แผนรบเอาชนะผิวผสม ตอนที่ 1
ผิวผสม เป็นประเภทของผิวที่พบได้มากที่สุดในประเทศแถบร้อน อย่างประเทศไทย แล้วคนที่มีผิวประเภทนี้ก็มักจะพ่ายแพ้กับการรับมือกับสภาพผิวที่มีทั้ง บริเวณที่แห้ง และ มัน นั่นก็เพราะผิวบริเวณส่วนกลาง เช่น หน้าผาก จมูก คาง และแก้ม มีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่นๆของหน้าไงล่ะจ๊ะ งั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม บริเวณที่มันๆ เหล่านี้ถึงเกิดสิวได้ง่ายมากกว่าบริเวณอื่น ในขณะเดียวกัน บริเวณที่มีต่อมไขมันน้อยกว่า เช่น รอบดวงตา ข้างแก้ม ก็มักจะแห้ง หรือผิวเป็นขุ่ยบ้าง ทีนี้ปัญหาก็จะเกิดหล่ะ เมื่อคุณพยายามดูแลผิวผสม เหมือนดูแลผิวมัน อย่างเช่นใช้คุณใช้เครื่องสำอางค์สำหรับผิวมัน ส่วนผสมมากมายที่ใช้ได้ดีกับบริเวณ ทีโซน (T-zone) นั้นไม่ช่วยผิวส่วนที่แห้งกว่า บริเวณ ข้างแก้ม รอบดวงตา หรือ คางเลย ฉะนั้น การดูแลรักษาผิวผสมจึงต้องอาศัยเครื่องสำอางค์ทั้งสองประเภท คือซึ้อมาทั้งสองอย่าง ของคนหน้ามัน และคนหน้าแห้ง ไม่แนะนำให้ใช้ครีมของผู้ที่มีผิวผสม เพราะส่วนผสมจะมุ่งเน้นที่จะไปขจัดความมันมากกว่า
ถึงแม้ว่าผิวบนหน้าคุณจะเป็นผิวเดียวกัน แต่วิธีดูแลต่างกันสำหรับคนที่มีผิวผสมเพื่อให้ได้ผลดีสูงสุด เมื่อคุณสามารถปรับเปลี่ยนรูทีนในการดูแลผิวผสมได้ ผิวของคุณจะเกิดความสมดุลย์กัน และผิวก็จะดีขึ้น ความสมดุลย์ คือคีย์เวิร์ดที่คุณควรจำไว้ให้ขึ้นใจเลยคะ เมื่อต้องรับมือกับผิวผสม เป้าหมายก็คือ ป้อนเครื่องสำอางค์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ล่ะส่วนที่ต่างกันนี้แหละคะ
ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน กฎพื้นฐานของการดูแลผิวทุกประเภท ก็ยังคงนำมาใช้กับคนผิวผสมด้วย การใช้สารที่ระคายเคือง หรือสารขัดผิวแรงๆ (ที่มักมีมากับผลิตภัณฑ์เพื่อผิวมัน) กับหน้าจะทำให้ผิวผสมที่มีลักษณะเป็นผิวสองประเภทแย่เข้าไปอีก โดยเฉพาะบริเวณรอบหน้าที่เป็นผิวแห้ง อาจเกิดความหยาบกร้าน และ รอยแดง มิหนำซ้ำ การใช้ของแรงๆ ยังทำให้ผิวที่มันๆ บริเวณทีโซนไม่ดีขึ้น เหมือนเป็นการไปกวนให้ต่อมผลิตไขมันมากขึ้นอีก
เพราะว่าผิวผสม ต้องการการดูแลที่ผสมผสานกัน ดิฉันจึงแบ่งแผนการรบที่เห็นข้างล่างนี่ ออกเป็น 3 ตอน โดยทำตามกันได้ step-by-step เลยนะคะ ตอนแรกเป็นไกด์ไลน์ทั่วๆไปของผิวผสม ตอนที่สอง คือการดูแลผิวส่วนที่มัน และ ตอนที่สาม เป็นการดูแลส่วนที่เป็นผิวธรรมดา แห้งค่ะ (และในบางเคส แห้งมากๆ) ทั้งนี้การดูแลที่ถูกวิธี ทำให้คุณยังสามารถรับมือกับสิว และ สิวเสี้ยน (ทั้งหัวดำ และหัวขาว) ที่เกิดขึ้นในทุกส่วนของใบหน้าด้วย
ไกด์ไลน์ทั่วๆไปของผิวผสม
ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ ที่อ่อนโยนมากๆ และส่วนผสมเป็นชนิดที่ละลายในน้ำได้ (Water-soluble cleanser) จะไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้ง หรือตึง ซึ่งโฟมล้างหน้าสำหรับผิวบอบบาง หรือ คลีนเซอร์แบบเจล จะเหมาะกับผิวผสมที่สุด
หลีกเลี่ยงสุดๆ เลยคือ สบู่ล้างหน้าแบบก้อน ไม่ว่าสบู่เหล่านั้นจะเคลมว่าแสนจะอ่อนโยนแค่ไหน หรือไม่มีสารตกค้างก็ตาม แต่ส่วนผสมที่ทำให้สบู่คงสภาพได้ในรูปก้อนนั่นแหละ ที่ไปอุดตันรูขุมขน และส่วนผสมนี้ยังทำให้ผิวแห้งกว่าการใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนอีกด้วย
ถ้าคุณเลือกที่จะใช้โทนเนอร์ (Toner) ก็สามารถใช้ขวดเดียวกันทั้งหน้าได้ ถ้าโทนเนอร์นั้นมีส่วนประกอบพื้นฐานจากน้ำ และ กลีเซอรีน แต่ต้องให้แน่ใจว่าโทนเนอร์นั้นอัดแน่นไปด้วยคุณค่าของ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant ได้แก่ vitamins A, C, และ E, amino acids เช่น methionine, L-cysteine, L-carnitine และ coenzymes เช่น alpha lipoic acid และ coenzyme Q10 ) ตัวนำความชุ่มชื้น (water-binding agent ซึ่งได้แก่ ceramide, lecithin, glycerin, polysaccharides, hyaluronic acid, sodium hyaluronate, mucopolysaccharides, sodium PCA, collagen, elastin, proteins, amino acids, cholesterol, glucose, sucrose, fructose, glycogen, phospholipids, glycosphingolipids, และ glycosaminoglycans) สารติดต่อกับเซลล์ผิว (Cell-communicating ingredients ได้แก่ niacinamide, adenosine triphosphate, retinol, tretinoin, Renova, และ Retin-A)
ควรใช้ครีมกันแดดทุกวัน และทั้งปีไม่ว่าหน้าฝน หรือหนาว หรือไม่ว่าคุณจะอยู่แต่ในออฟฟิศก็ตาม และควรแน่ใจว่ามีสารป้องกัน UVA อยู่ในสินค้าด้วย ให้สังเกตว่ามีส่วนผสมเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ คือ titanium dioxide, zinc oxide, หรือ avobenzone จะดีมากๆ ถ้าคุณเลือกใช้รองพื้นหรือแป้งที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพราะเหมาะกับคนที่มีผิวผสมซึ่งทำให้คุณไม่ต้องทามอยส์เจอร์กันแดดอีกชั้น แต่ควรจะเมคชัวร์นะคะว่าต้องทารองพื้นหรือแป้งให้ทั่วหน้า เพราะคุณจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่จริงๆ
ขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนด้วยการขัดผิว (Exfoliate) เพื่อให้ผิวใหม่ผลัดตัวเร็วขึ้นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม beta hydroxyl acid (BHA/salicylic acid) นอกจาก BHA จะขัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกโดยง่ายแล้ว ยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนเพื่อทำให้รูขุมขนเล็กลงและผิวเนียนเรียบขึ้นทันตา
ควรดูแลผิวส่วนที่แห้ง (รวมทั้งรอบดวงตา) ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และ ตัวนำความชุ่มชื้น การใช้ครีมที่มีส่วนผสมเหล่านี้ยิ่งมาก ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในส่วนที่แห้งได้ และต้องแน่ใจว่า ภาชนะที่บรรจุเครื่องสำอางค์เหล่านี้ ถูกเก็บอยู่ในภาชนะทึบ (หรือขวดสีชาก็ได้) และปิดไม่ให้อากาศเข้ามาได้ อาจเป็นขวดปั๊ม หรือ ภาชนะหลอด (แบบพวกกระปุกเนี่ยลืมได้เลย ไม่เอาคะ) เพื่อคงรักษาคุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระไว้นานๆ
ถ้าเกิดว่าคุณกังวลเกี่ยวกับริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือรอยดำที่เกิดจากแสงแดด แนะให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Renova, Avita และ Retin-A เพิ่มเข้าไปก่อนนอน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้หลายแบบที่เหมาะกับคุณๆที่สุด เพราะที่มีวางขายอยู่ก็มีทั้งแบบ เจล ครีม โลชั่น
Create Date : 30 เมษายน 2550 |
| |
|
Last Update : 6 พฤษภาคม 2550 1:07:18 น. |
| |
Counter : 3295 Pageviews. |
| |
|
|