เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว

น้องชายขวัญได้ลงเรียนวิชาหนึ่ง ซึ่ง อาจารย์ assign งานให้ไปตามสถานที่ๆอาจารย์กำหนด และตอบคำถาม (เดิมเขียนรายงาน อุอุ)

พอดีขวัญมีเวลาว่างเลยตามไปที่นี่มาค่ะ

"พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว"

ซึ่งตอนแรกเข้าใจผิดว่าอยู่ที่สถาบันพระปกเกล้าฯ ฮ่าๆๆ

จริงๆไม่ใช่นะคะ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่

2 ถ.หลานหลวง แขวงวัดโสมนัส

เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

โทร. 02-280-3413 - 4

หรือไปชใเว็บไซต์ที่ www.kingprajadhipokmuseum.org นะคะ

เมื่อช่วงที่แล้วพิพิธภัณฑ์ปิดปรับปรุงไป ขวัญไม่แน่ใจว่า ตอนนี้

ที่พิพิธภัณฑ์กับในบล็อกจะเหมือนกันรึเปล่าน๊า

(ถ้าใครไปหลังสงกรานต์มาแล้วช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่า)

ถ้าใครขับรถไป ใต้พิพิธภัณฑ์มีที่จอดรถนะคะ แต่ต้องเดินมาเข้าพิพิธภัณฑ์ด้านหน้านะคะ

ถ้าไปรถเมล์ สาย 2, 15, 44, 47, 59, 60, 169

เมล์แอร์ 44, 79, 157, 183, 511

ถ้าไปเรือโดยสารคลองแสนแสบขึ้นที่ท่าสะพานผ่านฟ้านะคะ

(ขอบคุณข้อมูลจากแผ่นพับพิพิธภัณฑ์ค่ะ) 

ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ติดว่าเข้าฟรี แต่แผ่นพับมีค่าเข้าชมเล็กน้อย (20 บาทเองน๊าสำหรับคนไทย)

ส่วน นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ผู้สูงอายุ พระภิกษุ สามเณรไม่เสียค่าเข้าค่ะ

ก่อนอื่นคงจะบอกว่า ถ้าใครจะไปฝากท้องที่พิพิธภัณฑ์ตอนที่ขวัญไปไม่มีร้านอาหารง่ะค่ะ

แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจน๊า ^^

แต่มี แมคโดนัล ให้ฝากท้องได้ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทย์นะคะ

โอเค กลับมาที่พิพิธภัณฑ์นะ

พอเราเข้าประตูไป พี่รปภ.จะแจ้งให้ทราบว่า ไม่สามารถนำกระเป๋าใหญ่เข้าไปได้นะคะ

แต่มีตู้ฝากพร้อมกุญแจล็อกให้ด้านนอก

ซึ่งพี่ รปภ.ค่อนข้างเข้มงวดมาก (ชอบๆ จะได้ปลอดภัยกันเนอะ

พอเราเข้าประตูไปก็จะงง 555+

ก็จะจเอเครื่องนี้อยู่ใกล้ๆบันไดค่ะ

เป็นเครื่องนำทัวร์พิพิธภัณฑ์แบบ interactive สนุกดี อิอิ

ทำให้เราวางแผนได้ว่าราจะไปดูส่วนไหนก่อนนะคะ

แต่ถ้าไม่ชอบจะมีแบบธรรมดาอยู่เยื้องไปทางขวานะคะ (ไกลกันหน่อยน๊า)

ห้องจัดแสดงชั้น 1

แสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณ๊ยกิจ และพระราชจริยวัตรของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ค่ะ

ซึ่งรายละเอียดต่างๆ อยากจะบอกว่าเยอะมาก

ถ่ายรูปมาไม่หมดนะคะ

อยากให้ไปชมเองจริงๆ แอร์เย็นฉ่ำด้วย อิอิ ได้ความรู้มากมาย

ซึ่งรายละเอียดต่างๆนั้น เริ่มตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ จนถึง 35 ปี สุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ

มีเครื่องใช้ส่วนพระองค์ และวัตถุที่เกี่ยวข้องต่างๆจัดแสดงอยู่ พร้อมคำอธิบายประกอบอย่างละเอียดค่ะ

ในระหว่างเก้าอี้นั่งพักในพิพิธภัณฑ์ มีรายละเอียดเรื่องต่างๆให้อ่านได้ด้วย

ขวัญอธิบายไม่ถูกเลยค่ะ เอ่อ

เรามาดูภาพกันดีกว่าเนอะคะ

เดินเลี้ยวไปทางซ้ายเป็นการเริ่มต้นนะคะ

แอบถ่ายคนทำรายงาน 

จัดแสดงตุ๊กตาในลักษณะเดียวกับที่เคยเป็นของพระองค์ (แต่ในตู้นี้ไม่ใช่ชิ้นเดียวกันนะคะ)

ห้องจัดแสดงสวยมาก(สำหรับขวัญ)

และจัดไว้แล้วเราสามารถเดินดูได้ง่าย เรียงลำดับทำความเข้าใจได้ง่ายด้วยค่ะ

บางส่วนของห้องแสดงค่ะ

ลืมบอกไปว่าที่นี่ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลช และขาตั้งกล้องนะคะ

มองเห็นตู้อยู่ไกลๆ มาดูใกล้ๆซักนิด

ขวัญแอบจำรายละเอียดไม่ได้นะคะ แหะๆ

แต่จะมีเขียนอยู่ทุกชิ้นค่ะ

สวยเนอะ

บัตรถวายพระพรจาก

สมเด็จพระศรีสวรินทรา บรมราชเทวี พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า

หุ่นจำลองแสดงพระราชกรณียกิจค่ะ

แอบอุบไว้ ให้ไปติดตามที่พิพิธภัณฑ์ อิอิ

ที่พิพิธภัณฑ์จะมีการอธิบายในแบบต่างๆมากมายเลยค่ะ

ทั้งตัวหนังสือ วิดีโอต่างๆ

ต่อนะคะ

ส่วนนี้แสดงพระราชประวัติช่วงที่พระองค์ประทับ ณ ต่างประเทศค่ะ

ตอนแรกมองไกลๆนึกว่าดอกไม้จริง

ขวัญชอบมุมนี้มากเลย สวยมาก

และบางอย่างที่ทำให้ประทับใจจริงๆค่ะ

แท่นที่เห็นมุมรูปนั้น แสดงชื่อเข็มต่างๆที่จัดแสดงไว้ค่ะ

ฝั่งที่เป็นกระจก...

แสดงฉลองพระองค์ และเครื่องใช้ส่วนพระองค์ค่ะ

มาดูเครื่องตกแต่งกันใกล้ๆนะคะ

ชิ้นเล็กๆที่ละเอียด และปราณีต...

ระหว่างนี้มีอีกเยอะเลยนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

และช่วงหลังๆที่รพะองค์เสด็จประทับทาง จ.จันทบุรี

และได้ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญอีกมากมาย

ในตอนที่ 1 นี้

ขวัญขอปิดท้ายด้วยภาพนี้นะคะ

เป็นบทสัมภาษณ์ของผู้ใกล้ชิดพระองค์ท่าน

เสียงชัดแจ๋วเลยค่ะ

ในสถานที่จริงนั้นมีรายละเอียดต่างๆ เยอะกว่าที่ขวัญ

เอามาเล่าประมาณ 100 เท่า (จริงๆนะ ไม่ได้โม้)

อยากให้ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง

ทั้งได้ความรู้ ความประทับใจ

ไม่ร้อนด้วย ที่จอดรถใต้ตึกไม่ร้อนเลยค่ะ

จะพยายามมาต่อเร็วๆนะคะ

รูปขวัญใช้กล้องคอมแพ็กธรรมดานะคะ

ไม่มีความสามารถในการถ่ายภาพงามๆ อย่างคนอื่น (เสียใจ )

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันเสมอนะคะ

เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว

ไปเที่ยวบางปูกันมาค่ะ

แอบดองไว้นานเลย กว่าจะเอามาเขียน ฮ่าๆ

บางปู เป็นสถานตากอากาศที่มีมานานแล้ว อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ

ฮิตมากๆสมัยคุณป้ายังสาว (คุณป้าขวัญอายุเกือบ 70 แล้วค่ะ อิอิ)

สำหรับทุกวันนี้เดินทางไปสะดวกสุดๆเลย

ขวัญไปกันทางวงแหวนอุตสาหกรรมค่ะ เสียค่าผ่านทาง แต่สวยมากๆเลย

(ไว้ขอไปค้นรูป ตั้งแต่เมื่อจอดถ่ายรูปได้ดูก่อนนะคะ ว่ายังอยู่มั้ย อาจจะเอาวิวจากบนวงแหวนมาให้ดูค่ะ)

ขอออกตัวนะคะ ว่าขวัญไม่ใช่คนถ่ายรูปเก่งอะไร เพียงแต่อยากแบ่งปันค่ะ (ที่จริงอาจจะสวยกว่า ฮ่าๆ)

ถ่ายด้วยมือถือบ้าง กล้องคอมแพคธรรมดาบ้าง(ดิจิตอลค่ะ ไม่สู้ค่าฟิล์ม) นะคะ

ว่าแล้วก็ไปเที่ยวกัน เย่

ตอนที่ไปถึงก็เย็นโขแล้ว

พอดีช่วงสงกรานต์ด้วย มีสรงน้ำพระ และร่วมทำบุญ โชคดีเลยค่ะ

เดินเตร็ดเตร่กันอยู่ริมทะเล รอคุณพ่อหาที่จอดรถ

เลยได้บรรยากาศมาฝากกันนิดหน่อยจ้า

เหมือนเป็ดในอ่างอาบน้ำ

(ความจริงเป็นนกนางนวลต่างหาก)

เย็นแล้วเนอะ

จองกันตัวละเสา สบายเลยทีเดียว

บ๊าย บาย พระอาทิตย์

นกนางนวลเยอะมากๆเลยค่ะ

เค้ามีขายอาหารนกนางนวลด้วย รู้สึกจะเป็นกากหมู (และเห็นมีเขียนว่า อาหารนกสำหรับอิสลาม .. ไม่ขำนะ ซีเรียสนะ รู้สึกดีที่เค้ามีไว้ให้ทุกๆคนค่ะ)

เวลาเจ้านกมันตีวงลงจอด (แหม นกหรือเครื่องบิน) ทั้งกลุ่มใหญ่ๆที่บินมา มันสวยมากๆเลย

เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้

พอพระอาทิตย์ตกดิน ท้องก็เริ่มร้องซะและ

เลยเข้าไปหาอะไรกินกัน

เข้าไปในศาลาสุขใจค่ะ ด้านหน้าจะเป็นบางปูโฟโต้ ไว้ให้ถ่ายรูปกัน

ส่วนมากจะเป็นรูปโบราณๆ เป็นฉากอยู่ด้านหลัง

แถ่น แท้นน~~

เอ่อ ที่ถือ มีดกะส้อมนั่นจะกินเราหรือเปล่า

คราวนี้เรามาซูมๆ ดูทีละฉากกันนะจ๊ะ

ซูมเครื่องข้างๆ ให้เห็นชัดๆ

(ทายซิ อะไรเอ่ย....)

ต่อๆ

แต่อันนี้

คนเยอะมาก เข้าคิวกันถ่ายรูปเลยทีเดียว

เพราะว่านอกจากฉากแล้ว ยังมี ...

สามล้อถีบ สวยเนอะ

แต่งดอกไม้ไว้ซะสวยเช้งเลย

ฉากนี้นี่คือ เดินเข้าประตูไปปุ๊บก็อยูตรงหน้าเลยค่ะ

ทางซ้าย จะมีไปรษณีย์อยู่

ได้ความว่า ขายสแตมป์ ช่วงเย็นๆ

ส่งจดหมายก็ได้นะจ๊ะ

ติดๆกับไปรษณีย์ ก็มีประวัติ และรูปภาพต่างๆของบางปูค่ะ

ป้ายเบ้อเร่อสุดๆ

อีกข้างของไปรษณีย์ จะเป็นพวกชีวิตสัตว์ทะเลที่บางปู

เป็นโมเดลนะคะ มิใช่ตัวจริงเดินไป เดินมา อิอิ

หิวแล้ว ถ่ายรูปนานแล้ว

เดินไปทางห้องอาหาร จะมีป้ายอยู่ค่ะ แต่ถ้าไปไม่ถูกถามได้เลย

เดินวนอยู่ตั้ง 2 รอบกว่าจะได้โต๊ะ หุหุ

ที่นั่งไม่ร้อนเลย เพราะอยู่ติด(ใน)ทะเล

ออกจะลมแรงเกินไปหน่อยด้วยซ้ำ หุหุ

แต่จริงๆแล้ว ที่นี่มีห้องอาหารในตึกด้วยค่ะ

วันนั้นไม่เห็นมีคนนั่งเลยไม่แน่ใจว่านั่งได้มั้ย หรือใช้จัดเลี้ยงหรือเปล่า

อ้อใช่ ถามไว้ว่า ร้านปิด สองทุ่มนะคะ

(กว่าจะได้สั่งอาหารก็ทุ่มกว่าแหละ อิอิอิอิ)

ไม่แน่ใจว่าอาหารทะเลสดๆเป็นๆอะไรแบบนั้นจะมีรึเปล่า

เพราะว่าที่บ้านไม่ชอบกันค่ะ คือ ไม่ต้องสดมากแบบชี้หน้าโยนลงหม้อก็ได้

ก็เลยสั่งแต่อาหาร ธรรมดา

แต่ก็อร่อย ใช้ได้เลยค่ะ

แล้วเค้าดูแลดีน๊า

ตอนแรกนึกว่านั่งนอกตึกตรงนั้น คือไม่มีคนรับออเดอร์ ยังแซวกันว่าสั่งรอบเดียวให้หมดนะ แววว่าเค้าไม่สนเราหรอก

เอาจริงๆ กลายเป็นว่า เรียกได้ตลอดเลยค่ะ (ชอบมากค่ะ ขอชื่นชม )

แอบเอารูปก่อนกิน vs หลังกินมาแปะ อิอิอิ

หมดเรียบ

ขวดสีฟ้าๆนั่นคือ ขวดแอลกอฮอล์ค่ะ

สะดวกมาก ไปไหนมือไม่สะอาดก็เอาเจ้านี่ ฉีดๆๆ

เข้าห้องน้ำต้องนั่งโถ ก็เอาเจ้านี่ ฉีดๆๆ

เป็นแผล ก็เอาเจ้านี่ ฉีดๆๆๆๆ (แสบขาดใจ)

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าเอาไปจิ้มนะฮ้า มันจะแพร่โรคแทนฆ่าเชื้อจ้า

(แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค 70%นี่แหละ ถูกด้วย แล้วพก hand cream แก้มือแห้งแทน)

จะหมดแล้วแหละ

กินเสร็จก็จะ 2 ทุ่มแล้ว

ออกมา หันกลับไปถ่ายรูปซักนิด

คนเค้ากลับกันจะหมดแล้ว แว้วว

รูปนี้ จากหน้าตึก ไปถึงรถที่จอดเกือบอออกไปถนน ฮ่า

แอบเล่าความ.. โชคดีมั้ง ขอตัวเองให้ฟังว่า

วันนั้นเดินบนส้นสูง สามนิ้วตลอดระยะทาง

ไม่ได้อยากสวย หรืออะไรนะคะ

ตอนแรกใส่รองเท้าแตะสบายๆ ปรากฏว่า แวะปั๊มพอก้าวขาลงปุ๊บ ยกเท้าปั๊บ

เฮ้ย ทำไมรองเท้ามันไม่ตามเท้าขึ้นมา ... ขาดๆๆๆๆ

เหลือไอ้สามนิ้วนี่อยู่คู่เดียว (ยังดีที่มี ไม่งั้นจะใส่ไรเนี่ย!)

หึหึเดินไปคนมองรองเท้ากันมากมาย (ถ้าบังเอิญอ่านบล็อกนี้ ก็นี่ล่ะค่ะสาเหตุที่ใสส้นสูงปรี๊ดขนาดนั้นไป เหอๆๆ)

อิ่มแล้ว เดินเล่นแล้ว

เราก็กลับบ้านกัน...

ถ้าอยากรู้จักบางปูมากขึ้น ลอง คลิก

ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมา