ตอนนางวิสสาขาร้องไห้อาลัยหลาน สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารบุพพารามซึ่งนางวิสาขาเป็นผู้สร้างถวาย ใกล้กรุงสาวัตถีขณะนั้น หลานสาวชื่อว่าสุทัตตีผู้เป็นที่รักเป็นที่พอใจอย่างยิ่งได้ถึงแก่กรรมลงทำให้นางเศร้าโศกเสียใจร้องไห้รำพันถึงหลานรักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้ง ๆ ที่กำลังร้องไห้อยู่ด้วยพระพุทธองค์ตรัสถามเหตุแห่งความเศร้าโศกทรงทราบโดยตลอดแล้ว จึงตรัสถามว่า.. ดูก่อนวิสาขา ในพระนครสาวัตถีนี้ เธอต้องการบุตรหลานสักกี่คน ? ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ต้องการบุตรหลานในพระนครนี้ทั้งหมด พระเจ้าข้า ดูก่อนวิสาขา ก็ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละเท่าไร ? ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละ ๑ คนบ้าง๒ คนบ้าง ถึงวันละ ๑๐ คนบ้าง พระเจ้าข้า ดูก่อนวิสาขา ถ้าคนเหล่านั้นเป็นบุตรหลานของเธอจริงเธอก็คงมีหน้าเปียกชุ่มด้วยน้ำตาโดยไม่มีวันแห้งเหือดวิสาขาคนในโลกนี้ ผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง ๑๐๐ผู้ใดมีสิ่งที่เป็นที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง ๕๐เช่นกัน และถ้าผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รักเพียง ๑ เดียวผู้นั้นก็จะมีทุกข์เพียง ๑ เดียวเช่นกัน ดูก่อนวิสาขา เราขอบอกเธอว่า ความทุกข์ ความเศร้าโศกความพิไรรำพันที่คนทั้งหลายประสบกันอยู่ในโลกนี้ก็เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักถ้าไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักแล้ว ความทุกข์ ความเศร้าโศกความพิไรรำพันเหล่านั้นก็ไม่มี ผู้นั้นก็จะมีแต่ความสุขดังนั้น ผู้ปรารถนาความสุขให้กับตนเอง ก็ไม่ควรทพสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก นางวิสาขา เมื่อได้ฟังพระพุทธดำรัสสอนจบลงแล้วก็คลายจากความเศร้าโศก แต่เพราะความที่นางมีลูกหลานหลายคนซึ่งต่อจากนั้นอีกไม่นานนักหลานสาวอีกคนหนึ่งที่นางได้มอบหมายหน้าที่ประจำก็ได้ถึงแก่ความตายลงอีกนางวิสาขาก็ต้องเสียน้ำตาร่ำไห้ด้วยความรักอาลัยต่อหลานสาวเป็นครั้งที่สองและพระพุทธองค์ก็ทรงเทศนาโปรดนางให้คลายความเศร้าโศกลงดุจเดียวกับครั้งก่อน
เพื่อดับทุกข์ คะ
ศรัทธาในพุทธโอวาทค่ะ