคอฝึกสุนัขควบคู่ไปด้วย เพราะปลอกคอฝึกส่วนใหญ่ทำด้วยไนลอน หรือ โซ่เหล็ก ซึ่งมีห่วงติดอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง แล้วใช้ตัวนำคล้องกับปลายห่วงทั้งสอง ใช้ผ่อนหรือดึงบังคับสุนัข แม้ว่าจะฟังดูน่าตกใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้สุนัขต้องเจ็บแต่อย่างใด และก็จำเป็นต้องใช้ในการฝึกด้วย
ข้อพึงระวัง การจับตัวนำถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะปลอกคอควรจะหย่อนอยู่ตลอดเวลา นอกจากเวลาดึง จับวงเชือกไว้ด้วยมือขวา ไขว้มือไปด้านข้าง ส่วนมือซ้ายจับตัวนำไว้ให้ใกล้ปลอกคอฝึกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่เหลือของตัวนำก็จะขมวดเป็นวงได้แนบแขนข้างนี้กับลำตัว การผ่อน ดึง หรือคลาย ทุกอย่างทำด้วยมือซ้าย ด้วยการกระตุก
จากนั้นก็ออกคำสั่ง "การตาม" เป็นศัพท์สำหรับสุนัขที่หมายความว่า ให้สุนัขเดินไปด้านข้างของคุณชิดกับขาคุณ มีตัวนำด้วยหรือไม่มีก็ได้ ถ้าคุณอดทนและพยายามพอ คุณสามารถฝึกสุนัขให้เดินเคียงข้างคุณได้ในถนนอันแออัด หรือผ่านสุนัขตัวอื่นๆ ได้อย่างดี
ถึงตอนนี้คุณก็ได้เรียนรู้ถึงวิธีการใส่ปลอกคอ การใช้ตัวนำแล้วคุณก็พร้อมที่จะเริ่มบทเรียนแรกในการฝึกการตาม ให้สุนัขนั่งอยู่ด้านซ้าย เรียกชื่อ และใช้คำสั่ง "ตาม" เริ่มก้าวเท้าซ้ายของคุณ ดึงตัวนำเล็กน้อย เพื่อให้สุนัขได้เริ่ม ต้องเรียกชื่อมันก่อนเสมอ แล้วตามด้วยคำสั่ง การเอ่ยชื่อจะช่วยให้มันสนใจมากขึ้น ทำให้มันได้รู้ว่าคุณกำลังออกคำสั่งมัน
เวลาเดินให้เดินอย่างกระฉับกระเฉงแต่ละก้าว เดินวนเป็นวงกลมใหญ่ หรือเดินไปเป็นสี่เหลี่ยม หรือเส้นตรงก็ได้ ขณะที่เดินแน่ใจว่าสุนัขของคุณอยู่ข้างซ้ายและชิดขาของคุณเสมอ ถ้ามันเดินล้าหลังคุณให้กระตุกตัวนำเบาๆ ให้มันเดินให้ทันคุณ แล้วก็ชมมันว่าดีแล้วที่ทำอย่างนี้
หรือถ้ามันเดินนำหน้าคุณ หรือออกห่างไป ให้คุณหยุดพร้อมกับกระตุกตัวนำอย่างแรง ดึงมันกลับมาอยู่ตรงที่ที่ถูก ควรชมมันทุกครั้งที่มันเดินถูกที่ถูกทาง ทันทีที่คุณกระตุกตัวนำเพื่อให้สุนัขคุณอยู่ถูกที่ก็ให้ผ่อนสายตัวนำไปด้วย อย่าลากสุนัข หรือดึงตัวนำ เพราะจะเกิดการดึงกันไปดึงกันมา ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตัวสุนัข
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
| Create Date : 19 ธันวาคม 2548 | | |
| Last Update : 19 ธันวาคม 2548 17:33:56 น. |
| Counter : 503 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
ทำอย่างไรให้หมาอายุยืน
คนเรามักจะอวยพรกันว่า "ให้มีอายุยืนนาน" บางรายขอให้อายุยืนหมื่นปี ซึ่งก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป แค่ปัจจุบันก็ยังมีคนอยากจากไปก่อนอายุขัยกันวันละหลาย ๆ หนหรือหลาย ๆ คน เอาเป็นว่าอายุอยู่ยืนยาวพอสมควร อย่าให้ถึงกับต้องตะบันน้ำกินเลย จะมีชีวิตยืนต่อไปก็ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งสุขกายและสบายใจ
สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราก็เช่นกัน เอาว่าเป็น "หมา" นับเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีประชากรตามบ้านสูงสุดก็แล้วกัน เจ้าของก็หวังให้สัตว์ที่เลี้ยงมีชีวิตยืนยาว เฉกเช่นตนเอง นั่นคือที่มาของ "ทำอย่างไรให้หมาอายุยืน?" คงไม่ใช่มียาวิเศษ เป็นอายุวัฒนะ กินแล้วไม่แก่ ไม่ตาย ชีวิตเป็นอมตะก็หาไม่ ทว่าเป็นวิธีที่เจ้าของพึงปฏิบัติต่อหมาของตนเพื่อยืดอายุขัย อยู่อย่างสมวัยต่อไปด้วยวิธีดังนี้
1.เริ่มต้นชีวิตอย่างถูกวิธี นับจากรับลูกหมาเข้ามาเลี้ยง ต้องพาไปพบหมอหมาเพื่อตรวจสุขภาพ ถ่ายพยาธิ และฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ครบถ้วน ตามที่คุณหมอนัดหมาย เช่นเดียวกับการที่ท่านปฏิบัติต่อลูกหลานยังไงก็ยังงั้น เพื่อให้มีภูมิต้านทานโรคที่อันตรายต่อชีวิตหมา
2.ฝึกหัดให้เป็นหมาดี หมาน่ารัก ก็อย่างที่ผมยกตัวอย่างบ่อย ๆ ว่าเราต้องเลี้ยงหมานิสัยดี เพื่อจะได้เป็นที่รักของคน อยู่ในสังคมคนเราอย่างกลมกลืน นั่นคือ "หมาที่ไม่กัดคน ไม่กัดหมา และพาจูงได้" หากเลี้ยงแล้วนิสัยไม่ดี ปากเปราะ ดุร้าย ก่อความรำคาญ พวกนี้มักอายุสั้นเนื่องจากคนเกลียดมาก ก็จะถูกทำร้าย หรือเข่นฆ่าจนตายก็มี ฉะนั้นต้องฝึกหัดให้หมาของเราเป็นหมานิสัยดีย่อมมีอายุยืนกว่าหมานิสัยเสียเป็นแน่แท้
3.เลี้ยงอย่างถูกวิธี หมายถึงอาหารการกินที่เหมาะสมกับหมา พึงตระหนักว่าเรามิได้เลี้ยงหมูนะครับที่จะต้องขุนกันจนหลังเป็นกระดาน หมาต้องมีสุขภาพกายที่แข็งแรง ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง เจ้าของต้องรู้จักให้อาหารที่มีทั้งคุณภาพ และปริมาณที่ตรงตามความต้องการของหมาที่เลี้ยง จำไว้ว่า "อ้วนมากอายุจะสั้น"
4.การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นสิ่งจำเป็น นอกเหนือไปจากฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ การตรวจฟัน ขูดหินปูน ต้องทำนะครับ บางท่านละเลยปล่อยให้หินปูนเกาะจนหนาเตอะ เป็นบ่อเกิดแห่งความเจ็บปวดและติดเชื้อตามมา
5.อย่าละเลยต่อความผิดปกติ หรือเจ็บป่วยของสัตว์ แม้ว่าจะดูเล็กน้อย อย่าคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง หรือหวังให้เทวดาช่วยรักษา แล้วจะมาเสียใจในภายหลัง จำไว้ว่าหมาซ่อนหรือเก็บอาการป่วยได้เก่ง ฉะนั้นเมื่อแสดงอาการออกมาจึงหมายความว่าป่วยไปไม่น้อยแล้ว
6.หาหมอประจำตัวหมาไว้ หรือจะเรียกว่า สัตวแพทย์ประจำบ้าน หรือหมอหมาประจำบ้านคงได้ เช่นเดียวกับที่คนเรามีหมอประจำครอบครัว เพื่อให้ท่านสามารถปรึกษา หรือเมื่อเกิดความผิดปกติเกิดขึ้นกับหมาของท่าน
7.หมั่นหาความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงหมา ให้ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ วิธีการเก่า ๆ ถูกยกเลิกไปเยอะ เนื่องจากปัจจุบันรู้ว่าเป็นอันตรายแก่ตัวหมา เช่น การฝึกด้วยวิธีใช้สายโซ่กระตุกรัดคอนั้น ปัจจุบันเขาพบว่าก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหมา เช่น กระดูกคอเสื่อม หลอดลมตีบ และผลต่อจิตใจ เช่น เครียด กลัว อาฆาต ฯลฯ
8.อย่าให้หมาของคุณเป็นเครื่องลองของ หรือลองยา เจ้าของหลาย ๆ ท่านชอบลองอุปกรณ์ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับหมาที่ออกมาใหม่ให้เสียสตางค์อยู่เสมอ บางครั้งก็ทำให้เกิดผลเสียแก่หมาของท่าน เช่น แชมพู หรือยาฆ่าเห็บจำพวกรุนแรง ฯลฯ ขอให้ปรึกษาผู้รู้ (สัตวแพทย์) จนแน่ใจก่อนจะใช้
9.อย่าประมาท หรือคิดว่าหมาจะรู้จักอันตรายเหมือนกับท่าน เช่น เมื่อคุณเดินข้ามถนนแล้ว หวังว่าหมาจะเดินตาม แต่หมากลับหยุด หรือลังเล หรือวิ่งนำ จนถูกรถชน หรือไม่ใส่สายจูงแต่พาออกไปเดินนอกบ้านด้วยความชะล่าใจเห็นว่าหมาเชื่อง เชื่อฟังดี ปรากฏว่าหมาผลีผลามวิ่งไปถูกรถชนจนเสียชีวิตไปก็เยอะ
10.ตระหนักเสมอว่าหมาก็มีอายุขัยโดยปกติที่สั้นกว่าคนโดยทั่วไปอยู่แล้ว มิใช่จะยืนนานถึง 60-70 ปี แค่เพียง 15 ถึง 18 ปี ก็ต้องจากไปจะได้ทำใจได้ ปฏิบัติและคิดได้อย่างนี้แล้วหมาของคุณอายุยืนแน่ครับ
ข้อมูลจากคมชัดลึก
| Create Date : 06 ธันวาคม 2548 | | |
| Last Update : 6 ธันวาคม 2548 16:48:10 น. |
| Counter : 1019 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [