บ่มีสโลแกนได้ก่อ
Group Blog
 
All blogs
 
--//มารู้จักสารกันแดดแบบลึกซึ้งกัน//--

ความรู้แสงแดด
* มีรังสี UV 6%,Infrared 42%, รังสีที่มองเห็นด้วยตาเปล่า 52%
* แต่แสงแดดที่มีผลต่อผิวหนังของเราเป็น UV ซะส่วนใหญ่ค่ะ
- UVA สามารทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ไดได้ และเป็นรังสีพลังงาน
ต่ำ ทำให้เป็นผลเสียต่อผิวหนังระยะยาว-----> เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร
(อึ่ย..น่ากลัวจัง)
- UVB สามารถซึมถึงหนังกำพร้าเท่านั้น เป็นรังสีที่มีพลังงานมากจึงก่อให้เกิด
การทำลายผิวหนัง ---> แดดเผา (sunburn)นั้นเอง
- UVC โอโซนของโลกดูดซับไปหมด ตราบใดที่โอโซนยังไม่ถูกทำลาย
(อ้าว..)

รู้จักสารกันแดดกัน

1.กลุ่ม Physical blockers
ทำหน้าที่เป็นตัวกั้น เนื่องจากมีความทึบและมีคุณสมบัติสะท้อนรังสีทุกชนิดที่ตกกระทบ โดยความสามารถสะท้อนแสงขึ้นกับขนาดอนุภาคของสารกันแดด โดยถ้าอนุภาคเล็กจะกระจายรังสีได้ดี และขึ้นกับความเข้มข้นในสูตรครีมกันแดด ตัวอย่างได้แก่ titanium dioxide , zinc oxide เป็นต้นค่ะ

2. กลุ่ม Chemical absorbers
สามารถดูดกลืนรังสี UV โดยเปลี่ยนแปลงพลังงานรังสีเป็นพลังงานความร้อน หรือคายพลังงานให้อยู่ในรูปพลังงานที่มีความยาวคลื่นยาวกว่าเดิม คือมีพลังงานน้อยกว่าเดิม สารกลุ่มนี้มารถดูดกลืนรังสี UVA, UVB ได้ขึ้นกับสูตรโครงสร้างของสารเคมี เช่น

- พวก UVA absorbers เป็นสารดูดกลืนรังสีในช่วง 320-400 nm ตัวอย่างเช่น อนุพันธ์ของ benzophenone อนุพันธ์ของ dibenzoyl methane และอนุพันธ์ของanthranilate เป็นต้น

- พวก UVB absorbers เป็นสารดูดกลืนรังสีในช่วง 290-320 nm ตัวอย่างเช่น อนุพันธ์ของ p-amino benzoate (PABA) อนุพันธ์ของ salicylate และอนุพันธ์ของ cinnamate เป็นต้น

นอกจากนี้นปัจจุบันได้มีการวิจัยสารสกัดจากธรรมชาติ โดยพบว่ามีสูตรโครงสร้างทางเคมีใกล้เคียงกับสารกันแดดสังเคราะห์ และยังมีคุณสมบัติอื่นอีก เช่น ต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant) สามารถลดอันตรายจากแสงแดด และปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดย UV ได้ ตัวอย่างเช่น

* สารสกัดว่านหางจระเข้ (aloe vera) พบสาร aloin ช่วยดูดซับรังสียูวีได้ และยังมีสารต่างๆหลายชนิด นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางยา ช่วยในการลดการบวมอักเสบ และสมานแผลเป็นต้น

* สารสกัดชาเขียว ( green tea) ประกอบด้วยสาร catechins , gallocatechins และพวก phrnolic acids ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มค่า SPF ให้กับผลิตภัรฑ์ จึงนิยมนำมาใช้เป็นสส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์

ค่า SPF ????
= อัตราส่วนระหว่างปริมาณพลังงานของรังสียูวี ซึ่งทำให้ผิวหนังเกิดอาการแดงน้อยที่สุด (Minimum Erythema Dose/MED) โดยผิวหนังที่ได้รับยูวีนั้นได้ทาครีมป้องกันแสงแดดเรียบร้อยแล้ว กับปริมาณพลังงานของรังสียูวี ซึ่งทำให้ผิวหนังที่ไม่ทาครีมป้องกันแสงแดดเกิดอาการแดงขึ้น
หรือ
การประเมินค่า SPF อาจจะประเมินเป็นอัตราส่วนของระยะเวลาที่ผิวหนังได้รับแสงแดดก็ได้
ตัวอย่าง วัดค่า MED in non-sunscreen-protected skin ได้ 15 นาที และเมื่อทาครีมป้องกันแดด สามารถวัดค่า MED in sunscreen-protected skin ได้นาน 150 นาที ดังนั้น

SPF = 150 =10
15


แสดงว่าผลิตภณฑ์นั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้นาน 10 เท่า เมื่อเทียบกับผิวที่ไม่ได้ทา
ดังนั้น ถ้าค่ายิ่งมากแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นสามารถป้องกันแสงแดดได้มาก


และการเลือกซี้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด
ก็ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น สีผิวของผู้ใช้ ระยะเวลาที่โดนแสงแดด ปริมาณรังสีของแต่ละฤดู เป็นต้น

อ่อ...ลืมบอกไปว่า..
1.การที่ใช้ SPF สูงๆ ก้อไม่ได้ดีกับผิวเราเสมอไปนะคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิว/แพ้ได้
2.ถึงแม้อยู่ในที่ร่ม เช่น ห้องทำงาน แต่ผิวเราก้อสามารถโดนรังสีสะท้อนได้อยู่ตลอดเวลาค่ะ แม้กระทั่งหลอดไฟ ฉะนั้นควรทาทุกวัน(โดยเฉพาะ ผิวหน้า)

ก็หวังว่าคราวนี้ สาวๆคงจะได้สนุกกับการลองดูฉลากส่วนประกอบผลิตภัณฑ์สารกันแดดข้างกล่องและก็เลือกใช้กันได้แล้วนะคะ



Create Date : 04 มกราคม 2551
Last Update : 4 มกราคม 2551 18:39:51 น. 2 comments
Counter : 1698 Pageviews.

 
^_^



โดย: None of it วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:9:43:22 น.  

 
ไม่รุอารายไม่ตรงกะที่ต้องการหาเลอะ


โดย: คนไม่รุ IP: 124.121.79.86 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:55:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mak_ky
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




+++ยินดีต้อนรับคร้า...+++
จะพยายามทำให้ blog นี้มีสาระมากๆนะ
สู้ๆสู้ๆ
Friends' blogs
[Add mak_ky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.