V for Vendetta : God is in the rain V for Vendetta Remember, remember The fifth of November The gunpowder treason and plot. I know of no reason Why the gunpowder treason Should ever be forgot. เรื่องนี้ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะตัดสินใจว่าเขียนดีหรือไม่เขียนดี เพราะกลัวตัวเองจะไปเอี่ยวกับการเมืองนี่สิ ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างหนัก และไม่ใช่หนังที่ดูง่ายสักเท่าไหร่ ไม่ใช่หนังครอบครัวที่เหมาะกับการดูตอนกินข้าวเย็น หรือ เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาอะไรที่ทำให้กระชุ่มกระชวย แต่ถ้าอยากดูหนังอะไรที่ต้องคิดนิดนึง หนังที่อาจจะสะกิดอะไรหลายๆอย่างในใจ หนังที่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทำอะไรๆ (อะไรล่ะ 55) หนังเรื่องนี้วางเรื่องอยู่ที่ ลอนดอน อังกฤษ ที่ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างอะไรไปกับช่วงสงครามโลก หรืออย่างน้อยก็ช่วงก่อนสงครามโลก ที่มีเคอร์ฟิว ที่คนตรวจตระเวน มีพฤติกรรมที่ห้ามทำ มีของที่ห้ามมี แม้แต่ผู้นำในภาพยนตร์ Adam Sutler ก็เหมือนจะเป็นตัวแทน สัญลักษณ์ในการสื่อถึงอดีตผู้นำนาซี Adolf Hitler มีการ England Prevails!! เหมือนกับการที่มี Heil Hitler!! รวมถึงการที่มีการทดลองมนุษย์ เหตุการณ์ที่ Saint Mary ทำให้คนดูอย่างเราๆอดเทียบกับ Auschwitz หรือ Belzec ไม่ได้ มันชวนให้คิดถึง Schindler's list จริงๆ (ซึ่งเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องนึง) ที่ทั้งสองเรื่องต่างมีเหตุการณ์ที่มนุษย์ปฏิบัติกับมนุษย์ด้วยกัน โดยที่ฝ่ายนึงไม่ต่างจากสัตว์หรือสิ่งของ เห็นตัวอย่างของหนังเรื่องนี้ครั้งแรกก็คิดไว้เลยว่าต้องดูให้ได้ ทั้งที่ตอนนั้นเพิ่งม.ต้นเอง จนตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยแล้วเพิ่งได้มีโอกาสมาดู แล้วก็จำได้ด้วยว่าได้ดูตัวอย่างหนังครั้งแรกที่ไหน! โอ้วว ตัวละครหลักของเรื่องก็คือ V ที่นำแสดงโดยเอลรอนจาก The Lord of the Ring หรือเอเจ้นท์สมิธจาก The Matrix แม้เรื่องนี้เราจะไม่ได้เห็นหน้าของนักแสดงเลย แต่วืธีการพูดของ V ก็เป็นเอกลักษณ์และแสดงตัวตนความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ แสดงถึงความเป็นปัญญาชน สุภาพชนของ V แม้ว่าการกระทำของ V จะออกแนว...รุนแรงไปสักหน่อย แม้ว่า V จะเป็นพระเอกและที่สำคัญภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูน แต่ก็เป็นพระเอกที่มีความโหดเหี้ยมจนน่ากลัว สังเกตว่าเขาฆ่าคนของรัฐบาลที่ขวางทางได้อย่างไม่ลังเลเลย และไม่ใส่ใจด้วยว่า จะมีคนที่ไม่รู้เรื่องตายไปด้วยไหม จากตอนที่ให้คนในสถานีโทรทัศน์แต่งตัวเป็น V และยังสามารถจับนางเอกของเราไปทรมานได้อีกด้วย!! Natalie Portman เรื่องนี้ก็ยังสวย แต่บางซีนที่ต้องโทรมก็โทรมได้ใจ ตอนที่เพิ่งออกมาจากคุกแล้วหายใจไม่ออก เรารู้สึกหายใจไม่ออกตามเธอไปด้วยเลย (เราเพิ่งจะรู้สึกเรื่องนี้แหละว่า Natalie Portman หน้าตาเหมือน Keira Knightley ปกติไม่เคยรู้สึกนะ โดยเฉพาะมุมด้านข้างเหมือนมาก ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะ Keira ก็เลยแสดงเป็น Natalie ในบทของเจ้าหญิงอมิดาล่าใน Starwar มาแล้ว) แต่ตัวตนของ V ที่เป็นอย่างนี้ก็มีที่มาที่ไป เนื่องจากเขาถูกรัฐบาล "ทำ" ให้เป็นอย่างนี้ สิ่งที่ V ทำ อาจจะมองได้ว่าเป็นความแค้นส่วนตัวล้วนๆ ดูจากรายนามบุคคลที่เขาตามฆ่า แต่ถ้ามองอีกด้านนึง ก็เป็นเพราะว่ารัฐบาลกดดันประชาชน และตีกรอบอิสรภาพให้กับประชาชนมากเกินไป ไม่งั้นเมื่อหน้ากากไปถึงบ้าน คงไม่มีคนใส่และออกมาทำอะไรบ้าๆ แต่ถ้าเกิดว่าบวกบวกเอาเหตุการณ์เลวๆที่รัฐบาลทำมานั้น...หนังก็เหมือนจะพูดว่า มันก็สมควรแล้ว (หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่พูดได้จริงๆ พูดได้ดีและดังเสียด้วย) อำนาจ ตำแหน่งทางการเมือง และการชนะการเลือกตั้งที่แลกมาด้วยชีวิตคนเกือบแสนคน ทุกๆอย่างที่รัฐบาลทำ ทำให้ประชาชนในที่สุดวันนึงก็ต้องทนไม่ไหว เมื่อทนไม่ไหวกับสภาพที่เป็นอยู่ ก็ทำให้มีการสนับสนุน V ขึ้นโดยที่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า V เป็นใคร มาจากไหน มีจุดประสงค์อะไร แต่ V สามารถทำในรัฐบาลเผด็จการที่ไม่สามารถแตะต้องได้และมีอำนาจเต็มนั้น สั่นคลอนได้ ฉากที่ชอบที่สุดคงไม่พ้นฉากโดมิโน ซึ่งให้ความรู้สึกอลังการ และมีพลังมากๆ ผู้ชายคนเดียวสามารถล้มระบบของประเทศประเทศนึงได้ แถมมันยังตัดกับฉากพูดของสารวัตรกับฉากที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดและที่กำลังเป็นไป ทำให้รู้สึกว่ามันมีอิทธพลและพลังมากจริงๆ แบบว่าผู้ชายคนนี้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตที่ผ่านมาไปกับการคิดจะล้มล้างรัฐบาลเผด็จการนี้ และพร้อมที่จะเสียชีวิตของตัวเองไปกับการกระทำนี้ด้วย อีกฉากหนึ่งที่ชอบก็คือฉากที่ฆ่าท่านผู้นำ เมื่อจบฉากที่ท่านผู้นำกล่าวคะประกาศที่ว่า "คืนนี้จะเกิดความยุติธรรม และมันจะปราศจากความเมตตา" ... สิ่งที่เกิดขึ้นวินาทีถัดจากนั้น ก็เป็นคำว่ายุติธรรมที่สายตาของ V เราเคยคิดตอนที่ดู Valkyrie ว่า ตอนให้ทอม ครูซฆ่าฮิตเลอร์สำเร็จ มันก็ยังมีฮิตเลอร์คนที่สอง คนที่สาม ที่รอเสียบอยู่เสมอ ซึ่งมือขวาของฮิตเลอร์ก็คือ Heinrich Himmler แต่ V สามารถอ่ะ ...แบบว่าสามารถทำให้มันล้มครืนกันทั้งกระดานได้ ด้วยการอาศัยประชาชน เป็นฉากปฏิวัติและฉากระเบิดพระราชบังกิงแฮมที่ทรงพลังและไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนทำได้ทรงพลังแบบนี้อีก มันชวนขนลุก และชวนให้คิดว่า "น่าจะไปดูในโรง"จริงๆ และก็สมกับที่เป็นพี่น้องจาก The Matrix จริงๆ แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้แอคชั่นมันหยดเหมือน The Matrix แต่ว่าหลายๆซีนก็ยังมีลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์อยู่ เช่นซีน ขว้างมีด หรือ ฉาก God is in the rain. เลือดในเรื่องนี้ก็สาดกระจายได้สวยงามมาก หลังจากที่เพิ่งดู 300 รอบที่สองและเพิ่งสังเกตว่าฉากตัดคอใน 300 มันช่างแห้งเหือดยังกับหนังซอมบี้ สิ่งที่ชอบมากที่สุดในหนังก็คือ ความจริงที่ว่า V รัก Evey ... He was Edmond Dant?, and he was my father, and my mother, my brother, my friend. He was you, and me. He was all of us. ประโยคจบ ที่ทำให้เราน้ำตาซึมเลย ปล.ถ้าเกิดว่าใครติดตามเรื่องกฏหมายลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์ ที่มีคนออกมาประท้วงไม่เห็นด้วยกันมากมาย มีคลิปในยูทูปออกมาประท้วงเยอะแยะ และคลิปที่ว่าก็เป็นคนใส่หน้ากากของ V โดยใช้ชื่อว่า Anonymous จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ V ก็เคยเป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงหลายๆครั้งมาแล้ว |
marina_rain
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?] ติดต่อทางอีเมลได้ที่ wasineechann@gmail.com All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |